อากาศบ้านเรามันวิปริตขึ้นทุกวันนะ

เห็นใจ ท่าน ป.ใหญ่ อ.ฮอด ครับ ได้ข่าวว่ามี จนท.ของรัฐรู้เห็นเป็นใจกับการเผาด้วย ไม่รู้จริงหรือเท็จ
การปรับเข้าแท่งของข้าราชการ ทำให้ ปค. มีคำสั่งที่ ๑๕-๓๑ หากพี่ๆ เพื่อนๆ โยกย้าย/เปลี่ยนที่รับราชการใหม่ ขอความกุณาแจ้งด้วยครับ เพื่อฝ่ายเลขาฯ จะได้ปรับข้อมูลให้เป็นปัจจุบันในการติดต่อสื่อสารต่อไปครับ

9 มื.ค.52 ผมย้ายมาเป็น หน.ฝ.ความมั่นคง อ.เมืองกาฬสินธุ์คิดถึงพื่น้อง นอ.63 เช่นเดิมยังคงติดต่อสื่อสารเหมือนเดิม

ผมไปขึ้นศาลมาเรียบร้อยแล้ว
ศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 10 เมษายน 2552
ออกได้ทั้งหัวทั้งก้อย
ถ้าแพ้เราก็ต้องอุทธรณ์
ถ้าชนะทางเขาก็อุทธรณ์เหมือนกัน
สงสัยต้องมีไตรภาค
จั๋งซี่มันต้องถอน.....อย่างนี้มันต้องถอน

เงินเดือนขึ้นแน่นะท่านอ้วน
นี่เดือนมีนาคมแล้วยังไม่เห็นมีการประเมินความดีความชอบกันเลย
ตันมาหลายปีแล้ว
รีบ ๆ กันหน่อย
ผู้ว่าผมก็ย้ายไปซะแล้ว
ขึ้นป้ายยังไม่ทันเก่าเลยครับ

หวัดดีทุกท่าครับผมพึ่งกลับมาจากพัทยา รายการโครงการชุมชนพอเพียงได้เจอกับพวกเราหลายท่านสายเหนือที่เห็นมีมานพเจ้าพ่อเมือตากสายอีสานมีหลายคนคือวิมล เฮียอู้ดชนะศึกเห็นว่ามาก่อนแล้วหายไปกับธวัชเห็นว่าไปหาพระกัน เจ้าพ่อพิจิตรเสี่ยเพชรก็มา พี่วีรศักดิ์จากเสิงสางภาคกลางเห็นไพทูรย์มาจากสุพรรณแล้วก็สุรสิทธิ์จากกาญจนบุรี งานนี้จัดโดยปิยพงษ์ แห่งสำนักปกครองท้องที่แต่แล้วก้ไม่ได้สังสรรคืกันเพราะต่างคนมีเวลาน้อยและต่างคนมากับน้องๆในจังหวัดของตนเองต้องดูแลกัน

ใครจะไปงานกาชาดที่สวนอัพพรบ้าง

มันไกลจังเลย
ใครไปก็ฝากรูปมาหน่อยนะ
จะเอาไปลง hi5 ให้ไงล่ะ

ท่านอ้วน
บอกวิธีเอาพยากรณ์อากาศมาลงเว็บให้หน่อย
จะเอาไปลงใน space

สวัสดี....เพื่อน พี่ น้องๆๆ
ขอเข้ามารายงานตัวอีกครั้ง คิดถึงทุกคน

ยินดีมากครับ พี่อดุลย์ ขอให้เข้ามาถี่ ๆ ครับ

ท่านประธานครับ หน่วยงานบางหน่วยเขาเผาหญ้าข้างทาง ทำให้เกิดการเผาป่าครับ
พี่เนตรฯ สู้ๆนะครับ สำหรับการเอาข้อมูลอุตุไปใช้นะครับต้องไปที่เวปกรมอุตุก่อนนะครับ แล้วไปเลือกรายการว่าเราจะใช้ข้อมูลจังหวัดอะไบ้งแล้วจะได้โค๊ดมา เราก็ก๊อปปี้ไปใส่ในสคริป์ของเวปเราครับ

