ชีวิต..ไม่ใช่เรื่องง่าย
 
กรกฏาคม 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
19 กรกฏาคม 2551
 
 

ปัญหาในที่ทำงาน (เริ่มมีปัญหาซะแล้ว...)

หลังจากที่ีรายงานการทำงานประจำวันไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้เขียนอีกเลย เนื่องจากทั้งเหนื่อยและหมดแรง แล้วงานก็เริ่มดูเหมือนจะโอเค คือ เริ่มพอเข้าใจสเต็บบ้าง แต่ก็ไม่ทั้งหมด เลยไม่ได้มาเขียนอีก

แต่วันนี้ได้กลับบ้านเร็วกว่ากำหนดไปสามชั่วโมง เพราะเจ้านายสั่งให้กลับ เนื่องจากว่า งานไม่ยุ่ง และ ลูกค้าไม่เยอะ เค้าจึงสั่งเด็กใหม่ให้กลับกันก่อน เลยพอมีเวลามานั่งพิมพ์ ๆ อีกอย่างคือ มีเรื่องไม่ค่อยสบายใจ อย่างที่บอกบนหัวเรื่องว่า เริ่มจะมีปัญหาในที่ทำงานซะแล้ว... เฮ้อ!

ปัญหาอะไรน่ะเหรอคะ.. จริงๆ มันก็ไม่น่าจะมีเล้ย แต่มันก็มีจนได้ แต่มันก็เพิ่งเริ่มๆ อ่ะนะคะ ยังไม่มากมายอะไร แต่ก็พอจะทำให้รุ้สึกได้อยู่เหมือนกัน

ปํญหาที่บอก ก็คือว่า คนที่คุมในส่วนของห้องอาหาร เคาท์เตอร์บาร์ และ รีเซฟชั่นทั้งหมด คือ ลูกสาวของเจ้าของโรงแรม และ มีแฟนเป็นผู้จัดการใหญ่คุมอยู่ด้วย ซึ่งเธอคือ ผู้จัดการเล็ก คือ รองลงมานั่นเอง..เธอเป็นคนค่อยข้างขี้หึง และ เหยียดผิว หรือ แอนตี้คนต่างชาติ ประมาณนั้นค่ะ และ สาเหตุที่เธอออกอาการหึงเกินพิกัด ก็เพราะแฟนคนนี้เป็นคนเจ้าชู้ซะเหลือเกิน

ต่อ...
แรกๆ ก็ยังไม่รู้สึกอะไรนะคะ เพราะมัวแต่ดีใจได้งานทำ ได้มีเงินใช้เป็นของตัวเอง ก็ทำๆไป แต่ก็มาสะดุดหลายครั้ง เวลาที่เราแตะต้องหรือลงมือทำอะไร เธอคนนี้จะมาสั่งให้เราไปทำอีกอย่างแทบจะทุกทีสินั่น ยกตัวอย่างเช่น ส่วนใหญ่ เราจะได้ทำในส่วนของห้องอาหาร แต่วันไหนเราเข้ากะบ่ายก็จะยังไม่มีคน ก็จะจัดห้องโต๊ะที่ยังค้างคาอยู่จนเสร็จ แล้วเห็นไม่มีไรทำแล้ว ก็จะออกมาช่วยหน้าเคาน์เตอร์บาร์ เพราะไม่อยากเดินไปเดินมา กลัวเค้าจะว่าเอาเพราะเรามาใหม่ ก็ไปช่วยเติมแก้วกาแฟ เติมช้อน หรือนม ให้กับสต๊าฟที่ประจำหน้าบาร์ แล้วถ้าเธอคนนี้เห็นเราหน้าบาร์ทีไร จะต้องเรียกให้ไปทำอะไรด้านหลังทุกครั้ง เช่น ให้ไปยืนขัดพวกช้อนส้อมเครื่องเงินต่างๆ เราก็ทำไปตามคำสั่ง ใครสั่งไรก็ทำหมด แม้แต่พนักงานใหม่ด้วยกันที่เป็นฝรั่งมาใช้เราทำ เราก็ทำ ไม่คิดไรมาก แต่ทุกครั้งจริงๆ ที่เราอยู่หน้าบาร์ เธอ ผู้เป็นลุกเจ้าของโรงแรมต้องลากเราไปที่อื่น สงสัยไม่อยากให้เสนอหน้ามาเจอผู้คน เพราะหน้าตามันแปลกๆ หัวดำๆ ตัวดำๆ ฮ่ะๆๆ บางที่เรียกเราไปขัดเครื่องเงิน เราก็บอกว่า ทำเสร็จหมดแล้ว ไม่เหลือแล้ว เธอก็บอกให้เราไปจัดโต๊ะดินเนอร์ เราก็บอกว่า ทำเสร็จแล้ว แล้วเธอก็ไม่ว่าไรอีก เพราะมันไม่มีไรให้ทำแล้ว หลายๆ ครั้งเข้าเราก็งงว่าทำไมไรนักหนา เราก็อยากเรียนรู้งานที่ไม่เคยทำ เช่น เครื่องทิล หรือ เครือ่งดื่มหน้าบาร์ เพราะเค้าเคยพูดกับเราตั้งแต่แรกๆ ว่า ต้องทำให้ได้ทุกอย่าง พอพ้นทดลองงานแล้วจะดูว่าเธอทำไรได้มากน้อยแค่ไหน แล้วแบบนี้เราจะผ่านทดลองงานไม๊เนี่ย ให้ขัดช้อนอย่างเดียว เฮ้อ..

