<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
14 สิงหาคม 2552
 
 

ถาม-ตอบ : วิธีคุมกำเนิดที่สาวสมัยใหม่ควรรู้

มีหลายคำถามที่สาวๆ อยากรู้แต่ไม่กล้าเอ่ยถามคนใกล้ชิด ลองอ่านดูนะคะ


     การใช้ชีวิตคู่ที่มีความสุขนั้น ถึงแม้องค์ประกอบสำคัญคือ ความรัก แต่หากวางแผนชีวิตครอบครัวไม่ดีก็ทำให้คุณเป็นทุกข์ได้เช่นกัน เรานำคำถามที่ยังค้างคาใจสาวๆ มาตั้งคำถามที่ยังค้างคาใจสาวๆ มาตั้งคำถามและหาคำตอบให้ในเวลาเดียวกัน

    Q: กำลังจะเริ่มทานยาคุมกำเนิด แต่ที่ร้านขายยาแนะนำว่า ให้กินหลังจากหมดประจำเดือนวันแรก แต่ที่โรงพยาบาลบอกว่าให้กินในช่วงวันที่ 1-5 หลังหมดประจำเดือน ตกลงแล้วจะเชื่อใครดีคะ


     A: การที่คุณได้รับข้อมูลที่แตกต่างกันและทำให้คุณสับสนนั้น ก็ต้องถามก่อนว่าคุณเลือกกินแบบไหน เข้าใจว่าที่เภสัชกรแนะนำแบบนั้นแสดงว่าเขาต้องแนะนำยาคุมกำเนิดแบบแผง 21 เม็ดให้ แต่ถ้าได้กินตั้งแต่วันที่ 1-5 หลังจากประจำเดือนรอบนั้น แสดงว่าเป็นยาคุมแบบแผง 28 เม็ด แต่ถ้ายังไม่แน่ใจหากจะมีเพศสัมพันธ์อาจเลือกวิธีคุมกำเนิดแบบนับวันหน้า 7 หลัง 7 (7หน้าหมายความว่า 7 วันก่อนหน้ารอบเดือนจะมา 7 วันหลัง หมายความว่า 7 วัน นับจากวันแรกที่รอบเดือนมา) หรือให้แฟนใส่ถุงยางอนามัยในช่วง 2 สัปดาห์แรกเป็นออฟชั่นเสริมด้วยจะชัวร์มากขึ้น

    Q: ถ้ากินยาคุมกำเนิดเกรงว่าจะมีสิวฝ้าขึ้นเต็มหน้า ทำยังไงดี

     A: ถ้าใบหน้าเริ่มมีฝ้า ให้เปลี่ยนขนาดยาที่มีเอสโตรเจนต่ำลง คือลดเหลือแค่ 20 ไมโครกรัม ระหว่างนี้ก็ต้องรักษาฝ้าไปด้วย โดยหลีกเลี่ยงการถูกแดดจัด ๆ และใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าทำตามแล้วก็ยังไม่ได้ผล แถมยังทำให้ประจำเดือนขาด ก็ควรไปปรึกษาแพทย์ หาวิธีคุมกำเนิดแบบอื่นแทนจะดีกว่า


    Q: เคยกินยาคุมแบบแผง 28 เม็ด แต่ต้องไปทำธุระต่างจังหวัด เลยไม่อยากให้ประจำเดือนมาช่วงนั้น หากตัด 7 เม็ดที่ไม่ใช่ยาคุมออกไป แล้วเริ่มกินแผงใหม่ที่ขึ้นด้วยฮอร์โมนเลย จะทำได้หรือไม่

    A: การเลื่อนประจำเดือนให้ออกไปอีกโดยการกินยาเม็ดที่มีฮอร์โมนต่อเลยนั้นทำได้ค่ะ และสามารถทำได้เท่าที่ต้องการ แต่ถ้าอยากให้ประจำเดือนมาปกติ ก็ให้หยุดแผงต่อไปก่อน จากนั้นอีก 2-3 วันประจำเดือนก็จะมาปกติ อาจมีข้อสงสัยว่าแล้วจะเริ่มกินยาคุมอีกทีเมื่อไร ก็เริ่มในวันแรกหลังจากประจำเดือนหมด


