Bloggang.com : บ้านนอกเข้ากรุงนะจ๊ะ : ฮานอย..CR-BKK-Hanoi (1)

"ถ้าตายแล้ว อย่าบอกให้ไปที่ชอบ ที่ชอบ เพราะที่ชอบนั้นไม่รู้ตอนตายจะได้ไปไหม"

มีนาคม 2554

		1	2	3	4	5
6	7	8	9	10	11	12
13	14	15	16	17	18	19
20	21	22	23	24	25	26
27	28	29	30	31

18 มีนาคม 2554

ฮานอย..CR-BKK-Hanoi (1)

ฮานอย..CR-BKK-Hanoi (1)

กลับมาก็ได้พักใหญ่แล้ว แต่ไม่มีเวลาเลยค่ะ มาถึงงานตรึม วันนี้ 18/3/54 ก็ว่างแล้วเลยหาโอกาสมานั่งทำ blog สักหน่อยค่ะ
ประเทศเวียดนาม กรุงฮานอย เพื่อน ๆ ใน Pantip ส่วนใหญ่คงได้ไปเที่ยวกันมาแล้ว เราก็ยังคงได้อนิสงฆ์จาก Air Asia เหมือนเช่นเคย ไปกลับ ชร.-กท.-ฮานอย คนละ 5,040 รอบนี้เราก็ยังไปกรุ๊ปเดิม 4 คน เราเลือกไป 25 ก.พ.-1 มี.ค. 54 จองข้ามปี ตอนที่จองได้ตื่นเต้น หาข้อมูลใหญ่เ่ลย สักพักความตื่นเต้นเริ่มจะหายไป มาตื่นเต้นอีกทีก็ตอนใกล้จะเดินทาง 24 ก.พ เราก็ต้องออกเดินทางจากเชียงราย ไฟล์สุดท้าย 21.05 น. ไม่รู้ว่าเป็นไงเดินทางเมื่อไหร่ ต้องเจอดาราตลอด สงสัยจะถูกกะพวกดารา อิอิ รอบนี้มาเจอทีน กะคนที่เล่นเป็นหนูหิ่น ที่สนามบินเชียงรายขาออก

ไฟล์นี้ Delay ประมาณครึ่งชั่วโมงเราถึง สุวรรณภูมิ ก็เกือบ 5 ทุ่มแล้ว ถึงสนามบินเพื่อนที่ไปด้วยกันก็ไปจัดการแลกเงิน เราแลกไป 7,500 ต่อ 2 คน ได้มา 250 $ พวกผู้ชายเริ่มหิวแล้ว ก็เลยไปหาไรทานกันก่อน ได้ร้านนี่เลย มื้อแรกของการเดินทาง หมดไป 9 ร้อยกว่า อาหารในสนามบินก็งี้เนอะ แพงอย่าบอกใครเชียว

คืนนี้เราอาศัยนอนในสนามบินเพราะพรุ่งนี้เราต้องออกแต่เช้า ตอนแรกกะว่าจะไปนอนชั้น 3 แต่เพื่อนบอกนอนชั้น 4 นี่แหล่ะ อากาศตอนนั้นยังไม่เย็นเลย รู้สึกจะร้อนด้วยซ้ำไป อ่านมาจากในเวปบอกว่าในสนามบินจะเปิดแอร์เย็นมาก ๆ ให้เตรียมเสื้อกันหนาวไปแต่ตอนนั้นยังไม่ค่อยหนาวเลย จะรู้ว่าหนาวมาก ๆ ก็ประมาณ ตี 2แล้ว และพวกเราก็นอนกันบนเก้าอี้เหล็กยิ่งเย็นกันใหญ่แต่สรุปแล้วพวกเราแทบจะไม่ได้นอนเลย ตอนแรกเรานอนกันตรงทางเข้าช่อง H คนก็เดินไปเดินมา บางทีก็มีชาวต่างชาติมานั่งคุยกันตรงที่เรานอน อากาศเย็นด้วยเรานอนกันอยู่ตรงนี้ถึงประมาณ ตี 2 กว่า ก็ย้ายที่นอน มานอนใต้บันไดตรงหน้าที่ทำการของ การบินไทย ตรงกับช่อง E ของแอร์เอเชียพอดี

