Peace be with us all ^^
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
21 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 

จิตวิญญาณลูกพระอาทิตย์กับวิกฤตการณ์สึนามิ จากสังคมญี่ปุ่นถึงสังคมไทย

11 มีนาคม 2554 แผ่นดินไหวทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู
คลื่นสึนามิสูงสิบเมตรซัดจังหวัดฟุกุชิม่าและมิยางิ
ผู้เสียชีวิตนับพัน สูญหายนับหมื่น ไร้บ้านนับแสน
หมู่บ้านถูกคลื่นกลืนราบ บ้านเรือนพังยับ รถยนต์ลอยเป็นแพ
โรงงานนิวเคลียร์ระเบิด สารกัมมันตภาพรังสีรั่ว
การคมนาคมสื่อสารสาหัส สาธารณูปโภควิกฤต

แต่สิ่งที่ทำให้คนทั่วโลกตะลึงกลับไม่ใช่ตัวเลขความเสียหาย
หากคือความมีน้ำใจและความมีระเบียบวินัยของคนญี่ปุ่น
ผู้คนยืนต่อแถวยาวเหยียดหน้าร้านสะดวกซื้อ
และเข้าแถวรอรับเครื่องอุปโภค บริโภค
ความสามัคคี ความเสียสละ ความอดทน
รอยยิ้ม ความหวัง กำลังใจ

ญี่ปุ่นสร้างคนของเขาขึ้นมาอย่างไร?
เป็นคำถามที่คาใจใครหลายคน
「和を持って尊し」(wa wo motte toutosi)
เพื่อนชาวญี่ปุ่นตอบเช่นนั้น
มันหมายถึง 'การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว'
'การรวมพลังกันทั้งชาติเพื่อทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง'

ญี่ปุ่นมีความเป็นสัตว์สังคมสูง
การไม่ตื่นตระหนก ไม่แสดงอาการหวั่นไหว
การรักษาระเบียบวินัย กำลังใจ และรอยยิ้ม
ในสภาพที่ลำบากแสนสาหัสเช่นนี้
คือความรับผิดชอบที่มีต่อผู้อื่น
(หากใครแตกตื่นจะสร้างภาระให้กับผู้อื่น
ยิ่งไปกว่านั้นอาจถูกมองว่าเป็นตัวประหลาด)

แน่นอนว่าสำนึกนี้ไม่ได้มีแต่ข้อดี
การรวมกลุ่ม ย่อมหมายถึงการกีดกันพวกที่แตกต่างจากตัวเอง
(ในภาษาญี่ปุ่นเรียกการแบ่งแยกว่า「差別」- sabetsu)
นั่นคือที่มาของรวมกลุ่มกันรังแกในโรงเรียน
จนมีเด็กฆ่าตัวตายแทบทุกปี (และบางทีครูใหญ่ก็ฆ่าตัวตายตาม)
แม้แต่ในที่ทำงาน คนที่ไม่ยอมไปกินเหล้ากับเพื่อนฝูง
(การไปกินเหล้าหลังเลิกงานเรียกว่า「飲み会」- nomikai)
ก็จะถูกกลั่นแกล้งสารพัด ไม่ว่าจะทำยอดได้สูงแค่ไหน

เพื่อนชาวญี่ปุ่นบอกว่าการรังแกนั่นก็มาจาก
จิตวิญญาณของ “การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว” เช่นกัน
เหมือนประชดแต่จริง...

บ่อยครั้งการรังแกก็เกิดขึ้นเพราะ
คนรังแกไม่อยากเป็นฝ่ายถูกรังแกจึงต้องชิงลงมือก่อน
และก็ไม่มีใครกล้าปกป้องคนที่ถูกรังแก (เพราะกลัวโดนแกล้งด้วย)

เพื่อนชาวญี่ปุ่นอีกคนบอกว่ามันเป็นพิธีกรรมที่เด็ก ๆ ต้องผ่านเพื่อเป็นผู้ใหญ่
แทบจะหนึ่งในสามก็ว่าได้ จนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

ที่ผมยกด้านดีและด้านร้ายมาพูดก็เพราะอยากให้พี่ไทยได้คิดบ้าง
ในแง่หนึ่งคนญี่ปุ่นไม่ได้มีมโนธรรมสูงส่งลึกล้ำกว่าคนไทย
เพื่อนผมแต่งงานกับชายชาวญี่ปุ่น บอกให้สามีเลิกเหล้า
เขาก็ไม่รู้จักศีล 5 ไม่รู้จักการเจริญสติ (เพื่อให้รู้ว่าอะไรเป็นโทษ อะไรเป็นประโยชน์)

