เมษายน 2561

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
ฺBinggoo อยากขอให้เธอ อย่ารักแค่ฉันคนเดียว
 
 

ชอบ...คือความรู้สึกที่ได้ดูซีนแรกของละครสั้นชุดพิเศษของช่อง MBC ณ เกาหลีเรื่องนี้ซึ่งก็ถือว่าออกจะเชยไปหน่อยที่เพิ่งได้มาดูเอาตอนนี้ ล้าหลังคนอื่นมาเป็นปี (จากข้อมูลที่ได้มา เรื่องนี้ฉายไปแล้วตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2017) หลังจากติดใจ Because This Is My FirstLife อย่างหนักช่วงหลังๆ ก็เลยเตร็ดเตร่อยู่ฟากเกาหลีซะส่วนใหญ่สลับเป็นช่วงๆ กับญี่ปุ่น ยังไม่นับเป็นผู้เชี่ยวชาญของฟากเกาหลี แต่ชอบเรื่องไหนพิเศษก็จะขอเล่าไว้ที่นี่แล้วกันนะคะ  เผื่อใครอยากลองหามาดูแก้เหงาแก้เบื่อบ้าง ดูแล้วอาจคิดต่างจากเราก็ไม่ว่ากันค่ะ เรื่องแบบนี้เป็นความชอบส่วนบุคคล ถือว่ามาเล่าสู่กันฟังเรื่องความชอบละกันนะคะ

ทุกอย่างต้องมีที่มา...ที่มาที่ทำให้ได้มาดูเรื่องนี้ก็เพราะตามหาผลงานพระเอกของเรื่องนี่ล่ะค่ะ ด้วยความที่ชื่นชมทักษะการแสดงของเขาจาก Welcome To Waikiki ทางช่อง JTBC ที่เพิ่งจบไปหมาดๆ พอได้ดูเรื่องนั้น 2 ตอนแรกก็ให้รู้สึกว่า Kim Jung Hyun คนนี้มีของ เสน่ห์ทางการแสดงของเขาไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลยจริงๆ เลยได้เก็บเข้าสต็อกเป็นพระเอกคนโปรดอีกคนจนได้ นั่นทำให้ได้มาเจอกับละครสั้น 2 ตอนจบเรื่องนี้เข้าให้

 

 

Binggoo เป็นเรื่องของ โกมันซู ชายหนุ่มวัย 27 ปีที่ใช้ชีวิตอยู่ในปี 1979 ความรักที่เขามีต่อผู้หญิงคนหนึ่ง มากมายชนิดที่เรียกว่าตายแทนเธอได้ แต่แล้วก็มีเหตุให้เขาต้องพลัดพรากจากเธอไป เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันทำให้เขาถูกแช่แข็งข้ามผ่านเวลายาวนานมา 37 ปีและตื่นขึ้นในโลกปัจจุบันคือปี 2016 ซึ่งโลกได้พัฒนาก้าวไกลไปจนถึงไหนต่อไหนแล้ว และท่ามกลางสังคมยุคใหม่ที่ต่างไปจากโลกที่เขาเคยอยู่ ชายหนุ่มผู้มีแฟชั่นแนววินเทจสุดๆ ตามยุคสมัยที่ติดตัวเขามาด้วยคนนี้จึงกลายเป็นคนซื่อบื้อเด๋อด๋า แปลกแยกแตกต่างจากผู้คนในยุคดิจิตัลที่เขาได้มาพานพบอย่างที่สุด

ทว่าแม้ตื่นขึ้นอีกครั้งหลังพ้นผ่านความเนิ่นนานของห้วงเวลา ความรักก็กลับยังคงอยู่ สิ่งแรกที่เขานึกถึงก็คือสาวคนรักที่ต้องแยกจากกันในตอนนั้นท่ามกลางความเป็นความตายของเธอที่เขาเอาหัวใจของตนเข้าแลกเพื่อปกป้องเธอไว้ ด้วยความรักปักใจและคำสัญญาที่จะอยู่กับเธอตลอดไป ภารกิจตามหาสาวคนรักในช่วงเวลาที่ข้ามผ่านมาแล้ว 37 ปีจึงเริ่มขึ้น โดยมีสาวสวยหน้าตาคุ้นๆ ผู้ไม่เชื่อในสิ่งที่เขาเล่าแต่ก็ใจดีช่วยเหลือเขาในทุกๆ อย่าง คอยเป็นผู้สนับสนุนอยู่ข้างๆ ตลอด จนไม่วายเกิดเป็นความรู้สึกแปลกๆ อันหาที่มาไม่ได้ และก็มิอาจรู้ว่าจะหาที่ไปได้อย่างไรเช่นกัน เมื่อฝ่ายหนึ่งมีเจ้าของหัวใจเสียแล้ว

