วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องๆหนึ่งที่มันเป็นเรื่องที่นานแสนนาน จนผมจำไม่ได้
เฮ้ยยย ไม่ใช่แหละ.
วันนี้ผมจะมาเล่าถึงจุดเริ่มต้นของงานอดิเรกของผมต่างหาก เท้าความแต่ปางก่อนนั้น ผมได้หลงรักผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นคนชอบสีฟ้า และเธอชอบมองดูท้องฟ้าเป็นอย่างมาก เธอชอบบอกกับผมว่า ท้องฟ้าสามารถทำให้คนเราหายเหนื่อยได้ ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจเท่าไรนีก ว่า เราแค่มองท้องฟ้า เราจะหายเหนื่อยได้ยังไง??? ผมเลยถ่ายรูปท้องฟ้าส่งให้เธอ เพื่อหาเรื่องคุยกับเธอ มีอยู่ช่วงหนึ่งผมอยากคุยกับเธอมาก เลยพยายามถ่ายรูปท้องฟ้าในมุมมองต่างๆเพื่อส่งให้เธอในทุกๆวัน เหมือนผมเสพติดการถ่ายรูปท้องฟ้าไปโดยไม่รู้ตัว ผมคุยกับเธอเป็นแรมปี แล้ววันหนึ่งเธอก็หายไป เราเริ่มห่างกัน (เหมือนถูกบอกเลิกทั้งๆที่ยังไม่ได้เป็นแฟนกันเลย 55555) ผมทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งเสียใจ แล้วหันไปมองท้องฟ้า สิ่งที่ทำให้คิดถึงเธอ "ไหนมองท้องฟ้าแล้วหายเหนื่อย ไม่เห็นจะจริงเลย" เป็นคำพูดที่ผมพูดอยู่ทุกวัน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ท้อแท้หมดกำลังใจ ทำให้ผมเลิกถ่ายรูปท้องฟ้าไปช่วงหนึ่งเลย
จนกระทั่งผมได้รู้ว่า ท้องฟ้ามันไม่ได้ทำให้คนเราหายเหนื่อยได้หรอก แต่มันเป็นเหมือนคนที่รับฟังเรา เวลาเราคิดมาก มากกว่า ท้องฟ้าเป็นเพียงแค่สื่อกลางในการแสดงออกของอารมณ์ของเราโดยผ่านการกดชัตเตอร์นะช่วงเวลานั้นๆ เปรียบท้องฟ้าก็เหมือนคนเรา มีอารมณ์ที่เป็นไปในแต่ละวันทำให้เกิดสีของท้องฟ้าแต่ละที่ ที่แตกต่างกัน ทำให้เราถ่ายรูปท้องฟ้าออกมาจะเป็นเพียงรูปเดียวในโลก ที่ไม่เหมือนกับใคร ขนาดรูปท้องฟ้าในสถานที่เดียวกัน เวลาเดียวกัน แค่คนละวัน สีของท้องฟ้าหรือรูปลักษณะของก้อนเมฆยังไม่มีทางเหมือนกันเลย ถึงตอนนี้เธอจะมีแฟนแล้ว แต่ผมก็อยากจะขอบคุณเธอมาก ที่ทำให้ผมหลงรักในการถ่ายรูปท้องฟ้าในแต่ละมุมมอง ในแต่ละวัน เราไม่มีทางที่จะรู้ได้เลยว่า วันนี้ท้องฟ้าจะมีลักษณะและสีสันเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้ก็คือ เรามีความสุขในการถ่ายรูป เราสบายใจที่ได้มองเห็นท้องฟ้าในรูปแบบนั้นๆ แล้วกดชัตเตอร์เพื่อค้างความรู้สึกแบบนี้ไว้ได้
*รูปนี้เป็นรูปที่ผมชอบมากที่สุด เป็นเหมือนเสาไฟที่เป็นเส้นคู่ขนานแต่ไม่มีวันบรรจบกันเคียงคู่กันไปกับท้องฟ้า
*รูปนี้แสดงถึงความโดดเดี่ยว เป็นรูปท้องกับต้นไม้แห้งแล้ง แต่เมื่อมองไปมันก็ยังคงสวยงามเสมอ
*รูปนี้แสดงถึงความสงบและเรียบง่าย เป็นรูปใจกลางเมืองตอนยามเย็น
*รูปนี้แสดงถึงสภาพอากาศตอนนั้นที่แปรปปรวน เป็นรูปที่มีท้องฟ้าหลากหลายสีสัน
ผมไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ผมทำอยู่เรียกว่าเป็นงานอดิเรก ได้หรือเปล่า แต่มันเป็นสิ่งที่ผมทำแล้วมีความสุข ทำแล้วหายเหนื่อย เป็นสิ่งที่ชอบ และทำมันให้ออกมาดีที่สุดเป็นพอ
คนเรามีสิ่งที่ชอบไม่เหมือนกัน มุมมองชีวิตต่างกัน
คุณแค่ลองถามตัวเองว่า
"คุณทำกับอะไรแล้วมีความสุขคุณก็ทำสิ่งนั้นต่อไปก็แค่นั้น"