ประมาณเกือบตี 4 เราก็เริ่มเห็นคนเข้าแถวรอแล้ว พวกเราจึงรีบไปต่อแถวที่ E1 เพราะพวกเราทำเวปเช็คอินมาจากที่บ้านแล้วทั้งขาไปขากลับ พวกเราอยากจะผ่านเข้า ตม.ให้เร็วที่สุดเพราะกลัวว่าจะมีแถวยาวเป็นกิโลแล้วจะทำให้ช้าเสียเวลา สักพักเจ้าหน้าที่ก็มาเปิดเคาท์เตอร์ จัดการกรอกเอกสารเรียบร้อยก็ไปด่านตรวจ ตม. แถวยาวจริง ๆ ค่ะ ในที่สุดก็เข้ามาแล้ว เห็นโซฟาน่านอนพวกเราขอนอนพักตรงนี้อีกหน่อยก่อนที่จะเข้า Gate

ถึงเวลาเดินทางแ่ล้ว ติดปีกบินไปกับแอร์เอเชีย วันนี้เครื่องออกตรงเวลา 06.50 น.

มาถึงฮานอยก็เกือบ 9 โมงแล้ว สนามบินนอยไบวันนี้อากาศไม่ค่อยแจ่มใสเท่าไหร่ มีเมฆมาก ฟ้าไม่ค่อยเปิดเลยค่ะ อากาศในช่วงนี้อยู่ที่ 19-23 องศา ถือว่าอากาศเย็นสำหรับคนไทยอย่างเรา ๆ

พวกเราไม่มีใครโหลดกระเป๋ากันสักคน (ประหยัดค่ะ) ผ่านตม.มาเรียบร้อยพวกเราก็จัดการหาแลกเงินดอง คนละ 100 USD ได้เงินดองมา 2 ล้านกว่า โห เศรษฐีเงินล้านอีกแล้ว จากที่ไปบาหลีมาก็เงินล้านแต่นี้ 2 ล้านกว่า เป็นเมืองไทยคงสบายไปแล้ว

หลายคนบอกว่า ออกจากประตูมาให้เลี้ยวขวามองหาลานกว้าง ๆ หารถเมล์สาย 17 แต่เราเดินไปเดินมาก็หาไม่เจอค่ะ เจอแต่รถบัสที่เข้าเมืองแต่ไม่ใช่สาย 17 เราก็บอกเค้าว่าจะไป สถานีGa long bien (มีแผนที่ชี้ให้เค้าดูค่ะ) ราคาคนละ 2 $ เงินดอง 30,000 พวกเราก็จ่ายเงินดองไป ก็ยัง Ok สำหรับพวกเรา

ระหว่างทางก็จะได้ยินแต่เสียงแตรรถ การขับรถของที่นี้พวกเราคุยกันว่าถ้าให้เช่ารถคงจะขับไม่ได้แน่นอน แค่่ดูก็เสียว ๆ แล้ว พอจะเข้าเขตฮานอยจะเห็นว่ากำแพงริมถนนเค้าทำไว้สวยมาก ใช้เหมือนกระเบื้องชิ้นเล็ก มาทำเป็นเรื่องราวต่าง ๆ

สักพักคนรถก็ตะโกนบอกเราว่าถึง Ga long bien แล้วพอเราลงรถมาพวกเราหลงทิศ โชคดีที่เราปริ้นแผนที่่ของที่พักมา เราก็เลยได้แต่ชี้ ๆ ถาม เราจองที่พักไว้ที่ Hanoi Youth hostel เดินไปเดินมาตั้งนานกว่าจะเจอค่ะในที่สุดก็หาเจอจนได้ มาถึงเราก็เอาใบจองทางเวปมาให้ พอเค้าเห็นหน้าเราเค้าก็ถามว่า Thailand พอดีเค้ามีลูกค้าอยู่จึงให้เรายืนรอสักครู่ พอดีมีชาวต่างชาติคนหนึ่งเห็นเราคุยกันเป็นภาษาไทย เค้าดีใจมากเข้ามาคุยด้วย เค้าบอกว่าเคยอยู่เมืองไทยมา 4-5 ปี เค้าชื่อคุณสก๊อต