มีอีกหลายครั้ง เช่นทัวร์มาลงห้องอาหาร เราก็ประจำที่นั่น เค้าไม่ชอบให้เราเสนอหน้า เราก็คอยยกถาดจากห้องครัวไปที่โต๊ะ ให้เค้ายกลง แต่มีช่วงนึง ไม่มีสต๊าฟในห้องอาหารเลย เราจำได้ว่าแขกกินเสร็จก็รีบเคลียร์โต๊ะเพื่อรออาหารชุดต่อไป เราก็เดินไปเคลียร์ แล้วจังหวะนั่นเอง เธอก็เข้าห้องมาพอดี แล้วเดินมาว่าเรา ว่า ทีหลังให้ถามเธอก่อนว่าให้เคลียร์โต๊ะไหนก่อน ต้องฟังคำสั่งจากเธอ เราก็ขอโทษเค้าไป ถัดมา พอเราเคลียร์ตามที่เค้าสั่งแล้ว กำลังเคลียร์เศษอาหารออกจากจาน เค้าก็ตามมาบอกเราหลังห้องอีกว่า ทีหลังอย่ายกจานแบบนี้สิ มันน่าเกลียด ดูแล้วไม่โปรเฟสชั่นแนลเลย ต้องทำแบบนี้ หัดให้ได้ เราก็ค่ะๆ จะพยายามค่ะ..หลังจากนั้นก็ไม่มีคนอยู่ในห้องอาหารอีก มีเราอยู่ แล้วแขกเรียกเราไปถามว่าอาหารยังไม่ได้เลย แล้วสั่งเครื่องดื่มเพิ่ม เราก็วิ่งไปบอกเธอคนนี้ว่าลูกค้าตามอาหาร เธอก็มองหน้าเราบอกว่า ก็ฉันรออาหารอยุ่นี่ไง ไม่เห็นเหรอ เราก็บอกว่า แล้วลูกค้าสั่งเครื่องดื่มด้วยนะคะ (เรากะว่าให้เธอรู้ไว้ก่อนเด๋วจะวิ่งไปหยิบเครือ่งดื่มที่บาร์) เธอก็บอกว่า ก็ไปสั่งอีกคนที่บาร์สิ ฉันอยู่ในครัว จะหาให้ได้ยังงัย เราไม่รู้จะพูดงัย ก็ได้แต่ ค่ะ ๆ ๆ ไว้ก่อน วันนั้นก็รู้สึกเสียเซลฟ์ไปนิดนึงเหมือนกัน ว่า เอ๊ะ ทำไมเราทำไรผิดพลาดได้เยอะขนาดนี้จังคืนนั้น (เพื่อนคนไทยไม่ได้มาทำค่ะ)

