ฝากแจ้งข่าว
คุณพ่อท่านสุวิทย์ ถนอมสัตย์ เสียชีวิต
กำหนดฌาปนกิจ
ในวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน 2553
วัดศาลาลอย อำเภอบ้านเขว้า
จังหวัดชัยภูมิ
ชาว นอ.63 ที่สามารถไปร่วมงานได้
เจ้าภาฝากเรียนเชิญมา ณ โอกาสนี้ครับ

ขอแสดงความเสียใจกับคุณสุวิทย์ ถนอมสัตย์ด้วยครับ ผมคงไม่ได้ไปร่วมงานด้วย กลับจากมุกดาหารเมื่อวันที่ 25กันยายน พากำนัน ผู้ใหญ่บ้านไปดูงานและพักผ่อนประจำปี ทราบข่าวจากคุณมาตร โทร.บอก

ได้ต้อนรับท่านอดีตประธานอภิชาติ ที่มีกับคณะของ สำนักยุทธศาสตร์ มาตรวจติดตามเรื่องงบบูรณาการของนายอำเภอ ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็ได้ทานข้าวรับรองไป1มื้อเมื่อคืนวันเสาร์แต่ไม่ได้พาไปถนนคนเดินเนื่องจากฝนตกหนัก วันอาทิตย์ก็เดินทางวเข้ากทม.ทราบว่าวิ่งสายแม่สะเรียง แม่สอด ตาก ไม่ทราบว่าป่านนี้กลับถึง กทม. หรือยังครับ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพครับผม

เข้าร่วมงาน "พบปะสังสรรค์ นอ.63"
และร่วมสนับสนุนเงินจำนวน 1,000 บาท (หนึ่งพันบาทถ้วน)

๑. ขอแสดงความเสียใจต่อ หน.สุวิทย์ ถ.
๒. ได้ประสาน หน.สุวิทย์ฯ เพื่อขอทราบหมายเลขบัญชีธนาคารแล้ว เมื่อได้เลขบัญชี จะโอนเงินของ นอ.๖๓ ไปร่วมในการทำบุญ/บำเพ็ญกุศลศพต่อไป (สมาชิกไม่ต้องเป็นห่วง กองทุนยังมีเงินพอ แม้ไกล้จะหมดก็ตาม)
๓.ขอขอบพระคุณพี่ๆ เพื่อนๆ ที่ได้เริ่มตอบรับเข้าร่วมงาน ๑๖ ตุลาคม ๕๓ มาบ้างแล้ว อย่าลืมว่าถ้าท่านโอนเงินเข้าบัญชีแล้วช่วยโทร.บอก เหรัญญิกด้วย(หน.กุ้ง) จะได้จัดทำบัญชีได้ถูกต้องครับ

ขอโทษที่หายหน้าไปนาน เพราะย้ายมาอยู่อำเภอใหม่ นายอำเภอป่วยตอนนี้ early ไปแล้วก็เลยยุ่งนิดหน่อย ตอนนี้เข้าที่แล้ว
ขอแสดงความเสียใจกับคุณสุวิทย์ด้วย พึ่งจะรู้วันนี้ ไม่อย่างนั้นคงจะขับรถไปร่วมงานด้วย
สำหรับนู๋กุ้งคนสวยถ้าจะมาร่วมงานสายอิสานจริงก็ยินดีต้อนรับ เอาไว้เจอกันวันที่ 16 ของส่วนกลางแล้วค่อยคุยกันนะ
สำหรับงานเลี้ยงส่วนกลาง ชนะศึก confirmed จะโอนเงินให้วันนี้

๑.คำสั่งย้าย และตั้ง ผวจ.ออกแล้ว รับตำแหน่ง ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ ครับ
๒.คำสั่งตั้งและย้าย ระดับรองๆ ลงมา หวังว่าคงไม่กระทบกับวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๓ นี้
๓.คำสั่งตั้งและย้ายนายอำเภอยิ่งออกช้าๆ พี่ชนะศึก...ก็ยิ่งได้เป็นนายอำเภอนานๆ ครับ

ผมโอนเงินให้แล้ว 1,000 บาท ครับ
พายุจะมีอีกมั้ย ช่วงนี้ เมื่อไหร่น้ำจะท่วมอีกนะ

ขายยาปราบศัตรูพืชก็พอแล้ว
งานส่วนกลางไม่แน่ใจว่าจะไปได้ แต่ถ้าไม่ได้ไปก็สนับสนุนเงินคือเก่าครับ

๑.ขณะนี้มีผู้แจ้งตอบรับการร่วมงานที่ผมแล้ว ๑๐ ท่าน ครับ(แจ้งโอนเงินแล้ว ๒ ราย)
๒.อีกหลายๆท่าน ทราบว่ากำลังรวมทีมกันอยู่

งานนี้ไปด้วยแน่นอนเดี๋ยวจะโอนเงินไปให้ ทราบว่าท่านสำคัญจากนครจะขึ้นไปด้วย

ป.ป.ช. ทยอยเรียก 145 คนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตการสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอเมื่อปีที่แล้วมารับฟังข้อกล่าวหา และให้แก้ข้อกล่าวหาใน 15 วัน

เปิดเผยชื่อได้มั๊ย หรือเป็นความลับ

ปลายเดือนกันยาได้ไปตรวจงานเรื่องเงินบูรณาการที่แม่ฮ่องสอนได้รับการต้อนรับจาก ณรงค์ชัย เป็นอย่างดี ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งครับที่สายสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนยังแน่นแฟ้น อย่างไรเสียเพื่อนก็คือเพื่อนครับ และก็จะเป็นเพื่อนที่ดีและจริงใจตลอดไปครับ

สำหรับเพื่อน นอ.68-70 ที่ ปปช.เรียกเข้าไปปากคำเพื่อแก้ข้อกล่าวหา ผมขอส่งแรงใจไปช่วยให้หลุดพ้นจากความทุกข์ที่ได้รับนี้นะครับ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากระบบที่กลั่นแกล้งพวกเรามาโดยตลอด และระบบดังกล่าวก็ยังทำให้พวกเราเจ็บปวดอีก ใครมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไรกับคนใกล้ชิด ก็พยายามให้กำลังใจเขาเหล่านั้นนะครับ
หมายเหตุ ผมไปตรวจงานที่ทางใต้เจอ นอ.ณงค์พร (แป้น) ซึ่งเป็นเพื่อนปลัดอำเภอด้วยกันรู้จักกับกล้าณรงค์ เขาบอกว่าคดีนี้ชัดเจนมากครับ

งานเลี้ยงรุ่น ผมร่วมงานด้วย เงินจะโอนให้พรุ่งนี้นะครับ

แล้วโรงแรมที่ว่าอยู่แถวไหน ผมจะเริ่มต้นที่แถวพระราม 9

ใครรู้เส้นทางช่วยแนะนำด้วย ขอบคุณล่วงหน้าครับ

พี่วิบูลย์ ได้นำข้อมูลจากสมศักดิ์มาให้ดูแผนที่และวิธีการเดินทางแล้วครับ ผมว่าถ้าจะให้ดีช่วยขอพิกัดของโรงแรมGPS ให้ท่านที่ซื้อโทรศัพท์แล้วมีระบบนำทางจะได้เอาพิกัดไปใส่แล้วเดินทางมาง่ายขึ้น หรือว่าซื้อแพงๆมาแต่ไม่เคยใช้กันเลย อิอิ ลองดูนะครับผมว่าน่าจะสนุกเหมือนแข่งแรลลี่ดี ท่านสมศักดิ์รบกวนไปขอพิกัดโรงแรมในระบบ GPS ด้วยครับ

อ้อเกือบลืมผมยืนยันไปร่วมงานนะครับ เด๋วจะโอนเงินไปนะครับท่านประธาน

พิกัดGPS ของโรงแรม 13.625108,100.6302228 ครับ

ได้เส้นทางแล้ว ไปถูกแน่นอน ขออภัยครับวันนี้ยังไม่ได้เข้าเมือง จึงยังไม่ได้โอนเงินให้พรุ่งนี้แน่นอน แต่ว่าผมก็โทรประสานกับคุณสมศักดิ์แล้ว

ได้อัพรูปภาพจากกูเกิ้ลและพิกัดGPS เพื่อให้เป็นแนวทางในการค้นหาโรงแรมดูจากภาพแล้วโรงแรมต้องเดินเข้าซอยมาหน่อย ว่าแต่ท่านประธานโรงแรมนี้เขาคิดค่าห้องคืนเท่าไหร่ครับ

1.ขอแสดงความเสียใจกับ หน.สุวิทย์ครับ
2.เลี้ยงรุ่น 16 ตุลา แจ้งความประสงค์ "ร่วมครับ" ทราบว่าคุณนายอภิญญากำลังระดม กป.8 อยู่ อยากหาแนวร่วมก๊วนกอล์ฟหน่อยครับ
3.ขอแสดงความยินดีกับท่าน นอ.ชนะศึก พี่ใหญ่ครับ ทราบว่ากว่าคำสั่ง นอ.จะออก อีกนาน(ต้องถามส่วนกลาง)

๑. ขณะนี้มีผู้แจ้งเข้าร่วมจากภูมิภาคแล้ว ๑๘ ท่าน
๒. มีผู้โอนเงินเข้าบัญชี เมื่อปลายกันยายน จำนวน ๓ ราย คือ หน.ชนะศึก หน.กำธร แต่อีกรายไม่ทราบว่าเป็นใคร ช่วยยกมือฉายไฟด้วยครับ
๓. คณะผู้จัดงานจะได้ประสานทางโทรศัพท์อีกครั้งหนึ่งสำหรับท่านที่ยังเก็บตัวอยู่
๔. ค่าที่พัก ห้อง/คืน/๖๐๐ บาท รวมอาหารเช้าครับ
๕. ขอบคุณ หน.ณรงค์ชัย(ฝ่าย ปชส.) ได้รับข้อมูลจากส่วนกลางปุ๊ป ก็ขึ้นฉายบนจอปั๊ป แต่ถ้าตัวเล็กๆ หน่อยก็ดีครับผม
๖. โอนเงินจากกองทุนของรุ่น จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท ให้ หน.สุวิทย์ ถนอมสัตย์ เพื่อร่วมทำบุญบำเพ็ญกุศลศพฯ แล้ว

ขอโทษด้วยครับท่านประธานผมเห็นว่ารุ่นเรามีผู้มีวัยวุฒิหลายคนเกรงว่าหากทำตัวเล็กๆจะอ่านไม่ได้ครับคราวหน้าจะทำตัวอักษรให้เล็กๆลงครับผม

ท่านประธาน ผมโอนเงินไปให้แล้ว และจะไปกัน2คนกับคนที่บ้าน

ไปด้วยครับผม จองห้องเตียงคู่ให้ 3 ห้องนำเด้อ
ลูกๆ หยุดเทอมจะพาไปเที่ยวบางกอกด้วย
ไปชัวร์ล้านเปอร์เซ็นต์เพราะจ่ายค่าเหมารถตู้ไปแล้ว 10,000 บาท
เงินจะโอนให้วันเสาร์นี้ ช่วงนี้ติดเลือก ผญบ. แทบทุกวันไม่มีเวลาไปธนาคาร คาแต่เมาอยู่

8 - 12 พฤศจิกายน จะไปฮาลองเบย์

ภาพถ่ายของผมก็ขายได้เรื่อยๆ ไปดูซิครับ
ผลงานภาพถ่ายของผมอยู่ที่นี่
//www.fotolia.com/p/201807076
//www.dreamstime.com/Netsuthep_portfolio_pg1
//www.123rf.com/portfolio/netsuthep/1.html
//www.bigstockphoto.com/search/photographer/netsuthep/

พี่โต...โอนเมื่อวันที่เท่าไรครับ...จองห้องพักไหมครับ...เตียงเดี่ยวหรือเตียงคู่ดีครับ...

พี่เนตรสุเทพ...จอง ๓ ห้องเลยหรือครับ...แสดงว่ามีลูกหลายคน

ผมก็โอนแล้วนะครับ

จอง 3 ห้อง เพราะจะมีเพื่อนฝูงไปด้วยอีกครอบครัวหนึ่ง ส่วนลูกมีแค่สองลูกเท่าทุน

ผมโอนไปแล้ววันนี้ช่วงบ่ายๆ ครับ 1,000 บาท

บัญชีเงิน นอ.63

ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนเฟื่องนคร

ชื่อบัญชี "นายสุรชัย ยุติธรรมนนท์"

บัญชีเลขที่ 159 - 0 - 04087 - 2

ขอแสดงความเสียใจต่อพี่เอกอัมพร ที่สูญเสียคุณแม่ ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านอำเภอป่าซาง ฌาปนกิจวันเสาร์ที่ ๑๖ ตุลาคม นี้ ขอเชิญชวนสมาชิกภาคเหนือและไกล้เคียงเป็นตัวแทนของรุ่นไปร่วมงานด้วยครับ รายละเอียดอื่นๆ จะได้ประสานแจ้งให้ทราบต่อไป

ผมโอนเงินให้แล้ว 1000 บาทเมื่อ 7 ตค.53ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ประสานกับคุณสมศักดิ์ฯ แล้ว

ได้ปรับสมุดบัญชีแล้ว มีเงินโอนเข้าครบถ้วน ถูกต้อง ทุกท่านที่แจ้งประสานมาครับ รวมทั้ง ๕ ท่านที่ฝากไว้กับสิทธิศักดิ์ ด้วย รวม ๑๗,๐๐๐ บาทครับ

ขอร่วมแสดงความเสียใจกับพี่เอกอัมพรด้วยครับ
อ่านข่าวมติชนเกี่ยวกับเรื่องทุจริตสอบ นอ.แล้วใจหาย

๑.ขอขอบคุณพี่ๆ สมาชิกที่เป็นตัวแทนไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพ ที่ อ.ป่าซาง ในวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๕๓ คือ พี่สุวิทย์ นะติกา พี่โกศล พี่ฉัตรชัยและพี่มานพ ....ผมจะได้ประสานโอนเงินไปให้ต่อไป...ครับ
๒.ข่าวมติชนมีคนพูดกันมาก แต่ยังไม่ได้อ่านเลยครับ

สงสัยโดนไล่ออกหมดครับ

ขอเรียนสรุปงานสังสรรค์ ๑๖ ต.ค. โดยย่อดังนี้
๑. กำหนดการ (สมาชิกเลือกเข้าร่วมได้ตามความเหมาะสม)
ภาคกลางวัน -๑๐.๓๐ น.พร้อมกันที่โรงแรมคัลเลอร์ลีฟวิ่ง และเดินทางไปร่วมกิจกรรม เที่ยวเมืองโบราณ นมัสการอาจารย์ลี วัดอโศการาม ชมและซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องหนังโอท็อป พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
ภาคค่ำ -๑๘.๐๐ น. สังสรรค์ ที่ห้องประชุมชั้น ๒ คัลเลอร์ลีฟวิ่ง รับประทานบุปเฟ่ต์ เครื่องดื่มไร้แอล และมีแอลกอฮอ(มีผู้สนับสนุนแล้ว ๕ กลม หากพี่ๆ ติดมือมาอีก ๒ กลม ก็จะขอบพระคุณยิ่ง) ฟังดนตรีไพเราะ ฯลฯ
-๒๒.๐๐ น. สัมมนากลุ่มย่อยๆ ตามอัธยาศัย (ถ้าเกินเวลาโรงแรมคิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม ๒,๕๐๐/ชม.)
๒. สมาชิกจองห้องพักมา ๑๗ ห้อง แต่โรงแรมมี ๒๖๐ ห้อง ช่วงนี้ไม่มีทัวร์ลง ดังนั้นสมาชิกลงทะเบียนเข้าพักได้เลย (แต่อย่าให้เช้าเกินไป เพราะโรงแรมจะคิดเงินเพิ่ม) ราคาต่อรองสุดๆแล้ว ๖๐๐/ห้อง/คืน/รวมอาหารเช้า
๓. มีสมาชิกแจ้งยืนยันแล้ว ๓๙ ท่าน

สมาชิก นอ.63มา39คน นับเป็นนิมิตหมายที่ดีมากครับ อยากจะให้พี่ๆเพื่อนๆลองพยายามติดตามชักชวนเพื่อนๆมากันเยอะๆครับ
พี่เนตร เอาแค่ให้ออกไม่ได้เหรอ

