เดินคนเดียวจะเดินได้เร็ว มีคนเดินด้วยจะเดินได้นาน

Ravipun
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Ravipun's blog to your web]
Links
 

 
ศรีตรัง,ชมพูพันธุ์ทิพย์,หางนกยูงฝรั่ง--->ติดตามผล #3

ปํญหาเริ่มมีเข้ามาแล้ว ว่าตอนปลูกก้อยากแล้วนะ เลี้ยงให้โตนี้ยากกว่าอีก แฮะ ก้อคงเหมือนความรัก ที่ต้องคอยดูแลทะนุถนอม ตอบคบกันใหม่ นี้ก้อว่ายากแล้ว แต่จะทำยังไงให้ความสัมพันธุ์นั้นยังคงอยู่นี้สิน่าคิด กว่าอีก เฮ้อ …… คงใกล้ได้เวลาเข้าป่าแล้ว

ตอนนี้ปัญหาหลัก คือการขาดปุ๋ยอย่างรุนแรงเนื่องจากตอนปลูกช่วงชุดแรก ๆ ไม่ได้ใส่ปุ๋ยให้มากลัวมันจะตาย แล้วกับแต่ละต้นเป็นต้นไม้ใหญ่ รากเดินเต็มกระถางถึงขั้นทะลุออกมาข้างนอก จากการตรวตสอบพบอาการดังนี้

1.หางนกยูงฝรั่ง (Delenix regia)
-.ใบเหลือง ,ร่วง,ส่วนลำต้นยังแข็งแรง ,ส่วนยอดมีการแตกตัวได้ดีอยู่

2.ชมพูพันธุ์ทิพย์ (Tabebuia rosea)
-.พบใบส่วนล่างออกเป็นสีม่วง และเร่มกระจายขึ้นด้านบน พบในต้นใหญ่ ส่วนใบบนยังดูสมบูรณ์ดี

3.ศรีตรัง (Jacarunda Mimosifolia)
-อาการใบเหลือง และมีอาการต้นเริ่มโตไม่เต็มที่

ซึ่งก้อทำใจใว้แล้วส่วนนึงในกลู่มแรก ๆ ว่าคงจะต้องล้มลุกคลุกคลานไปด้วยกันแบบนี้แหละ T T
ตอนนี้เริ่มจัดระบบเป็นไปได้ยาก เลยต้องดูเป็น Case ไปต้นไหนร่อแร่ก้อคงต้องช่วยก่อน ต้นไหนดูแข็งแรงก้อต้องช่วยก่อน นึกตอนเล่น Farmvile ปลูกไปเยอะ ๆ เริ่มจะดูแลไม่ทัน

หลังจากที่ศึกษาอาการของแต่ละชนิด ก้อเริ่มหาข้อมูล โดยตอนนี้เน้นไปทางเกี่ยวกับการให้ปุ๋ย และการขาดธาติอาหารต่าง ๆเป้นหลัก

พอจะสรุปได้ดังนี้


ขอขอบคุณ

//osl101.ldd.go.th/easysoils/s_prop_nutri01.html

ในจำนวนธาตุอาหารที่พืชจำเป็นต้องใช้เพื่อการเจริญเติบโตออกดอก ออกผล ซึ่งมีอยู่ 16 ธาตุนั้น มี 3 ธาตุ ที่พืชได้มาจากอากาศและน้ำ คือ คาร์บอน ( C) ไฮโดรเจน (H) และออกซิเจน (O) ส่วนอีก 13 ธาตุนั้น พืชต้องดูดดึงขึ้นมาจากดิน ซึ่งธาตุเหล่านี้ได้มาจากการผุพงสลายตัวของส่วนที่เป็นอนินทรียวัตถุและอินทรียวัตถุหรือฮิวมัสในดิน สามารถแบ่งตามปริมาณที่พืชต้องการใช้ได้ เป็น 2 กลุ่มคือ มหธาตุ และจุลธาตุ



1. มหธาตุ (macronutrients)
มหธาตุหรือธาตุอาหารที่พืชต้องการใช้ในปริมาณมาก ที่ได้มาจากดินมีอยู่ 6 ธาตุ ได้แก่ ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) โพแทสเซียม (K) แคลเซียม (Ca) แมกนีเซียม (Mg) และกำมะถัน (S) แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม

ธาตุอาหารหลัก หรือ ธาตุปุ๋ย ได้แ่ก่ ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) โพแทสเซียม (K) เนื่องจากสามธาตุนี้พืชต้องการใช้ในปริมาณมาก แต่มักจะได้รับจากดินไม่ค่อยเพียงพอกับความต้องการ ต้องช่วยเหลือโดยใส่ปุ๋ยอยู่เสมอ