ท่านกำธร ได้มาอยู่ในเมืองแล้วแสดงความยินดีด้วยครับ

ป๋าอดุลย์มาเยี่ยมบ่อยๆนะครับ
เฮียโต สงสัยพาสาวๆไปพัทยาเลยไม่ว่างเจอใครๆ อิอิ

พี่โต ไม่ได้พาสาวเที่ยวหรอก แต่แอบไปดูโชว์รัสเซียครับ

อ้าว...หน่วยงานเขาเผาหญ้าช้างทางหรอกหรือ เลยลามกลายเป็นเผาป่า ทำไมไม่ระวัง คอยดับกันลุกลามล่ะ

ท่านอ้วน
เข้าไปหน้าเว็บกรมอุตุแล้ว
แต่พอก็อบโค้ดมาแปะในเว็บของเรามันไม่แสดงผลเลย
หรือต้องขออนุญาตจากกรมอุตุก่อน

26 - 28 มีนาคม นี้ ไปอบรมที่ ร.ร.เอเซีย มีใตรไปบ้าง ส่วนกลางจัดโปรแกรมพบปะสักมื้อเป็นไง/

อบรมเรื่องอะไร
ยังไม่ได้ข่าวเลย

ไม่รู้เป็นอย่างไร ผมกับพี่ชนะศึก ต้องมีการอบรมตรงกันในเรื่องวัน เวลา แต่แตกต่างกันที่สถานที่อีกแล้วครับ ครั้งที่แล้วพี่มา กทม. แต่ผมไปชลบุรี ครั้งนี้พี่มา กทม. แต่ผมไปนครนายก ครับ ต้องขออภัยอย่างแรงครับที่ไม่อยู่ต้อนรับ

อบรมเรื่องกรรมการหมู่บ้าน ให้นายอำเภอกับปลัดอำเภอที่รับผิดชอบ 1 คนดูเหมือนว่าปิยพงษ์รับผิดชอบไม่ใช่เหรอ? ท่านประธานไม่อยู่ทั้ง 3 วันเลยเหรอ

ผมไป ๑ สัปดาห์ครับพี่ชนะศึกครับ

ผมไม่ได้ไปครับ
ท่านนายอำเภอจะไปกับปลัดน้อย
ปลัดใหญ่ให้อยู่ดูเวรยามอำเภอ

เมื่อตะกี้นี้กดตั้ง 3 ครั้งกว่าจะคอมเมนต์ได้
หน้าเว็บมันบอกว่ามีคนเข้ามาดูมากให้รอสักครู่
น่าจะจริงเพราตัวโชว์สถิติเพิ่งติดตั้งไม่นานมันบอกว่าขณะนี้มีคนเข้าดูแล้วห้าร้อยกว่าครั้ง
แหมเว็บท่านอ้วนเดี๋ยวนี้ติดตลาดน่าดูเลยนะ
ส่วนไอ้ที่แซวใน hi5 นั้นล้อเล่นนะณรงค์ชัย
เดี๋ยวจะส่งเนื้อเพลงที่ชอบไปให้ใน hi5 นะน้อง

ขอความกระจ่างจากผู้รู้ด้วย ตำแหน่งปลัดอำเภอบ้านนอกเดี่ยวนี้เข้าระบบแท่งเรียกชื่ออย่างถูกต้องตามพ.ร.บ.ว่าอย่างไรกันแน่

กลับมาจากอิสานเหนือเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นโครงการของ ก.พ. ที่ให้พวกเราที่ทำงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปพักผ่อนคลายเครียด 7 วัน ที่จังหวัดขอนแก่น,อุดรธานี,นครพนม,ลาว ลักษณะคล้ายกับการดูงานของโรงเรียนนายอำเภอ ม่วนหลายเด้อ....
- ฝากบอกพี่โต ตรวจสอบ พสร. ด้วย ปัตตานีมีชื่อกันแล้ว(พสร.ปี 2550) รวมทั้งกิติเดช,โอฬาร ด้วย
-อยากถาม เจ๊กุ้ง กจ.ว่าเขาจะขยายพสร.เป็น 6 ปี จริงหรือไม่

เรียน ท่าน ขรก. บ้านนอก ได้สอบถามข้อมูลแล้ว ตอนนี้การเรียกชื่อตำแหน่งปลัดอำเภอ มีความแตกต่างไปตามกฎหมายของแต่ละหน่วยงานครับ
ปค. จะใช้ชื่อตำแหน่งในสายการบริหารคือปลัดอำเภอ ตามด้วยชื่อตำแหน่งในสายงาน คือเจ้าพนักงานปกครอง
ส่วน กพ./สร. ใช้เฉพาะชือตำแหน่งในสายงาน คือเจ้าพนักงานปกครอง ไม่มีคำว่าปลัดอำเภอครับ หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะได้นำเรียนเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ต่อไป

ช่วงนี้โชคดีหน่อยครับมีฝนตกภาวะหมอกควันก็หายไป อากาศก็ไม่ร้อน วันก่อนพาชาวบ้านร้อยกว่าคนไปพัฒนาถางหญ้า2ข้างทาง เพื่อทำแนวกันไฟ ได้ปรับภูมิทัศน์ด้วย เมื่อคืนจู่ๆก็ได้รับโทรศัพท์จากหน่วยป้องกันรักษาป่าว่ามีไม้เถื่อนมาขอกำลังอำเภอร่วมจับกุม พอไปถึงแหมยกกันมากว่า50คน มี ผอ.ส่วนมาด้วย บอกว่าเป็นไม้สักแปรรูปมาในรูปแบบของสิ่งประดิษฐ์เข้ามาจากพม่า เห็นว่ารรัฐมนตรีสั่งให้มาจับให้ได้ พอรถไม้มาถึงก็กลายเป็นว่าของทั้งหมดนำเข้าถูกต้องเสียภาษีปากระวางของกรมศุลกากรถูกต้อง ต้องคุยกันตั้งนานถึงได้บางอ้อว่า กฎหมายป่าไม้ของไทยเรานั้นบังคับใช้เฉพาะไม้ที่เกิดหรือปลูกในราชอาณาจักรเท่านั้น ไม้จากต่างประเทศไม่ถือว่าเป็นไม้หวงห้าม หากนำเข้าถูกต้องก็เปรียบเสมือนสินค้าชนิดหนึ่งเท่านั้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่มีอำนาจจั่บกุม มีคำพิพากษาศาลอาญา และศาลปกครองมาแล้วครับ คำสั่งของเจ้าหน้าที่หรือคำสั่งทางปกครองที่ออกโดยจังหวัด ขัดกับกฎหมายพ.รบ.ศุลกากร และกฎหมายนำเข้าส่งออก ผู้ว่าต้องยกเลิกคำสั่งและคุยไปคุยมาลึกๆเป็นเรื่องการเมืองระดับชาติ ของพรรคร่วมรัฐบาล เจ้านี้ ปชป.หนุนหลัง ต้องการให้เปิดการนำเข้าไม้ให้ถูกต้องตามพรมแดนไทย-พม่าตั้งแต่ระนอง ชุมพร ประจวบ ราชบุรี กาญจนบุรี ตาก เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ซึ่งจะเป็นฐานสนับสนุนการเมืองมหาศาล ดีนะไม่ผลีผลามจับกุม เพราะทางนั้นก็เตรียมกล้องวีดีโอ กล้องถ่ายรูป ไล่ถ่ายเจ้าหน้าที่ทั้งหมด เกือบตกเป็นเครื่องมือนักการเมืองไปซะแล้วเรา เลยมาเล่าให้พี่ๆเพื่อนทราบไว้นะครับ ผมไปขอเอกสารเขามาไว้ศึกษาแล้วครับ

