Bloggang.com : Mrs. Pique แฟนหนูอยู่สเปน : ความผูกพัน , ช่วงเวลาดีดีในชีวิต กับเพลงของสาวน้อย Taylor Swift

ความผูกพัน , ช่วงเวลาดีดีในชีวิต กับเพลงของสาวน้อย Taylor Swift

วันนี้รู้สึกแปลก ๆ ^^ รู้สึกอย่างไงบอกไม่ถูกสิ รู้แต่ว่า กำลังฟังเพลง ซ้ำไปซ้ำมากับศิลปินคนเดิมที่เรารู้ตัวอีกที ก็ฟังเพลงของเธอคนนี้มาหลายปีแล้วสิ

Taylor Swift ไม่เคยรู้จักและไม่เคยคิดว่าจะอยากฟังเพลงคันทรี่เลยด้วยซ้ำ เพลงแรกที่ได้ยินคือ Our song ฟังครั้งแรกไม่เคยเห็นหน้าตาคนร้อง รู้แต่ว่าชอบเสียงผู้หญิงคนนี้มาก มาเห็นหน้าเธอจริง ๆ ตอนที่มีข่าวว่างาน Mtv เธอถูก คานเย่ เวส แย่งไมค์ และต่อวว่าว่าเธอไม่ควรได้รับรางวัลนี้ มันควรจะเป็นของ บียอนเซ่ มันก็ทำให้เราเริ่มสนใจในตัวของผู้หญิงคนนี้มากขึ้น ... และค่อย ๆ ฟังเพลงไปเรื่อย ๆ แต่ละเพลง แต่ละเพลง ฟังไปแบบไม่รู้ความหมาย จำได้ว่า เพลงแรกที่ค้นเจอความหมายคือเพลง Teardrop on my Guitar อ่านเจอจากบล๊อคของพี่คนหนึ่งในพันทิป แล้วรู้สึกว่าเพลงนี้มันช่างตรงอะไรกับชีวิตแบบนี้ จำได้ว่าใช้ท่อน He's the reason for the teardrop on my Guitar ขึ้นที่หัว Msn อยู่นานเลยทีเดียว จนหลายคนสงสัยว่า ทำไมน้ำตาต้องหยดลงบนกีต้าร์ ^^ มันก็แค่เพลง ๆ หนึ่ง มารู้ทีหลังว่าสาวคนนี้เธอลงมือเขียนเพลงทุกเพลงด้วยตัวเอง จากเรื่องจริงในชีวิตเธอ ก็ทำให้รู้สึกชอบสาวคนนี้มากขึ้น จิตนาการออกเลยหล่ะว่าตอนที่เธอแต่งเพลง Teardrop on my Guitar เธอรู้สึกอย่างไร เพราะตอนนั้น ก็มีคน ๆ หนึ่งที่ทำให้เราต้อง teardrop เหมือนกัน.... !!

Taylor Swift เป็นนักร้องเพลงสากลเพลงแรกที่ทำให้เราเริ่มหัดเรียนรู้ภาษาอังกฤษ จากที่เมื่อก่อนไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่า Never แปลว่าอะไร เธอเป็นคนที่ทำให้เราแปลเพลงสากลได้เป็นเพลงแรกคือเพลง Tim Mcgraw แปลไปเรื่อย ๆ จนตอนนี้แปลเพลงของผู้หญิงคนนี้ได้หลายเพลงแล้ว และก็เป็นนักร้องผู้หญิง เพลงสากล คนแรกเลย ที่ร้องเพลงของเธอได้แม่น และเพลงแรกที่ร้องได้เป๊ะที่สุดแบบไม่ดำน้ำก็นั่นแหละ Teardrop on my Guitar ^^ ก่อนเพลงอื่น ๆ จะตามมา

จะพูดว่าชีวิตมหาลัยที่เริ่มต้น พร้อม ๆ กับการหลงรักเพลงคันทรี่ของ Taylor เหมือนกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาถ้าจะให้เปรียบเทียบกับอะไรสักอย่าง เพลงของ ผู้หญิงคนนี้ เหมือนเพื่อนท่คอยตอบความรู้สึกของเราได้ทุกความรู้สึก รัก คิดถึง ห่วงใย แอบรัก ใช่เลยหล่ะ เพลงแอบรักมันมีอยู่ในทุก ๆ อัลบั้มและหลาย ๆ เพลงของเธอก็เป็นแบบนั้น และบ่อยครั้งเวลาที่เรารู้สึกอะไรก็ตาม ก็จะเปิดเพลงของผู้หญิงคนนี้ และก็ร้องตามไปเสมอ ทั้งเวลาที่ดีใจ หรือร้องไห้