ที่เราพักจะเป็นห้อง dorm เป็นเตียง 2 ชั้น 3 เตียง มีล็อคเกอร์เก็บของของใครของมันพร้อมกุญแจ แต่ห้องจากด้านนอกจะล็อคไม่ได้น่ะค่ะ แต่เราก็ไม่มีอะไรหายเลย และคนดูแลที่นี่ก็บริการดีมาก ๆ ห้องเราจะมีห้องน้ำในตัวอยู่ชันบนสุด ชั้น 4 เค้าคิดวันละ 5 $ ต่อหัว มีอาหารเช้า ชาตลอดวัน และที่สำคัญมีเบียร์ฟรีวันละ 1 ชั่วโมง (17.00-18.00 น.) ทุกวัน แต่เรามีโอกาสกินแค่วันเดียวเพราะออกเที่ยวตลอด หลังจากจัดการล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยเราก็ออกมาหาของกิน ก่อนออกมาเราก็จองทัวร์กับทางที่พักไป Halong Bay กับ Tamcoc ได้มาคนละ 18 $ x 2=36 $ ต่อคน ก็มาเจอร้านใกล้ ๆ ที่พัก อร่อยมาก หรือว่าพวกเราหิวกันมากไม่รู้ค่ะ วิธีทานก็เห็นเค้าเอาขนมจีนจุ่ม ๆลงในน้ำซุปแล้วก็กินเลยค่ะ ปอเปี๊ยะก็อร่อยมากค่ะ

หลังจากอิ่มแล้วเราก็เดินเที่ยวในเมืองกัน เดินแบบมั่ว ๆ แหล่ะค่ะ ถาม ๆ เค้าบ้าง
ตอนแรกกะว่าจะนั่งรถสามล้อซิโคลเที่ยว แต่ไม่ดีกว่า เดินเที่ยวกันนี่แหล่ะค่ะ

ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม มีอีกชื่อว่า ทะเลสาบคืนดาบหากมองไปกลางทะเลสาบจะเห็นเจดีย์โบราณโผล่ขึ้นพ้นน้ำ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 มีชื่อเรียกว่า ทาพรัว (Thap Rua) และเราสามารถข้ามทะเลสาบนี้เข้าไปยังวัด วัดหง็อกเซิน โดยข้ามสะพานเทฮุก (The Huc) หรือสะพานแสงอาทิตย์ มีสีแดงสดใสถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของกรุงฮานอย

ที่นี่จะมีคู่แต่งงานมาถ่ายรูปเยอะมากจริง ๆ ค่ะ คิดว่าน่าจะมีเกือบทุกวัน

เราเดินจนรอบทะเลสาบเลยค่ะ ไปเจอนาฬิกาใหญ่มาก ๆ เดินตรงด้วยนะค่ะ

ร้านไอศครีม เห็นดอกไม้สวยดีก็เลยเก็บรูปมาให้ดูค่ะ รู้สึกว่าเมืองนี้เค้าชอบทานไอศครีมกันนะค่ะ จะมีทุกซอกทุกมุมเลยอ่่ะ

เราไปถามหาโบสถ์ St Joseph Cathedral ทำไมไม่ค่อยมีคนรู้จักก็ไม่รู้ค่ะ หรือว่าเค้าจะมีชื่ออื่นอีกก็ไม่รู้ พอดีไปเจอคุณตำรวจกำลังจับรถอยู่

ก็เลยขออนุญาตสอบถามหน่อย แหม อยู่ใกล้ ๆ นี่เองเดินวนไปมาตั้งนานค่ะ

ข้างในเค้าติดป้ายห้ามถ่ายแต่เรายังแอบถ่ายมาค่ะ ไม่รู้จะมีใครว่าไรป่าว

เพื่อน ๆที่ไปเที่ยวฮานอยมาสังเกตบ้างไหมค่ะว่าวัยรุ่นที่นี่เค้านิยมไปนั่งแกะเมล็ดทานตะวัน กินคู่กับน้ำชาใส่มะนาวกันค่ะ เดินไปซอกไหนมุมไหนก็จะเห็นแบบนี้รอบเมืองเลยค่ะ แล้วทุกคนจะแต่งตัวกันมาอย่างดีเลยถ้าบ้านเราก็คงเหมือนพร้อมไปเที่ยวเธค ผับ กันแล้วค่ะ กินกันทั้งวันทั้งคืนเลย