เป็นละครเดินทางข้ามเวลาที่จะว่าไปก็ไม่ใช่พล็อตที่แปลกใหม่อะไร ยิ่งในยุคนี้ที่ละครและนิยายแนวย้อนเวลาบูมหนักมากๆ การข้ามผ่านเวลามาของพระเอกก็ไม่ได้มีเหตุผลรองรับที่พอจะให้ร้องว่า ‘อ๋อ...อย่างนี้เอง’ แต่จุดนี้ก็ไม่ได้ทำให้ติดใจอะไรนัก เพราะเมื่อละครขายความแฟนตาซีก็เลยทำให้เรายอมรับในจุดนี้ได้ค่ะ ที่จะรับไม่ได้ก็คงเพราะเมื่อดูจนจบแล้วมันยังมีความรู้สึกว่าไม่จบแม้บทสรุปทุกอย่างจะชัดเจน ด้วยความที่เราเกิดอยากไปรู้ในหลายจุดของเรื่องที่ผู้กำกับไม่ได้ต้องการจะขยายเข้า มันเลยหงุดหงิดติดใจอยู่หน่อยๆ 

 

แล้วถ้าถามว่าชอบอะไร...

ข้อแรกเลยที่ทำให้จากเดิมคิดจะเข้ามาหยั่งเชิงเฉยๆ เพราะตามพระเอกมา ยังไม่ตั้งใจปักหลัก ก็กลับตกบ่วงบรรยากาศยุค 70 ที่สะท้อนภาพสังคมความเป็นอยู่ของคนในยุคนั้น ทรงผมและการแต่งกายแบบวินเทจแท้ๆ บวกเพลงย้อนยุคที่เป็นซีนเปิดของเรื่อง ทำให้นั่งดูต่อไปแบบยังไม่คิดจะย้ายไปหาเรื่องใหม่ (จากเดิมที่หาหนังหาละครดูทั้งวันก็ยังไม่โดนสักเรื่อง บางเรื่องไม่ถึงตอนก็ได้เทกันซะแล้ว) ด้วยความอินง่ายกับละครหรือหนังที่ย้อนยุคอยู่แล้ว ยิ่งเป็นช่วง 70-90 ที่มีเสน่ห์ฉุดรั้งให้ต้องหยุดแช่เปิดโอกาสให้ละครได้เล่าเรื่องก่อน นี่จึงเป็นบ่วงแรกที่ทำให้ติดกับเข้าไปเต็มๆ ซึ่งนอกจากภาพสวย ฉากถูกใจแล้ว ละครยังเปิดเพลงคลอให้ความรู้สึกย้อนยุคไปอี๊ก ก็ไม่ต้องไปไหนกันล่ะค่ะ นี่เป็นเหตุผลข้อหนึ่งที่ทำให้เสียดายความสั้นของละครเพราะฉากในยุคเก่าก็จะมีไม่มากนัก เปิดมาช่วงแรกและตัดสลับมาแบบวับๆ แวมๆ ระหว่างเรื่อง แต่กลยุทธ์ที่ดูดเราไว้ด้วยบรรยากาศที่ชอบก็นับว่าได้ผล เพราะระหว่างนั้นละครก็เล่าเรื่องไปด้วย บังเอิญว่าเนื้อหาและการเล่ามันคลิกกับคนดูอย่างเรา จากพล็อตย้อนเวลาธรรมดาและเป้าหมายของตัวละครที่ไม่เว่อร์วัง ซับซ้อน แต่ความอยากรู้ในบทสรุปบวกหลายๆ อย่างที่ประกอบกัน ก็ไม่ได้ทำให้เราเบื่อแล้วเทกลางทาง