ไม่รู้ว่าทำไม taylor ถึงแต่งเพลงได้เหมือนเป็นตัวแทนความรู้สึกเรา ในทุก ๆ เรื่อง หลาย ๆ ความรู้สึก เหมือนถอดกันมา จริง ๆ แล้วมันอาจจะเป็นเพราะว่า เธอก็คือวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่งเหมือนกับเรา ที่มีความรู้สึกที่ผ่านเข้ามามากมาย Taylor ใช้วิธีเขียนทุกความรู้สึกทุกข์และสุขลงเป็นเนื้อเพลง แต่เราทำแบบนั้นผ่านทางไดอารี่เก่า ๆ เล่มแล้วเล่มเล่า หลายความรู้สึก

ทุกวันไม่มีวันไหนที่จะไม่เปิดฟังเพลงของผู้หญิงคนนี้ มันไม่ใช่เพราะเธอสวย หรือเพราะแค่เพลงเธอเพราะ แต่เพลงเธอมีความหมาย เหมือนเพื่อนที่เข้าใจในสิ่งที่เราคิด คือเหมือนกับว่า จริงเหรอ ในโลกนี้ยังมีคนที่มีความรู้สึกเหมือนเราด้วยเหรอ ? .. มันดีจริง ๆ ที่เราได้พยายามแปลคำภาษาอังกฤษในเพลงที่เราชอบแต่ละคำ แต่ละคำ แล้วความหมายคือสิ่งที่เราเป็น หรือเคยรู้สึก

เริ่มที่เพลงแรก Teardrop on my Guitar

... ในช่วงปีแรกของการเข้ามหาวิทยาลัย ห้องสมุดคือที่หลักที่เราจะเข้าไป ไม่ได้ไปอ่านหนังสือหรอกนะ แต่เข้าไปนอนหลับ อ่านข่าวบันเทิง ฟังเพลงต่างหาก และที่นั่น มันก็ทำให้เราได้เจอกับผู้ชายคนนึง ความรู้สึกแรกที่ได้เจอ รู้สึกว่าคน ๆ นี้คือคนที่เราต้องหยุดมอง ..มันจะเว่อร์ไปไหมถ้าเราจะใช้คำว่า ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอ แต่มันรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ ... เขาเป็นคนตาสวย คิ้วสวย ดูเรียบร้อย และดูเป็นผู้ชายที่อ่อนโยน เรียบง่าย แต่โชคร้ายที่เค้ามีแฟนเสียแล้วสิ ! เราเจอกันบ่อย ๆ สวนไปสวนมา โดยที่ผู้ชายคนนั้นเค้าก็ไม่รู้หรอกว่า มีคน ๆ หนึ่งคอยแอบมองเค้าอยู่ตลอด ความเพ้อเจ้อทำใ้เราฟังเพลงนั่นเพลงนี้ไปเรื่อย ๆ จนไปเจอความหมายเพลงนี้แบบไม่ตั้งใจ จากบลอคพี่คนหนึ่ง พี่คนนั้นแปลเพลงนี้ไว้ได้ภาษาสวยมาก อ่านแล้วก็รู้สึกว่า เพลงนี้มันตรงความรู้สึกเราเลยนะ เวลากลับบ้านมามืด ๆ จะชอบมานั่งเขียนไดอารี่คนเดียว เปิดเพลงนี้ไปเรื่อย ๆ ซ้ำไปซ้ำมา จนร้องได้ ถ้าเพลงงนี้ขึ้นมา ทำให้เรานึกถึงคน ๆ นั้นขึ้นมาเลย He's the reason for the teardrop on my guitar , ^^ คนๆ นี้เป็นเหตุผลเดียวจริง ๆ ที่บางทีเคยไหม ที่เราแอบคิดถึงใครจนน้ำตาต้องไหล ~~~ เพลงนี้เลยเป็นเพลงแรกที่จำเนื้อร้องได้แม่นจนถึงวันนี้ก็ยังฟังอยู่เสมอ ทุก ๆ วัน

You belong with me ความเพ้อเจ้อที่ัสักวันฝันอยากจะให้ happy ending แบบใน Mv

... แต่มันก็คงไม่ใช่สินะ เพลงนี้รู้จักจากการดู Mv ดูแล้วก็รู้ความหมายนัย ๆ แล้วหล่ะว่าจะสื่ออะไร เพลงนี้สาบานได้ว่าเหมือน และตรงกับชีวิตจริง ๆ ..ย้อนวนไปถึงคนที่เราแอบชอบคนนั้น เค้ามีแฟนแล้วแล้วเค้าก็มักจะถูกแฟนเค้าต่อว่าบ่อย ๆ สองคนนั้นเค้าทะเลาะกันบ่อยครั้งเหลือเกินจนเราก็คิดในใจตามประสาว่า อยากให้เขามาเป็นแฟนเรา เราจะไม่มีทางทำแบบนั้นจริง ๆ นะ ^^ ท่อนที่จำได้และเอาไปใช้ใน status Hi5 เมื่อก่อนบ่อย ๆ คือ Dream about the day when you wake up and find that what your looking for has been here the whole time ! เวลาที่เราเห็นเค้าสองคนเดินมาด้วยกัน เราก็มักจะคิดถึงเนื้อท่อนนี้ขึ้นมาเลยจริง ๆ นึกถึงแล้วก็ตลกดี