มองย้อนกลับไป ประเทศญี่ปุ่นมีหิมะ ภูเขาไฟ แผ่นดินไหว สำนามิ
ภูมิประเทศเป็นเกาะ ทรัพยากรน้อยกว่าไทย ที่ราบลุ่มน้อยกว่าไทย
ต้องออกทะเลหาปลา เจอคลื่นลมแรง ทะเลแปรปรวน
หากขาดความสามัคคีและระเบียบวินัยคงรอดยาก

ส่วนชุมชนไทย อาศัยอยู่กับแม่น้ำ เพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี
ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ใครใคร่ค้าม้าค้า ใครใคร่ค้าช้างค้า
อุดมสมบูรณ์ แทบไม่มีภัยธรรมชาติให้กังวล

หากจะมีคุณธรรมข้อใดที่คนญี่ปุ่นเหนือกว่าพี่ไทยก็แค่
“ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม” กับ “การไม่สำออยเท่านั้นเอง”
(การมีระเบียบวินัยเองก็รวมอยู่ในข้อแรก)

คนญี่ปุ่นสิ้นหวังกับการเมือง แต่เขาเชื่อว่าถ้าสามัคคีแล้วชาติจะรอด
คนไทยอินกับการเมือง ทะเลาะกันเพื่อ ใครก็ไม่รู้ที่ไม่ใช่ญาติตัวเอง

คนญี่ปุ่นเจอสึนามิแต่ยังมีความหวังกำลังใจว่าจะผ่านพ้นไปได้
คนไทยดูข่าวสึนามิแล้วตีโพยตีพายว่าโลกจะแตก

จีน เฮติ นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เจอวิกฤตจากภัยพิบัติธรรมชาติ
พี่ไทยอยู่สบายไป กลัวชาติอื่นอิจฉา จึงมีวิกฤตศีลธรรมแทน
ธรรมชาติช่างจัดสรรได้ยุติธรรมดีแท้...

แต่ถึงยังผมก็ยังชอบเมืองไทยอยู่นั่นเอง
เพราะความไม่คิดมาก ความช่างเห็นอกเห็นใจของคนไทย
เมื่อไม่นานมานี้ มีอาจารย์ชาวญี่ปุ่นมาจัดสัมมนาในเมืองไทย
เขาพูดขอบคุณน้ำใจชาวไทยด้วยความซาบซึ้งน้ำตาคลอ
บอกว่าไม่ว่าไปที่ไหนก็เห็นการรณรงค์เพื่อบริจาคเงินช่วยเหลือชาวญี่ปุ่น

เมื่อ 7 ปีก่อน (2004) ตอนเกิดสึนามิที่ภาคใต้
คนไทยจากทั่วทุกสารทิศสะเทือนใจ หลายคนบริจาคสิ่งของเงินทอง บ้างอาสาลงใต้
ทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ อดหลับอดนอน
ช่วยเหลือเกื้อกูล ไม่เลือกคนไทย คนต่างชาติ
สร้างความประทับใจให้นานาประเทศ

เมื่อปีที่แล้ว ธารน้ำใจจากคนไทยทั้งชาติ
ก็หลั่งไหลไปยังภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางตอนบน เพื่อช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
(ทั้งที่ตอนกลางปีเพิ่งทะเลาะกันจะเป็นจะตาย)

จะแตกแยกกันยังไง ความขี้สงสารก็หลงเหลืออยู่ในสันดานคนไทยวันยังค่ำ
การเมือง ประวัติศาสตร์ เรื่องส่วนตัว เรื่องส่วนรวม
บางทีก็จำได้ บางทีก็จำไม่ได้ บางก็ทำเป็นจำไม่ได้ เดาใจไม่ถูก
ผมว่าในโลกนี้คงไม่มีชาติไหนมีเสน่ห์เท่ากับพี่ไทยอีกแล้วล่ะ...

คนญี่ปุ่นบอกว่า ไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าไร เขาก็จะต้องฟื้นฟูประเทศให้กลับสู่สภาพเดิม
(บางคนประมาณไว้ว่าไม่เกิน 2 ปีด้วยซ้ำ)
ผมเองก็หวังว่าวันหนึ่ง พี่ไทยก็จะกลับสู่บ้านเมืองที่เกลื่อนด้วยรอยยิ้ม ผู้คนโอบอ้อมอารีเช่นกัน...

ไม่ว่าใครจะว่ายังไงเราก็ต้องมีความหวังไว้ใช่ไหมล่ะ :)




 

Create Date : 21 มีนาคม 2554
1 comments
Last Update : 21 มีนาคม 2554 17:16:36 น.
Counter : 565 Pageviews.

 

อนุโมทนาสาธุครับ ( มีเนื้อเพลงว่า heiwa yoo no naka ja nai )

 

โดย: shadee829 26 มิถุนายน 2554 11:30:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทาสแมวระดับบียอนด์แพลทินัม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทาสแมวระดับบียอนด์แพลทินัม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.