ข้อสองยกให้นักแสดง...อันนี้ยอมรับตั้งแต่ต้นแล้วว่าชอบพระเอก ขออวยนิดหนึ่งนะคะว่าแม้พระเอกใหม่อย่าง Kim Jung Hyun จะไม่หล่อออร่ากระจายเท่าพระเอกเกาหลีคนอื่น (สงสัยเราจะชอบแนวนี้มั้งคะ หนุ่มฟากเกาหลีที่ปลื้มหนักๆ นี่ไม่หล่อจัดสักคนทั้ง Lee Min Ki, Kang Ha Nuel ด้วย) แต่เสน่ห์ทางการแสดงนี่มาเต็มเลยค่ะ หลงรักเขาจาก Welcome to Waikiki ละครอีกเรื่องที่ฮากระจาย ดูแล้วมีความสุขไปกับตัวละครทุกตัว ยิ่งฟากหนุ่มๆ ด้วยแล้วยิ่งเล่นกันลืมอายเลย (ใครยังไม่ดูนำเสนอเลยค่ะ ถ้าอยากดูละครแนวฮา ไม่ดราม่า ไม่เครียด ต้องเรื่องนี้) ในที่นี้ขอเอ่ยถึงแค่ Kim Jung Hyun คนนี้ก่อนละกันนะคะ เป็นพระเอกอีกคนที่ในทางการแสดงใช้สายตาและเล่นสีหน้าได้เก่งทีเดียวค่ะ ในเรื่องนี้เขาถ่ายทอดความรักที่มีต่อแฟนสาวออกมาให้เราเชื่อแกมอิจฉาสาวเจ้า ที่เป็นเจ้าของหัวใจสุภาพบุรุษคนนี้เหลือเกิน แต่พอซีนซื่อบื้อแกก็ปั้นหน้านิ่งๆ ของแกให้เราอดฮาไม่ได้ เรียกได้ว่าจะซีนรักก็พาฟิน ซีนฮาก็พาขำ บทจะหล่อขึ้นมาก็บ้าบอหล่อลากไปได้อีก เอาซี้... ซ้ำในเรื่องยังไว้ผมทรงสี่เต่าทองเข้ากับผิวขาวๆ ตาตี่ๆ เกาหลีสไตล์ ได้อารมณ์แบบหนุ่มยุคเก่าที่เราคนยุคนี้มองว่าเช้ยเชยพาให้อินกับเรื่องหนักเข้าไปอีก

 

 

ฟากนักแสดงหญิงทั้งสอง Han Sun Hwa และ Cha Joo Yong ทีแรกเราแยกเธอ 2 คนไม่ออก (ขออภัยแฟนคลับเธอด้วยนะคะ)เปิดหนังสลับกับภาพนิ่งที่เป็นโปสเตอร์ละครอยู่หลายรอบ ด้วยความอยากรู้ว่าใครคือนางเอกกันแน่ แต่ขอบอกว่าพวกเธอสวยมากทั้งคู่เลยจริงๆ (ดีใจจองฮยอนได้แสดงกับนางเอกสวยๆ) แต่พอดูไปเรื่อยๆ ก็เริ่มแยกได้แล้วค่ะ ด้วยตัวบทและความชินตา หลังจากนั้นก็ค้นหาว่าพวกเธอเป็นใคร Han Sun Hwa มีดีกรีเป็นอดีตไอดอลของวง Secret (แฟนคลับฟากเกาหลีคงรู้จักเธอกันอยู่แล้ว แต่เรามือใหม่ค่ะ เลยต้องบอกว่าเพิ่งได้รู้จักเธอจากละครเรื่องนี้เป็นครั้งแรกเลย) แต่กระนั้นในทางการแสดงของเธอเราขอชื่นชมเลยค่ะ เรื่องนี้เธอเล่นเป็น 2 ตัวละครทั้งในภาคอดีตและปัจจุบัน จะด้วยตัวบทหรือด้วยทักษะการแสดงของเธอก็แล้วแต่ เราว่าดูเธอแล้วเพลินตามาก จังหวะท่าทางที่แสดงออกมาไม่ทำให้ตัวละครของเธอดูน่ารำคาญแต่อย่างใด แต่กลับทำให้สัมผัสและเข้าใจได้ถึงนิสัยตัวละครที่เธอถ่ายทอดออกมา ดูจบแล้วรู้สึกชอบเธอเลยค่ะ กลายเป็นนางเอกอีกคนที่จะตามผลงานของเธอต่อจากนี้ ขณะที่ Cha Joo Yong คนนี้สวยหวานมาก ยิ้มทีผู้หญิงอย่างเรามองยังหลงเลย น่ารักน่าทะนุถนอมสมกับที่พระเอกของเรารักปักใจ 

อีกตัวละครหนึ่งคือดีเจเพื่อนพระเอก Kim Hee Chan บทของเขาคนนี้มีความสำคัญกับเรื่องไม่น้อยเลย ไม่ได้ออกมาหล่อใสอย่างเดียว แต่เสียดายแค่ว่าออกน้อยไปนิดเพราะเขามีบทบาทอยู่ในภาคอดีต เรียกได้ว่านักแสดงของเรื่องดึงดูดเราอยู่หมัดเลยค่ะทั้งรูปร่างหน้าตาของพวกเขาและทักษะทางการแสดง ต้องยอมรับว่านักแสดงนี่มีส่วนมากจริงๆ กับละครหรือหนังสักเรื่อง 

 

กับแง่คิดที่ได้...