Beautiful Eyes คืออีกเพลงที่ทำให้เราเอามานอนร้องและเพ้อได้นานเหมือนกัน

... อย่างที่บอกไว้ว่า ผู้ชายคนนี้ตาสวย คิ้วสวยมาก ๆ ^^ มีครั้งหนึ่งเรากำลังนั่งบ่นเรื่องอะไรสักอย่างกับอารมณืเสีย ๆ ในห้องสมุด แล้วเพื่อนที่เพิ่งกลับมาจากห้องน้ำก็มาบอกว่าเจอใครบางคนนั่งอยู่ข้างนอก ..แค่นั้นหล่ะ ยิ้มทันที เดินออกไปเรามีโมเม้นท์ที่สบตากัน แต่เราก็ไม่กล้ามองนานเพราะความเขิน จำได้ว่ากลับมายิ้มทั้งวัน มีความสุขมาก ตอนเย็นก็ไปขับรถมอเตอร์ไซต์เล่นคนเดียว คล้อง Mp3 ที่คอ แล้วเปิดเพลงนี้ ขับไปไม่รู้ว่าไกลแค่ไหน ไกลเท่าไหร่ แต่ยิ้มไปตลอดทาง นึกถึงแต่ภาพนั้นที่เราได้มองหน้าคน ๆ นั้น มันเป็นช่วงที่มีความสุขมากจริง ๆ นะ

Superstar ช่วงปิดเทอมกับช่วงเวลาเพ้อ ๆ

... ที่บอกว่าเพ้อมากคือช่วยก่อนที่ Hi5 ฮิตมาก ๆ เราไปตามสืบหา Hi5 คน ๆ นี้มาจนได้ เพราะหวังอยากจะได้รูปถ่านสักใบไว้ดูเวลาที่เราไม่ได้เจอเค้านานหลายเดือน แต่พอเจอ Hi5 กลับไม่มีรูปถ่ายสักรูป มีแต่รูปที่ถูกเอาไปทำเป็นการ์ตูนล้อ Avatar แต่เอานะ ก็ยังเก็บไว้ ถึงจะดูตลกแต่ก็เป็นรูปเดยวที่ทำให้เรายิ้มไปตลอดปิดเทอมที่แสนจะยาวนานจริง ๆ ^^

I'd lie เปิดเทอมวันแรกที่เจอคน ๆ นี้ ยิ้มไม่หุบไปทั้งวัน

... เปิดเทอมวันแรกที่เราก็สนุกสนานกับเพื่อน จนไม่ค่อยได้สนใจเรื่องคน ๆ นี้ที่เราแอบชอบเท่าไหร่ เดินไปมหาลัยแบบสบาย ๆ ทำตัวเด๋อ ๆ ด๋า ๆ ไปตามประสา แล้วเราก็เจอคน ๆ หนึ่งนั่งอยู่ตรงม้านั่งระหว่างทางที่เรากำลังจะเดินเข้าไปที่มหาลัย.. ในใจเรากรี๊ดจนจะสลบ แต่อาการข้างนอกทำเป็นไม่เห็น ไม่สนใจอะไร ทำเป็นว่า เห้ยย ใครอ่ะ ไม่รู้จัก !! แต่พอผ่านไปได้ ไม่ถึง 1 อึดใจ ก็กรี๊ดกับเพื่อนเหมือนคนเสียสติ แล้ววันนั้นก็ยิ้มและพูดชื่อคน ๆ นี้ทั้งวัน จนเพื่อน ๆ ส่ายหัวว่า เฮ้ออ บ้าไปแล้ว .. ขีบมอเตอร์ไซต์กลับบ้านก็เปิดเพลงนี้ และก็คิดในใจว่า คนเรานี่รู้และพูดได้ทุกอย่างจริง ๆ ยกเว้นสิ่งที่จริงใจที่สุดคือความรัก ที่ยากเหลือเกินที่จะพูดความจริงออกไป

Stay Beautiful .. เมื่อคนที่เราแอบรักมีแฟนแล้ว เราก็เรียนรู้ที่จะแอบรักแบบมีความสุข

... โชคดีจริง ๆ ที่ดันไปลงทะเบียนเรียนวิชาเลือกเสรี ห้องเดียวกับคน ๆ นี้ที่เราแอบชอบ ไม่เคยขาดเรียนสักครั้งเลยนะสาบานได้ แต่คนที่เราแอบชอบกับแฟนเค้านี่สิ ไม่ค่อยมาเรียนเลย เวลาเรียนเค้าจะรู้ไหมนะว่าเราแอบเหล่มอง และ็มักจะเขียนอะไรเรื่อยเปื่อย วันนี้จะเป็นวันเดียวในการเรียนที่นอกจากหนังสือที่พกไปจะเป็นไดอารี่ ที่เอาไว้จดว่า วันนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง เรามักจะเดินตามหลังเค้ากับแฟนไปจนสุดทาง ทั้ง ๆ ที่นั่นก็ไม่ใช่ทางเดินที่เราจะไปสักหน่อย มีท่อนหนึ่งในเพลงร้องไว้ว่า when you find everything you looks foe i hope you life lead to back to my front door , but if it don't stay beautiful ถ้าหากมันเป็นไปไม่ได้จริง ๆ ที่เค้ากับเราจะเป็นไปได้ก็ไม่เป็นไร ขอให้คน ๆ นั้นคงความงดงามในแบบของเค้าไป เราก็มีความสุขแล้ว ตอนนั้นคิดแบบนี้จริง ๆ นะ ^^