๑. วันนี้ครบรอบ ๑ ปี ที่เสียพี่โก้...ครับ
๒. ขอโทษทีครับ ชื่อโรงแรม มีคำว่าเดอะด้วย ...คือ เดอะคัลเลอรลีฟวิ่ง...
๓. จำนวน ๓๙ ท่านนี้ ยังไม่รวมผู้ติดตามครับ และคิดว่าจะมีผู้ติดตามไม่น้อยกว่า ๑๐ คน เพราะเป็นช่วงปิดเทอมพอดี
๔. ยังไม่รู้จำนวนผู้ที่จะมาทันกิจกรรมภาคกลางวันว่ามีเท่าไร

หนึ่งปีผ่านไปไวเหมือนโกหกจริงๆ ขอร่วมอาลัยและระลึกถึงพี่โก้ด้วยคนครับ

มีสมาชิกบางท่าน สอบถามว่าต้องชำระค่าห้องพักเองหรือไม่
ขอเรียนว่ากรรมการส่วนกลาง มีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะดูแลทุกท่านภายใต้จำนวนเงิน ๑,๐๐๐ บาท ที่ท่านได้ชำระไว้แล้ว
แต่ประมาณการรายรับ-รายจ่ายแล้ว คงไม่มีเงินเหลือเข้ากองทุนของรุ่น
ดังนั้น หากพี่ๆ ทั้งหลายจะช่วยแบ่งเบาค่าที่พัก ก็ไม่ขัดข้องแต่อย่างใด และก็ยังยินดีที่จะรับผิดชอบค่าที่พักอยู่เช่นเดิมครับ

รผมเสนอว่าน่าจะให้ผู้เข้าพักออกค่าใช้จ่ายส่วนนี้เองนะครับ ไม่งั้นภาระจะตกอยู่กับผู้จัดเด๋วปีหน้าก็ไม่มีใครกล้าจัด อยู่ส่วนกลางใช่จะมีงบพิเศษครับ

ใครนอนก็จ่ายไปเองครับ ไม่งั้นหมดตูดแน่ๆ

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 23:53:00 น. มติชนออนไลน์


2ปลัดอำเภอยืนยันบริสุทธิ์ไม่เคยทุจริตสอบ เผยบางส่วนใน142คนจำนนหลักฐาน เตรียมแฉแหลกจ่ายค่าหัว



ก.พ.ดับฝันปลัดอำเภอคดีทุริตเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ชี้หวังสารภาพเพื่อให้กันเป็นพยาน-ลดหย่อนโทษไม่เข้าข่าย กฎใหม่ระบุชัดต้องไม่ใช่ตัวการร่วมทำผิด เผยหลายรายจำนนต่อหลักฐานกู้เงินสหกรณ์รายละ 5-8 แสนบาท ตรวจบัญชีผู้สอบได้ส่วนใหญ่เป็นเด็กเส้น ทั้งบิ๊กข้าราชการ-ใกล้ชิดนักการเมือง




จากกรณีทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ (นอ.) ปีงบประมาณ 2552 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหานายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย สมัยเป็นอธิบดีกรมการปกครอง พร้อมพวกรวม 4 คน และผู้ที่สอบเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอ142 คน ในความผิดทางอาญาและวินัยนั้น จากการตรวจรายชื่อ 142 คน พบว่า ส่วนใหญ่เป็นปลัดอำเภอที่ทำหน้าที่เลขานุการของข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย เลขานุการผู้ว่าราชการจังหวัด และรองผู้ว่าราชการจังหวัด นอกจากนี้ยังมีผู้ใกล้ชิดนักการเมืองในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และพื้นที่ฐานคะแนนเสียงของพรรคภูมิใจไทย รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์บางส่วน


อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าว "มติชนออนไลน์" ได้ทำการสัมภาษณ์ปลัดอำเภอที่สอบเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอ 2 ราย จาก 142 คนโดยยืนยันเป็นผู้บริสุทธิ์ และลงมือทำข้อสอบด้วยตัวเอง



ทั้งนี้ นายยุวบุญ กองวงสา หนึ่งในผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหากล่าวว่า ได้รับเอกสารเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาจาก ป.ป.ช.แล้ว ยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และลงมือเขียนข้อสอบด้วยตัวเอง ที่ผ่านมาก็เข้าสอบมากว่า 10 ครั้งแล้วแม้จะไม่ผ่านแต่ก็ไม่เคยทุจริต แต่พอมาผ่านครั้งนี้ก็ถูกกล่าวหา ก็ไม่เข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้น เบื้องต้นยังไม่อยากให้สัมภาษณ์มากเพราะอยู่ระหว่างการสอบสวนของ ป.ป.ช. แต่ยืนยันว่าเป็นผู้เขียนข้อสอบด้วยตัวเอง


"ผมสอบมา 10 ครั้ง ไม่ได้เลย พอมาสอบผ่านก็มีปัญหา ไม่อยากพูดมากตอนนี้ แต่ก็พร้อมจะไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ยืนยันว่าทำข้อสอบด้วยตัวเอง" นายยุวบุญ กล่าว


ด้านปลัดอำเภอแห่งหนึ่งที่ จ.ตรัง กล่าวยืนยันเช่นกันว่าไม่ได้กระทำการทุจริต โดย 10 กว่าปีที่รับราชการมาทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอด ครอบครัวก็ไม่ได้ร่ำรวย พ่อเป็นดาบตำรวจ แม่เป็นครูประชาบาล และไม่ได้รู้จักนักการเมืองคนใหญ่คนโตที่ไหน ไม่ได้เป็นผู้อำนวยการหรือหัวหน้าที่ไหน ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนในกระบวนการใดๆ เลย ทำงานก็ไต่เต้ามาเรื่อย รับราชการเป็นผู้น้อยมาตลอด เริ่มทำงานเป็นข้าราชการตั้งแต่อายุ 21 ปี เพิ่งมาบรรจุได้เมื่ออายุ 31 ปีนี่เอง


"เมื่อครั้งที่ ป.ป.ช.นำเอาข้อสอบมาให้ดู ผมก็ยืนยันว่าลายมือในข้อสอบเป็นของผม จึงอยากตั้งคำถามว่า ทำไมไม่ไปตั้งข้อกล่าวหาของคนที่บอกว่าไม่ได้ลายมือตัว ในเมื่อผมยืนยันว่าเป็นลายมือของผมเอง ผมเขียนเองก็ไม่น่าที่จะมาตั้งข้อกล่าวหากัน ยอมรับว่าตอนนี้ตัวเองเครียดมาก และเครียดกันทั้งบ้าน ทั้งพ่อแม่ซึ่งก็แก่มากแล้ว ผมไม่อยากให้พวกท่านต้องมาวิตกกังวลว่าลูกจะออกจากราชการหรือไม่ ยังไม่นับภรรยาผมและลูกผมก็กำลังโต ผมห่วงมาก ถ้าต้องออกจากราชการไปไม่รู้จะเอาอะไรเลี้ยงดู ทุกวันนี้ไม่ค่อยอยากไปทำงานเพราะเจอเพื่อนๆ ราชการไถ่ถามกันมาก จนเครียดไปหมด ผมอยากอยู่อย่างสงบที่สุด ตอนนี้ก็กำลังคิดว่าอาจจะขอเลื่อนการไปรับทราบข้อกล่าวหา เพราะผมเองก็ตื้อตันไปหมดไม่รู้จะเอาหลักฐานอะไรไปยืนยันหรือชี้แจงว่าไม่ได้ทุจริต ก็หวังแต่ว่าจะด้รับความเป็นธรรมเท่านั้น" ปลัดอำเภอรายเดิม กล่าว


ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ผู้ที่สอบผ่านเอบรมหลักสูตรนายอำเภอ 142 คน ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหานั้นจากการตรวจรายชื่อ 142 คน พบว่า ส่วนใหญ่เป็นปลัดอำเภอที่ทำหน้าที่เลขานุการของข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย เลขานุการผู้ว่าราชการจังหวัด และรองผู้ว่าราชการจังหวัด นอกจากนี้ยังมีผู้ใกล้ชิดนักการเมืองในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และพื้นที่ฐานคะแนนเสียงของพรรคภูมิใจไทย รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์บางส่วน


แหล่งข่าวยังเปิดเผยถึงบันทึกแจ้งข้อหาของป.ป.ช. กรณีผู้มีอำนาจทางการเมืองมอบรายชื่อผู้เข้าสอบประมาณ 150 คน ให้ผู้เกี่ยวข้องไปดำเนินการเพื่อให้สอบได้ ว่ามีข้าราชการระดับสูง 3 คน เป็นผู้รวบรวมรายชื่อทั้ง 150 คน ก่อนส่งให้นักการเมือง และข้าราชการ 3 คนดังกล่าวยังเป็นผู้รวบรวมเงินจากผู้ที่วิ่งเต้นต้องการเข้า นอ.ส่งให้นักการเมือง ขณะที่อีกส่วนหนึ่งจ่ายผ่านส.ส.คนหนึ่งในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


"มีข่าวว่า นักเรียน นอ.บางคนจะรับสารภาพกับ ป.ป.ช.ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตกระดาษคำตอบ เนื่องจากจำนนในหลักฐานที่ป.ป.ช.สอบพบว่า บางคนกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์กรมการปกครอง จำนวน 500,000-800,000 บาท แต่ไม่สามารถแสดงได้ว่า นำเงินไปใช้จ่ายอะไร โดยคาดว่า การรับสารภาพ อาจจะได้รับการกันไว้เป็นพยาน หรือได้รับการลดโทษ หรือได้รับความคุ้มครองตามกฎก.พ.ว่าด้วยหลักเกณ์และวิธีการให้บำเหน็จความชอบ และการกันเป็นพยาน การลดโทษและการให้ความคุ้มพยาน พ.ศ. 2553 และเป็นประโยชน์ในทางคดีอาญาด้วย"แหล่งข่าว กล่าว


ขณะที่แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) กล่าวว่า การเข้าใจว่า การรับสารภาพอาจจะได้รับการกันไว้เป็นพยานนั้น อาจจะเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะตามข้อ 4 ของกฎดังกล่าวระบุว่า หากข้าราชการผู้ถูกกล่าวหาให้ข้อมูลแก่ผู้บังคับบัญชา หรือให้ถ้อยคำเกี่ยวกับการกระทำผิดวินัยต่อบุคคลที่มีหน้าที่สืบสวนสอบสวน แล้วข้อมูลหรือถ้อยคำนั้นเป็นปัจจัยสำคัญ จนเป็นเหตุให้มีการสอบสวนทางวินัยแก่ผู้ที่เป็นต้นเหตุแห่งการกระทำผิด อาจได้รับการกันเป็นพยาน ลดโทษ หรือการให้ความคุ้มครองตามกฎก.พ. ฉบับนี้


"คนที่จะเป็นพยานได้ ต้องไม่ใช้ตัวการหลักที่ร่วมกระทำความผิด แต่ทำไปเพราะถูกฝ่ายการเมือง หรือผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจบีบบังคับ หรือข่มขู่ ไม่ใช่ตัวเองเป็นผู้ถูกกล่าวหา ที่พอสอบไปสอบมาแล้วเห็นว่าทำท่าจะไปไม่รอด ก็เลยรับสารภาพเพราะหวังจะได้รับการกันตัวเป็นพยาน"แหล่งข่าว กล่าว และว่า ที่ผ่านมาเคยมีข้าราชการที่ถูกกล่าวหาได้รับอานิสงส์จากการถูกกันเป็นเป็นพยานมาแล้ว ในคดีทุจริตการจัดซื้อยาและเครื่องเวชภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อปี 2541 ซึ่งขณะนั้นได้รับการคุ้มครองตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ก่อนที่ครม.จะมอบหมายให้ก.พ. ออกกฎฉบับนี้


ด้านนางปราณี สังขะตะวรรธน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช (มสธ.) กล่าวว่า กรมการปกครองว่าจ้างให้ มสธ.ทำข้อสอบปรนัย พร้อมทั้งตรวจข้อสอบของ นอ.ให้ กระบวนการดังกล่าวในส่วนของ มสธ.ไม่ได้มีปัญหาอะไร เป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม เพราะโดยปกติแล้วจะมีหน่วยงานต่างๆ มาใช้บริการ มสธ.ออกข้อสอบหรือจัดสอบให้ แม้ผู้ว่าขอรับบริการจะนำคะแนนไปใช้หรือไม่ใช้ก็ตาม แต่ส่วนอื่นนั้นไม่สามารถจะยืนยันได้ เพราะกระบวนการตัดสินผลสอบไม่เกี่ยวกับ มสธ.

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 13:43:41 น. มติชนออนไลน์


ป.ป.ช.รับยังไม่มีหลักฐานพัน"นักการเมือง"บงการทุจริตสอบร.ร.นอภ.-บิ๊ก มท.ปัดเป็นตัวกลางยัด150ชื่อปลัด


นายครรชิต สลับแสง รองผู้อำนวยการวิทยาลัยปกครอง อดีตเลขานุการกรมการปกครอง กล่าวถึงกรณีที่บันทึกข้อกล่าวหาของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(ป.ป.ช.)ในคดีทุจริตการสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ(นอ.)ประจำปี 2552 ระบุว่า เป็นผู้รับมอบรายชื่อจากผู้มีอำนาจทางการเมือง 150 ชื่อมาให้นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครองในขณะนั้น แล้วแจ้งว่าบุคคลเหล่านี้ต้องสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอได้ว่า ไม่ได้กระทำอย่างที่มีผู้กล่าวอ้าง ในการสอบครั้งนั้น มีคำสั่งแต่งตั้งตน และผู้อำนวยการต่างๆ ประมาณ 20 คน เป็นคณะกรรมการออกข้อสอบ ทุกคนมีหน้าที่ออกข้อสอบ



นายครรชิตกล่าวว่า ส่วนนายวุฒิชัย เสาวโกมุท ในขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ เป็นคณะกรรมการเลือกข้อสอบ เมื่อคณะกรรมการออกข้อสอบ ได้ออกข้อสอบไปแล้ว ถือว่าภารกิจเสร็จสิ้น ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องของคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบ ซึ่งผลการเลือกออกมาเป็นอย่างไร ไม่มีใครทราบ เพราะเป็นความลับทางราชการ จนกว่าจะมีการเปิดเผยในห้องสอบ


"ส่วนกรณีที่มีระบุว่าผม เป็นผู้รับข้อมูลมาจากผู้มีอำนาจทางการเมือง ผมถามว่าถ้ามีการกระทำในลักษณะนี้จริง ทำไมจึงให้มีคนรู้ เรื่องนี้ ใครทำอะไรไว้ก็ควรที่จะรู้อยู่แก่ใจ ผมรับนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการลงพื้นที่เพราะจะต้องดูแลรัฐมนตรี ในกรณีที่กรมการปกครองเป็นเจ้าภาพ ไม่เคยไปเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้าย เพราะเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย เป็นหน้าที่โดยตรงของกองการเจ้าหน้าที่ ถามหน่อยว่าผมมีอำนาจอะไรไปสั่ง ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ ทั้งที่เป็นระดับเดียวกัน ผมจะไปสั่งเขาได้อย่างไรถ้าผมสั่งเขา แล้วเขาเป็นหุ่นยนต์หรือที่ต้องมาเชื่อฟังผม ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ไม่เป็นความจริง เพราะเลขานุการกรมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบรรจุแต่งตั้ง" นายครรชิตกล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า หลังจากมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการทุจริต สอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ มีการวิพากษ์วิจารณ์ จากบรรดาข้าราชการเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเรื่องดังกล่าวทำลายขวัญและกำลังใจของข้าราชการ ทำให้ผู้ที่สอบเข้า และรับการฝึกอบรม หลักสูตรนายอำเภอ รุ่นที่ 68-70 หลายคนรู้สึกท้อใจ เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่กลับมีชื่อเป็นผู้ที่ร่วมกระบวนการทุจริต ฐานประพฤติชั่วร้ายแรง ซึ่งมีโทษปลดออก หรือไล่ออกจากราชการสถานเดียว ทำให้ผู้ที่มีชื่ออยู่ในการแจ้งข้อกล่าวหา 142 ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคหลายคน ไม่มีกระจิตกระใจที่จะทำงาน