 

จริงๆ ก็ว่าด้วยเรื่องความรัก ความเสียสละ ที่สอดแทรกแง่มุมให้ได้คิดมาระหว่างเล่าเรื่อง แบบที่ว่าเราก็ดูละครอยู่ดีๆ นี่ล่ะค่ะ แต่พอตัวละครพูดขึ้นมาก็คิดตามไปด้วยว่า ‘เออ..ก็จริงนะ’ ถึงตรงนี้มีการสปอยล์เนื้อหา สำหรับท่านที่ยังไม่ได้ดูละคร และคิดว่าจะลองไปติดตามดูเรื่องนี้สักหน่อย ไม่อยากรู้เนื้อหาทั้งหมดของเรื่องก่อน สามารถข้ามที่จะอ่านตั้งแต่ *..........* ไปจนถึง *..........* ด้านล่างเลยค่ะ 

:

:

:

*.....................................................................................................*

 

ว่าด้วยฉากที่พระเอกขอให้แฟนสาวของเขารักแต่เขาคนเดียวไปทั้งชีวิต มีความสุขแค่กับเขาเท่านั้น ซึ่งอารมณ์แบบนี้คล้ายในยามที่เรายังเป็นเด็กเป็นวัยรุ่น ความคิดเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเหล่านี้ ความมั่นใจที่จะเอาชนะอุปสรรคและทุกสิ่งได้ด้วยความรัก ความปักอกปักใจต่อความรู้สึกรักในห้วงเวลานั้น ที่เราเองเชื่อเหลือเกินว่ามันคือนิรันดร์ ฉันจะรักคนคนนี้ไปตลอดชีวิต ฉันจะอยู่กับเขาไปตลอด แท้จริงแล้วคำสัญญานี้เราจะรู้ว่าเราทำมันได้ไหม ก็คงต้องเป็นวันสุดท้ายของชีวิตนั่นแหละ...

อย่างพระเอกที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ประหลาดกับตัวเอง ทำให้ต้องพลัดพรากจากสาวคนรัก มาอยู่ในที่ที่ห่างไกลจากเธอถึง 37 ปีและได้พบกับความผูกพันกับใครอีกคนที่เขาเองก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น เขายังคงรักผู้หญิงในอดีต ผู้หญิงที่แม้ชีวิตเขาก็สละให้ได้ หากแต่คนในปัจจุบันก็ทำให้เขาหวั่นไหวด้วยความใกล้ชิด ความรู้สึกดีๆ เกิดขึ้นมาโดยที่เขาเองก็ยังไม่รู้ตัว เรื่องแบบนี้มีอยู่มากแม้ในชีวิตคนจริงๆ ไม่ต้องข้ามเวลาไปเป็น 10 หรือ 20 ปี การที่คนคนหนึ่งแม้มีเจ้าของแล้ว หากแต่บังเอิญได้ใกล้ชิดกับใครอื่นมากเกินไป หัวใจที่ไม่ได้ทำจากเหล็กก็มีอันต้องหวั่นไหวไขว้เขวได้เป็นธรรมดา (คงมีคนที่รักเดียวเหนียวแน่นมากจริงๆ อยู่บ้าง แต่ตรงนี้ขอพูดถึงทั่วๆไปละกันนะคะ)  ที่พูดมานี่ไม่ใช่จะสนับสนุนให้มองว่าคนมีคู่แล้วนอกใจมีรักซ้อนเป็นเรื่องธรรมชาตินะคะ แค่พูดตามสภาพความเป็นจริงของมนุษย์ ซึ่งเราเองก็ไม่เห็นด้วยเช่นกันค่ะกับความผิดข้อนี้ ในความคิดเราการสนิทสนมใกล้ชิดกับคนอื่นในขณะที่ตนมีคู่แล้วจึงเป็นเรื่องควรหลีกเลี่ยง และการรู้จักวางตัวให้เหมาะสมก็เป็นเรื่องสำคัญ นับเป็นการกันไว้ดีกว่าแก้ในขั้นหนึ่ง