Jump then fall.. เนื้อเพลงที่ถูกพร่ำเพ้อวันละบ่อยครั้งใน facebook

... ตอนนั้นกระแส facebook เริ่มมาแล้วหล่ะ สเตตัสที่เขียนไม่เคยมีอะไรเลยนอกจากความหมายเรื่อเพ้อ ๆ พวกนี้ เพลงนี้โพสแล้วโพสอีก เพราะรู้ว่ายังไงสะคน ๆ นั้นก็ไม่มีทางรู้ บางทีเราก็อดคิดไม่ได้ว่า อยากให้เราได้มีโอกาศได้พูดคุยกัน และเวลาที่เค้าเสียใจหรือทะเลาะกัน เราก็อยากจะเข้าไปปลอบใจและให้กำลังใจเค้าบ้าง แต่เพลงก็คือเพลง เราก็ได้แค่ฟังและร้องและก็หวังต่อไป ก็เค้ายังควงกับแฟนอยู่นี่นา ทำไงได้หล่ะ ^___^ แต่เราก็เป็นกำลังใจให้เค้าเสมอ วันสอบปลายภาควิชาเลือกเสรีที่เรียนด้วยกัน เค้าไม่เคยมาเรียนเลยจะทำได้ไหมนะ เราแอบเอาแนวข้อสอบไปวางไว้บนกระเป๋าโน๊ตบุคเค้า แต่มีคนมาหยิบไปเสียก่อน เฮ้ออ ก็นั่งลุ้นว่าจะทำได้ไหม รอแล้วรออีก จนเค้าเดินออกไปรอแฟนข้างนอก เป็นอันเสร็จการให้กำลังใจ แต่เค้าก็ไม่รู้หรอก

Enchanted .. เพลงใหม่เพลงนี้ ทำให้เราได้รู้จักกันแล้ว

... ในที่สุดเราก็ตามหา facebook คน ๆ นี้จนเจอ จำได้ว่าเป็นช่วงปีใหม่ เราแอดเฟรนด์ไปแล้วส่งข้อความไปว่า Happy new year แค่นี้จริง ๆ เพราะกลัวมากว่าแฟนเค้าจะว่า แล้วก็มีข้อความตอบกลับมาว่า Thank you แค่นี้เอง นอนกลิ้งกับพื้นเหมือนคนโดนยาฆ่าแมลงอย่างไงอย่างงั้น แล้วจากนั้นคน ๆ นี้ก็ทักแชตทางเฟสบุคมาว่า สวัสดีปีใหม่ แค่นั้นแล้วออฟไลน์ไป แทบบ้าแน่ะ จำได้ว่าฟังเพลงนี้จนร้องถูไถได้โดยไม่ต้องดูเนื้อเพลงเพราะนอนฟังซ้ำไปซ้ำมาบ่อยมาก มีความสุขจริง ๆ I was enchanted to meet you ^^ จนมีครั้งหนึ่งแปลเพลงนี้เสร็จแล้วโพสลง facebook แล้วตาด้วยชื่อจริงผู้ชายคนนี้ แล้วคุยกับพี่สาว แซวกันเล่น ๆ เพราะคิดว่าเค้าคงไม่สนใจเรา วัน ๆ คนโพสอะไรต่ออะไรเป็นร้อยเค้าคงไม่มาเห็น ทำเหมือนที่เคยทำ แต่พระเจ้า เค้าดันเห็น.. แล้วทักมาว่า แปลได้ความหมายดี จากนั้นก็คุยกันมาเรื่อย ๆ ทางแชต ขยับไปทาง Msn คุยเรื่องจิปาถะทั่วไป จำได้ว่ายิ้มจนปวดฟันเลยหล่ะ

Speak now .. คุยกันเพลิน อ้าวว ลืมไปสนิท เค้ามีแฟนแล้วนี่นา !!