    Q: เพื่อนบอกให้กินยาคุมแบบฉุกเฉินทุกครั้งหลังจากที่มีเซ็กซ์

     A: ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน ควรใช้ในกรณีที่โดนข่มขืน ถุงยางหลุดกลางคัน หรือหมดอายุ และลืมกินยาคุม เพราะยาประเภทนี้จะมีฮอร์โมนมากกว่ายาคุมแบบกินทุกวัน แต่ก็มีบางคนที่ใช้ผิดวิธี เหมือนที่เพื่อนของคุณกำลังจะทำนั่นแหล่ะคือ กินหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง หรือกินมากกว่า 3 เม็ด/สัปดาห์ ก็เข้าข่ายเสี่ยงแล้ว เพราะฮอร์โมนที่สูงขึ้นจะทำให้มีผลต่อสุขภาพตามมาด้วย เช่นทำให้มีเลือดออกในช่องคลอดบ่อย การทำงานของมดลูกและรังไข่เกิดความผิดปกติ แต่รู้ไหมว่า เดี๋ยวนี้ผู้ชายเป็นคนพกยาตัวนี้กันแล้ว และมักหลอกให้แฟนกินหลังมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง อ้างว่าเป็นยาบำรุง


  
  Q: กินยาคุมกำเนิดอาทิตย์แรก ก็เกิดคลื่นไส้แล้ว แต่พออาทิตย์ที่ 2 ยิ่งมีอาการมากขึ้น เลยอยากทราบวิธีแก้หน่อยค่ะ

    A: ก่อนจะเลือกวิธีคุมกำเนิดด้วยการกินยา ไม่ว่าจะเป็นแบบแผงกินทุกวัน หรือแบบฉุกเฉิน ควรคิดเผื่อไว้เลยว่า ต้องเจออาการคลื่นไส้ อาเจียนแน่นอน แต่ถ้าคิดจะใช้วิธีนี้ไปก่อน เรามีเทคนิคมาบอกกันแต่เทคนิคนี้ต้องใช้คู่กับวิธีอื่นด้วย นั่นคือ แผงแรกที่กินอาจจะยังไม่ต้องกินตรงเวลาเดียวกันทุกวัน แต่ให้กินสลับเวลาออกไปแล้วให้สังเกตุตัวเองว่า เวลาไหนที่ตัวเองมีอาการคลื่นไส้น้อยที่สุด หรือวันนั้นไม่มีอาการเลยก็ให้ยึดเวลานั้นเป็นเวลามาตรฐานในการกินไปเลย แต่ระหว่างนี้ประสิทธิภาพยาคมอาจด้อยไปบ้าง จึงต้องให้ฝ่ายชายใส่ถุงยางร่วมด้วยไปก่อน อีกวิธีที่แพทย์แนะนำคือ กินยาแก้คลื่นไส้อาเจียนหรือยาแก้แพ้ ก่อนกินยาคุมกำเนิดทั้งสองชนิดประมาณ 15-20 นาที จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าคิดว่ามันจุกจิกเกินไปก็เลือกคุมกำเนิดแบบอื่นจะดีกว่า 


   
Q: จะประยุกต์กินยาคุมแบบธรรมดาให้เหมือนกับยาแบบฉุกเฉิน ทำได้หรือไม่

    A: ทำได้ค่ะ โดยกินเฉพาะตัวยาหลังมีเพศสัมพันธ์ 2 เม็ดแรกทันที หรือจะกินภายใน 72 ชั่วโมงก็ได้ หลังจากนั้นนับไปอีก 12 ชั่วโมง จึงทานอีก 2 เม็ด



    Q: หากจะกินยาคุมแบบฉุกเฉินซ้อนกับยาคุมแบบปกติได้หรือไม่

    A: ทำได้เช่นกัน แต่อาการข้างเคียงจะรุนแรง เช่น มีอาการคลื่นไส้มากกว่าเดิมหรืออาจจะมีเลือดออกผิดปกติคล้ายกับเลือดประจำเดือนออกมาประมาณ 2-5 วัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณแพ้ขนาดไหน แล้วยังทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนด้วยเช่น อาจจะมาก่อนหรือช้าไปประมาณ 1-2 สัปดาห์



    Q: มีวิธีการซื้อยาคุมให้เหมาะกับตัวเองเพื่อลดผลข้างเคียงให้มากที่สุดอย่างไร

    A: ควรดูตามฮอร์โมนของร่างกาย ลักษณะรูปร่างของเรา เพราะยาคุมในท้องตลาดมี 3 ประเภท ขึ้นอยู่กับระดับปริมาณของฮอร์โมน คือ ปริมาณน้อย ปานกลาง และปริมาณมากๆ ให้สังเกตว่าถ้าร่างกายเรามีฮอร์โมนเพศหญิงเยอะ คือมีหน้าอกโต ประจำเดือนมามาก และหลายวัน ควรจะเลือกยาคุมที่มีฮอร์โมนเพศหญิงต่ำ เพราะจะช่วยลดอาการคลื่นไส้ได้ด้วย แต่ถ้าใครมีหน้าอกเล็ก มีประจำเดือนน้อย และก็มีน้อยวันด้วย หน้ามัน ผมมัน เป็นสิว แสดงว่าเป็นสาวที่มีฮอร์โมนเพศชายสูง สามารถเลือกยาคุมที่มีฮอร์โมนสูงๆ ได้ ซึ่งฮอร์โมนระดับนี้บางยี่ห้อจะช่วยรักษาสิวได้ด้วย