แล้วพอมาล่าสุด คือ เมือ่วานนี้ มีงานแต่งงานไม่ใหญ่มาก... เราไปถึงที่ทำงานบ่ายสอง ก็เดินดูว่าช่วยไรได้บ้าง แต่สต๊าฟเยอะมาก งานเลยไม่เหลือไรให้ทำแล้ว เราก็ไปถามเพื่อนคนไทยว่า จะให้ทำไรวันนี้ เพื่อนก็บอกว่า งั้นไปยืนหน้าโต๊ะเครือ่งดื่มเล็กๆ คอยกดชา กาแฟ หรือน้ำพั้นช์ ให้แขกที่มางานแต่งงาน เราก็ไปยืนหน้าโต๊ะ สักแป๊บ คุณเธอลูกเจ้าของโรงแรมเดินผ่านเราไป แล้วนึกได้เดินกลับมาใหม่ บอกว่า อ้อเธอไม่ต้องมายืนตรงนี้ ไม่จำเป็น ให้ไปที่อื่น พูดจบเธอก็เดินเข้าห้องทำพิธีแต่งงานไป เราก็บอกเพื่อนว่า เค้าไม่ให้เรายืน ก็ไม่เป็นไร ก็ไปหาทำอย่างอื่น เช็ดเครื่องเงิน เติมถ้วย ทุกอย่างที่เค้าจะใช้เรา เพื่อนคนไทยมาบอกว่า ให้ไปช่วยอีกคนในห้องบอลลูมที่เตรียมไว้สำหรับดินเนอร์งานแต่งก็แล้วกัน เติมน้ำตาล เกลือ พริกไทย เราก็ไป แล้วไปหยิบถ้วยน้ำตาล เกลือ พริกไท ตรงตู้แขวนข้างห้องทำพิธี อันนี้เราผิดเองค่ะ เพราะมัวแต่รีบ จนลืมไปว่าเค้าทำพิธีแต่งงานกันอยู่ในห้องข้างๆ เราดัน หยิบถ้วยน้ำตาล และอื่นๆ ลงถาดไม้เสียงดัง ก๊อกๆ แก๊กๆ จนลูกเจ้าของคนเดิม ออกมาว่าเรา ว่าเค้าทำพิธีกันอยู่นะ ไปที่อื่น...เฮ้อ

อีกเหตุการณ์ถัดจากนั้น ใกล้เวลาดินเนอร์ในห้องบอลลูม ทุกอย่างพร้อมแล้ว เพื่อนคนไทยพาเราไปในห้องเพื่อจะสอนว่า บริการยังงัย อาหารหวาน คาวมีกี่อย่าง เสริฟใครก่อน แล้วเธอคนเดิม ก็ถามเพื่อนเราว่า ทำไมเหรอ ทำอะไร เพื่อนบอกว่า แค่สอนเราว่า ทำอะไรยังงัยบ้างในห้องนี้ เธอคนนี้ก็บอกเลยว่า ไม่ ฉันไม่ให้อ้ออยู่ในห้องนี้ อ้อไม่ต้องทำอะไรในนี้ ฉันมีสต๊าฟพอแล้ว เพื่อนเราก็โอเค โอเค แต่ในใจเพื่อนเราน่ะฉุนมากถึงมากที่สุด เพราะเพื่อนเราเริ่มรู้ว่า เธอคนนี้ไม่ต้องการให้ใครสอนงานเรา ซึ่งพวกเราก็ไม่รู้ว่าทำไม เพราะอะไร... ถ้าจะหึงแฟนก็น่าจะคิดบ้างว่า เรามีสามีแล้ว แต่งงานแล้ว เป็นไปไม่ได้ แม้แฟนเค้าจะเจ้าชู้ขนาดไหนก็ตาม ก็เลยคิดกันว่า เอ..หรือว่าจะเป็นตั้งแต่ตอนแรก ที่เธอคนนี้ไม่อยากรับเราเข้าทำงาน เพราะเราไม่มีประสบการณ์ แต่แฟนเค้าให้รับเราเอาไว้ เพราะเค้าชอบคนไทย บอกว่าคนไทยขยันถูกใจเค้า ส่วนประสบการณ์นั้นสอนกันได้ เธอจึงต้องรับเราเข้าทำงาน...