... คุยไปด้วยความดีใจ ให้ตายเถอะ เค้าเหมือนจะมีใจให้เราเหมือนกัน เค้ารู้ว่าเราเรียนอะไร รู้ตารางเรียนของเราทุกอย่าง รู้ว่าเราเคยไปไหนยังไง จำได้ว่าสวนกันที่ไหน เพื่อนสนิทเราเป็นใคร คุยกันบ่อยขึ้น ๆ ให้ตายเถอะ เ้ค้ามีแฟนแล้วนะ เพลงนี้มันก็เลยเข้ามาในหัว อารมณ์นางมารร้าย อยากให้เค้าคิดได้ว่า แฟนเ้ค้าไม่ใช่ แล้ว เราต่างหาก ที่รอเค้าอยู่ ฟังเพลงนี้ไป ก็นึกภาพเป็น Mv ฺDon't say yes runaway now สารภาพว่านางมารร้าย แต่คิดแบบนั้นจริง ๆ และคำที่เค้าพูดว่า เราเจอกันช้าไปเนอะ ..ทำให้มันยิ่งตกย้ำ >__<

Today was a fairy tale .. ขับรถหลายสิบกิโลมาหาเราตอนตี 3 คืนวันอาทิตย์

... เราคุย msn กันแล้วเค้าบอกว่าอยากมาหาเรา แล้วเค้าก็มา เรายืนห่างกันไม่ค่อยพูดจาอะไร บางครั้งเค้าหันไปทางอื่นเราก็แอบมอง และบางครั้งเค้าก็แอบมองเรา คืนนั้นเรายืนยิ้ม และมีความสุขมาก ไม่คิดเลยว่าคนที่เราแอบชอบมา 3 ปี คนที่เราคิดว่าไม่มีทางที่เราจะได้พูดจากัน จะมายืนอยู่ตรงหน้ามองเราด้วยสายตาที่ลึกซึ้งแบบนี้ แล้วเค้าก็กลับไป คืนนั้นเพราฟังเพลงนี้ทั้งคืน ไม่ได้หลับเลย มีความสุขมาก วันนี้เหมือนนิยาย เหมือนสิ่งที่เราเคยฝันไว้ คนที่เรารอมา 3 ปี มายืนอยู่ตรงหน้า ขับรถมาหลายสิบกิโลเพื่อมายืนมองหน้าแล้วบอกว่าฝันดี ... สมองตอนนั้นว่างเปล่า มีแต่คำว่าความสุข ไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลยหล่ะ ^^

Dear john .. เค้าเดินมากับแฟนเค้า เราก็ได้แต่เดินสวนกันเหมือนคนไม่รู้จัก

... วันนั้นเป็นวันที่นอยด์ มาก เราคุยกันทั้งทางมือถือ และ Msn คุยทุกวันมันก็ยิ่งถลำลึกจนลืมไปว่า เราไม่ใช่แฟนเค้า แล้วเค้ามีแฟนแล้ว วันนั้นที่เจอเค้าเดินสวนกันมาแล้วดูความสัมพันธ์ยังดี และยังรักยังห่วงใยกัน เราเดินสวนเค้าไปเหมือนคนไม่รู้จัก ไม่เคยคุยกันมาก่อน วันนั้นเศร้ามาก ไม่พูดไม่จากับใคร คนรอบข้างเรา เพื่อน พี่ ก็บอกเราตลอดว่าให้ออกห่างจากผู้ชายคนนี้เพราะเค้ามีแฟนแล้ว เราผิดและไม่ถูกต้องที่จะไปยุ่งกับแฟนของคนอื่น แต่ทำอย่างไงได้ล่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างมันมาถึงขนาดนี้ จริง ๆ วันนั้นตัดสินใจเอาคำพูดทุกคนไปคิด แล้วขับรถไปนั่งที่สถานีรถไฟคนเดียว ฟังเพลงนี้ แล้วรู้สึกได้เลยว่า เทย์จะเศร้าแค่ไหนที่กำลังแต่งและร้องเพลงนี้ วันนั้น เสียใจมาก คิดทบทวนอะไร สบายใจขึ้นก็กลับบ้าน คิดว่าจะต้องตัดใจจากคน ๆ นี้สะ เพราะอย่างไงมันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะคน ๆ นั้นมีแฟนแล้ว แล้วเค้าก็โทรมาหาเรา... ทำไมแค่เรารับโทรศัพท์เค้าพูดจากดีดีกับเรา เราก็ลืมคำพูดที่เพื่อนเตือนว่าให้ถอยห่างจากเค้า ลืมทุกอย่าง และเราก็กลับไปสู่วงจรเดิม ๆ บางวันเค้าโทรมาก็มีความสุข ไม่โทรก็คิดมาก เรียกว่า ทั้งทุกข์ทั้งสุข เพลงนี้เปิดวนไปวนมาในช่วงนั้น จำได้แม่นเลย