    Q: อยากรู้วิธีคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมน แต่เป็นวิธีอื่นบ้างมีไหมคะ


    A: มีทั้งที่เป็น 1. ปลาสเตอร์คุมกำเนิด ที่ปิดบริเวณหน้าท้อง หรือท้องแขน ต้องติดครบ 3 สัปดาห์ ถึงค่อยแกะออกแล้วแปะแผ่นใหม่หลังจากนั้นอีก 1 สัปดาห์ 2. ห่วงสอดช่องคลอด สอดไว้ในช่องคลอดเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ถอดออกและใส่ห่วงใหม่หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ 3. ฝังยาคุมกำเนิด หรือพูดง่ายๆ ว่า "ยาฝัง" โดยหมอจะฝังตัวยาอิมพลานอนไว้ที่ใต้ท้องแขน 1 หลอดซึ่งจะคุมได้ 3 ปี



   
Q: แล้วถ้าจะป้องกันแบบไม่ใช้ฮอร์โมนมีวิธีไหนบ้าง


    A: มีหลายวิธีเหมือนกันแต่ที่ทำง่ายและป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ดี คือให้คุณผู้ชายเป็นฝ่ายใส่ถุงยางเสีย แต่ถ้าเขาปฏิเสธว่า "ไม่" คุณอาจเลือกใช้วิธี

    1. ห่วงอนามัย หรือพูดกันสั้นๆ ว่า ใส่ห่วง ซึ่งหมอจะเป็นผู้ใส่ โดยมี 2 แบบคือ แบบคอปเปอร์ที (Tcu380A) ใส่ครั้งเดียวคุมได้ถึง 10 ปี แต่ถ้าเป็นแบบมัลติโหลด (ML250) จะคุมได้แค่ 3 ปีเท่านั้น



    2. ถุงยางอนามัยสตรี คือใส่ในช่องคลอดก่อนมีเซ็กซ์



    3. ใช้วิธีสังเกตในช่วงระยะไข่ตก ให้สังเกตมูกที่ปากมดลูกเพราะตามหลักสรีระศาสตร์ง่ายๆ เลยคือว่า ในช่วงระยะเวลาที่ไข่ตก มูกที่ปากมดลูกจะมีลักษณะเป็นยางยืดมากที่สุด ลองใช้นิ้วสัมผัสมูกที่ปากมดลูกดู ถ้าเริ่มเป็นยางยืดเหนียวให้งดทำกิจกรรมบนเตียงทันที หรือ

    4. ใช้แถบตรวจปัสสาวะเพื่อดูแถบสี ถ้าผลปัสสาวะออกมาเป็นสีแดง ก็แสดงว่าอยู่ในช่วงอันตราย แต่ถ้าผลตรวจปัสสาวะเป็นสีเขียว แสดงว่า ปลอดภัย


     Q: อยากรู้จังว่า ตอนนี้สาวๆ เขานิยมใช้วิธีคุมกำเนิดแบบไหนกันมากที่สุด

     A: การฉีดยาคุมกำเนิดแบบ 3 เดือนต่อครั้ง กำลังได้รับความนิยม เพราะสะดวกและไม่ต้องกังวลว่าจะลืมกินยา แต่จะเหมาะกับคุณแม่ที่มีลูกแล้ว เพราะถึงแม้คุณจะหยุดยาแล้ว ก็ใช่ว่าจะมีลูกได้ทันที ต้องอีกประมาณ 6-12 เดือน ถึงจะมีลูกได้ แต่ถ้าเลือกวิธีฝังยาก็คุมกำเนิดได้ถึง 3 ปี แต่มีผลข้างเคียงคือ ประจำเดือนอาจไม่มาหรือถ้ามาก็น้อยเต็มที แต่ถ้าห่วงเรื่องว่าฝังยาแล้วอาจจะอ้วน มีสิว หรือปวดศีรษะนั้น จะเป็นเฉพาะบางรายเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แทบไม่เกิดอาการอะไรขึ้นเลย 