อ้าว/ มาอุดรฯแล้วไม่เห็นบอกเลย

ชอบคุณมากป๋าอดุลย์

หน.ณรงค์ชัยฯ ครับไม้ของท่าน เหมือนไม้แม่ฮ่องสอนใหมครับ

เรียนท่านประธาน เจ้าเดียวกันเลยครับผม ประเด็นมีอยู่อย่างเดียวว่าไม้นั้นเป็นไม้ต่างประเทศตามที่เขาอ้างจริงหรือไม่ ถ้าจริงก็ไม่ผิด แต่ถ้ามีการสวมโสร่งข้ามมาก็ผิดครับ ผมก็ไปกักรถเขาไว้ 3 ชม. โดนด่าไปเยอะสั่งลูกน้องอย่าไปทะเลาะด้วย ก็ค่อยๆคุยกันไปครับ ถ้าเป็นไม้ต่างประเทศไม่เข้าข่ายกฎหมายป่าไม้เมืองไทยครับ แสดงว่าหลังจากที่ผ่านไปรอบนึงแล้วเขาเข้าไปเอาไม้มาอีกรอบแต่อย่างว่าเรื่องนี้มีพรรคการเมืองหนุนคนละพรรคแต่ฐบาลเดียวกันครับ

เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับป่าไม้ ยึดไม้สักนำเข้าจากพม่า นำมาตรวจสอบที่โรงพัก ตั้งข้อหานำเข้าโดยผิดกฎหมาย หลังพ่อค้าไม้ยื้อไม่ยอมให้ยึดไม้ดังกล่าวเป็นเวลากว่า 16 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่เผยหากสอบสวนแล้วเสร็จอาจจะโยงไปถึงเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่รับเสียภาษีโดยมิชอบต่อไป

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 29 มี.ค. 2552 พ.ต.อ.ชัชวาลย์ วชิรปราณีกูล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมด้วย พ.ต.อ.สุริยงค์ วุฒิ ผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน และ นายนายอภิรัฐ นพคุณ หัวหน้าศูนย์ประสานจัดการทรัพยากรป่าไม้ พื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกันตรวจยึดไม้สักแปรรูปที่นำเข้าจากพม่า จำนวน 5,534 แผ่น โดยทางเจ้าหน้าที่ได้นำรถบรรทุก , รถยก , รถกักขังผู้ต้องหา และ รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก ทำการขนถ่ายไม้สักทั้งหมด จากรถโดยสารประจำทาง ( รถเหลือง ) และนำมาเก็บไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน โดยก่อนหน้าที่จะมีการนำของกลางทั้งหมดมาที่โรงพัก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องอ่านหนังสือในใบตรวจยึดของเจ้าหน้าที่ให้แก่เจ้าของไม้ เป็นราย ๆ ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง

สำหรับการตรวจยึดไม้ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าทำการสกัดกั้นและขอตรวจสอบไม้ จากนายสุจินต์ ชาติศิริโสภณ ซึ่งเป็นเจ้าของไม้ทั้งหมด โดยได้แจ้งแก่นายสุจินต์ ฯ ว่าจะขอให้เจ้าของรถโดยสาร นำรถพร้อมไม้ของกลางทั้งหมด ไปตรวจสอบที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน แต่นายสุจินต์ ฯ ไม่ยินยอมและท้าทายเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่าจะติดคุก หากจับไม้ของตนเอง และอ้างคณะกรรมาธิการรัฐสภา มาข่มขู่ ผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ตลอดทั้งคืน ซึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามใช้ความนุ่มนวลในการเจรจา ตั้งแต่เวลา 18.00 น.วันที่ 28 มี.ค. 2552 ไปจนถึงเวลา 10.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ( วันที่ 29 ) ทางนายสุจินต์ ชาติศิริโสภณ เสี่ยเจ้าของไม้ดังกล่าว จึงยินยอมให้เจ้าหน้าที่ยึดไม้สักแปรรูปทั้งหมด ไปตรวจสอบที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน

อนึ่งจากการเปิดเผยของทีมงานกลุ่มนักธุรกิจไม้ระบุว่า ไม้ทั้งหมด หากนำส่งถึง กทม.จะมีราคาประมาณ 3 ล้านบาท โดยทางกลุ่มพ่อค้ามีการลงทุนเพียงไม่เกิน 1 ล้านบาทเท่านั้น

พ.ต.อ.ชัชวาลย์ วชิรปราณีกูล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า การยึดไม้สักแปรรูปดังกล่าว ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในครั้งนี้ มาจากสาเหตุที่ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่า การนำเข้าไม้ดังกล่าว เป็นการนำเข้าโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้จากการตรวจสอบ พบว่า กลุ่มราษฎรที่มีรายชื่อในการเสียภาษีปากระวางต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร จำนวน ทั้งหมด 34 ราย ไม่ได้เดินทางเข้าไปในประเทศพม่า ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน จะทำการสอบปากคำเจ้าของไม้ทั้ง 34 ราย และ รวมไปถึง เจ้าของรถโดยสารประจำทางทั้ง 17 คัน ทั้งนี้หากการสอบปากคำพบว่า บุคคลที่ได้มีการเสียภาษีปากระวางต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ไม่ได้เดินทางออกไปนอกประเทศ แล้ว ทางตำรวจจะทำการสอบสวนขยายผล ไปถึงเจ้าหน้าที่ศุลกากรจังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าสามารถออกใบกำกับภาษีปากระวาง และรับชำระภาษีจากบุคคลทั้ง 34 คน ได้โดยชอบหรือไม่ และ มีส่วนในการร่วมมือกับพ่อค้าไม้ ในการนำเข้าไม้จากพม่า หรือไม่ ประการใด

แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองแห่งความมั่นคง ระบุว่า การนำเข้าไม้ดังกล่าว เป็นการนำเข้าโดยมิชอบ และ มีการซิกแซก ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่าวนเกี่ยวข้อง กับพ่อค้าไม้ ในการร่วมมือกัน นำเข้าไม้จากพม่าโดยอ้างระเบียบว่าด้วยกฎหมายของกรมศุลกากร โดยมิได้ นำพาต่อประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการนำเข้าสินค้า เข้ามาในราชอาณาจักร ( ฉบับที่ 92 ) ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 109 ตอนที่ 153 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2535 ของกระทรวงพาณิชย์ เรื่องการนำเข้าสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้ หรือสิ่งอื่นใดที่ทำด้วยไม้ ซึ่งนำเข้าทางด่านศุลกากร ที่กระทรวงพาณิชย์ จะกำหนดไว้ในระเบียบ เป็นสินค้าที่ต้องมีใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า หรือมีหลักฐานการอนุญาตให้มีการส่งออก ของประเทศที่ส่งออก แสดงต่อกรมศุลกากรประกอบพิธีการนำเข้ามาในราชอาณาจักร

นอกจากนั้นการพยายามเลี่ยงกฎหมายของกลุ่มนักธุรกิจค้าไม้ ที่นำเข้าโดยอาศัยระเบียบของกรมศุลกากร ในการนำเข้าสิ่งประดิษฐ์ในลักษณะสินค้าที่ไม่ต้องแสดงใบรับรองถิ่นกำเนิด ตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ ทำให้เกิดการลักลอบตัดไม้ในเขตไทย เข้าไปสวมกับไม้พม่า ทำให้ก่อเกิดการลอบตัดไม้ทำลายป่าของไทยและส่งผลกระทบต่อประเทศโดยตรง