Come in with the rain.. ทั้งทุกข์และสุขปนกัน

... คำพูดของใครทุกคนที่ถามเราว่า จะแย่งแฟนคนอื่นเหรอ ? ไม่กลัวบาปหรอ ? ประเดประดังเข้ามาในหัว คำว่าเอาใจเขามาใส่ใจเรา ในใจตอนนั้นรู้ดีแก่ใจว่าผิดที่ไปแอบคุยกับเค้าทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเค้าก็มีแฟนแล้ว คิดว่าอยากจะถอยห่างออกมา แต่ก็ทำไม่ได้ เราพยายามเลิืกออน Msn แต่ก็ออนแต่เฟสบุคไว้ เค้าก็โทรมาถามตลอดว่า ออฟไลน์หนีเค้าเหรอ ไม่ว่าอย่างไง เค้าก็จะไม่เป็นฝ่ายไปจากเราแน่นอน เค้าพูดว่าเค้ารู้เหมือนกันว่าตัวเค้าผิด ไม่มีทางที่เราจะรักใครได้พร้อมกันสองคน แต่ตอนนี้เค้ายังไม่อยกาเลิกคุยกับเรา อะไรอะไรมันก็ไม่แน่นอน เราก็รู้อยู่แก่ใจว่าคำพวกนี้มันเป็นคำพูดให้ความหวังทั้งเพ แต่เราก็เชื่อ .. เราพยายามทำตัวนิ่งเฉย ไม่กระตือรือล้น ไม่พยายามดิ้นรนรอเพื่อนจะคุยหรืออะไรกับเค้า แต่เราก็คุยกันมาเรื่อย ๆ เราพยายามคิดว่า เราพร้อมเสมอถ้าเค้าทุกข์ใจแล้วจะมาหาเรา จะกลับมาหาเรา เราก็คิดไปลม ๆ แล้ง เพลงนี้ทำให้เรารู้สึกเหงาและเศร้ามากในช่วงนั้น

Forever and Always .. เรื่องทุกอย่างมันต้องมีตอนจบของมันสินะT.T

... กลางคืนเราออน facebook ไว้ปกติ และเพื่อนเราก็เข้ามาบอกว่า ตอนนี้แฟนของเค้ารู้เรื่องหมดแล้วว่าคน ๆ นี้แอบมาคุยกับเรา โทรหาเรา มาหาเรา เพราะจากการที่เค้าเข้าไปเช็คในประวัติแชตในเฟสบุค เพราะหลัง ๆ มานี้ เราพยายามไม่ออน Msn เลย ...
ผลลัพท์คือหลังจากนั้นที่แฟนเค้ารู้เรื่อง เราไม่รู้หรอกว่าเค้าทะเลาะกันไหมหรืออย่างไร แต่เค้าไม่เคยมาทัก Msn อีกเลย facebook เค้าก็ลบเราออกจากเการเป็นเพื่อน หรือโทรศัพท์ที่เมื่อก่อนเคยโทรก็ไม่มีอีกเลย เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแต่ก็พอจะเดาทางได้ว่า ใคร ๆ ก็ต้องเลือกคนที่รักกันทั้งนั้น เราเป็นแค่คนอื่น .. บางครั้งเราก็ยังกลับมานึกถึงทุกคำพูดที่เราคุยโทรศัพท์กัน ที่เค้าเคยพดว่าคิดถึงเรา รอเรากลับบ้านตอนเที่ยงคืน คอยเตือตารางเรียนให้เราทุก ๆ วัน เราบันทุกเสียงไว้และบางครั้งเราก็ยังเก็บมันมาฟัง เรารู้อยู่แล้วว่าทุกอย่างมันต้องจบลงในสักวัน แต่สิ่งเดียวที่เราหวังคือ การบอกลาสักคำ แค่คำพูดว่า เราเลิกคุยกันนะ ไม่อยากให้แฟนเสียใจหรืออะไรก็ได้ที่เป็นสัญญาณบอกลาครั้งสุดท้าย แต่กลับไม่มีเลย ... ไม่เคยมีอีกเลยจนถึงวันนี้ผ่านมา 3 เดือนแล้ว ก็ไม่เคยมีอีกเลย

Breath ... หลังจากที่เราเลิกติดต่อกันไป

... เพลงนี้เป็นเพลงที่เราฟังบ่อยมากถึงมากที่สุด ทั้งตอนขีบรถ นอน หรือทำอะไรก็ตาม ถามว่าจริง ๆ แล้วเราหวังลึก ๆ ไหมว่าเค้าจะเลิกกับแฟนมาหาเรา เรายอมรับด้วยความสัจจริงว่า คิด แต่ก็คิดและเป็นความหวังที่รู้แก่ใจว่าน้อยมาก เราก็คิดไว่เหมือนกันว่าสักวันเราคงต้องเลิกคุยกัน คนมาทีหลังรู้จักกันไม่ถึงเดือน ลำพังแคค่ลมปากที่เราบอกเค้าว่าเราแอบรักมา 3 ปี มันคงไม่ช่วยอะไรกับคนที่เค้ารักมาหลายปี สิ่งเดียวที่เราต้องทำคือทำใจยอมรับ เราเศร้าเสียใจแต่ไม่ได้ทำให้เราร้องไ้ฟูมฟาย เพราะลึก ๆ เราก็รู้อยู่แล้วว่าจะจบยังไง แต่บางครั้งเวลาประจำที่เค้าเคยโทรมาเราก็ยังแอบหวังให้สายนั้นเป็นเค้าโทรมาหาเรา แต่มันก็ไม่เคยมีหรอก ... ไม่เคยมี จากนั้นมาแม้กระทั่งที่มหาลัย จนสอบวันสุดท้ายและตอนนี้ปิดเทอมมาเป็นเดือนแล้ว เราก็ไม่เคยเจอเค้าแม้แต่เงาอีกเลย