แหล่งข่าวกล่าวว่า บางคนถึงขนาดขอลาหยุดงาน เนื่องจากในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา มีการระบุถึงผู้ที่สอบผ่านว่า มีความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการสอบ นอ. รุ่น 68-70 นั้น ปกติในแต่ละปีจะมีการเปิดสอบปีละ 2-3 รุ่น รุ่นละ 60 คน แต่ในปีงบประมาณ 2552 มีการเปิดสอบ 3 รุ่น รุ่น 68 มีจำนวน 98 คน รุ่น 69 มีจำนวน 99 คน และรุ่น 70 มีจำนวน 98 คน ซึ่งในการคัดเลือกจะคัดเลือกจากผู้มีประสบการณ์ 1 ใน 3 และจากการสอบคัดเลือก 2 ใน 3 ทั้งนี้ ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอนี้ เป็นบุคคลเดียวกับที่ทำให้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) มีมติให้ยกเลิกคำสั่งที่ 28/2553 ในการแต่งตั้ง 41 นายอำเภอ หลังจากพบว่าการแต่งตั้งดังกล่าวเป็นการแต่งตั้งโดยมิชอบ


นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะผู้รับผิดชอบสำนวนคดีถอดถอนนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเรียกผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 140 กว่าคนมารับทราบข้อกล่าวหา และจะนัดให้มาแก้ข้อกล่าวหาอีกครั้ง เหลือเพียงผู้ถูกกล่าวหาจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่ยังไม่มารับทราบหนังสือ ซึ่งหากถึงเส้นตายแล้วยังไม่มาจะส่งหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาไปทางไปรษณีย์ สาเหตุที่ระบุไปในหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดมีมูลความผิด โดยระบุพฤติกรรมอย่างละเอียด เนื่องจากต้องการให้นำพยานหลักฐานมาหักล้างข้อกล่าวหา ชี้แจงความบริสุทธิ์ของตัวเอง ใครชี้แจงได้ สุดท้าย ป.ป.ช.จะยกคำร้อง แต่ถ้าชี้แจงไม่ได้ต้องมีความผิด



สื่อข่าวถามถึง "ผู้มีอำนาจทางการเมือง" ที่ระบุอยู่เบื้องหลังการทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอที่ระบุไว้ในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา นายวิชัยกล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้ว่าหมายถึงใคร แต่ตามหลักการไต่สวน จะต้องหาพยานหลักฐานให้ถึงตัวการผู้กระทำผิด สาเหตุที่แจ้งข้อกล่าวหาเฉพาะนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมการปกครองกับพวก ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหากับนายชวรัตน์ เพราะพยานหลักฐานเบื้องต้นถึงเพียงแค่นั้น แต่หากมีการกล่าวพาดพิงนักการเมืองคนใดว่าอยู่เบื้องหลังการกระทำผิด และมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจน ป.ป.ช.จะแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลดังกล่าวเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ จะตรวจสอบเส้นทางการเงินเท่าที่กฎหมายของ ป.ป.ช.ให้อำนาจไว้ด้วย

วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 17:20:16 น. มติชนออนไลน์


เปิดบันทึก"ป.ป.ช."ตีแผ่ พฤติกรรมทุจริตสอบเข้าร.ร.นายอำเภอ 3บิ๊กมท.ส่อผิดอาญา-วินัย 142ผู้เข้าสอบเจอด้วย (1)




หมายเหตุ : คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง, นายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่, นายครรชิต สลับแสง เลขานุการกรมการปกครอง และนายสำราญ ตันเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้าน กรมการปกครอง ซึ่งเป็นตำแหน่งขณะนั้น รวม 4 คน มีความผิดวินัยและอาญา รวมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้เข้าสอบคัดเลือกอบรมหลักสูตรนายอำเภอ ปีงบประมาณ 2552 จำนวน 142 คน ว่ามีความผิดวินัย ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่า เป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และทางอาญา พร้อมเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหา


บันทึกแจ้งข้อกล่าวหามีความยาว 12 หน้า ระบุพฤติกรรมแห่งคดี 2 ช่วง
ช่วงแรก มีการออกข้อสอบช่วยเหลือข้าราชการ 150 คนที่ได้รับรายชื่อมาจาก ผู้มีอำนาจทางการเมือง อีกทั้งยังช่วยให้คะแนนสูงทั้งๆ ที่เขียนคำตอบไม่ดี ก่อนนำมาจัดลำดับที่และรุ่นให้สอบได้


ช่วงที่สอง เมื่อเกิดกระแสข่าวเรียกรับเงิน รายละ 8 แสนบาท ผู้เกี่ยวข้องเกรงจะถูกตรวจสอบ จึงให้ประธานนักเรียนอำเภอนำกระดาษคำตอบเปล่าพร้อมรายชื่อ 150 คนไปเขียนคำตอบใหม่ย้อนหลัง


"มติชน" ขอนำพฤติกรรมในช่วงแรกมาเสนอเป็นตอนแรก จากนั้นจะนำเสนอช่วงสองในวันต่อไป


-----------------------------------------------------------------


บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา


ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งที่ 179/2553 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2553 และที่ 328/2553 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2553 แต่งตั้งผู้รับผิดชอบสำนวนการไต่สวน และคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ช่วยในการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีตามคำร้องขอให้ถอดถอน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกจากตำแหน่ง กรณีส่อว่า ทุจริตต่อหน้าที่และส่อว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอ (นอ.) ปี 2552 และกล่าวหาข้าราชการกรมการปกครอง (ปค.) อีกหลายคน มีส่วนร่วมกระทำความผิดดังกล่าว ทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย


บัดนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเสร็จแล้ว เห็นว่า ข้อกล่าวหานั้นมีมูลความผิด




วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552

ปค.ออกประกาศเรื่องการสอบคัดเลือกข้าราชการเข้าอบรมหลักสูตร นอ.ประจำปี 2552 จำนวน 3 รุ่น (รุ่น 68-70) สอบข้อเขียน วันที่ 22 มีนาคม 2552 ที่เมืองทองธานี แบ่งเป็น 2 ภาค ภาคเช้า ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป มีข้อสอบปรนัย ซึ่งมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) เป็นผู้ออกข้อสอบและตรวจกระดาษคำตอบ และข้อสอบอัตนัย 1 ข้อ ซึ่ง ปค.เป็นผู้ออกข้อสอบ และตรวจกระดาษคำตอบ (ปกสีเหลือง) ภาคบ่าย ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง มีข้อสอบปรนัย ซึ่ง มสธ.เป็นผู้ออก และตรวจกระดาษคำตอบ และข้อสอบอัตนัย 1 ข้อ ซึ่ง ปค.เป็นผู้ออกข้อสอบและตรวจกระดาษคำตอบ (ปกสีชมพู)


วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552
ปค.มีคำสั่งที่ 135/2552 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552 แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกข้าราชการ เพื่อเข้าศึกษาอบรมหลักสูตร นอ.ปี 2552 มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการคัดเลือกข้าราชการเข้าศึกษา ประกอบด้วย
1.นายสุรพล ภาษิตนิรันดร์ รองอธิบดี ปค. กลุ่มภารกิจด้านการบริหารงานปกครอง ประธาน

2.นายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ (ผอ.กกจ.)

3.นายสุรพล สุวรรณานนท์ หัวหน้ากลุ่มงานวินัย

4.หัวหน้ากลุ่มงานบรรจุและแต่งตั้ง

5.นายวีรเดช วิภูษาภรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานวางแผนอัตรากำลังและพัฒนาระบบงาน เป็นกรรมการ


วันที่ 9 มีนาคม 2552
ปค.มีคำสั่งที่ 205/2552 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2552 แต่งตั้งคณะกรรมการออกข้อสอบอัตนัย มีนายวุฒิชัย เสาวโกมุท และนายครรชิต สลับแสง เลขานุการ ปค. รวมอยู่ด้วย และภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง ซึ่งมีนายสำราญ ตันเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นกรรมการรวมอยู่ด้วย โดยข้อสอบของผู้ใดได้รับการคัดเลือก ผู้นั้นจะเป็นผู้ตรวจข้อสอบอัตนัย


วันที่ 9 มีนาคม 2552
ปค.มีคำสั่งที่ 206/2552 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2552 แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบอัตนัย ประกอบด้วย
1.นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อปค. ประธาน
2.นายสุรพล ภาษิตนิรันดร์
3.นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รอง อปค.
4.นายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผอ.กกจ.
5.นายวีรเดช วิภูษาภรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานวางแผนอัตรากำลังและพัฒนาระบบงาน เป็นกรรมการ


ปค.มีคำสั่งที่ 207/2552 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2552 แต่งตั้งคณะกรรมการเก็บรักษาโจทย์ข้อสอบอัตนัย ประกอบด้วย
1.นายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผอ.กกจ. ประธาน
2.นายวีรเดช วิภูษาภรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานวางแผนอัตรากำลังและพัฒนาระบบงาน
3.นายสุรพล สุวรรณานนท์ หัวหน้ากลุ่มงานวินัย
4.นายอรรถพันธ์ สงวนเสริมศรี นักทรัพยากรบุคคล เป็นกรรมการ


วันที่ 13 มีนาคม 2552
ปค.ได้ประกาศรายชื่อ ผู้มีสิทธิสอบจำนวน 1,642 คน


วันที่ 17 มีนาคม 2552
มีข่าวแพร่หลายออกไปว่า ผู้บริหาร ปค.เรียกรับเงิน 800,000 บาท เพื่อช่วยเหลือให้สอบคัดเลือกได้ ปค. โดยนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ จึงมีหนังสือถึงทุกหน่วยงาน รายงานพฤติการณ์ทุจริตที่พบเห็นไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย


วันที่ 18 มีนาคม 2552
มีหนังสือจาก นายวุฒิชัย เสาวโกมุท เชิญประชุมคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบอัตนัย นัดหมายประชุม


วันที่ 20 มีนาคม 2552
เวลา 17.00 น. ที่ห้องปฏิบัติการ อปค. เนื่องจากในวันที่ 22 มีนาคม 2552 นายวงศ์ศักดิ์ติดราชการอื่นต้องเดินทางไปต่างจังหวัด


ก่อนถึงวันประชุม (ระหว่างวันที่ 16-20 มีนาคม 2552 เวลากลางวัน) นายวงศ์ศักดิ์ไปเชิญนายวุฒิชัยเข้าไปพบที่ห้องทำงาน อปค.และแจ้งว่า "ผู้มีอำนาจทางการเมือง" ในกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการผ่านมาทางนายครรชิต สลับแสง เลขานุการกรม ว่า ในการสอบคัดเลือก นอ.ครั้งนี้ ผู้มีอำนาจดังกล่าวได้มอบ รายชื่อผู้เข้าสอบประมาณ 150 คน มาให้ และแจ้งว่าบุคคลเหล่านี้จะต้องสอบได้ ซึ่งหมายความว่าจะให้นายวุฒิชัยหาทางช่วยเหลือให้สอบได้ นายวุฒิชัยจึงตกลงทำตามคำสั่ง โดยหารือกันว่าในการคัดเลือกข้อสอบจะให้นำข้อสอบที่นายวุฒิชัยออกในวิชาความรู้ความสามารถทั่วไปมาเป็นข้อสอบเพื่อสะดวกกับการให้คะแนนช่วยเหลือบุคคลตามรายชื่อทั้ง 150 คนได้



นอกจากนี้ นายวงศ์ศักดิ์และนายวุฒิชัย ยังรู้จักและสนิทกับ นายสำราญ ตันเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้โดยนัดแนะกันจะเลือกข้อสอบ ที่นายสำราญเป็นผู้ออกในวิชาความรู้ความสามารถ ที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง เพื่อให้นายสำราญช่วยเหลือ ในการให้คะแนนกับบุคคลตามระบุชื่อดังกล่าวได้


วันที่ 20 มีนาคม 2552
เวลา 17.00 น. มีการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบตามนัดหมาย ณ ห้องทำงานของนายวงศ์ศักดิ์ มีผู้เข้าร่วมประชุมคือ นายวงศ์ศักดิ์ นายสุรพล ภาษิตนิรันดร์ นายวุฒิชัย เสาวโกมุท และนายวีรเดช วิภูษาภรณ์ ทั้งนี้ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รอง อปค.ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย เนื่องจากติดราชการอื่น ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมแล้วได้มีเจ้าหน้าที่กองการเจ้าหน้าที่จัดพิมพ์บัญชีลงชื่อผู้เข้าร่วมประชุมทั้ง 5 คนไปให้บุคคลทั้ง 5 คนลงนามในภายหลังโดยระบุวันประชุมเป็นวันที่ 22 มีนาคม 2552 เพื่อให้ตรงกับคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ โดยได้นำไปให้นายนิรันดร์ลงชื่อด้วย


ที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบได้ตกลงเลือกข้อสอบที่นายวุฒิชัยและนายสำราญเป็นผู้ออกข้อสอบ เป็นไปตามที่นายวงศ์ศักดิ์และนายวุฒิชัยตกลงกันล่วงหน้า โดยมีการปรับเปลี่ยนคำตอบของนายสำราญเล็กน้อย แต่ยังคงมีเค้าโครงเดิมอยู่ และเก็บรักษาข้อสอบและคำตอบดังกล่าวทั้ง 2 ข้อไว้ในกล่องเก็บรักษาในความครอบครองของนายวีรเดช ทั้งนี้ กุญแจกล่องดังกล่าวมีนายวุฒิชัยและนายวีรเดชเป็นผู้ถือ


วันที่ 22 มีนาคม 2552
มีการนำข้อสอบทั้ง 2 ข้อมาพิมพ์และให้ผู้เข้าสอบทำ โดยข้อสอบอัตนัยภาควิชาความรู้ความสามารถทั่วไปใช้สมุดกระดาษคำตอบปกสีเหลือง ภาควิชาความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งใช้สมุดกระดาษคำตอบปกสีชมพู มีข้อสอบ 2 วิชา คือ วิชาความรู้ความสามารถทั่วไป และวิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง


เมื่อสอบเสร็จ กระดาษคำตอบปรนัย มสธ.เป็นผู้นำไปตรวจด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วส่งผลการตรวจให้ ปค.ในวันที่ 23 มีนาคม 2552 โดยไม่ปรากฏพฤติการณ์ทุจริตในการตรวจข้อสอบปรนัยแต่อย่างใด


สำหรับกระดาษคำตอบอัตนัย ได้ถูกบรรจุแบ่งออกเป็น 2 กล่อง เป็นสมุดคำตอบปกสีเหลือง 1 กล่อง และสมุดคำตอบปกสีชมพู 1 กล่อง เจ้าหน้าที่กองการเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำไปเก็บไว้ในห้องทำงานของ นายวุฒิชัย เสาวโกมุท และปิดล็อคไว้ มีเพียง นายวุฒิชัย และเจ้าหน้าที่หน้าห้องอีก 2 คน ได้แก่ น.ส.สรัญญา ใจงาม และนายดุสิต ศิริวราศัย เท่านั้นที่มีกุญแจเปิดได้


วันที่ 23 มีนาคม 2552-24 มีนาคม 2552
นายอรรถพันธ์ สงวนเสริมศรี นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ กกจ. และเจ้าหน้าที่ กกจ.อีก 7 คนช่วยกัน นำกระดาษคำตอบทั้ง 2 กล่อง มาลบข้อความ หรือเครื่องหมายที่พิสูจน์ตัวบุคคลเพื่อให้ผู้ตรวจไม่สามารถรู้ได้ว่า กำลังตรวจกระดาษคำตอบของผู้ใด โดยใช้วิธีตีหมายเลขรหัสไว้กับปกสมุด 2 ตำแหน่ง ตำแหน่งแรกอยู่กลางปก ตำแหน่งที่สองอยู่หัวมุมขวาด้านบน ซึ่งจะมีหมายเลขประจำตัวสอบของผู้เข้าสอบอยู่ จากนั้น จะตัดหัวมุมด้านบนออก แล้วนำมาเก็บแยกต่างหาก โดยนายอรรถพันธ์จะเป็นผู้เก็บรักษารหัสไว้เพียงคนเดียว โดยทำงานเสร็จสิ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2552 เวลาประมาณ 16.30 น.