ล่าสุดเมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 28 มี.ค. 2552 ( เมื่อคืนที่ผ่านมา ) เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง ได้รับรายงานมาว่า ได้มีกลุ่มบุคคล ลักลอบนำเข้าไม้จากพม่า เข้ามาในไทย โดยผ่านช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน โดยมีการลำเลียงไม้สักแปรรูป เข้ามาจำนวน 2 คันรถ ขณะที่ทาง พ.ต.ท.พนัส สายทอง หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรน้ำเพียงดิน ยืนยันว่า ได้รับรายงานดังกล่าวเช่นกัน และ กำลังให้ชุดสืบสวนของ สภ.น้ำเพียงดิน ทำการสืบสวนในทางลับว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าว เป็นกลุ่มนักธุรกิจไม้พม่ากลุ่มใด ซึ่งหากพบว่ามีหลักฐาน ก็จะทำการจับกุมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้กำกับเมืองสามหมอกนำกำลังตำรวจ และ นปพ.เข้าจับกุมไม้อิทธิพลของพ่อค้าไม้ มีการต่อรองนานแต่เจ้าหน้าที่ ตำรวจไม่ยอมอ่อนข้อให้หวิดวางมวยใส่กัน ตำรวจต้องเรียกกำลังเสริมจากต่างอำเภอ เพื่อกดดันพ่อค้าไม้และต้องยึดไม้ให้ได้ ด้านพ่อค้าไม้ไม่ยอมปลุกลูกทีมไม่ให้ความ
ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ล่าสุดยื้อกันทั้งคืนจนถึงรุ่งเช้า

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 28 มี.ค.52 พ.ต.อ.สุริยงค์ วุฒิ ผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวนกว่า 20 นาย เข้าทำการสกัดกั้นและจับกุมเจ้าของรถบรรทุกไม้ จำนวน 17 คัน พร้อมไม้สักแปรรูป จำนวน 5,534 แผ่น บริเวณด่าน ช่องทางบ้านห้วยผึ้ง ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

ซึ่งจากการเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในครั้งนี้พบว่า สร้างความไม่พอใจให้แก่ นายสุจินต์ ชาติศิริโสภณ เจ้าของไม้ที่นำเข้ามาจากพม่าเป็นอย่างยิ่ง จนถึงขั้นท้ายิงกับ ผกก.สภ.เมือง แต่ทางตำรวจนิ่งเฉย โดยทางฝ่ายนักธุรกิจไม้ ได้มีการให้นักการเมือง ทำการโฟนอินยัง ผกก. เพื่อขอให้มีการเปิดทางให้มีการนำเข้าไม้ดังกล่าวจากพม่า

ทางด้าน ผกก.ระบุว่า การนำเข้าดังกล่าว เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย คือ ผู้ที่มีรายชื่อในการนำเข้าไม้จากพม่า จากการตรวจสอบพบว่า ไม่ได้เดินทาง ออกนอกประเทศเพื่อไปซื้อไม้และนำเข้าแต่อย่างใด โดยพบว่ามีการร่วมมือระหว่าง เจ้าหน้าที่ศุลกากรกับพ่อค้าไม้ เอารายชื่อประชาชนในเขตพื้นที่ อ.เมือง ไปยื่นขอเสียภาษีต่อศุลกากร ส่วนไม้นั้นได้มีพ่อค้าพม่า เป็นผู้นำเข้ามาส่งให้กับพ่อค้า คนไทยในเขตไทยเอง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งให้กับพ่อค้าไม้ ว่าขอนำยานพาหนะ พร้อมคนขับไปทำการสอบปากคำ ที่สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน แต่กลุ่มพ่อค้าไม้ไม่ยอม และใช้รถปิดถนนเพื่อกันไม่ให้เจ้าหน้าที่นำรถบรรทุกพร้อมไม้สักแปรรูป จำนวน 17 คัน ออกจากที่เกิดเหตุ และล่าสุดเวลา 22.10 น. ทั้งสองฝ่ายยังตกลงไม่ได้ และสถานการณ์เริ่มตึงเครียดมากยิ่งขึ้น

คืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน และสภ.เมืองแม่ฮ่องสอน เข้าทำการจับกุมไม้สักแปรรูปที่นำเข้าจากพม่า ของ นายสุจินต์ ชาติศิริโสภณ เจ้าของบริษัท บางกอกราชา อุตสาหกรรมไม้ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วยไม้สักแปรรูป จำนวน 5,534 แผ่น พร้อมด้วยรถบรรทุกสองแถวอีก 17 คัน ที่บรรทุกไม้สักดังกล่าว และรวมไปถึงเจ้าของไม้ที่อ้างว่าได้เดินทางออกนอกประเทศไปซื้อไม้สัก อีก 34 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้พยายามขอทำการตรวจสอบไม้และสอบปากคำ เจ้าของไม้ทั้ง 34 ราย เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าได้เข้าไปในพม่าเพื่อซื้อไม้สักทองมาจริงหรือไม่ แต่ปรากฏว่า นายสุจินต์ เจ้าของไม้ ไม่ยินยอมและปลุกระดมเจ้าของรถพร้อมด้วยราษฎรที่มีชื่อในการเสียภาษีให้กับด่านศุลกากร ไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ พร้อมทั้งนำรถปิกอัพส่วนตัวมาจอดปิดทางไม่ให้เจ้าหน้าที่ลำเลียงไม้และรถออกจากที่เกิดเหตุ บริเวณจุดตรวจร่วมห้วงผึ้ง บ้านทรายขาว ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เรียกรถยกมาเตรียมพร้อมเพื่อทำการยกรถที่ปิดทางเข้า-ออก เพื่อทำการจับกุมไม้ทั้งหมดให้ได้

ล่าสุดเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 29 มี.ค.52 พล.ต.ต.ชลิต กิ่งเนตร ผบก.ตำรวจ ภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ออกคำสั่งเรียกกำลังตำรวจ จากสถานีตำรวจภูธร แม่สะเรียง, แม่ลาน้อย, ขุนยวม, ปางมะผ้า เข้าไปสมทบกับตำรวจที่กำลังตรึงกำลัง บริเวณจุดเกิดเหตุ บ้านทรายขาว ต.ห้วยผา อ.เมือง โดยมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกนาย ให้ทำการยึดไม้ที่บรรทุกอยู่ในรถสองแถวทุกคันให้ได้ และหากใครขัดขวาง ให้แจ้งขอหา ขัดขืนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อีก 1 กระทง ทั้งนี้ทางตำรวจได้มุ่งประเด็นไปที่ การแจ้งความเท็จ ของกลุ่มราษฎรที่มีรายชื่อในใบเสียภาษีปากระวาง ของศุลกากรจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ว่าได้เดินทางออกไปนอกประเทศ และซื้อสินค้าติดตัวมาเพื่อไว้ใช้สอยส่วนตัว แต่ข้อเท็จจริงพบว่า กลุ่มราษฎรที่มีรายชื่อ ทั้ง 34 ราย ไม่ได้เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรแต่ประการใด โดยทุกคนจะถูกตั้งข้อหาแจ้งความเท็จ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ทำการออกใบเสร็จเสียภาษีปากระวางดังกล่าว ที่อาจจะต้องมีความผิด ในการออกเอกสารที่มิชอบด้วยกฎหมายอีกด้วย

ขอบคุณครับ หน.ณรงค์ชัย ที่ให้ข้อมูลมาเยอะแยะ เป็นความรู้ให้แก่สมาชิกและผู้สนใจทั่วไปครับ

ขอบคุณมากท่านอ้วนที่ส่งเรื่องนี้มาให้อ่านเรื่องนี้พวกเรามักจะไม่ค่อยรู้กันในส่วนที่เกี่ยวกับฏหมายของศุลการ(แม้แต่กฏหมายของป่าไม้พวกเราก็รู้กันน้อย)