Tim Macgraw .. เพลงแห่งความคิดถึง

... เมื่อครั้งก่อนที่เรายังคุยกันนั้น เค้าจะถามเราตลอดว่า ชอบมากเลยหรอ Taylor Swift เราก็บอกว่าเราชอบมาก และเค้าก็จะรู้มาตลอดว่าเราชอบนักร้องคนนี้มาก ..หลังจากวันที่เราจากกันและไม่ได้ติดต่อกัน เราก็ไม่มีวันได้รู้อีกเลยว่าเค้าเป็นอย่างไงบ้าง แต่ก็พอจะเดาได้ว่าก็คงมีความสุขกับแฟนเค้าดี บางเวลาเราก็แอบสงสัยว่า จะมีสักแว๊บหนึ่งไหมที่เค้าจะนึกถึงเราบ้างสักนิด เวลาที่เค้าไ้ด้ยินชื่อ Taylor Swift ผ่านทางทีวี หรือ เว็บฟังเพลงต่าง ๆ เค้าจะนึกถึงเราบ้างไหม กับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกไม่นานแล้ว เราต้องย้ายไปพัทยาเพื่อฝึกงาน และมีแผนจะทำงานต่อที่นั่น และคงไม่ได้กลับมาที่นี่อีก .. สิ่งดียวที่เราหวังและก็ยังหวังอยู่เสมอถึงตอนนี้คือ การได้เห็นหน้าคน ๆ นั้นเป็นครั้งสุดท้าย เค้าเคยพูดไว้ว่า ไม่ว่าเราจะไปทำอะไรต่อไป ขอให้เราประสบความสำเร็จและเชื่อว่าเราต้องทำได้ .. ทุกคำพูดเราก็ยังจำได้หมดและตอนนี้เชื่อได้ว่าเค้าคงลืมไปหมดแล้ว .. ความหวังตอนนี้ไม่คิดและไม่ขอเลย สาบานได้จริง ๆ ที่จะให้เค้ากลับมา หรืออะไรทั้งนั้น แค่อยากให้เค้านึกถึงเราถ้าหากวันไหนเค้าทะเลาะหรือไม่สบายใจเรื่องอะไรก็ตามเหมือนที่เราจะนึกถึงกำลังใจที่ได้จากเค้าคนนั้น มันเป็นสิ่งเดียวที่คิดในตอนนี้จริง ๆ

.....มีเพลงอีกมากมายตลอดช่วงชีวิตมหาวิทยาลัยของ Taylor Swift ที่หมุนเวียนเปลี่ยนเข้ามาในชีวิต ความหมายดีดีที่เธอคนนี้บรรจงแต่งขึ้นทั้งด้วยความตั้งในและไม่ตั้งใจ แต่มันก็เป็นเพื่อนและเคียงข้างเรามาตลอดทุกเส้นทางความรู้สึก จนตอนนี้แค่ปีหน้าเท่านั้นเราก็จะรับปริญญาแล้ว .. เราไม่รู้ว่าต่อไปเพลงไหนของเธอจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในช่วงชีิวิตเราอีก และนี่คือความผูกพันธ์ เพลงของผู้หญิงคนนี้คือความรู้สึกที่แทนผู้หญิงคนนึง ไมาสวย ไม่มีอะไรวิเศษมากมายเลย ที่หลงรักคน ๆ หนึ่งมาถึงสามปี แค่เค้าได้รับรู้ว่า เรารักเค้าและนักร้องโปรดของเราคือ Taylor Swfit แค่เค้าคนนั้นจำได้แค่นี้ เราก็ดีใจมากแล้ว

ขอบคุณ Taylor Alison Swift นักร้องคันทรี่คนนี้ที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งอยากที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษ , มีเพลงที่แทนความรู้สึกมาตลอดช่วงชีวิตมหาวิทยาลัย , และร้องเพลงสากลได้อย่างถูกต้อง รู้ว่า Loved และ love ต่างกันอย่างไร .....

สักวันเราคงได้มีโอกาศร้องเพลงของเธอคนนี้ที่หน้าเวทีในประเทศไทยนะ

Thank you Taylor Swift ^____^

Create Date : 02 พฤษภาคม 2554

Last Update : 3 พฤษภาคม 2554 9:17:44 น.

16 comments

Counter : 6964 Pageviews.

ทักทายนะจ่ะ อิอิ

โดย: ตะวันเจ้าเอย

วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:18:56:28 น.

ท่าทางเจ้าของบล้อกจะเหมือนผมหลายอย่างเลย
1.คลั่งtaylor
2.ร้องให้ตอนดู mv teardrop
3.เริ่มชื่นชมเทอหลังเทอโดนแย่งไมล์แล้วใหอภัย
4.ชอบนั่งสมาธิ(เห็นเข้าไปตั่่่่่งถามในกระทู้ศาสนา)

(ช่วงนี้ฟังsparks fly บ่อยมาก)555

โดย: topprat IP: 125.24.98.141 วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:33:34 น.

