Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
กุมภาพันธ์ 2553
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
12 กุมภาพันธ์ 2553
ดีท็อกซ์
All Blogs
ดีท็อกซ์
ดีท็อกซ์
" ดี ท็อกซ์ " ง่าย ๆ ด้วยผัก-ผลไม้ โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.สถาบันเวชศาสตร์อายุวัฒน์นานาชาติ
" ดี ท็อกซ์ " คือ การฟอกพิษออกจากตัว โดยปกติตับจะทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว แต่พออายุมากเข้าตับเหนื่อยทำงานน้อยลง ตังนั้นการ " ดี ท็อกซ์ " ไม่จำเป็นต้องทางก้นเสมอไป เพราะทางก้นนั้นทำบ่อยเข้าอาจไปกวนลำใส้ใหญ่เกินไป แต่เราสามารถฟอกพิษทางปากได้ด้วยการกินผักและผลไม้
1. แอปเปิ้ล มีตัวดักพิษมากคือ เส้นใยเพกติน (pectin) กินแอปเปิ้ลเขียวหรือน้ำแอปเปิ้ลที่ต้องปั้นทั้งกากวันละ 2 ผล
2. ถั่วดำและมะรุม (แกงส้มมะรุม) มีตัวดักพิษ ชื่อ กากชนิดละลายน้ำ ( Soluble fiber ) กินวันละ 2 กำมือ หรือจะเป็นถั่วแดง ถั่วเขียว หรือถั่วสีเข้มอื่นก็ได้ หรือจะเป็นแบบสำรับไทยให้กินข้าวเม่าแทนข้าวโอ๊ตก็ได้และให้กินแท่งกระยาสารทแทนธัญพืชของฝรั่ง เพราะมีตัวดักพิษพอ ๆ กันในราคาถูกกว่า
3. ข้าวโอ๊ตไม่ขัดสี มีตัวดักพิษเป็นเส้นใยเช่นกัน ชื่อ " แบต้ากลูแคน " (Beta glucan) ตัวนี้ดีสุด ๆ เพราะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วย มีงานวิจัยใช้รักษามะเร็ง เบาหวานด้วย
4. สับปะรด มีน้ำย่อย ชื่อ " โบรมีเลน " ( Bromelain ) ช่วยย่อยขยะอาหารที่เหนียวติดตามซอกกลีบลำใส้
5. มะละกอ เด่นดีที่น้ำย่อย ชื่อ " ปาเปน " ( Papain ) ช่วยกัดเศษเนื้อที่ติดเป็นคราบดำเหนียวในลำใส่ให้หลุดออกเหมือนผงทะลวงส้วมยังไงยังงั้นเลย
ผลไม้ประกอบด้วย " ธาตุล้างพิษ " หลัก คือ
1. กากชนิดละลายน้ำได้ มักเป็นส่วน " เนื้อ " นิ่ม ๆ กินอร่อย เป็นเหมือน " ฟองน้ำ " คือทั้ง " เช็ด " และ " ซับ " คราบสกปรก ดูดไขมัน ลากน้ำตาลส่วนเกินให้ออกนอกร่างกายจึงดีมากสำหรับคนเป็นความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน
2. กากชนิกไม่ละลายน้ำ มักเป็นส่วน " เปลือก " เป็นเสมือน " ไม้กวาด " อุดมไปด้วยเสี้ยนที่จะไปขัดสีถึงซอกเล็กน้อยในลำใส้
ส่วนผักมี 2 แบบเช่นกัน คือ ผักที่เด่นไปด้วย " กากไม่ละลายน้ำ " และผักที่เด่นไปด้วย " กากละลายน้ำได้ " ซึ่งดีทั้ง 2 แบบ แต่ควรเลือกให้หนักที่ผักที่มีกากละลายน้ำได้มากจะดี
กว่า สังเกตได้คือ เป็นผักเนื้อนิ่ม เช่น มะรุม มะเขือเทศ แตงกวา หรือเป็นผักที่มีวุ้นหรือเมือกมาก เช่น กระเจี๊ยบอ่อน บอน
ต้องกินผักและผลไม้บ่อยแค่ไหนปละปริมาณเท่าใด ? นพ.กฤษดา กล่าวว่า โดยทั่วไปควรกินให้ได้ " กาก " ทั้ง 2 อย่างวันละ 30 กรีม คือ กินผักให้ได้มื้อละ 2 ทัพพี หรือจะทำ
สัปดาห์ละครั้งก็พอ
คนที่ควร " ดี ท็อกซ์ " เป็นใครบ้าง ? นพ.กฤษดา กล่าวว่า เป็นคนที่ตับเริ่มขี้เกียจทำงาน หรือตับป่วย เช่น ผู้สูงอายุ คนดื่มเหล้าจัด คนเป็นโรคเบาหวาน คนที่ทำงานหนัก
เครียดจัีด นอนดึก เพราะตับจะล้าเหมือนกัน
สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าต้อง " ดี ท็อกซ์ " เป็นอย่างไร ? นพ.กฤษดา กล่าวว่า
1. ท้องผูกบ่อย หรือถ่ายเหลวแบบไม่ใช่ท้องเสีย
2. ถ่ายไม่เป็นเวลา ถ่ายผิดเวลาไปจากเดิม
3. ลำไส้แปรปวน ท้องอืดง่ายจนรำคาญ
4. นอนไม่ค่อยหลับทั้งที่แต่ก่อนหลับดี
5. อารมณ์หงุดหงิดขึ้นลงง่าย ผิดกับแต่ก่อน
แหล่งข้อมูล : นสพ.เดลินิวส์
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 2 มีนาคม 2553 15:40:45 น.
2 comments
Counter : 1314 Pageviews.
Share
Tweet
แวะมาเยี่ยม...ขอบคุณสำหรับสาระดีๆที่นำมาฝากครับ
โดย:
**mp5**
วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:51:32 น.
โดย: ป้าตุ้ย (
amornsri
) วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:22:26 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
sj13palmkung
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
Incheon
ratana_sri
korean4life
== พิ้งค์กี้ ==
นางฟ้าสีขาว
ไข่ย้อย-หมูหยอง
สวนภัทรนนท์
nawa_nava
Webmaster - BlogGang
[Add sj13palmkung's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.