ธาตุอาหารรอง ได้แก่ แคลเซียม (Ca) แมกนีเซียม (Mg) และกำมะถัน (S) เป็นกลุ่มที่พืชต้องการใช้ในปริมาณที่น้อยกว่า และไม่ค่อยมีปัญหาขาดแคลนในดินทั่วๆ ไปเหมือนสามธาตุแรก

2. จุลธาตุ หรือ ธาตุอาหารเสริม (micronutrients)

จุลธาตุหรือธาตุอาหารที่พืชต้องการใช้ในปริมาณน้อย มีอยู่ 7 ธาตุ ได้แก่ เหล็ก (Fe) แมงกานีส (Mn) โบรอน (B) โมลิบดินัม (Mo) ทองแดง (Cu) สังกะสี (Zn) และคลอรีน (Cl)

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นธาตุอาหารในกลุ่มมหธาตุหรือจุลธาตุ ต่างก็มีความสำคัญและจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะความจริงแล้วธาตุทุกธาตุมีความสำคัญต่อการดำรงชีพของพืชเท่าๆ กัน จะต่างกันแต่เพียงปริมาณที่พืชต้องการเท่านั้น ดังนั้นพืชจึงขาดธาตุใดธาตุหนึ่งไม่ได้ หากพืชขาดธาตุอาหารแม้แต่เพียงธาตุเดียวพืชจะหยุดการเจริญเติบโต แคระแกร็น ไม่ให้ผลผลิตและตายในที่สุด


ธาตุอาหารพืชแต่ละชนิดมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชแตกต่างกันไป และถ้าพืชได้รับธาตุอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก็จะแสดงอาการที่แตกต่างกันตามแต่ชนิดของธาตุอาหารที่ขาดแคลนนั้น


ไนโตรเจน(N) มีหน้าที่เป็นส่วนประกอบของโปรตีน ช่วยให้พืชมีสีเขียว เร่งการเจริญเติบโตทางใบ หากพืชขาดธาตุนี้จะแสดงอาการใบเหลือง ใบมีขนาดเล็กลง ลำต้นแคระแกร็นและให้ผลผลิตต่ำ

ฟอสฟอรัส(P) มีหน้าที่ช่วยเร่งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของราก ควบคุมการออกดอก ออกผล และการสร้างเมล็ด ถ้าพืชขาดธาตุนี้ระบบรากจะไม่เจริญเติบโต ใบแก่จะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีม่วงแล้วกลายเป็นสีน้ำตาลและหลุดร่วง ลำต้นแกร็นไม่ผลิดอกออกผล

โพแทสเซียม(K) เป็นธาตุที่ช่วยในการสังเคราะห์น้ำตาล แป้ง และโปรตีน ส่งเสริมการเคลื่อนย้ายน้ำตาลจากใบไปสู่ผล ช่วยให้ผลเติบโตเร็วและมีคุณภาพดี ช่วยให้พืชแข็งแรง ต้านทานต่อโรคและแมลงบางชนิด ถ้าขาดธาตุนี้พืชจะไม่แข็งแรง ลำต้นอ่อนแอ ผลผลิตไม่เติบโต มีคุณภาพต่ำ สีไม่สวย รสชาติไม่ดี

เอาแค่ธาตุอาหารหลักดีกว่าด้วยคนอ่านขี้เกียจอ่าน
แต่โดยสรุปแบบจากข้างต้น น่าจะขาด N และ P ตอนนี้ที่ทำได้คือการย้ายกระถางไปเป็นกระถางใหญ่ และ ใส่ปุ๋ย

จากที่ Plan ใว้ว่าจะเป้นกลางปีหน้า คงต้องเลื่อนเข้ามาเร็วกว่าซะแล้ว ว่าแล้วก้อมาพักสายตากันดีกว่า



รอบนี้ Plant#3 ยังไม่มีเวลาตรวจสภาพว่ารอดมาเท่าไหร่ แต่รอบนี้ ชมพูพันธุ์ทิพย์รอดตาย 0 %




จากที่เห็น หลายต้นเริ่มมีอาการใบเหลือง และต้องการปุ๋ย และการย้ายมาสู่ต้นไม้ใหญ่




อันนี้ก้อเช่นกัน ยังไม่มีกระถางให้ลงเลย อยากได้กระถางไม้ไผ่



ต้นใหญ่ที่สุดแล้ว อีกไม่กี่เดือน ถึงเวลาจะต้องออกสู่โลกกว้างแล้ว




ชมพูพันธุ์ทิพย์ก้อเริ่มมีปัญหาแล้ว








ว่าแล้วอาทิตย์ยังต้องเตรียมกู้ส่วนที่เหลือก่อนไปงั้นตายหมดแน่ ๆ



หวังว่าอาทิทย์ขอให้เคลียได้เกือบหมดเถอะ



Create Date : 04 ตุลาคม 2554
Last Update : 4 ตุลาคม 2554 23:50:02 น. 0 comments
Counter : 1645 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.