หลังจากนั้นได้เก็บสมุดกระดาษคำตอบทั้ง 2 กล่องกลับเข้าไปยังห้องทำงานของนายวุฒิชัย จากนั้นนายอรรถพันธ์ได้นำรหัสที่ตนเก็บรักษาไว้ใส่ข้อมูลลงในไฟล์คอมพิวเตอร์ ซึ่งในไฟล์ดังกล่าวเมื่อเปิดดูจะสามารถรู้ได้ว่าผู้เข้าสอบชื่อใด สังกัดใด หมายเลขประจำตัวสอบใด และรหัสสมุดคำตอบเลขที่ใด


วันที่ 25 มีนาคม 2552
เวลากลางวัน นายวุฒิชัยได้เรียกนายอรรถพันธ์เข้าไปพบในห้องทำงานของตน และขอไฟล์รหัสดังกล่าวนายอรรถพันธ์จึงมอบไฟล์ข้อมูลดังกล่าวให้ไปโดยพิมพ์เป็นกระดาษ เอ 4 ทั้งนี้ นายอรรถพันธ์ไม่เคยทราบมาก่อนว่านายวุฒิชัย เป็นกรรมการตรวจข้อสอบด้วย และต่อมานายอรรถพันธ์ได้เล่าเรื่องดังกล่าวให้นายวีรเดช วิภูษาภรณ์ หัวหน้าส่วนให้ทราบ แต่นายวีรเดชก็มิได้ทักท้วงแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่ทราบว่านายวุฒิชัยเป็นกรรมการตรวจข้อสอบอัตนัยด้วย


วันที่ 25 มีนาคม-31 มีนาคม 2552
นายวุฒิชัยได้นำกระดาษคำตอบทั้งปกสีเหลืองและปกสีชมพูออกมาตรวจโดยนำรายชื่อที่ได้รับมาจากนายวงศ์ศักดิ์ประมาณ 150 คน มาช่วยเหลือให้คะแนนสูง ทั้งๆ ที่เขียนคำตอบได้ไม่ดีหรือเขียนจำนวนน้อยแผ่น แต่ในกรณีของบุคคลอื่นๆ ที่นอกเหนือรายชื่อที่ได้รับมา หากเขียนคำตอบได้ดีมาก นายวุฒิชัยก็จะให้คะแนนมากด้วย แต่คนที่เขียนได้ดีนั้นมีจำนวนน้อย เป็นผลให้รายชื่อที่ได้รับมาเมื่อนำคะแนนที่ให้ไปรวมกับข้อสอบปรนัยแล้ว เป็นผู้ผ่านเกณฑ์ได้รับการคัดเลือก อย่างไรก็ตาม เมื่อนำรายชื่อดังกล่าวมาเรียงลำดับที่และลำดับรุ่นแล้วยังไม่เป็นไปตามความประสงค์ของผู้สั่งการ นายวุฒิชัยจึงประสานงานกับนายครรชิต สลับแสง เลขานุการ ปค. เพื่อจัดลำดับว่ารายชื่อใดควรอยู่ในลำดับที่และรุ่นใด ซึ่งท้ายสุดก็ได้ลำดับที่และรุ่นที่ตามความต้องการของผู้มีอำนาจทางการเมืองในกระทรวงมหาดไทย


วันที่ 30 หรือ 31 มีนาคม 2552
เวลากลางวัน นายวุฒิชัยได้เชิญ นายสำราญ ตันเรืองศรี มาพบที่ห้องทำงานของนายวุฒิชัย จากนั้นได้นำคะแนนที่ตนจัดทำขึ้นทั้งกระดาษคำตอบปกสีเหลืองและปกสีชมพู ส่งให้กับนายดุสิต ศิริวราศัย เลขานุการของนายวุฒิชัย เป็นผู้เขียนตัวเลข ในแบบฟอร์มลงคะแนนวิชาความรู้ความสามารถทั่วไป และวิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง วิชาละ 31 หน้า จากนั้นนายวุฒิชัยได้ลงนามรับรองคะแนนในแบบฟอร์มวิชาความรู้ความสามารถทั่วไป ส่วนนายสำราญลงนามรับรองคะแนนในแบบฟอร์มวิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง โดยไม่เคยนำกระดาษคำตอบปกสีชมพูไปให้นายสำราญตรวจแต่ประการใด

จากนั้นได้นำแบบฟอร์มคะแนนทั้ง 2 วิชาไปให้กับนายวีรเดช และนายอรรถพันธ์ ซึ่งเป็นผู้รวมคะแนนที่ได้รับจาก มสธ. และจาก ปค. ทั้งนี้ คะแนนที่ผู้เข้าสอบทำได้นั้นปรากฏว่าคะแนนจาก มสธ.ของผู้สอบมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ทำให้คะแนนจาก ปค.มีผลเป็นนัยสำคัญที่จะตัดสินว่าผู้ใดจะได้รับคัดเลือกเข้าอบรมครั้งนี้ ซึ่งเมื่อนำใบคะแนนส่วนของ ปค.ไปรวมแล้วเป็นผลให้ผู้ที่มีรายชื่อ 150 คน เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าอบรม นอ.สายผู้สอบคัดเลือก ตรงตามใบสั่งทุกราย


วันที่ 2 เมษายน 2552
ปค.ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบข้อเขียน โดยมีรายชื่อผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือดังกล่าว เป็นผู้ผ่านการสอบด้วย


วันที่ 21 เมษายน 2552
ผู้ผ่านการสอบข้อเขียนเข้าสอบสัมภาษณ์ เพื่อจัดอันดับคะแนนในระหว่างรุ่น 68-70


วันที่ 23 เมษายน 2552
ปค.ประกาศผลการคัดเลือกข้าราชการเข้ารับการอบรม นอ.ทั้ง 3 รุ่น คือ รุ่นที่ 68-70 โดยจัดเรียงลำดับสายสอบคัดเลือก 2 คน ต่อด้วยสายประสบการณ์ 1 คน ต่อด้วยสายสอบคัดเลือก 2 คน ฯลฯ จนครบตามจำนวน 288 คน และนัดหมายให้รายงานตัวในวันที่ 26 เมษายน 2552 ณ วิทยาลัยการปกครอง ส่วนสายผู้มีประสบการณ์นัดมารายงานตัววันที่ 21 เมษายน 2552
วันที่ 21 เมษายน 2552 มีผู้ผ่านการคัดเลือกสายผู้มีประสบการณ์ 2 คน ไม่มารายงานตัว ดังนั้น ในวันที่ 23 เมษายน 2552 ปค.จึงมีประกาศผลการคัดเลือกข้าราชการเข้ารับการอบรมเพิ่มเติม โดยเลื่อนลำดับผู้มีประสบการณ์ในลำดับถัดมา ได้แก่ นายอดิศักดิ์ ปัญญา และนายชนรัตน์ ชูประสิทธิ์ เป็นผู้ผ่านการคัดเลือกด้วย

หมายเหตุ - สรุปจากบันทึกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง นายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ นายครรชิต สลับแสง เลขานุการกรมการปกครอง และนายสำราญ ตันเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้าน กรมการปกครอง รวมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาผู้เข้าสอบคัดเลือกอบรมหลักสูตรนายอำเภอ ปีงบประมาณ 2552 รุ่น 68-70 จำนวน 142 คน อย่างไรก็ดี ทั้งหมดยังไม่ถือว่ามีความผิดทางวินัยและอาญา จนกว่า ป.ป.ช.ชุดใหญ่จะชี้มูลความผิดวินัย และศาลจะตัดสินเป็นที่สุด

สำหรับบันทึกมีความยาว 12 หน้า ระบุพฤติกรรมแห่งคดี 2 ช่วง "มติชน" นำเสนอช่วงแรกไปแล้ว เป็นพฤติกรรมการออกข้อสอบช่วยเหลือข้าราชการ 150 คน ที่ได้รับรายชื่อมาจากผู้มีอำนาจทางการเมือง อีกทั้งยังช่วยให้คะแนนสูงทั้งๆ ที่เขียนคำตอบไม่ดี ก่อนนำมาจัดลำดับที่และรุ่นให้สอบได้ ฉบับนี้จะนำเสนอช่วงที่สอง หลังเกิดกระแสข่าวเรียกรับเงินรายละ 8 แสนบาท ผู้เกี่ยวข้องเกรงจะถูกตรวจสอบ จึงให้ประธานทั้ง 3 รุ่น นำกระดาษเปล่าพร้อมแนวคำตอบไปให้ 150 คน เขียนคำตอบใหม่ย้อนหลัง

ในช่วงเดือนมีนาคม 2552 มีข่าวแพร่หลายว่าผู้บริหารกรมการปกครอง (ปค.) เรียกรับเงินถึง 8 แสนบาท/ราย เพื่อช่วยเหลือผู้เข้าสอบคัดเลือกให้สอบได้โดยลงข่าวในหนังสือพิมพ์ "มติชน" ในวันที่ 25 มีนาคม 2552 และข่าวดังกล่าวได้ส่งถึงคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2552



คณะกรรมาธิการฯจึงมีหนังสือลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2552 ถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เชิญนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง (อปค.) ไปชี้แจงในวันที่ 28 พฤษภาคม 2552 ซึ่งนายวงศ์ศักดิ์และนายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ (ผอ.กกจ.) ปค.ได้เข้าชี้แจงตามกำหนดนัด และในระหว่างการชี้แจงมีคำถามว่าผู้ตรวจข้อสอบอัตนัยให้คะแนนไปโดยไม่มีการตรวจกระดาษคำตอบ หรือเขียนคำตอบน้อย หรือไม่เขียนกลับได้คะแนนดี ซึ่งทำให้นายวงศ์ศักดิ์และนายวุฒิชัย เกรงว่าจะมีการตรวจสอบกระดาษคำตอบในรายที่ตนให้ความช่วยเหลือ

เมื่อกลับจากการชี้แจงแล้ว นายวงศ์ศักดิ์และนายวุฒิชัย จึงหารือกันที่ห้องทำงานของนายวงศ์ศักดิ์ ณ กรมการปกครอง และมีข้อตกลงที่จะปกปิดความผิด โดยจะดำเนินการปลอมกระดาษคำตอบเนื้อในซึ่งเป็นกระดาษสีขาว ทั้งในเล่มปกสีเหลืองและปกสีชมพู โดยจะนำกระดาษคำตอบเปล่าที่ยังไม่ได้ใช้ที่เก็บไว้ในห้องทำงานของนายวีรเดช วิภูษาภรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานวางแผนอัตรากำลังและพัฒนาระบบงาน ออกมาจำนวนหนึ่งตามจำนวนรายชื่อที่ช่วยเหลือไว้ พร้อมทั้งตรวจดูคำตอบของผู้ได้รับการช่วยเหลือไว้ว่า เขียนข้อความคำตอบของผู้ได้รับการช่วยเหลือไว้ว่า เขียนข้อความคำตอบได้สมควรกับคะแนนที่ให้ไปหรือไม่ หากรายใดได้คะแนนไม่สมควรก็ให้ดำเนินการปลอมเอกสารต่อไป โดยนำกระดาษคำตอบที่เหลือใช้ไปดำเนินการ



และให้นายคิม ปรีเปรม เลขานุการของนายวงศ์ศักดิ์ ซึ่งเป็นประธานรุ่นที่ 68 ไปติดต่อให้ตัวแทนรุ่น 3 รุ่น ได้แก่ นายคิม ปรีเปรม รุ่นที่ 68 นายธีรเกียรติ ทะแพงพันธ์ รุ่นที่ 69 นายวิสุทธิ์ โรมินทร์ รุ่นที่ 70 และนายวัฒนา หัสจันทร์ รุ่นที่ 69 มาพบนายวงศ์ศักดิ์และนายวุฒิชัย ที่ห้องทำงานของนายวงศ์ศักดิ์ ในวันหยุดประจำสัปดาห์ในวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์เพื่อนำกระดาษคำตอบเปล่าไปให้รายชื่อบุคคลที่ช่วยเหลือไว้ไปเขียนคำตอบใหม่ โดยให้ตัวอย่างการเขียนที่ทำให้คะแนนได้สูงไปประมาณ 3-4 ตัวอย่าง ให้แต่ละคนไปคัดลอกให้คล้ายตัวอย่างดังกล่าว แล้วนำกลับมามอบให้นายวุฒิชัย ซึ่งตัวแทนทั้ง 3 รุ่น ก็ได้เดินทางมาพบและรับไปดำเนินการตามคำสั่งของนายวงศ์ศักดิ์ดังกล่าว

หลังจากนั้นตัวแทนรุ่นได้นำกระดาษคำตอบเปล่าไปให้ผู้เข้าสอบที่มีรายชื่อรวม 142 คน (รายชื่อปรากฏตามเอกสารแนบ) ดำเนินการเขียนข้อความดังกล่าวเพื่อนำมาใช้สอดแทรกแทนเนื้อในกระดาษคำตอบเดิมทั้งสมุดปกสีเหลืองและปกสีชมพู เมื่อดำเนินแล้วเสร็จตัวแทนรุ่นก็ได้นำกระดาษคำตอบมาส่งให้กับนายวุฒิชัย ซึ่งนายวุฒิชัยก็ดำเนินการปลอมเอกสารกระดาษคำตอบโดยวิธีแกะเนื้อกระดาษคำตอบสีขาวที่อยู่ด้านในของชุดเดิมซึ่งเก็บอยู่ในห้องทำงานของนายวุฒิชัยออก คงเหลือแต่ปกสมุดทั้ง 2 สีไว้ (เนื่องจากปกสมุดมีลายมือชื่อผู้คุมห้องสอบและเลขรหัสกำกับอยู่ ยากต่อการปลอมขึ้นใหม่) จากนั้นได้นำกระดาษคำตอบที่ทำขึ้นใหม่ที่รับจากตัวแทนรุ่น แกะเนื้อกระดาษคำตอบสีขาวที่เขียนขึ้นใหม่ออกมาแล้วสวมเข้ารวมไปกับปกสมุดคำตอบเดิม ทั้งนี้ ร่องรอยการปลอมนั้นสามารถเปิดสมุดคำตอบในหน้าที่ 4 ถึง 5 ออกมาดูจะปรากฏว่ามีร่องรอยรูตรงจุดรอยเย็บกระดาษเก่าค้างอยู่ มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

วันที่ 12 และ 15 มิถุนายน 2552 เจ้าพนักงาน ป.ป.ช. ได้เดินทางไปขอรับกระดาษคำตอบอัตนัยทั้งสมุดจากกองการเจ้าหน้าที่ และได้นำกระดาษคำตอบมาเก็บรักษาไว้

เจ้าพนักงาน ป.ป.ช.ได้จำแนกกลุ่มผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งมีลักษณะการเขียนคำตอบคล้ายกันออกเป็น 3 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 จำนวน 47 ราย

กลุ่มที่ 2 จำนวน 36 ราย

กลุ่มที่ 3 จำนวน 24 ราย

ทั้งนี้ ผลการจำแนกกลุ่มดังกล่าวสอดคล้องกับผลการไต่สวนข้างต้นที่ว่ามีการมอบตัวอย่างประมาณ 3-4 แบบ ให้ตัวแทนรุ่นที่ 68, 69 และ 70 นำไปให้ผู้ได้รับการช่วยเหลือและเป็นผู้เข้าสอบ 142 รายเขียนขึ้นใหม่

เจ้าพนักงาน ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบสมุดคำตอบที่เหลือใช้จากการสอบของกองการเจ้าหน้าที่แล้วผลการตรวจสอบได้ความว่า โดยปกติจะต้องเหลือสมุดคำตอบภาคเช้าปกสีเหลือง 510 เล่ม และภาคบ่ายปกสีชมพู 513 เล่ม แต่กลับเหลือจริงเพียง ภาคเช้าสีเหลือง 299 เล่ม และภาคบ่ายสีชมพู 342 เล่ม ดังนั้น จึงเชื่อได้ว่าสมุดคำตอบที่สูญหายไปได้ถูกนำไปใช้กระทำความผิดตามที่กล่าวมาข้างต้น

สำนักงาน ป.ป.ช.ได้มีหนังสือ ที่ ปช 0014/6676 ลงวันที่ 9 กันยายน 2552 ถึงอธิการวิทยาลัยการปกครอง เพื่อให้อำนวยความสะดวก โดยนัดหมายให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ช.พบกับผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นนักศึกษาหลักสูตรนายอำเภอทั้ง 142 คน ในวันที่ 9 กันยายน 2552 และดำเนินการให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 142 คน เขียนข้อความเลียนข้อความในกระดาษคำตอบของกลาง ผลปรากฏว่า ลายมือเขียนเหมือนกันและผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 142 คน ยืนยันรับรองว่าตนเป็นผู้เขียนข้อความในกระดาษคำตอบของกลางด้วยตนเอง



คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของนายวงศ์ศักดิ์ นายวุฒิชัย นายครรชิต สลับแสง เลขานุการกรมและนายสำราญ ตันเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ มีความผิด ดังนี้

ทางวินัย

ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551

ทางอาญา

ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารกรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสารกระทำการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้นฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารกระทำการดังต่อไปนี้ในการปฏิบัติการตามหน้าที่รับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จประมวลกฎหมายอาญา

ผู้เข้าสอบคัดเลือกอบรมหลักสูตรนายอำเภอ ปีงบประมาณ จำนวน 142 คน มีมูลความผิดดังนี้

ทางวินัย

ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551

ทางอาญา

ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร กรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสารกระทำการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารกระทำการดังต่อไปนี้ ในการปฏิบัติการตามหน้าที่รับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา

คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงขอแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวให้ท่านทราบเพื่อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อไป

องค์คณะการไต่สวนและคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ช่วยในการไต่สวนข้อเท็จจริง ได้แจ้งให้ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาทราบ ในการแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้ด้วยว่า ในการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหาอาจชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาโดยทำเป็นหนังสือชี้แจงด้วยวาจาก็ได้ และผู้ถูกกล่าวหามีสิทธินำทนายความหรือบุคคลที่ผู้ถูกกล่าวหาไว้วางใจเข้าฟังการชี้แจงหรือให้ปากคำของตนได้ แต่จะทำการชี้แจงแทนไม่ได้ การนำสืบแก้ข้อกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหาจะนำพยานหลักฐานมาเอง หรือจะอ้างพยานหลักฐานแล้ว ขอให้พนักงานไต่สวนเรียกพยานหลักฐานมาก็ได้ โดยถ้อยคำหรือคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าวอาจใช้เป็นพยานหลักฐานยันผู้ถูกกล่าวหาในการพิจารณาได้ ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิที่จะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาและนำสืบแก้ข้อกล่าวหาภายในเวลาอันสมควรแต่อย่างช้าไม่เกิน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับทราบข้อกล่าวหา



ข้อสอบที่โดนจับพิรุธ

คำถาม 2 ข้อในข้อสอบอัตนัยที่มีการให้ข้าราชการ 142 คน เขียนคำตอบใหม่แล้วนำไปแทรกแทนเนื้อในกระดาษคำตอบเดิม จน ป.ป.ช.จับพิรุธได้

@ วิชาความรู้ความสามารถทั่วไป

ถามว่า อำเภอซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการที่จะ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้แก่ประชาชนทั้งด้านสังคมเศรษฐกิจ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หากท่านเป็นนายอำเภอท่านจะนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นเครื่องมือในการ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" แก่ประชาชนในทุกๆ ด้านให้มีความมั่นคงและยั่งยืนได้อย่างไร อธิบาย

@ วิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง

ถามว่า นายอำเภอในฐานะหัวหน้าส่วนราชการ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอทุกส่วนราชการเป็นผู้ช่วยในงานเฉพาะด้านและยังมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือในภารกิจของนายอำเภอ ถ้าท่านเป็นนายอำเภอ ท่านมีหลักในการปฏิบัติงานกับ (ก) หัวหน้าส่วนราชการ (ข) กำนัน ผู้ใหญ่บ้านอย่างไร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด อธิบาย

วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 10:00:59 น. มติชนออนไลน์


เปิดบันทึกป.ป.ช.คดีทุจริตเข้าร.ร.นอภ.ระบุชัด"วงศ์ศักดิ์"อ้างผู้มีอำนาจใน มท.สั่งยัด150ชื่อให้สอบผ่าน


เปิดบันทึก ป.ป.ช.กล่าวหาอดีตอธิบดีปกครอง ร่วมมือกับ3"บิ๊กมท."ทุจริตคดีโรงเรียนนายอำเภอ ชี้พฤติกรรมผิดทั้งอาญา-วินัย ส่วน142ผู้สอบผ่านโดนด้วย ระบุชัด "วงศ์ศักดิ์"รับจัดการตามคำสั่งของผู้มีอำนาจทางการเมืองในมหาดไทย สร้างหลักฐานกระดาษคำตอบใหม่หลังข่าวแพร่สะพัด
-----------



ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมในคดีการทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ(นอ.) ปีงบประมาณ 2552 ว่า มีมูลเบื้องต้นโดยให้แจ้งข้อกล่าวหาทางวินัยและอาญาแก่ นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง นายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ นายครรชิต สลับแสง เลขานุการกรมการปกครอง และนายสำราญ ตันเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กรมการปกครอง ซึ่งดำรงตำแหน่งในขณะนั้น รวมทั้ง แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้เข้าสอบคัดเลือกอบรมหลักสูตร นอ.ปีงบประมาณ 2552 จำนวน 3 รุ่น (รุ่น 68-70) จำนวน 142 คน ว่า มีความผิดวินัยและอาญา ในฐานะการกระทำการการอันได้ชื่อว่า เป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงและผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ให้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่



รายงานข่าวแจ้งว่า ในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาของป.ป.ช.มีจุดที่น่าสนใจ 2 ช่วง คือ



ช่วงแรก เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2552 มีหนังสือจากนายวุฒิชัย เชิญประชุมคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบอัตนัยเข้า นอ. วันที่ 20 มีนาคม 2552 แต่นายวงศ์ศักดิ์ ติดราชการ และก่อนถึงวันประชุม นายวงศ์ศักดิ์ ได้เชิญนายวุฒิชัย เข้าไปที่ห้องทำงานแจ้งว่า ผู้มีอำนาจทางการเมืองในกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการผ่านมาทางนายครรชิต ว่าในการสอบคัดเลือกโรงเรียน นอ.ครั้งนี้ ผู้มีอำนาจดังกล่าวมอบรายชื่อผู้เข้าสอบจำนวนประมาณ 150 คน มาให้และแจ้งว่า บุคคคลเหล่านี้จะต้องสอบได้ นายวุฒิชัยจึงตกลงทำคำสั่ง โดยใช้วิชาความรู้ความสามารถทั่วไปมาเป็นข้อสอบ เพื่อสะดวกในการให้คะแนนช่วยเหลือทั้ง 150 คน


"นายวงศ์ศักดิ์ และนายวุฒิชัย ยังสนิทกับนายสำราญ ได้นัดแนะจะเลือกข้อสอบที่นายสำราญ เป็นผู้ออกในวิชาความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง เพื่อให้นายสำราญ ช่วยเหลือ 150 คนด้วย ต่อมาเมื่อถึงวันประชุม (20 มีนาคม) ทุกคนมาตามนัดยกเว้น นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รองอธิบดีกรมการปกครองขณะนั้น แต่ปรากฎว่า เจ้าหน้าที่กองการเจ้าหน้าที่ได้จัดพิมพ์บัญชีผู้เข้าร่วมทั้งหมดให้ลงนามภายหลัง โดยระบุวันประชุมเป็นวันที่ 22 มีนาคม 2552 เพื่อให้ตรงกับคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ โดยได้นำไปให้นายนิรันดร์ ที่ไม่เข้าร่วมประชุมลงชื่อด้วย"บันทึกระบุ


ช่วงที่2 หลังจากมีการจัดสอบ โดยกระดาษคำตอบปรนัยได้ให้มหาวิทยาลัยสุขโทัยธรรมาธิราชไปตรวจ ส่วนกระดาษคำตอบอัตนัย มีกรรมการของกรมการปกครอง เป็นผู้ตรวจนั้น ปรากฎว่านายวุฒิชัย ได้นำกระดาษคำตอบออกมาตรวจโดยนำรายชื่อ 150 ชื่อ ที่ได้รับมาจากนายวงศ์ศักดิ์ มาช่วยเหลือให้คะแนนสูงๆ ทั้งๆ ที่เขียนคำตอบไม่ดี แล้วมาจัดลำดับที่และรุ่นตามความต้องการของผู้มีอำนาจทางการเมืองและประกาศรายชื่อให้ทราบ


ต่อมามีข่าวแพร่หลายว่า ผู้บริหารกรมการปกครอง เรียกรับเงินถึงรายละ 8 แสนบาทในหนังสือพิมพ์ และมีการเชิญทั้งนายวงศ์ศักดิ์ และนายวุฒิชัย มาชี้แจงกรรมาธิการ(กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร มีการซักถามเรื่องกระดาษคำตอบ ทั้งสองเกรงว่า จะมีการตรวจสอบกระดาษคำตอบในรายที่ให้ความช่วยเหลือ จึงให้ประธานนักเรียนอำเภอรุ่น 68 ,69 และ 70 มาพบนายวงศ์ศักดิ์ และนายวุฒิชัย ที่ห้องทำงาน ในวันหยุดเสาร์หรืออาทิตย์ เพื่อนำกระดาษคำตอบเปล่าให้รายชื่อบุคคลที่ช่วยเหลือไปเขียนคำตอบใหม่ โดยให้ตัวอย่างการเขียนที่ทำให้คะแนนได้สูงประมาณ 3-4 ตัวอย่างให้คัดลอก



ปรากฎว่า พนักงานป.ป.ช.ได้จำแนกกลุ่มผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งมีลักษณะการเขียนคำตอบคล้ายกัน 3 กลุ่ม กลุ่มแรก 47 คน กลุ่มสอง 36 คน และกลุ่มสาม 24 ราย


ส่วนคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม(ก.พ.ค.) มีมติให้กระทรวงมหาดไทย ยกคำสั่งแต่งตั้งนายอำเภอ 41 ตำแหน่ง และแต่งตั้งใหม่ให้ถูกต้องตามขั้นตอนนั้น นายขวัญชัย วงศ์นิติกร รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายมานิต วัฒนเสน ขณะเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) แต่ขณะนี้ยังไม่มีหนังสืออย่างเป็นทางการจาก ก.พ.มายังกระทรวงมหาดไทย จึงไม่ทราบว่า ต้องมีวิธีปฏิบัติเช่นใด หากให้ยกเลิกแล้วจะให้ 41 นายอำเภอระดับ 9 ไปดำรงตำแหน่งที่ใด จำเป็นที่จะต้องเปิดตำแหน่งเฉพาะกิจทดแทนหรือไม่ และก่อนหน้านี้กลุ่ม 41 นายอำเภอ ได้หารือกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้อุทธรณ์คำสั่งของก.พ.ค. แต่ก.พ.ค.ระบุว่าคำสั่งเป็นที่สุดแล้ว จึงต้องรอดูความชัดเจนในเอกสารอย่างเป็นทางการจาก ก.พ.ก่อน หากจะต้องเปิดตำแหน่งเฉพาะกิจก็ต้องให้ทั้ง 41 คน ถอยออกมาแล้วเปิดสอบใหม่


ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสอบใหม่แล้ว จะตั้งนายอำเภอทั้ง 41 คนนี้กลับเข้ามารับตำแหน่งอีกหรือไม่ นายขวัญชัย กล่าวว่า คงทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะจะถือว่า การคัดเลือกไม่ถูกต้องอีก เหมือนกับว่า มีการตั้งธงไว้ จึงจำเป็นต้องเปิดสอบใหม่ทั้งหมด ส่วนใครจะสอบได้หรือไม่ก็ว่ากันอีกที ทั้งนี้อาจจะต้องให้นักกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยร่วมพิจารณาเรื่องนี้ด้วย

วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 15:30:15 น. มติชนออนไลน์


เปิด"คำวินิจฉัย" หลักเกณฑ์แต่งตั้ง"พิลึก" ! ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งนายอำเภอ


คำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ที่ให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งนายอำเภอ ประเภทอำนวยการระดับสูง ประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ ตามคำสั่ง มท.ที่ 28/2553 ลงวันที่ 15 มกราคม 2553

ที่ ก.พ.ค.มีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 นั้น

เอกสารทั้งหมด 57 หน้า โดยหน้าแรกได้บอกผู้ร้อง คือ นายประกาศิต มหาสิงห์ และคู่กรณีในการร้องทุกข์ คือ ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ในรายละเอียด คณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ได้วินิจฉัย โดยมีเนื้อหาบางตอนที่น่าสนใจดังนี้

- คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการพลเรือนขึ้นดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง กระทรวงมหาดไทย ได้มีมติเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2552 กำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญเลื่อนขึ้นดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง ของทุกกรมในกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ 2553 ประกอบด้วย

ก.องค์ประกอบด้านประวัติรับราชการ 50 คะแนน พิจารณาจาก วันเข้าตำแหน่งอำนวยการต้น 30 คะแนน อัตราเงินเดือนปัจจุบัน 10 คะแนน อายุราชการ 10 คะแนน

ข.องค์ประกอบด้านความรู้ ความสามารถ 50 คะแนน พิจารณาจาก การประเมินการปฏิบัติงานของผู้บังคับบัญชา 10 คะแนน ผลงานดีเด่น ย้อนหลัง 5 ปี 15 คะแนน ข้อเสนอเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ในตำแหน่งที่จะแต่งตั้ง 15 คะแนน และสัมภาษณ์ 10 คะแนน

ปรากฏว่ากรมการปกครอง กำหนดรายละประเมิน ดังนี้

0ประวัติการรับราชการ 50 คะแนน พิจารณาจาก

1.ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง 30 คะแนน คำนวณช่วงคะแนน ดังนี้

1.1) 11 ปีขึ้นไป คิดเป็น 30 คะแนน ปรากฏว่ามีผู้ดำรงตำแหน่งนายอำเภอนานถึง 17 ปี (11-17 ปี มีช่วงห่าง 6 ปี)

1.2) 8-10 ปีกว่า แต่ไม่ถึง 11 ปี (ช่วงห่าง 3 ปี) คิดเป็น 29.5 คะแนน

1.3) 6-7 ปีกว่า แต่ไม่ถึง 9 ปี (ห่างกัน 2 ปี) คิดเป็น 29 คะแนน

1.4) 4 -5 ปีกว่า แต่ไม่ถึง 6 ปี (ห่างกัน 2 ปี) คิดเป็น 28.5 คะแนน

1.5) 1-3 ปีกว่า แต่ไม่ถึง 4 ปี (ห่างกัน 3 ปี) คิดเป็น 28 คะแนน

ก.พ.ค.เห็นว่า ระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งนายอำเภอหรืออำนวยการระดับต้น 30 คะแนนนี้มีช่วงห่างของคะแนนเพียง 2 คะแนนเท่านั้น ทั้งที่ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายอำเภอหรือผู้อำนวยการระดับต้นต่างกันมากถึง 17 ปี

2.อัตราเงินเดือน 10 คะแนน ให้น้ำหนักคะแนน ดังนี้

2.1) ขั้นที่ 23-24 คิดเป็น 10 คะแนน

2.2) ขั้นที่ 21.5-22.5 คิดเป็น 9.5 คะแนน

2.3) ขั้นที่ 20-21 คิดเป็น 9 คะแนน

2.4) ขั้นที่ 18.5-19.5 คิดเป็น 8.5 คะแนน

2.5) ขั้นที่ 17-18 คิดเป็น 8 คะแนน

2.6) ขั้นที่ 15.5-16.5 คิดเป็น 7.5 คะแนน

2.7) ขั้นที่ 14-15 คิดเป็น 7.0 คะแนน

2.8) ขั้นที่ 12.5-13.5 คิดเป็น 6.5 คะแนน

สำหรับในส่วนของอัตราเงินเดือนนี้ มีช่วงห่างของคะแนน 3.5 คะแนน

3.อายุราชการ 10 คะแนน แบ่งเป็น

3.1) 33 ปีขึ้นปี คิดเป็น 10 คะแนน

3.2) 28-32 ปีกว่าแต่ไม่ถึง 33 ปี คิดเป็น 9.5 คะแนน

3.3) 23-27 ปีกว่าแต่ไม่ถึง 28 ปี คิดเป็น 9 คะแนน

3.4) 17-21 ปีกว่าแต่ไม่ถึง 23 ปี คิดเป็น 8.5 คะแนน

สำหรับในส่วนอายุราชการนี้มีช่วงว่างของคะแนน 1.5 คะแนน

ก.พ.ค.วินิจฉัยว่า เกิดผลคะแนนที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ที่มีอายุราชการมากกว่า และเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้มีอายุราชการน้อยกว่าที่มีคะแนนประเมินเท่ากับผู้ที่มีอายุราชการมากกว่า เพราะช่วงการให้คะแนนเรื่องอายุราชการผู้เข้ารับการประเมินมีช่วงแคบเพียง 8.5-10 คะแนน จึงไม่เหมาะสม ไม่เป็นธรรม มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้บุคคลบางราย เป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม

นอกจากนี้ ยังพบว่าน้ำหนักคะแนนจะอยู่ในส่วนของประวัติการรับราชการเพียง 1 ใน 3 แต่อยู่ในด้านความรู้ความสามารถมากถึง 2 ใน 3 เป็นการไม่ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ฝ่ายปกครองกำหนดไว้ล่วงหน้าคือ 50:50 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว ทำให้เกิดผลในทางที่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้เข้ารับการประเมินบางรายที่มีประวัติการรับราชการที่อาวุโสน้อย อันเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมแก่ผู้ที่อาวุโสมาก

ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบผลคะแนนระหว่างประวัติการรับราชการ กับคะแนนความรู้ความสามารถทั้งสองส่วนแล้ว ทำให้เห็นได้ว่ามีค่าน้ำหนักในผลการประเมินไม่เท่ากัน ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการคัดเลือก นั่นคือ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกส่วนใหญ่เป็นผู้มีอาวุโสน้อย (ตำแหน่งว่าง 46 ตำแหน่ง แต่มีผู้อาวุโสที่อยู่ใน 46 ลำดับแรกได้การคัดเลือกเพียง 5 คน)

ยกตัวอย่าง บุคคลที่ได้รับการคัดเลือกเป็นอันดับที่ 1 อาวุโสตามบัญชีกรมการปกครอง ได้จัดไว้เป็นลำดับที่ 81

บุคคลที่ได้รับการคัดเลือกเป็นอันดับที่ 2 มีอาวุโสตามบัญชีที่กรมการปกครองจัดทำไว้เป็นลำดับที่ 327

บุคคลที่ได้รับการคัดเลือกเป็นอันดับที่ 3 มีอาวุโสตามบัญชีกรมการปกครองจัดทำไว้เป็นลำดับที่ 329 เป็นต้น

สำหรับผู้ร้อง คือ นายประกาศิต มหาสิงห์ มีอาวุโสอยู่ในลำดับที่ 4 ได้รับคัดเลือกเป็นอันดับที่ 107

กรณีดังกล่าวจึงไม่เป็นกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติไม่เป็นธรรม และเอื้อให้แก่ผู้เข้ารับการประเมินบางรายที่มีประวัติการรับราชการที่อาวุโสน้อย

ต้องขอยืมคำพูด นายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยอีกที "เห็นบัญชีแต่งตั้งเช่นนี้ ไม่ต้องเอาสมองคิด แค่เอาเท้าคิด ก็รู้ว่าไม่เป็นธรรมแล้ว ทุเรศที่สุด"

วันที่ 03 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 21:49:38 น. มติชนออนไลน์


ก.พ.ค.เล็งทำหนังสือถึงมท.ทวงความคืบหน้าถอนคำสั่งแต่งตั้ง ดักคอ41นอภ.ไม่มีอำนาจฟ้องไม่ใช่ผู้ร้องทุกข์

ก.พ.ค.เล็งทำหนังสือถึงมท. ทวงความคืบหน้าถอนคำสั่ง "ศราวุธ"ดักคอ 41 นอภ. ไม่มีอำนาจฟ้องก.พ.ค. เพราะไม่ใช่ผู้ร้องทุกข์ ขณะที่บิ๊กมท. ดอดปรึกษาก.พ. เรื่องเปิดตำแหน่งฉ. รองรับ ยังคิดหนักปมถูกหั่นเงินตำแหน่ง ตุลาการศาลปกครองหนุน ก.พ.ค. เข้มแข็งช่วยลดคดีในศาล




นายศราวุธ เมนะเศวต ประธานกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) กล่าวเมื่อวันที่ 3 กันยายนถึงความคืบหน้าในการเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งนายอำเภอ ประเภทอำนวยการระดับสูง ประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ จำนวน 41 ราย ตามคำสั่ง มท.ที่ 28/2553 ลงวันที่ 15 มกราคม 2553 หลังก.พ.ค. มีมติให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยยกเลิกคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551ว่า ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยยังไม่ได้ประสานงานมายังก.พ.ค.ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ต่างจากกรณีของกระทรวงแรงงานที่มีการประสานงาน หลังก.พ.ค. มีมติสั่งยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งรองอธิบดีรวม 7 อัตรา ทั้งนี้ยืนยันว่าปลัดกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่ต้องเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งนายอำเภอทั้ง 41 รายตามคำสั่งก.พ.ค. ไม่เช่นนั้นอาจโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่เข้าใจว่ามีกระบวนการภายในที่ต้องใช้เวลาดำเนินการ โดยเฉพาะการกำหนดตำแหน่งเฉพาะ (ฉ.) รองรับ 41 นายอำเภอ ก่อนเปิดคัดเลือกนายอำเภอกันใหม่ อย่างไรก็ตามหากยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ก.พ.ค. จะต้องทำหนังสือถามกระทรวงมหาดไทยในเวลาอันเหมาะสม


ส่วนกรณีที่ 1 ใน 41 นายอำเภอเตรียมฟ้องก.พ.ค. ต่อศาลปกครอง เนื่องจากทำให้เสียประโยชน์ในหน้าที่การงานนั้น นายศราวุธกล่าวว่า ในการประชุมก.พ.ค. นัดล่าสุดไม่มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาหารือ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีกรณีกรรมการก.พ.ค. ถูกฟ้องเสียเอง เพราะกฎหมายเขียนไว้ว่าผู้อุทธรณ์ หรือผู้ร้องทุกข์มีสิทธิยื่นฟ้องศาลปกครองได้หากไม่พอใจคำตัดสินของก.พ.ค. แต่กรณีนี้ 41 นายอำเภอไม่ใช่ผู้ร้องทุกข์ จึงไม่แน่ใจว่ามีสิทธิฟ้องหรือไม่ แต่การพิจารณาขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล


รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) แจ้งว่า ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยได้หารือทางวาจากับก.พ. เกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่งเฉพาะ (ฉ.) ให้ 41 นายอำเภอ แม้การกำหนดตำแหน่งฉ. จะเป็นอำนาจของคณะอนุกรรมการข้าราชการ (อ.ก.พ.) กระทรวง แต่พบปัญหาในทางปฏิบัติ เพราะปัจจุบันนายอำเภอทั้ง 41 คนอยู่ในตำแหน่งประเภท “อำนวยการ” (เทียบเท่าซี 9) ได้รับเงินประจำตำแหน่ง 5,600 บาท/เดือน ถ้าต้องถอยกลับไปลงตำแหน่ง ฉ. “ชำนาญการพิเศษ” (เทียบเท่าซี 8) จะเหลือเงินประจำตำแหน่งเพียง 3,500 บาท/เดือน จนขณะนี้กระทรวงมหาดไทยจึงยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะกำหนดตำแหน่ง ฉ. ครบ 41 ตำแหน่ง หรือรอเกลี่ยตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้ายเดือนกันยายนก่อน ซึ่งในเบื้องต้นจะมีตำแหน่งระดับเดียวกัน อาทิ ปลัดจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ฯลฯ ว่างลงจากการโยกย้ายและการเกษียณอายุราชการประมาณ 60 ตำแหน่ง ซึ่งจะสามารถจัดสรรที่ลงให้ข้าราชการ 41 รายได้ และทำให้กระทรวงมหาดไทยไม่ต้องเปิดตำแหน่งฉ. ถึง 41 ตำแหน่ง


วันเดียวกัน ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ค.) จัดประชุมสัมมนาเรื่อง “การพิทักษ์ระบบคุณธรรมในราชการพลเรือน” เพื่อชี้แจงผลการดำเนินงานของก.พ.ค. ในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาให้ส่วนราชการรับทราบ พร้อมนำตัวอย่างคำวินิจฉัยมาเปิดเผย ทั้งนี้นางจรวยพร ธรณินทร์ กรรมการและโฆษกก.พ.ค. กล่าวว่า ที่ผ่านมามีข้าราชการยื่นอุทธรณ์และร้องทุกข์มาที่ ก.พ.ค. รวม 466 เรื่อง แบ่งเป็น
1. เรื่องอุทธรณ์ 122 เรื่อง ซึ่งก.พ.ค. วินิจฉัยเสร็จแล้ว 51 เรื่อง โดยวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์ 36 เรื่อง อุทธรณ์ฟังขึ้นให้หน่วยงานยกเลิกคำสั่ง 5 เรื่อง ขอถอนอุทธรณ์ 9 เรื่อง และโอนเรื่องกลับไปให้สำนักราชเลขาธิการดำเนินการ 1 เรื่อง และ
2. เรื่องร้องทุกข์ 94 เรื่อง ซึ่งก.พ.ค. วินิจฉัยเสร็จแล้ว 64 เรื่อง โดยวินิจฉัยให้ยกคำร้องทุกข์ 41 เรื่อง คำร้องทุกข์ฟังขึ้น 6 เรื่อง และไม่รับคำร้องทุกข์ 17 เรื่อง สำหรับส่วนราชการที่ถูกอุทธรณ์มากที่สุดคือ กระทรวงมหาดไทย 31 เรื่อง รองลงมาคือกระทรวงสาธารณสุข 11 เรื่อง และกระทรวงยุติธรรม 10 เรื่อง ขณะที่ส่วนราชการที่ถูกร้องทุกข์มากที่สุดคือ กระทรวงสารธารณสุข 26 เรื่อง กระทรวงมหาดไทย 22 เรื่อง และกระทรวงการคลัง 12 เรื่อง


นางจรวยพรยังได้เปิดเผยข้อมูลกรณีก.พ.ค. มีมติให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งนายอำเภอ 41 รายด้วยเหตุผล 3 ข้อ โดยเหตุผลข้อหนึ่งคือมี “ผู้อำนวยการสำนัก” มีส่วนได้เสียและมีผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจากมีคุณสมบัติในการได้รับแต่งตั้ง แต่กลับไปทำหน้าที่เลขานุการคณะกรรมการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการกรมการปกครองว่าผู้อำนวยการคนดังกล่าวคือ “ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ กรมการปกครอง” นั่นเอง


ศาลปกครองหนุน ก.พ.ค. เข้มแข็งช่วยลดคดีในศาล



ด้านนายอดุล จันทรศักดิ์ ตุลาการหัวหน้าคณะในศาลปกครองกลาง กล่าวว่า แม้มาตรา 42 แห่งพ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน จะกำหนดแนวทางในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการไว้ชัดเจน แต่ในชีวิตจริงฝ่ายการเมืองจะแต่งตั้งโดยเลือกคนก่อนแล้วค่อยหาเหตุผลมาใส่ภายหลัง ทำให้ผู้เสียหายต้องไปร้องทุกข์ต่อก.พ.ค. ดังนั้น ถ้าก.พ.ค. เข้มแข็ง ระบบชั่วร้ายในการแต่งตั้งก็จะลดลง จึงอยากฝากก.พ.ค. ให้ดูแลข้าราชการให้ดีเพื่อทำให้งานของศาลปกครองเบาลง


อย่างไรก็ตามศาลปกครองกลางกับก.พ.ค. เคยมีความเห็นไม่ตรงกัน ในกรณีนายจาดุร อภิชาตบุตร อดีตรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ถูกสั่งย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย โดยก.พ.ค. ยกคำร้องทุกข์ของนายจาดุร แต่ศาลปกครองกลางตัดสินว่าคำสั่งแต่งตั้งมิชอบ ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด ทั้งนี้การใช้ดุลพินิจของศาลปกครองเราดูหลักเหตุผล ถ้ามีเหตุผล ศาลจะไม่ก้าวล่วงไปสู่การใช้ดุลพินิจ เวลาดูเรื่องคน ตนดูเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมเป็นสำคัญ ไม่ได้ดูหน้าคน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการสัมมนา นายอดุลซึ่งเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2552 ได้นำบทกวีที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการโดยฝ่ายการเมืองมาอ่านให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาฟัง


ปลัดมท.ร่อนหนังสือถามก.พ.ค.ให้ชัด


นายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทย(มท.) กล่าวว่า แต่งตั้งนายอำเภอให้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง 41 รายนั้น กระทรวงมหาดไทย ได้ถือปฏิบัติตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551ซึ่งต้องการส่งเสริมข้าราชการที่มีความรู้ ความสามารถ ผลงาน ศักยภาพและความประพฤติดี ให้ก้าวหน้า แต่ก็ไม่ได้ทิ้งอาวุโสและนำมาพิจารณาด้วย ลดช่องว่างระหว่างผู้ที่เป็นนายอำเภอมานานกับผู้ที่พึ่งเป็นนายอำเภอ ไม่ให้แตกต่างกันมาก เพื่อเปิดโอกาสให้วัดกันที่ความรู้ ความสามารถอย่างเต็มที่ เพราะหากให้ความสำคัญกับอาวุโสมากเกินไปคนที่ได้รับการแต่งตั้งก็จะมีแต่คนแก่ ส่วนคนที่อาวุโสน้อยแต่เก่งก็ไม่มีโอกาส


นายมานิตกล่าวว่า คำวินิจฉัยก.พ.ค.ที่ให้ยกเลิกคำสั่ง เนื่องจาก ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ กรมการปกครอง เป็นผู้มีส่วนได้เสียเข้าไปอยู่ในกระบวนการ และไม่ได้ดำเนินการตามแนวทางที่ ก.พ.กำหนดได้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปศึกษา ซึ่งคณะกรรมการฯ มท. ได้ให้ความเห็นว่า คำวินิจฉัยของ ก.พ.ค. ไม่เป็นธรรมกับมท. เพราะไม่ได้นำเอา คำแก้คำร้องทุกข์ที่ กระทรวงมหาดไทยส่งให้ไปพิจารณาอย่างรอบด้าน และไม่เคยเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปชี้แจงแม้แต่คนเดียว อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะไม่เห็นด้วย กระทรวงมหาดไทยก็ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามคำวินิจฉัย แต่เนื่องจากไม่มีแนวทางที่ชัดเจน จึงได้มีหนังสือหารือไปที่ ก.พ. หากตอบมาอย่างไรก็พร้อมที่จะทำตาม

วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 13:27:51 น. มติชนออนไลน์


รรท.มท.1อ้างก.พ.ยังไม่ส่งเรื่องถอน 41 นอภ.มายังกระทรวง




เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 ร.อ.) นายขวัญชัย วงศ์นิติกร รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเมื่อวันที่ 11 กันยายน ถึงกรณีที่สำนักงานก.พ.ระบุว่ากระทรวงมหาดไทย จะต้องปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม(ก.พ.ค.) ที่สั่งให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้ง 41 นายอำเภอ คำสั่งที่ 28/2553 ภายใน 90 วันหลังจากที่ก.พ.ระบุย้ำ ว่า กระทรวงมหาดไทย ยังไม่ได้รับหนังสือตอบกลับ หลังจากที่นายมานิต วัฒนเสน อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือหารือไปยังก.พ. เกี่ยวกับมติดังกล่าว แต่ทราบจากการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนของเลขาธิการก.พ. แต่ก็ยังไม่มีหนังสืออย่างเป็นทางการมายังกระทรวง จึงไม่ทราบว่าต้องมีวิธีปฏิบัติเช่นใด หากให้ยกเลิกแล้วจะให้ 41 นายอำเภอไปดำรงตำแหน่งที่ใด จึงจำเป็นที่จะต้องเปิดตำแหน่งเฉพาะกิจทดแทนหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่ม 41 นายอำเภอ ได้หารือกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้อุทธรณ์คำสั่งของก.พ.ค. แต่ก.พ.ค.ระบุว่าคำสั่งเป็นที่สุดแล้ว จึงต้องรอดูความชัดเจนในเอกสารอย่างเป็นทางการก่อน หากจะต้องเปิดตำแหน่งเฉพาะกิจก็ต้องให้ทั้ง 41 คน ถอยออกมาแล้วเปิดสอบใหม่


เมื่อถามว่า หากสอบใหม่แล้วจะตั้งนายอำเภอทั้ง 41 คนนี้กลับเข้ามารับตำแหน่งอีกหรือไม่ นายขวัญชัย กล่าวว่า คงทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะจะถือว่าการคัดเลือกไม่ถูกต้องอีก เหมือนกับว่ามีการตั้งธงไว้ จึงจำเป็นต้องเปิดสอบใหม่ทั้งหมด ส่วนใครจะสอบได้หรือไม่ก็ว่ากันอีกที


เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้นายอนุชา โมกขะเวส อดีตอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เคยร้องก.พ.เกี่ยวกับความอาวุโสของนายมานิต แต่ก.พ.ค.สั่งยกคำร้องและระบุว่าการแต่งตั้งครั้งนั้นชอบแล้ว แต่กรณีนี้กลับให้คำนึงถึงอาวุโส จึงถือ นายขวัญชัย กล่าวว่า ไม่เป็นไร กระทรวงมหาดไทยมีนักกฎหมายหลายคน ก็ต้องว่ากันไปตามเจตนา ซึ่งอาจจะต้องให้นักกฎหมายของกระทรวงร่วมพิจารณาเรื่องนี้ด้วย


เมื่อถามว่า สำหรับ 41 นายอำเภอจะฟ้องร้องก.พ.ค.ต่อศาลปกครองหรือไม่ นายขวัญชัย กล่าวว่า ยังไม่ได้ฟ้อง แต่อาจเป็นการพูดคุยกันในกลุ่ม ซึ่งทางมหาดไทยเห็นว่า จะต้องเชิญตัวแทนของกลุ่ม 41 นายอำเภอมาร่วมพูดคุยว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป และหากจะดำเนินการอะไรต่อไปก็ต้องคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก เนื่องจากการบริหารราชการ จะต้องมีผู้บริหาร ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯ นายอำเภอ ทำหน้าที่ในพื้นที่เพื่อดูแลประชาชน

วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20:31:49 น. มติชนออนไลน์


"มท."ชี้41นอภ.ไม่ขาดคุณสมบัติ ต้องคุ้มครอง-ให้ความเป็นธรรม แฉ"สุวิทย์-โชติ" ซี้ปึ้กตั้งแต่เด็ก

"มหาดไทย" ชี้ 41 นายอำเภอไม่ขาดคุณสมบัติ ต้องคุ้มครอง-ให้ความเป็นธรรม อดีตปลัด มท.ดักคอ ระวังแก้ให้ถูกต้องแต่ยังได้หน้าเดิม ขรก.กระทรวงทรัพย์ขวัญเสียเพิ่งเสียปลัดไม่พ้น7วันตั้งคนใหม่แล้ว แฉ"สุวิทย์-โชติ" ซี้ปึ้กตั้งแต่เด็ก



ตั้งรองปลัดมท.สอบมติก.พ.ค.


กรณีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) มีมติให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งนายอำเภอ 41 นาย ตามคำสั่ง มท.ที่ 28/2553 และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง เข้าไปดูแลการแต่งตั้งโยกย้ายของกระทรวงมหาดไทยนั้น เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม นายสุเทพกล่าวว่า เป็นรองนายกฯมีหน้าที่กำกับควบคุมงานของกระทรวงมหาดไทย แต่เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไรยังไม่ทราบรายละเอียด หากนายกฯสั่งอะไรมาก็ต้องปฏิบัติตาม โดยจะต้องสะสาง สอบสวน และดำเนินการให้มันเกิดความชัดเจนขึ้นมา


ด้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า หลัง ก.พ.ค.มีมติ นายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ มีนายวิบูลย์ สงวนพงษ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน เพื่อพิจารณาตรวจสอบมติ ก.พ.ค. โดยต้องทำให้เสร็จก่อนการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งใหญ่ในเดือนตุลาคมนี้


โฆษกชี้ทั้ง41คนมีคุณสมบัติ


"เหตุที่ต้องตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบ เพื่อดูข้อเท็จจริงเป็นรายประเด็น และดูว่าควรปรับปรุงแก้ไขอย่างไร เช่น นายอำเภอทั้ง 41 ราย ที่ได้รับเลื่อนขึ้นมาเป็นระดับ 9 ควรต้องกลับไปอยู่ในระดับ 8 เหมือนเดิมหรือไม่ มีประเด็นปลีกย่อยมากมาย ก่อนจะเพิกถอนคำสั่งต้องดูรายละเอียดก่อน ไม่ใช่พอสั่งมาปุ๊บต้องดำเนินการทันที" นายบุญจงกล่าว


นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ทาง ก.พ.ค.ยังไม่ได้ส่งเรื่องมาให้กระทรวงมหาดไทย หากส่งเรื่องมาแล้วก็คงต้องพิจารณาในข้อกฎหมาย และจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องด้วย เพราะในบัญชีของข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งทั้ง 41 คน ถือเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายตามกฎ ก.พ.ทั้งสิ้น ดังนั้น จึงต้องให้ความคุ้มครองคนเหล่านี้ด้วย ซึ่งทั้งหมดอาจใช้ช่องทางทางศาลปกครองเพื่อขอให้คุ้มครองชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดีได้ และทางกระทรวงมหาดไทยจะต้องพิจารณาด้วยว่า เมื่อเป็นคำสั่งที่ถูกต้องชอบธรรมตามหลักเกณฑ์แล้ว หากยกเลิกไปจะมีความผิดตามกฎหมายหรือไม่


ดักคอแก้ให้ถูกต้องแต่หน้าเดิม


นายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ภายในกระทรวงมหาดไทยกำลังเกิดอาการงอแง ที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ ก.พ.ค. โดยปลัดกระทรวงมหาดไทยออกมาพูดในลักษณะที่ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ที่จะต้องซีเรียสอะไร แสดงว่าคนพวกนี้ไม่เคยคำนึงถึงความเป็นธรรมในการแต่งตั้งข้าราชการ ด้วยการเอาเด็กที่เพิ่งขึ้นตำแหน่งมาข้ามหัวคนที่อาวุโสกว่าถึง 17-18 ปี ซึ่งไม่ทราบว่าผู้บริหารของกระทรวงใช้วิธีคิดแบบนี้ได้อย่างไร


"หากคิดว่ามันผิดขั้นตอนแล้ว จะมาแก้ไขด้วยการทำให้เป็นเรื่องที่ถูกขั้นตอน แต่บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งยังเป็นคนกลุ่มเดิม ก็เท่ากับว่าระบบคุณธรรมในการบริหารไม่ได้มีอยู่ในจิตใจเลย ไม่คำนึงถึงชีวิตข้าราชการที่จะต้องเจริญเติบโต มีแต่คิดถึงพวกพ้องของตัวเอง" นายพงศ์โพยมกล่าว

ขออนุญาตปรับกำหนดการในช่วงเช้าจากเดิม เป็นไปวัดอโศการามก่อน แล้วค่อยไปเมืองโบราณครับ

ขอโทษครับ ไม่ได้ไปร่วมงานด้วย ตอนนี้มาทำสวนฝรั่ง เพาะเห็ดอยู่ที่อ.สามเงาครับ อ่านเรื่องยุ่งๆ ของกรมแล้วละเหี่ยใจ ผมไปยื่นเรื่องขอกลับเข้ารับราชการแล้วเมื่อ ต้นเดือนกันยายน หวังว่าจะได้ตั้งแต่ปลายเดือนกันยา นายกฯก็มาสั่งชะลอการเลื่อนตำแหน่งของ อ.ปค. ก็หวังต่อมาว่าคงจะได้รับข่าวดีภายในเดือนนี้ แต่เห็นข่าวอย่างนี้แล้ว"เหงา"

วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 05:33:57 น. มติชนออนไลน์


ก.พ.ค.ย้ำไม่กลับมติกรณี41นอภ. มหาดไทยต้องสั่งเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งทั้งหมด

ประธานก.พ.ค.พร้อมนำหนังสือ 41 นอภ. เข้าถกในบอร์ด 20 ต.ค.นี้ ออกตัวทบทวนไม่ได้เพราะคำวินิจฉัยถือเป็นที่สุดแล้ว



นายศราวุธ เมนะเศวต ประธานกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) กล่าวถึงกรณีที่ 41 นายอำเภอ นำโดยนายวิวัฒน์ ฉันทนารักษ์ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครองซึ่งถูก ก.พ.ค.สั่งยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งเตรียมทำหนังสือถึงประธาน ก.พ.ค. เพื่อขอให้ทบทวนมติว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นหนังสือของ 41 นายอำเภอ แต่เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ หากได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการก็จะนำเข้าหารือในการประชุม ก.พ.ค. วันที่ 20 ตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กระทรวงมหาดไทยได้ทำหนังสือถึง ก.พ.ค. เพื่อขอให้ทบทวนมติแล้ว แต่ ก.พ.ค.ตอบไปว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวถือเป็นที่สุดแล้ว คงไม่สามารถทบทวนได้ ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่เดียวคือต้องปฏิบัติตามมติ ก.พ.ค. ด้วยการสั่งเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งทั้ง 41 คน


ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาเคยมีกรณีที่ ก.พ.ค. ต้องกลับมติตัวเองบ้างหรือไม่ นาย ศราวุธกล่าวว่า ไม่มี เพราะในการพิจารณาแต่ละกรณี ก.พ.คได้ดูข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างรอบคอบแล้ว


เมื่อถามว่า หนังสือของ 41 นายอำเภอระบุว่าการลดระดับกลับไปเป็นซี 8 แรงกว่าถูกลงโทษทางวินัย ประธาน ก.พ.ค.กล่าวว่า "ในเมื่อกระบวนการคัดเลือกไม่ชอบตั้งแต่ต้น การเข้าสู่ตำแหน่งก็ย่อมไม่ชอบ หากคุณเป็นผู้มีความรู้ความสามารถจริง ก็ยังมีสิทธิได้รับเลือกให้กลับมาดำรงตำแหน่งเดิมได้ ไม่มีใครปิดกั้นสิทธิของคุณ เหมือนกรณีที่ ก.พ.ค.เคยมีมติให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้ง 7 อธิบดีของกระทรวงแรงงาน กระทรวงก็เริ่มกระบวนการคัดเลือกใหม่หมด โดยทั้ง 7 คนก็ได้รับเลือกให้กลับมาดำรงตำแหน่งเดิม"


ด้านนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงเรียกร้องมาตรฐานจริยธรรมจากนายกรัฐมนตรี ว่า ต้องทวงถามจริยธรรมจากนายกฯ คือกรณีที่ ป.ป.ช. ชี้มูลข้าราชการระดับสูงของกรมการปกครองในเรื่องการทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ซึ่งถือเป็นการทำลายระบบคุณธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย ทำลายระบอบการศึกษาเพื่อเพิ่มศักยภาพของข้าราชการ ทำให้ศักดิ์ศรีของข้าราชการเสียหายยับเยิน จึงต้องสอบถามนายกฯว่า เมื่อข้าราชการประจำที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ถูกย้ายไปหมดแล้ว แต่ยังเหลือฝ่ายการเมืองที่ยังคงดำรงตำแหน่งอยู่ นายกฯมีความคิดที่จะปลดย้ายฝ่ายการเมืองหรือไม่ หรือนายกฯคิดจะลงมาดูเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะปล่อยให้ฝ่ายการเมืองใช้อิทธิพลเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลหลักฐานจนทำให้ ป.ป.ช.ไม่สามารถเอาผิดไปถึงระดับการเมืองได้

กลับมารายงานตัวอีกครั้ง
ถึงบ้านในเวลาตีสอง วันจันทร์ 18 ตุลาคม 2553 โดยสวัสดิภาพแล้วครับ
ขอบคุณเพื่อนๆ จากส่วนกลางทุกท่านที่ให้บริการอย่างดี
ขอบคุณเจ้าถิ่นสมุทรปราการที่เอื้อเฟื้อพาไปให้ดูเที่ยวชมสถานที่สำคัญ มีชื่อเสียง ของจังหวัด ถึงแม้จะไม่ครบถ้วนด้วยจำกัดเวลา คราวหน้าถ้ามาใหม่จะดูให้ครบเลย

ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ร่วมกิจกรรม ๑๖ ตุลา ๕๓ ...
ขอความกรุณา... พี่เนตรสุเทพ และสมาชิกซึ่งทำหน้าที่เป็นช่างภาพในงาน ๑๖ ตุลา ส่งภาพถ่ายส่งให้...สมศักดิ์ แก้วเสนา เพื่อรวบรวมลงแผ่น...ส่งให้สมาชิก ๖๓ ทุกท่านทราบต่อไปครับ

ขอบคุณ พี่ ๆ เพื่อน ที่เดินทางมาร่วมงาน ผมถือว่ามากันด้วยใจจริง ๆ ครับ ฝนตก น้ำท่วม ถนนขาด ก็ยังมากันมากขนาดนี้ เดินทางกลับถึงที่หมายโดยปลอดภัยทุกคนครับ
ขอบคุณ คุณอภิญญา และน้องกิฟท์ ที่ต้อนรับเพื่อน ๆ ในฐานะเจ้าบ้าน ทั้งก่อนวันงาน วันงาน และหลังงานเลี้ยง ยังพาพี่ ๆ ไปเที่ยวต่ออีก
ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้เดินทางมาแต่ก็ยังสนับสนุนการจัดงานด้วยดี
ขอบคุณมากครับ

แตงหมีก็เดินทางกลับบ้านด้วยความปลอดภัยเช่นกันและได้นำส่งพี่เมธีท กับพี่ภิเศก ถึงบ้านด้วยความปลอดภัย ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมกันทำให้งานเลี้ยงรุ่นของเราประสบความสำเร็จขอบคุณเจ้าคะ

ขอที่อยู่ของท่านสมศักดิ์ แก้วเสนา ด้วยครับ จะส่งภาพกิจกรรมของพวกเราไปให้ครับ ส่วนกล้องของคนอื่นๆ ก็น่าจะส่งไปรวมที่เดียวกันแล้วไรต์ลงแผ่นแจกจ่ายกันต่อๆ ไป

ที่อยู่สำหรับส่งภาพถ่ายเพื่อรวบรวมส่งให้เพื่อน ๆ ทุกคนครับ

กรุณาส่ง
นายสมศักดิ์ แก้วเสนา
หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป
สำนักกิจการความมั่นคงภายใน
กรมการปกครอง
ถนนอัษฎางค์ เขตพระนคร
กทม. 10200

ถึงบ้านพักที่แม่ฮ่องสอนโดยสวัสดิภาพครับ ขอขอบคุณท่านกิจชัยฯ ที่ให้การอนุเคราะห์คอนโดที่ท่าน้ำนนท์ให้เข้าพักจำนวน 2 คืน และบริการรับ-ส่งตลอดงาน ขากลับตื่นเต้นเล็กน้อยรถทัวร์เสียต้องจอดซ่อมอีก2ชม. นั่งรถทัวร์ 5 โมงเย็นถึงแม่ฮ่องสอนตอน 10โมงเช้า แถมคนนั่งข้างหน้าข้างๆข้างหลัง อ๊วกอีก 3 คน มาทำงานแบบสบักสะบอม ใครอยากเที่ยวแม่ฮ่องสอนหนาวนี้เรียนเชิญเลยนะครับ ยินดีต้อนรับแต่ต้องเอาเต้นท์มาด้วยนะครับ อิอิ

๑. ขอแสดงความเสียใจด้วยอย่างยิ่งกับ หน.ธีร์ พัฒนากูล ที่สูญเสียคุณพ่อไปอย่างกระทันหัน
๒. เชิญชวนสมาชิกภาคเหนือ และไกล้เคียง เป็นตัวแทนของรุ่นไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพ ที่วัดตะพานหิน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร พระราชทานเพลิงศพวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๕๓
๓. ได้แจ้งประสาน หน.มานพ วิชิตนาค ทราบทาง ว.๑๓ แล้ว ส่วนเงินทำบุญจะได้ดำเนินการต่อไป

แตงหมีอยุ่ใกล้สุด พอ ๆ กับพี่เพชร และ จะไปร่วมงานเจ้าค้า...

ถ้าใครจะไปร่วมงานวันไหน ส่งข่าวกันบ้างนะ จะได้ไปพร้อมกัน ....