และเรามานั่งย้อนคิดถึงว่า ทำไมเราถึงไม่ได้บัตรตอกลงเวลาสักที ทำงานมาสองอาทิตย์แล้ว ในขณะที่เด็กอีกคนเป็นพนักงานชั่วคราวช่วงโรงเรียนปิดเทอม กลับได้บัตรตั้งแต่หลังจากวันแรกที่ทำงาน เราทวงถามสองรอบก็ยังไม่ได้ ครั้งสุดท้ายเธอเห็นหน้าเราก็พูดว่า อ้อบัตรตอก แต่ก็เงียบ.. จนวันที่มีแต่งงานที่เล่ามา แฟนเธอให้เรากลับบ้านเร็ว เพราะไม่มีงานแล้ว งานไม่ยุ่ง แต่พอเห็นเราไปถามๆ รีเซฟชั่นว่าเห็นบัตรตอกเราไม๊ เค้าคงนึกได้ เลยพาเราไปทำให้เองเลย ในห้องส่วนตัว แล้วจังหวะจะออกมาจากห้อง เธอคนนี้ได้เปิดประตูสวนเข้าไปพอดี เธอมองเราตาขวางมาก เราก็คิด..ซวยแล้วตรู.. ก็เลยรีบเดินตามแฟนเค้าออกไปให้ไวที่สุด แฟนเค้าพาเราไปสอนการใช้บัตรรูด เราก็ขอบคุณแล้วรีบปลีกตัวออกมา ไปร่ำลาเพื่อนในห้องอาหาร เพื่อนถามเรื่องบัตรตอก เราก็บอกว่าได้แล้ว แฟนลูกสาวทำให้ เพื่อนก็ตาโตว่า จริงเหรอ เพราะตานี่ไม่เคยทำบัตรให้ใคร มันเป็นหน้าที่ของลูกสาวเจ้าของทำ.. เราเลยคิดว่า ฉันได้ก้าวเข้าสู่เขตอันตรายแล้วสิเนี่ย..


ได้คุยกับเพื่อนหลายรอบเมื่อวานนี้ เพื่อนบอกว่า มีอะไร ก็ให้เราสู้ อย่ายอมเค้า ไม่งั้นจะโดนจิก อย่าเอานิสัยคนไทยมาใช้ที่นี่ เพราะไม่ได้ผล นิสัยคนไทยใจอ่อน ยอมง่าย อะไรก็ได้ ซึ่งมันจะทำให้เรายืนด้วยลำแข้งไม่ได้ที่นี่..เราก็ฟังแล้วก็จะพยายาม แต่ไม่รู้จะได้แค่ไหน เพราะเราเป็นคนไม่ค่อยกล้าด้วยสิ เฮ้อ..ตอนนี้ก็ได้แต่คิดอย่างเดียวไปก่อน คือ เงิน เงิน เงิน.. ทำไรก็ได้ ได้เงินมากอ่นละกัน ถ้ามันหนักมากนัก ก็ทนจนมีประสบการณ์ แล้วก็ย้ายซะ





 

Create Date : 19 กรกฎาคม 2551
8 comments
Last Update : 19 กรกฎาคม 2551 20:16:29 น.
Counter : 608 Pageviews.

 

ไม่ชอบเลยค่ะพวกเหยียดสีผิวเนี้ย เป็นกำลังใจให้นะค่ะ

 

โดย: nakamuk 19 กรกฎาคม 2551 5:59:33 น.  

 

ไม่ว่าจะทำงานที่ไหน ก็มักจะมีปัญหาค่ะ ดังนั้น อย่าไปสนใจคนอื่น ตั้งใจทำงานของเราไป

 

โดย: Lilac Girl 19 กรกฎาคม 2551 6:23:19 น.  

