ไปเที่ยวเมืองเชียงรุ้ง เมืองที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของไทย
เส้นทางที่เราใช้เดินทางไปเมืองเชียงรุ้งคือ หมอชิต-เชียงของ-ห้วยทราย-หลวงน้ำทา-บ่อเต็น-บ่อหาน-เมืองลา-เชียงรุ้งเรานั่งรถทัวร์ ป.1 จากหมอชิตมาลงที่เชียงของ จ.เชียงราย แล้วนั่งเรือข้ามฝั่งไป สปป.ลาว ที่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ต่อรถสองแถวไปลงที่ท่ารถ บขส.เมืองห้วยทราย เพื่อนั่งรถประจำทางไปลงที่หลวงน้ำทารถเมล์คันนี้แหละครับที่จะพาเราไปหลวงน้ำทา เพื่อต่อรถไปบ่อเต็น โทรมดีจัง ค่ารถคนละ สองร้อยกว่าบาทบขส.ที่เมืองหลวงน้ำทา เราเกือบลงรถที่นี่แล้วเพราะเห็นคนลงเยอะมาก กระเป็ารถบอกว่ายังไม่ถึง รถวิ่งไปอีกหน่อยนึง พอถึงสามแยกๆ นึงไปบ่อเต็น อีกแยกไปหลวงพระบางก็ลงตรงแยก สังเกตว่าจะมีคนจีนที่นั่งมาในรถลงที่แยกนี้ แล้วนั่งต่อรถสองแถวไปอีกก็ถึงเมืองบ่อเต็นถึงบ่อเต็น ห้าโมงเย็นพอดี ตำรวจที่ด่านบอกด่านปิด ห้ามข้าม แต่คนจีนที่นั่งสองแถวมาด้วยกันข้ามไปได้ เราถามว่าทำไมคนจีนข้ามได้ เค้าบอกว่าพวกนี้กลับบ้านเจ้าหน้าที่ด่านจีนให้เข้าได้เฉพาะคนจีน(ฝั่งลาวบ่มีปัญหา)คืนนี้เราเลยต้องนอนที่นี่ นี่แหละโรงแรมที่เรานอน โรงแรมดีมากยังใหม่ แต่บริการค่อนข้างแย่ ไม่มีสิทธิเลือกเพราะเป็นโรงแรมเดียวที่บ่อเต็นเมืองบ่อเต็นนี้เป็นเมืองที่จีน เช่าจากลาว แบบว่าลาวก็ไม่ค่อยเต็มใจให้เช่าเท่าไรนัก ที่เมืองนี้มีบ่อนผมไปเดินเล่นมาแล้ว และมีคนจีนอยู่เต็มไปหมด มากกว่าคนลาวอีก ดึกๆ สาวจีนแต่งตัวสวยๆ เดินเต็มเมืองเลย(ไม่รู้เดินทำอะไรกัน)ระหว่างด่านลาวที่บ่อเต็นกับด่านจีนที่บ่อหาน ห่างกันเกือบ 2 กม. ระหว่างทางมีหลักเขตแบ่งแยกระหว่าง จีนกับลาว ด้านนี้ของหลักเป็นของลาว ช่วงนี้ใครนั่งสองแถวไม่ได้เห็นหลักแบ่งเขตนะ ด้านนี้เป็นของจีนบ่อหาน ที่นี่เรานั่งรถเมล์ต่อไปยังเมืองลา ค่ารถคนละ 17 หยวนเมืองลาครับ จากนี่ต้องเดินไปที่ท่ารถ บขส.เพื่อจะต่อรถเมล์ไปยังเมืองเชียงรุ่งครับ ค่ารถระหว่างเมืองลา-เชียงรุ้ง 34 หยวน รถเมล์ในเมืองจีนนี่ดีมากติดแอร์ทุกคัน แล้วก็ไม่มีการยืนทุกคนมีที่นั่งหมดถึงเมืองเชียงรุ้งแล้วครับ สะพานข้ามแม่น้ำที่เห็นเล็กๆ ในรูปคือสะพานที่ตอนดึกๆ จะมีคนมาเดินเล่นมาก จะมีการเล่นสีไฟด้วย หลายคนคงเคยเห็นในรูปที่เค้าชอบถ่ายกันมาให้ดู ด้านขวาของรูปคือเมืองเชียงรุ้ง แม่น้ำที่เรากำลังข้ามคือแม่น้ำโขงรถเมล์มาสุดทางที่นี่ร้านค้าที่เมืองเชียงรุ้ง