แต่ในกรณีพระเอกเราที่บทละครพาให้เป็นก็ต้องยอมรับความสุดวิสัยนี้ไป ในเมื่อเขาไม่อาจทำอะไรกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและล่วงผ่านไปแล้วได้ หากในโลกปัจจุบันเขาเองก็เพิ่งมาตระหนักในตอนท้ายว่าตัวเองไม่อาจมีรักเดียวได้ตลอดไป ตรงนี้ถ้าเป็นละครเรื่องอื่นแนวอื่นก็คงให้ความรู้สึกไม่ชอบธรรมอยู่ที่พระเอกมีใจให้ผู้หญิงอีกคน แต่เพราะทุกอย่างมันเป็นไปแบบที่พระเอกเราก็ไม่ได้มีเจตนาให้เป็น เพราะในสถานการณ์ของพระเอกคือเขาไม่ได้ข้ามเวลามาแบบแว่บมาแล้วอาจจะแว่บกลับไปได้เหมือนในบางเรื่อง หากแต่เขาเดินทางมาในสภาพถูกแช่แข็ง ผ่านวันคืนไปกับโลกที่หมุนวนตลอด 37 ปี ด้วยปัจจัยทุกอย่างรักเก่าก็ดูหมดทางจะเป็นไปได้แล้ว ขณะที่เวลานี้ผู้หญิงคนหนึ่งคอยอยู่เคียงข้างเขาในช่วงที่เคว้งคว้าง สับสนกับโลกใหม่ที่เขาไม่รู้จัก (ตรงนี้ถ้าละครเป็นตอนยาว คงได้เห็นพัฒนาการความรักความผูกพันของทั้งคู่ที่ชัดเจนมีรายละเอียด และให้เหตุผลรองรับได้มากกว่านี้) ซึ่งเขาเองเมื่อตั้งสติได้กับสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันของตัวเองก็คงต้องยอมรับความจริงว่ารักแรกของตนเป็นได้แค่ความทรงจำตลอดไปเท่านั้น กระนั้นเขาก็ยังคงเฝ้าห่วงใยว่าเธอจะเป็นอย่างไรในตอนนี้ เธอต้องเสียใจและเป็นทุกข์เพียงใดยามเขาหายไป เธอจะมีชีวิตที่ดีอยู่หรือเปล่า เพราะคำที่ขอให้เธอสัญญากับเขาว่าเธอจะมีความสุขแค่กับเขาเท่านั้น สิ่งนั้นมันกลับย้อนมาที่ตัวของพระเอกเองในภายหลัง มันกลับมาทำให้เขาต้องเจ็บปวดเมื่อตัวเองไม่อาจทำตามสัญญาได้ ยิ่งเมื่อได้รู้ว่าในยามที่เขาหายไปเธอก็ยังคงเฝ้ารอเขาอยู่เนิ่นนานวัน ก็ยิ่งทำให้โกรธตัวเองที่เห็นแก่ตัวขอให้สาวคนรักสัญญากับเขาแบบนั้น นั่นทำให้เขาได้รู้ว่ารักแท้มันไม่ใช่การได้ครอบครอง ถ้าในตอนนั้นเขาไม่ขอเธอไว้ เธอก็สามารถมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขได้โดยไม่มีเขา ไม่ถูกยึดติดไว้กับการจากไปของเขาซึ่งไม่ต่างอะไรกับการตายจาก เขาจึงอยากเพียงแค่เห็นว่าเธอมีชีวิตอยู่ และอยู่อย่างเป็นสุขนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับความรักที่จำต้องกลายเป็นแค่ความทรงจำของเขา สำหรับใครอื่นเวลาได้ล่วงผ่านไป 37 ปีแล้ว แต่สำหรับโกมันซู เมื่อวานเขายังรักกันดีอยู่กับเธอเลย ตื่นมาอีกวันทุกอย่างก็แตกสลายจนหมดแล้วราวกับเรื่องทั้งหมดก่อนหน้านั้นเป็นแค่ความฝัน