เห็นชอบมอบแตงหมี

ได้โอนเงินเข้าบัญชีแตงหมีแล้วเที่ยงวันนี้ จำนวน ๑๐,๕๐๐ บาท เพื่อโปรดทราบและขอขอบคุณที่เสียสละเป็นตัวแทนของพี่ๆ เพื่อนๆ ครับ

เดินทางกลับถึงชุมพรเรียบร้อยแล้ว ขอเสียใจด้วยกับหัวหน้าธีร์

ขอส่งความห่วงใยไปถึงพรรคพวกที่กำลังผจญกับปัยหาน้ำท่วมในพื้นที่ทั้งภาคเหนืออีสานและภาคกลางด้วยความเป็นห่วง

ขออภัยที่ไม่รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ได้นำเงินจำนวน 10,500 บาท ไปมอบให้ หัวหน้าธีร์ เรียบร้อยแล้ว ทราบแล้วเปลี่ยน ตอนนี้รับบทหนักน้ำท่วมนครสวรรค์ เลยเวลาน้อย ขออภัยมาณโอกาสนี้

ส่งภาพทัวร์สมุทรปราการของคณะ นอ.63 ไปให้ท่านสมศักดิ์แล้ว คาดว่าพรุ่งนี้น่าจะได้รับนะครับ
ตอนนี้น้ำกำลังมาถึงมหาสารคาม แต่คาดว่าจะไม่ท่วมมาก

อ้อ....ลืมบอกไปว่าบางภาพได้ส่งไปขายแล้วหลายเว็บไซต์ ใครได้ภาพไปแล้วและจะนำไปใช้ขอให้ระวังเรื่องลิขสิทธิ์ด้วย นำไปใช้ได้เฉพาะที่ไม่เกี่ยวในเชิงพาณิชย์เท่านั้นนะครับ พวกฝรั่งเขาระมัดระวังกันมากจริงๆ

ขออภัยครับงานยุ่งเลยยังไม่ได้เปลี่ยนหน้าเวปและส่งรูปไปให้ท่านสมศักดิ์ แล้วจะรีบจัดส่งไปนะครับ

ผม(ทแกล้ว นุศรีวอ)ข้ามห้วยไปอยู่กรม ปภ. 2 ปีเศษแล้ว...เพื่อน บมท.15 ใครไปภูเก็ตแวะเยี่ยมด้วยนะคร๊าบ ที่ วปภ.วิทยาเขตภูเก็ต อ.ถลาง

โดย: ทแกล้ว IP: 61.19.52.58 วันที่: 28 ตุลาคม 2553 เวลา:16:25:40 น.

๑. ได้รับภาพจากพี่สุรศักดิ์ แล้ว และวันนี้ก็ได้จากพี่เนตรสุเทพ แล้วเช่นกัน กำลังรอคอยของพี่พิมพ์ธาดา พี่ณรงค์ชัย และท่านอื่นๆ ถ้ามี ขอด่วนด้วย
๒.สมาชิกภาคกลาง ขอได้โปรดเลือกผู้ประสานภาคด้วยครับ
๓.มีเงินเหลือจากการจัดงาน ๑๖ ตุลา เข้ากองทุนรุ่น ๖๓ จำนวน ๑๐,๙๐๐ บาท ทั้งนี้ก็เพราะพี่ๆ ทั้งหลายช่วยกรุณาจ่ายค่าที่พักนั่นเอง ขอบคุณครับ...
๔.รายละเอียดจะแจ้งเป็นหนังสือให้สมาชิกทุกท่านทราบ เมื่อภาพถ่ายลงแผ่น ดีวีดี เสร็จแล้วครับ

ในขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยยังมีปรากฏอยู่ทั่วจึงขอแสดงความห่วงใยเพื่อนเราในพื้นที่ที่ประสบภัยและกำลังจะประสบด้วยความปรารถนาดีด้วย

ทางใต้แต่ละจุดดูแล้วอ่วมกว่าอิสานครับ

ทางใต้เขามาไวเลมไวครับ แต่อีสานกะภาคกลางงานนี้อีกยาวครับ
ยังไม่ได้อัพเหน้าเวปเพราะโดนใช้ไปนอนในป่ามา กลับมาก็เย็นไปถ่ายรูปงานเลี้ยงต้อนรับกาชาดภาค10ที่แม่ฮ่องสอน เหนื่อยมาก อากาศก็หนาวได้ใจจริงๆ

ปกติวันนี้ไปนอนที่โฮจิมินห์ซิตี้ มีเหตุต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ 22 พ.ย. ครับ
ส่วนวันที่ 10 ธันวา จะไปนอนที่ภูฝอยลมโต้อากาศหนาวๆๆๆๆๆ

ยังไม่ได้ภาพถ่ายจาก หน.ณรงค์ชัย ครับ หนังสือนำส่งพร้อมบัญชีต่างๆ พร้อมแล้ว... รออยู่ด้วยใจจดจ่อครับ
ตอนแรกสงสัยน้ำท่วมเป็นอุปสรรค...ตอนนี้สงสัยว่าการเลือกตั้งของเมียนม่าจะเป็นอุปสรรคเสียแล้วล่ะ

ขอทราบกำหนดการของสายอิสาน ณ จ.อุดรธานี
จะได้ทำการจองตั๋ว
มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ประการใด

ท่านประธานครับ ได้ฝากเด็กไปส่งไปรษณีย์แล้วครับคาดว่าภายในวันจันทร์หน้าท่านสมศักดิ์คงจะได้รับแผ่นหนังเอ๊ยซีดีรูปจากกล้องผมครับ

ตอนนี้มีคดีจับไม้ที่แม่ฮ่องสอน ท่านผู้ว่าเลยให้ผมร่วมลงไปสอบสวนคดีกับทางอำเภอและตำรวจ เลยต้องออกไปอำเภอบ่อยหน่อยช่วงนี้ อีกทั้งตอนนี้ซื้อกล้องถ่ายรูปใหม่ เนื่องจากตอนงานเลี้ยงเห็นแต่ละท่านพกกล้องใหญ่โต กำลังหัดถ่ายรูปกะว่าจะไปขายหาเงินใช้อย่างพี่เนตรสุเทพบ้างครับ ว่างๆลองเข้าไปดูที่เฟสบุคผมได้นะครับ

ต้องเป็นกล้อง DSLR นะท่านอ้วน ถ่ายภาพทั้งภาคเหนือขายทางเน็ตก็หากินได้สบายแล้ว

ตอนนี้ซื้อ Nikon D90 เลนส์ 15-55 70-300 18-105 กำลังจะซื้อ 50 1.8 อีกตัว

ท่านประธานครับส่งซีดีไปแล้วนะครับ EH9543 0357 9

พี่อู๊ด ชนะศึก
ขอกำหนดการหน่อย
ตั๋วไปอุดร เต็มหมดแล้ว

งานเลี้ยง นอ.63 ภาคอิสานครั้งที่ 8 กำหนอการเดิมคือ วันที่ 11 ธันวาคม 2553 ณ ภูฝอยลม อำเภอหนองแสง จ.อุดรธานี
ภาคอื่นหรือส่วนกลางที่จะร่วม jam แจ้งความประสงค์ได้ที่คุณสันติ(โต้ง) 0834099990 หรือวิมล 0813699504 หรือที่ผม 0812612306 รบกวนเสี่ยอ้วน คุณณรงค์ชัย ประชาสัมพันธ์ให้ด้วย อ้อ/ อย่าลืมหมายเหตุให้ด้วยว่าจะนอนห้องหรือนอนเต้นท์

พี่อู๊ด ชนะศึก
ขอรายละเอียดเพิ่มเติมหน่อย
วันไป-วันกลับ กิจกรรมแต่ละวัน
จะได้จองตั๋ว

กล้องและเลนส์ขนาดนั้นแจ่มจริงๆ ขอแนะว่าเอา tripod ด้วยครับท่านอ้วน
ที่ภูฝอยลมผมจะไปทั้งหมด 10 คน นอนเต็นท์นะท่านอู๊ด

ผมใช้กล้อง DSLR ถ่ายภาพพุทธประวัติเหล่านี้ไว้มากมาย ถ่ายภาพมาจากวัดบ้านยาง ตำบลยาง อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม แล้วนำไฟล์ภาพไปฝากไว้ที่ //www.ziddu.com
ใครอยากได้ฟรีๆ ไปโหลดได้ครับ ตามลิงค์ข้างล่างนี้ไปเลย
วันนี้ มีเพียง 10 ภาพ วันต่อไปๆ จะอัปโหลดขึ้นไปฝากเพิ่มครับ ใครอยากได้ก็ตามไปดาวน์โหลดก็แล้วกันนะ ไฟล์จะถูกเก็บไว้ 90 วันนับจากการดาว์นโหลดครั้งสุดท้ายครับ

//www.ziddu.com/download/12533969/IMG_2750.JPG.html

//www.ziddu.com/download/12533970/IMG_2747.JPG.html

//www.ziddu.com/download/12533971/IMG_2746.JPG.html

//www.ziddu.com/download/12533972/IMG_2753.JPG.html

//www.ziddu.com/download/12533973/IMG_2752.JPG.html

//www.ziddu.com/download/12533974/IMG_2744.JPG.html

//www.ziddu.com/download/12533975/IMG_2754.JPG.html

//www.ziddu.com/download/12533976/IMG_2745.JPG.html

//www.ziddu.com/download/12533977/IMG_2743.JPG.html

//www.ziddu.com/download/12533978/IMG_2755.JPG.html

พี่เนตรสุเทพ กล้องดีแต่คนถ่ายไม่มีแรงแบกกล้องถ่ายรูปไปแขนหมดแรงกล้องมันหนักมากจริงๆ รู้งี้ซื้อ Sony NEX5 ดีกว่า

ช่วงนี้ออกงานตลอดยังไม่ได้ส่งซีดีให้ท่านสมศักดิ์เลยแต่ไรท์แผ่นแล้วจะหาเวลารีบส่งนะครับ

กำลังจะโทรศัพท์ถาม หน.ณรงค์ชัย อยู่เชียว
ช่วงนี้พี่ๆ 63 หันไปเอาดีทาง นายช่างภาพ 8 ว เสียแล้วหรือครับ

ท่านประธานครับ
ตอนนี้รุ่นเราก็ค่อนข้างแก่กันเป็นส่วนใหญ่จะพกปืนก็ไม่คล่องตัวและส่วนใหญ่ก็พ้นตำแหน่งปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงกันแล้ว แถมปืนซื้อแล้วจะหาที่ยิงหรือซ้อมก็ลำบากแถมลูกปืนแพงอีก ลงทุนซื้อกล้องถ่ายรูปสักหน่อยไปถ่ายรูปสถานที่ท่องเที่ยวหรือคนสวยๆยิ่งถ่ายยิ่งพัฒนาฝีมือก็จะสนุกกะมันมากขึ้น และค่าใช้จ่ายหลังจากซื้อกล้องมาแล้วครบชุดก็มีน้อยมาก ค่าไฟชาร์ตแบ๊ตกะค่าไฟเปิดคอมพ์เอาไปดู

เรียน หน.ณรงค์ชัย... ใครว่ารุ่นเราแก่ หน.กุ้ง เพิ่งอายุ ๓๐ ต้นๆ เท่านั้น กล้องถ่ายรูปนานๆไป ราคาก็ตกลงแถมมีรุ่นใหม่ๆออกมาอีก แต่ปืนนั้นราคาขึ้นทุกปีๆ แถมขายดีอีกต่างหาก วางไว้นานเท่าไหร่ไฟก็ไม่หมด ไม่ต้องประจุกระแสไฟ ระวังสนิมกับโขมย เท่านั้นครับ
ปล.อย่าลืมส่งภาพให้สมศักดิ์ ด้วยนะ

ผมก็ซื้อกล้องใหม่กับเขาเหมือนกัน อันเก่าหาย อันใหม่เป็นของบอชแอนด์ลอม (อเมริกาแท้ ) แต่เป็นกล้องส่องพระนะ ส่องแล้วไม่ค่อยพลาด

พี่อู๊ด
แต่ถ้าจะส่องผู้ชาย...ต้องใช้กล้องอะไรเหยอ???
เอาแบบไม่พลาด...ด้วยน่ะ

ไปเวียดนามต้องเลื่อนอีกครั้ง ไม่รู้ว่าครั้งต่อไปจะชนกับภูฝอยลมหรือเปล่า

คณะกรรมการกฤษฎีกา ค้านการตั้ง จ.บึงกาฬ เพราะชื่อไม่เหมาะสม การแบ่งและเลือก ส.ส. ส.ว. สับสน และประชาชน อ.เฝ้าไร่ ไม่อยากไปอยู่ด้วย

หน.ณรงค์ชัย...ครับ...ส่งภาพถ่ายให้ หน.สมศักดิ์...หรือยังครับ... ยังรออยู่นะครับ...

จะส่งวันพรุ่งนี้แล้วครับท่านประธาน ไปตจว.เพิ่งกลบมาถึงที่ทำงานเมื่อตะกี้นี้เองครับผม

จะส่งวันพรุ่งนี้แล้วครับท่านประธาน ไปตจว.เพิ่งกลบมาถึงที่ทำงานเมื่อตะกี้นี้เองครับผม

ก็อยู่ ตจว. อยู่แล้ว...ยังจะไป ตจว. อีกหรือครับท่านณรงค์ชัย...

พี่ชนะศึกคิดอย่างไรๆๆๆๆทำไมคิดจะสมัครผู้แทน ๆๆๆไม่อยากเป็นข้าราชการประจำแล้วเหรอ แต่ๆๆๆๆเอางี้ผมช่วยพี่ทั้ง5เสียงกะละกัน ไม่ได้ล้อเล่นนะพี่ เด๋วจะรีบย้ายสำมะโนครัวบรรดาภรรเมียทั้งหมดไปไว้ในเขตเลือกตั้งที่พี่สมัคร จะให้ช่วยหาเสียงก็เอานะพี่อู๊ด แต่หามจับส่องด้วยเลนส์เด็ดขาด ม่ายง้นโกรธตายเลยเพ่

พี่อู๊ด (ชนะศึก)
ทำรัยอ่ะพี่...ทำไม กจ. ไม่รู้เรื่องเลย
ถ้า ก.พ.ค. สั่งยกเลิก...ไม่รู้ด้วยน่ะพี่

ผมก็งง/ เหมือนกัน

หน.ณรงค์ชัย...ครับ ได้รับแผ่นซีดีภาพถ่าย ครั้งที่ 2 แล้วครับ ขอบคุณครับ
แต่โชคร้ายแผ่นแตก...เครื่องไม่อ่านครับ...ครั้งแรกก็ส่งแผ่นผิดไปให้...เฮ้อ...
ผมขออนุญาตไม่รอภาพของท่านแล้วนะครับ...เห็นใจในความพยายามครับ

กำหนดการพบปะสังสรรค์ นอ.63 ครั้งที่ 8 ณ ภูฝอยลม อ.หนองแสง จ.อุดรธานี
10 ธันวาคม 53 คณะชุดแรกเดินทางไปเที่ยวหนองคาย นอนพักค้างหนองคาย
11 ธันวาคม 53 0900 น.ชุดที่1 (ที่แจ้งมาแล้วมี ท่านสมศักดิ์ สน.มน.และครอบครัว ,น้องกุ้งเต้น และคนอื่นๆที่มาทันเวลานี้ เดินทางไปเวียงจันทน์ เที่ยววัดธาตุหลวง วัดพระแก้ว ชอบปิ้งที่ตลาดเช้าและตลาดจีน กลับมาร่วมงานตอนเย็น 16.00 น
ชุดที่ 2 11.00 น ไปช้อบที่ duty free แวะกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เสร็จแล้ว เข้าร่วมงานเย็น
option- เที่ยวชมมรดกโลกบ้านเชียง
ภาคกลางคืน cowboy night
12 ธค. after breakfast สัมผัสวิถีชีวิตคนเมืองอุดรฯ
ขณะนี้มีผู้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมงานจากส่วนกลาง ภาคใต้ และภาคเหนือแล้วจำนวนมาก ท่านที่จะเข้าร่วมงานที่ยังไม่แจ้งชื่อและจำนวนช่วยแจ้งด่วนด้วย เนื่องจากเป็น high season และ long holidays เดี๋ยวจะมีปัญหาเรื่องที่พัก โดยเฉพาะท่านที่มาเป็นครอบครัว

ไปเวียดนามวันที่ 6 - 10 ธันวา
วันที่ 11 ธันวา เจอกันที่ภูฝอยลม ไปทั้งหมด 5 คนครับท่านอู๊ด

ตอนนี้มีภาคอื่นๆแจ้งความจำนงค์เข้าร่วมงานแล้วดังนี้
1.ภาคใต้ 5 คน
2. ภาคเหนือ 8 คน
3. ส่วนกลาง 4 คน
4. อีสานถ้าโคราชและอุบลมาครบก็ถือว่าครบ

กุ้ง ขอไปชุดที่ 2 ที่ไป shopping นะค่ะ ชุดที่ 1 เคยไปแล้วตอนไปหนองคาย