เมืองนี้ค่อนข้างสะอาดและเจริญพอสมควร ดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลยโรงแรมนี้มีชื่อเป็นภาษาไทยด้วย แต่คนในโรงแรมพูดไทยไม่ได้เลยครับดึกๆ เรามาเดินเล่นที่นี่ อันนี้เป็น Night Market ของเมืองเชียงรุ้ง ได้ยินมาว่ามี 2 ที่แต่เราหาอีกที่ไม่เจออันนี้เป็นน้ำเต้าหุ้ครับ ไม่ค่อยหวานเหมือนบ้านเรา เขาทำมาแบบสำเร็จรูปเลยอาหารเช้าครับ กินได้แบบจืดๆชนพื้นเมืองเดิมของสิบสองปันนา(รวมทั้งเชียงรุ้งด้วย)คือคนไทยลื้อ ภาษาพูดฟังกันรู้เรื่องสื่อสารกันได้ แต่ภาษาเขียนไม่เหมือนภาษาไทย แต่ปัจจุบันพวกนี้ไม่ค่อยอาศัยในเมือง ผมเจอที่เมืองเชียงรุ้งไม่มากพวกนี้จะทำงานระดับล่างหน่อย เช่น ขายของตามข้างถนน แต่ยังมีหมู่บ้านที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้สำหรับคนไทยลื้อ ทุกคนมาที่นี่ต้องไปเที่ยวคือ กาหลั่นป๋า ที่นี่จีนสนับสนุนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว กาหลั่นป๋า ห่างจากเชียงรุ้ง 27 กม. ผมนั่งรถเมล์จากท่ารถตามรูปด้านบน ค่าโดยสารประมาณ 10 หยวน ตามรูปเป็นอูฐตัวเก่งที่กาหลั่นป๋าค่าบัตรเข้ากาหลั่นป๋าแพงพอควร 100 หยวน อันนี้เป็นลานน้ำสำหรับการแสดงกลางแจ้งเด็กสาวน้อยคนนี้เป็นคนไทยลื้อ ขาวเหมือนคนจีนเลยสถาปัตยกรรมบ้านของไทยลื้อคล้ายกับบ้านเราคือบ้าน 2 ชั้นๆ ล่างเป็นลานไว้เก็บของ คนอยู่ชั้นบน บ้านสร้างเหมือนไว้ป้องกันน้ำท่วมวัดพุทธที่กาหลั่นป๋าชื่อ วัดสวนม่อน ซึ่งหมายถึงสวนดอกไม้ วัดแห่งนี้มีอายุเก่าแก่กว่า 1,400 ปี มีการซ่อมแซมครั้งใหญ่ถึง 6 ครั้ง อายุมากกว่าชาติไทยอีกนะเนี่ยสภาพภายในบ้านของคนไทยลื้อ ผมมีโอกาสทานข้าวที่บ้านคนไทยลื้อด้วย โต๊ะแรกเป็นของผม อีกโต๊ะของคนเกาหลีการแสดงกลางแจ้งของไทยลื้อ การแสดงที่นี่ดูฟรีทั้งหมด สาวๆ ไทยลื้อนี่สวยมากนะครับหน้าตาคล้ายคนไทยแต่ขาวเหมือนคนจีน แต่งตัวโชว์สะดือทุกคนจบการแสดงกลางแจ้งก็ต่อด้วยการแสดงบนเวที อลังการงานสร้างมากครับ สาวๆ มาโชว์กันหลายร้อยคนเลยนั่งรถกลับเมืองเชียงรุ้งที่นี่เลยอันนี้เป็นวัดพุทธ ที่เมืองเชียงรุ้งนี่มี 2 วัดไม่ห่างกันเท่าไหร่อยู่บนถนนเดียวกัน บนถนนนี้มีร้านอาหารไทย ชื่อร้านชัยชวนชิม เด็กในร้านพูดไทยได้ทุกคนส่วนมากเป็นคนไทยลื้อ อร่อยมากครับผมใช้บริการอยู่หลายมื้อขากลับก็ย้อนกลับทางเดิม เพียงแต่ช่วงจากหลวงน้ำทาไปห้วยทราย ใช้เหมารถเอา รถคันนี้แหละครับขอบคุณที่เข้ามาอ่าน
อับเดทบล๊อกตอนเที่ยงพอดีเลย ทานข้าวให้อร่อยนะครับ