 

มีปัญหาที่ทำงานมานานแล้วค่ะ มันเป็นๆหายๆรำคาญใจยิ่งนัก
พยายามขจัดให้หมด ดีแป๊บๆ เดี๋ยวมาอีกละ ปัญหา

วันนี้ปวดหัวมากแทบจะกินพารา เพราะปัญหาหนัก แถมโดนไซโคอีก เฮ้ออออ

เอาเป็นว่า ให้กำลังใจทั้ง จขบ. และปลอบตัวเองไปด้วยในเวลาเดียวกัน เลยละกันคะ อิอิ

สู้ๆ

 

โดย: yr_naughty_annie 19 กรกฎาคม 2551 6:59:01 น.  

 

จริงค่ะ ทำงานที่ไหนก็มีปัญหาทั้งนั้น
อย่าไปคิดมากเลยค่ะ ทำหน้าที่ในส่วนของเรารับผิดชอบก็พอ
สู้ สู้ นะค่ะ

 

โดย: รักษ์ (RakKoksawang ) 19 กรกฎาคม 2551 16:52:31 น.  

 

ขอบคุณทุกกำลังใจมากเลยค่ะ

 

โดย: nlukus 19 กรกฎาคม 2551 20:28:22 น.  

 

อะ แอบมาช้าไปแน่เลยคะ
แต่อยากบอกว่า ทำในส่วนของเราให้ดีที่สุดก็พอคะ
โดยส่วนตัวแล้วเพราะเป็นพนักงานของเอเจนซี่ โดนส่งไปประจำการไม่ซําที่ ตลอด มีทั้งพวที่ เจ้ากี้ เจ้าการ พวกที่อยู่ตำแหน่งเดียวกัน แต่สั่งแหลก พวกขี้เกียจกินแรง พวดูถูกว่าคนเอเชียโง่ โอ้ย สารพัดคะ แต่เราต้องมั่นคะ เขาปฎิบัติกับเราแบบฝรั่ง พูดกระแทกเราตรงๆๆ เราก็อย่ารอช้า พูดบอกไปเลย ถ้าเขาเป็นฝ่ายผิดก็ชี้แจงให้เขาอายตัวเองไป

อ้อ ยุก็ทำงานคล้ายคุณคะ แต่เขาส่งไป ตามที่ๆ ขาดคน หรือ ต้องการใช้คนเพิ่ม ในโอกาสต่างๆ เงินดีกว่า คนประจำ แต่ต้องมีความอดทนสูงกว่า

 

โดย: yu เองคะ 20 กรกฎาคม 2551 12:41:25 น.  

 

โห คุณยุอึดจังเลย อ้อก็อยากเป็นให้ได้แบบนั้นแต่ไม่รู้เมื่อไหร่หนอ

บางทีโกรธก็เโกรธนะคะ ที่เราโดนว่าเพราะความผิดคนอื่น พอนึกจะเถียงก็คิดอีกว่า เออ เราเป็นผู้ใหญ่กว่าเค้าเยอะ ถ้าเราพูดไป เด็กก็จะโดนอีกเลยเงียบซ๊า.. ทำเป็นสงสารเค้าอีกนั่นตัวเองก็จะไม่รอด ฮ่ะๆๆ

แต่ก็ขอบคุณมากนะคะ สำหรับคำแนะนำและร่วมแชร์ประสบการณ์..แบบนี้น่าทำกับเอเจนซี่ซะดีมั๊งถ้าได้เยอะกว่าคนประจำแบบนี้

 

โดย: nlukus IP: 78.16.74.141 21 กรกฎาคม 2551 20:17:36 น.  

 

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆๆค่ะ

 

โดย: พี่พิม IP: 78.92.144.58 24 กรกฎาคม 2551 2:01:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

nlukus
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เพิ่งคิดจะเริ่มทำบล๊อกกับเค้าค่ะ เคยแต่อ่านๆ เห็นเพื่อนๆ ทำแล้วน่าสนใจดี จังหวะว่ามาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองแล้ว ก็อยากแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ บ้าง อีกนัยหนึ่งก็อยากระบายนั่นล่ะค่ะ ฮ่ะๆๆ

แต่ก็ทำไม่ค่อยจะเป็นนัก ฝากเพื่อนๆ ชี้แนะด้วยนะคะ...
[Add nlukus's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com