    **** สาวๆ จ๋า รู้ไว้ใช่ว่านะ****     
 

    1. เวลาไปซื้อยาคุมกำเนิดสิ่งสำคัญที่ควรบอกเภสัชกร คือ รอบเดือนมากี่วัน มีจำนวนมากน้อยแค่ไหน และมาปกติหรือเปล่า

    2. การเก็บยาคุมกำเนิดที่ถูกต้องคือ เก็บไว้ที่อุณหภูมิปกติ
หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง ๆ และเก็บให้พ้นแสง และความชื้น ไม่ควรเก็บไว้ในตู้เย็นเพราะความชื้นส่งผลให้ประสิทธิภาพของยาเปลี่ยนแปลงได้

    3. ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน ห้ามใช้ในสตรีที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเพศสัมพันธ์ เช่น เลือดออกในช่องคลอด เยื่อบุมดลูกงอกผิดปกติ เพราะอาจทำให้การรักษามีปัญหาได้







 

Create Date : 14 สิงหาคม 2552
8 comments
Last Update : 14 สิงหาคม 2552 15:30:27 น.
Counter : 952 Pageviews.

 

Q: จะประยุกต์กินยาคุมแบบธรรมดาให้เหมือนกับยาแบบฉุกเฉิน ทำได้หรือไม่
ไม่ทราบว่าสามารถทำแบบนี้ได้อย่างปลอดภัยใช่ไหมคะ
ไม่ตั้งกังวลใช่ไหมคะ
และการใช้ยาคุมแบบฝังไม่ทราบว่าทำได้ที่ไหนบ้างคะ

 

โดย: a IP: 115.67.116.63 14 สิงหาคม 2552 18:55:16 น.  

 

การคุมกำเนิดโดยการฝังนั้น มีข้อดี ข้อเสียอย่างไรคะ แล้วผลจากการฝังยานั้นมีอะไรบ้างคะ ขอบคุณค่ะ

 

โดย: a IP: 119.42.94.99 14 สิงหาคม 2552 22:56:35 น.  

 

//www.clinicrak.com/birthcontrol/lady_pills04.shtml

 

โดย: ควีนโพธิ์ดำ 21 สิงหาคม 2552 16:33:56 น.  

 

ยาคุมกำเนิดแบบฝังมี 2 ชนิด คือแบบหลอดเดียวคุมได้ 3 ปี และแบบ 5 หลอดคุมได้ 5 ปี ผลข้างเคียงที่ได้รับมีน้อยมากแต่เจ็บเวลาทำการฝัง คือต้องฝังใต้ท้องแขน แบบ 5 หลอดฝังเป็นรูปพัดที่่ท้องแขน รับบริการได้ที่สถานบริการของรัฐทุกแห่ง แต่ถ้าเสียค่าใช้จ่ายก็แพงพอสมควร คือประมาณ 1000-2000 บาท ต้องดูว่าคุณใช้สิทธิรักษาเป็นแบบใด แต่ที่แน่ ๆ โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งจะมีบริการถ้าไม่มีจะแนะนำให้คุณเป็นการส่วนตัว ทางที่ดีคุณไปปรึกษาเรื่องการคุมกำเนิดได้เลย จะได้รับคำแนะนำที่ดี

 

โดย: ควีนโพธิ์ดำ 21 สิงหาคม 2552 16:36:03 น.  

 

ประจำเดือนขาดอยากทราบว่าถ้ากินยา primolut N จะทำให้ประจำเดือนมาจริงหรือป่าวคะ
แล้วถ้าท้องอยู่จะเป็นอันตรายต่อเด็กไหมค่ะหนูจะแท้งไหมคะ

 

โดย: pui IP: 124.157.138.97 7 กันยายน 2552 22:55:11 น.  

 

ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายวันที่13-16ก.ค52ตอนนี้ประจำเดือนหนูยังไม่มาถ้าหนูท้องจะท้องได้กี่เดือนกี่วันคะ

ขอบคุณคะ

 

โดย: ดาว IP: 124.157.138.97 7 กันยายน 2552 22:59:48 น.  

 

ประจำเดือนมาเดือนเว้นเดือนตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือนแล้วมีโอกาสเป็นหมันมัย

 

โดย: daf IP: 61.19.222.4 11 มิถุนายน 2553 13:42:48 น.  

 

ถ้าประจำเดือนไม่มา 2 เดือนแล้ว มีโอกาสท้องมั๊ย แต่ปกติก็มาแบบนี้คือ 2 เดือนมาครั้งและก็มาไม่ตรงกำหนด

 

โดย: Fas IP: 61.19.222.4 11 มิถุนายน 2553 13:47:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

ควีนโพธิ์ดำ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Fit&Firm
[Add ควีนโพธิ์ดำ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com