บังเอิญมันแสดงที่หน้าห้อง Cafe

อยากขอแสดงความคิดเห็นเรื่องการเขียนผิด

ผูกพัน ไม่ใช่ ผูกพันธ์

โดย: เอเต้คิจิ IP: 58.10.164.112 วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:11:38 น.

ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคำผิดนะคะ ^^ แล้วจะทำการแก้ไขค่า ^__^

โดย: Mrs. Pique แฟนหนูอยู่สเปน

วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:15:08 น.

Ps. ยอมแพ้ค่ะ เรื่อง คริส แฮมเวอริธ พระเอกหนัง Thor สู้คุณโอ อนุชิตไมไ่ด้จริง ๆ ค่ะ อิอิ

ที่ไปเยี่ยมบล็อกแล้ว้เม้นให้อยากบอกว่าถูกใจมากๆๆๆๆๆ เอิ๊กๆๆๆๆๆ

ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไปนะจ่ะ อิอิ

โดย: ตะวันเจ้าเอย

วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:47:00 น.

การที่เราจะเขียนถึงใครสักคนได้ขนาดนี้

แสดงว่าเป็นแฟนกันจริง รักกันจริงนะคะเนี่ย

โดย: Azizan

วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:11:19:18 น.

อย่างนี้คงต้อง

When you think Taylor Swift, I hope you think of me สินะ

เพลงของพี่เทย์เป็นเหมือนเรื่องราวของเราเองจริงๆ เลยเนอะ เหมือนที่พี่บอก(ขอเรียกพี่นะคะหนูขึ้นปี 1 อิอิ) และรู้สึกเหมือน ไม่ใช่เราที่โดดเดี่ยว มีคนอีกเยอะแยะที่รู้สึกและเป็นเหมือนเรา

โดย: URMySea IP: 49.49.33.171 วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:04:00 น.

เพลงทุกเพลงของเทย์เลอร์มีความหมายมาก ส่วนตัวมีเรื่องราวเหมือนพี่ เจ้าของบลอคเลย แต่ถ้าเขียนคงไม่ลึกซึ้งเท่านี้ ชอบจังเลยค่ะ

โดย: Bestdress IP: 49.48.164.177 วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:18:33:38 น.

^ ^

โดย: SandP IP: 61.91.245.218 วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:23:30 น.

ชอบมาก ๆ รัก Taylor ชอบทุกเพลง ชอบคนเขียนด้วย เหมือน taylor อิอิ

โดย: SwiftieSwiftie IP: 223.204.169.84 วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:18:21 น.

I think your blog is so cool...^^

โดย: Broccoli IP: 124.121.222.82 วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:2:25:06 น.

นอนหลับฝันดีนะครับ พักผ่อนเยอะๆ สุขภาพแข็งแรง

โดย: bbandp

วันที่: 31 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:02:09 น.

เหมือนได้อ่านนิยายเพลงเรยย
ชอบจังงงงงง""
เป็นกำลังใจให้น่ะค๊าฟฟฟ จะติดตามกดไลค์ทุกๆการแปลเรยย ^__^

โดย: aich IP: 180.183.172.24 วันที่: 13 ตุลาคม 2555 เวลา:12:43:36 น.

เรื่องราวของเจ้าของบล๊อคนี้เหมือนเราทุกอย่างเลย...พอมาอ่านแล้วก็ยิ่งนึกถึงคนๆนั้น

โดย: namtan IP: 125.25.141.135 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2555 เวลา:16:46:05 น.

เราก็ชอบ taylor มากเหมือนกัน
เลยยิ่งเพลง teardrop เราก็ร้องได้เลย ศัพท์ง่ายมากฟังเเล้วเข้าใจ เราก็เคยมีคนที่เเอบชอบเหมือนกันยังดีที่เธอเค้ายังมาคุยด้วยเเต่เรายังไม่เคยพูดด้วยกันสักคำเลยล่ะเศร้ามากกว่าอีก สู้ๆนะค๊า

โดย: เเพร IP: 27.55.154.84 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:41:44 น.

เคยเข้ามาอ่านบล็อกนี้ตอนประมาณเดือน กันยายน ตอนที่เริ่มชอบเทเลอร์ใหม่ๆ ตอนนั้นอ่านไปก้อไม่คิดอะไร และลืมบล็อกนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ บางครั้งมาอ่านคำแปลเพลงของเทเลอร์ก็เข้ามาในบล็อกนี้
จนถึงวันนี้เป็นสาวกของเทเลอร์เต็มตัวแล้ววว และเข้าใจความรู้สึกของเจ้าของบล๊อกแล้ว จากครั้งแรกที่อ่านยังเฉย
สรุปวันนี้อ่านหลายรอบแล้ว

โดย: An_Miko IP: 118.172.39.59 วันที่: 9 ธันวาคม 2555 เวลา:21:57:12 น.