มีความสงสัยในตอนแรกว่าสุดท้ายแล้วพระเอกจะได้ลงเอยกับใคร แต่พอมาสักค่อนเรื่องก็พอจะเห็นภาพที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ชัดขึ้นแล้วค่ะ ทีนี้ก็มาลุ้นกับอาการไม่สู้ดีที่เกิดจากผลกระทบที่ถูกแช่แข็งมานานของพระเอกแทน ว่าท้ายที่สุดแล้วละครจะจบอย่างสุขหรือเศร้า

 

*.....................................................................................................*

 

 

‘เพราะเราในตอนนั้น ไหนเลยจะรู้เรื่องในตอนนี้ เรื่องราวในชีวิตไม่ใช่ว่าเราจะควบคุมได้ทุกอย่างเสียเมื่อไหร่ เราทำได้แค่อยู่กับเวลานั้นให้ดีที่สุด’

‘มีคนบอกว่าความรักเกิดขึ้นได้หลายหน นอกจากหลายอย่างในชีวิตที่เรามิอาจควบคุมได้แล้ว หัวใจก็เป็นอีกสิ่งที่สบประมาทไม่ได้เลย เราบอกตัวเองให้รักใครไม่ได้ และห้ามไม่ให้รักไม่ได้เช่นกัน'

 

ที่ได้กล่าวมาทั้งหมดทั้งมวลก็แค่อยากบอกว่าขอยกเรื่องนี้ให้เป็นละครพิเศษในใจอีกเรื่อง ส่วนที่ไม่ถูกใจก็มีอย่างที่ว่ามาค่ะ คือละครสั้นไปทำให้ไม่กระจ่างในหลายจุด ทั้งในปมและที่มาที่ไปของตัวละครหลักทุกคน ยิ่งในส่วนของสาวสวยทั้งสองคนด้วยแล้ว เราชอบพวกเธอจนอยากเห็นแง่มุมหลากหลายในชีวิตของเธอด้วย ซึ่งถ้าทำเป็นเรื่องยาวกว่านี้คงสอดแทรกความน่าสนใจไว้ได้อีกมากเลยทีเดียว รวมถึงความผูกพันของตัวละครที่จะค่อยๆ พัฒนาไปแบบที่คนดูอินได้ลึกมากกว่านี้ แต่นี่มันให้ความรู้สึกไม่คลี่คลาย เมื่อละครจบลงแล้วยังมีคำถามในหัว ซึ่งก็อนุมานเอาว่าเขาคงอยากให้เราจินตนาการต่อเอาเอง จบแบบปลายเปิดอะไรเทือกนั้น แต่เอาจริงๆ ด้วยความชอบบรรยากาศของละครเรื่องนี้ก็ให้รู้สึกเสียดายที่ละครน่าจะเล่าเรื่องและขยายความใส่รายละเอียดได้มากกว่านี้ สร้างความประทับจิตประทับใจได้แบบสุดทาง

ถึงจะบ่น แต่ Bingoo ก็นับเป็นละครอีกเรื่องที่ดูจบไปแล้วยังนึกถึงและติดตรึงในใจ หลงบทละคร หลงพระเอก หลงสาวสวยทั้งสอง หลงบรรยากาศ หลงมาดูจนถอนตัวไม่ขึ้น จากแค่จะเมียงมองเลยได้ดูจนจบเลย ถามตัวเองว่าเพราะความมีใจให้พระเอกอยู่ก่อนแล้วเลยทำให้อะไรก็ดีไปหมดหรือเปล่า ก็ได้คำตอบมาว่าไม่ใช่เสียทั้งหมด เพราะเสี้ยวหนึ่งความลำเอียงนั้นก็คงมีอยู่บ้าง ทว่า School 2017 ที่จองฮยอนเป็นพระเอกเราก็ยังไม่ได้ดูเลย ด้วยไม่ถนัดแนววัยรุ่นสักเท่าไหร่ ก็เลยลงความเห็นกับตัวเองได้ว่าหลายๆ องค์ประกอบของ Binggoo มันถูกจริตเราเข้าให้ต่างหาก ใช่เพราะชายหนุ่มอย่างเดียวเสียเมื่อไหร่ แต่ก็นั่นล่ะค่ะ...ก็มันชอบนี่เนอะ จะไปคิดอะไรเยอะแยะ บางทีชอบมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรหรอก สรุปแบบง่ายๆ ที่ร่ายยาวเป็นวรรคเป็นเวรมาทั้งหมดก็เพราะชอบเท่านั้นเอง...จริงไหมคะ

 

 




Create Date : 21 เมษายน 2561
Last Update : 20 เมษายน 2562 15:16:43 น.
Counter : 1962 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kaotoon
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]