เดินเที่ยวเหนื่อยแล้ว เราก็หาอาหารมื้อเย็นทานกันค่ะ ไม่รู้เค้าเรียกอะไร ก็มีกระทะเล็ก ๆ มาให้ แล้วก็มีผัก มีหมู หรือ เนื้อ ที่เราเลือกกันมา ในกระทะก็จะใส่เนย พร้อมน้ำมัน แล้วเอาหมู ผัก ลงผัด เบียร์ 2 ขวด ชา 2 ขวดมื้อนี้ 150,000 VND
อิ่มแล้วเหนื่อยแล้ว ขอกลับไปเอาแรงก่อนค่ะ แล้วมาต่อวันที่ 2 นะค่ะ

Create Date : 18 มีนาคม 2554

Last Update : 19 มีนาคม 2554 8:55:04 น.

1 comments

Counter : 1598 Pageviews.

ขอบคุณเรื่องเล่าดีดีครับ
เขียนหนังสือเก่งมากครับ

โดย: thailerd (thailerd

) วันที่: 20 สิงหาคม 2554 เวลา:10:59:51 น.

บ้านนอกเข้ากรุงนะจ๊ะ

Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์

Rss Feed

Smember

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

ไป ไปเตอะ ไปแอ่ว..ไปเตอะ ไปแอ่ว จังหวัดเจียงฮาย หลายคนคงเคยได้ยินเพลงนี้ แต่บางคนก็อาจจะแทบไม่เคยได้ยินเลยก็ว่าได้ พอลืมตาดูโลกแม่ตั้งชื่อเล่นว่า "กระตั้ว" แต่ใช้ได้ไม่นาน แม่บอกว่า ตัว ต. กันทั้งบ้านแล้ว เอาให้แหวกแนวสักคนเถอะ ก็เลยได้ชื่อเล่นใหม่ว่า "สุดเอื้อม" นิสัยออกจะห้าว ๆ หน่อยก็แต่เล็ก คลุกคลีกับแต่เด็กผู้ชาย จนแม่ยังคิดว่าโตมามันจะกลายเป็นทอม ^_^ ไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตอยู่กับบ้านเท่าไหร่ ประมาณชอบร่อนเรพเนจร ไม่ชอบอยู่กับที่ แต่...แต่ในที่สุด สุดท้ายก็ต้องกลับมาอยู่รังเดิม 555+ มีแต่คนเค้าไม่อยากกลับมาอยู่บ้าน แต่เอื้อมรู้สึกอยากกลับมาอยู่บ้านค่ะ สงสัยร่อนเร่มานานเลยเกิดความเบื่อ ตอนนี้ก็เลยมาเปิดกิจการเล็ก ๆ ของตัวเองอยู่ที่บ้าน คอมฯ & เน็ต เป็นเพื่อนจำเป็นในชีวิตประจำวันไปแล้วค่ะ ก็ตั้งแต่กลับมาอยู่บ้านเพื่อนก็เริ่มหาย ถึงแม้จะมาอยู่ถิ่นฐานเดิมแล้วแต่ก็ยังชอบท่องเที่ยวต่างจังหวัดเป็นนิสัย (ที่โดนที่บ้านด่าประจำ) แม่ชอบบอกว่าจะทำงานหาเก็บ หรือจะทำงานหาเที่ยว อืม!!!นั่นสิ มันก็มีหลายมุมนะค่ะ อยากเก็บด้วย และก็อยากเที่ยวด้วย ชีวิตคนเราสั้นนักค่ะ บางครั้งเคยบอกแม่ว่า "ถ้าตายแล้วอย่าบอกให้ไปที่ชอบ ที่ชอบ นะ" เพราะไม่รู้ว่าตายแล้วจะได้ไปที่ชอบไหม (แม่ทำหน้า งง) อย่าซีเรียสเลยค่ะ แม่กับเอื้อมเราเกือบจะเป็นเหมือนเพื่อนกันแล้ว ทุกวันนี้ก็เลยพยายามเชื่อแม่ค่ะ ต้องพยายามหาเก็บ (แต่ทำยากจัง) ชีวิตไม่สิ้น ก็ดิ้นกันไปนะค่ะ ...

Webmaster - BlogGang

[Add บ้านนอกเข้ากรุงนะจ๊ะ's blog to your web]

Bloggang.com