Bloggang.com : สาวชาววัง : โจ๊กร้อนๆ 5

โจ๊กร้อนๆ 5

1. ไว้ใจได้ไหม

ชายหนุ่มขับรถไปจอดหน้ารัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเขตห้ามจอด
เขาลงไปโดยไม่ดับเครื่อง และเรียกชายแปลกหน้าท่าทางภูมิฐานซึ่งยืนอยู่แถวนั้น
"คุณครับ ผมจะข้ามไปทำธุระฝั่งตรงข้ามสักห้านาที รบกวนคุณเฝ้ารถไว้ให้ผมหน่อยได้ไหม"
ชายแปลกหน้ามองเขาอย่างไม่พอใจ "นี่คุณมาใช้ผมอย่างนี้ไม่รู้เลยหรืออว่าผมเป็นใคร
ผมเป็นถึงส.ส.ผู้ทรงคุณวุฒิในสภา คุณจำหน้าผมไม่ได้เรอะ"
ชายหนุ่มทำหน้าตกใจ "ตายล่ะ..แต่ไม่เป็นไร ถึงคุณจะเป็นนักการเมือง ผมก็จะลองเชื่อใจคุณดูสักครั้ง เอ้า"

2. ขายถูกๆจ้า

ชายหนุ่มพยายามขายสุนัขที่เพิ่งซื้อมาได้ไม่ถึงเดือนให้เพื่อนบ้าน
"หมาตัวนี้พูดได้ด้วยนะ ผมขายถูกๆเลย ห้าเหรียญเท่านั้น"
เพื่อนบ้านส่ายหน้า "หมาบ้านไหนพูดได้ คุณนี่พูดมั่ว"
ทันใดนั้น หมาตัวที่ว่าก็เดินเข้ามาหาเพื่อนบ้านน้ำตาคลอ ท่าทางเศร้า
และเริ่มขับปากพูดว่า "ช่วยซื้อผมไปเลี้ยงด้วยเถอะครับ
ผู้ชายคนนี้ไม่เคยให้ข้าวผมกินเลย ไม่เคยอาบน้ำให้ผม
ไม่เคยพาผมไปเดินเล่น ผมเคยอาศัยอยู่ในวัง
พวกเขาเลี้ยงผมอย่างกับพระราชา บ้านมหาเศรษฐีผมก็เคยอยู่
เขาพาผมขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ไม่เคยหยุด"
เพื่อนบ้านตกใจ "เห้ย.. หมาพูดได้จริงๆด้วย แล้วทำไมคุณถึงจะขายเสียล่ะ"
ชายหนุ่มตอบเสียงเนือยๆว่า "ผมเบื่อจะฟังมันโกหกอีกต่อไปแล้ว"

3. ทำไมไม่บอก

แพทรับอาสาคู่สามีภรรยาข้างบ้าน
ดูแลลูกสาวตัวน้อยให้ในวันที่ทั้งคู่
ต้องไปทำธุระด่วนนอกเมือง
แพทรีบมาแต่เช้าตรู่เพื่อจะทำอาหาร
เช้าให้หนูน้อยกินก่อนไปโรงเรียน
"ปกติคุณแม่ทำอะไรให้ทานคะ"
แพทถามหนูน้อย
"ข้าวผัดค่ะ" หนูน้อยตอบ
แพทกระวีกระวาดเข้าไปในครัว
หายไปครึ่งชั่วโมงก็กลับมาพร้อมจานข้าวผัด
แต่หนูน้อยเลือกกินแต่ขนมปังกับนม
ไม่ยอมแตะข้าวผัดของเธอเลยสักคำเดียว
"อ้าว..ทำไมไม่กินล่ะคะ ก็หนูบอกพี่เองว่า
คุณแม่ชอบทำข้าวผัดให้ทานไม่ใช่เหรอ"
หนูน้อยตอบว่า "ใช่ค่ะ.. แม่หนูชอบทำข้าวผัด
แต่หนูไม่ชอบกินเลยค่ะ"

4. ไม่อยากซ้ำรอย

หลังจากทำพิธีศพหญิงสาวคนหนึ่งเสร็จ พวกสัปเหร่อก็รี่เข้ามาช่วยกันแบกโลงออกไปนอกโบสถ์
แต่หนึ่งในสัปเหร่อ เกิดเสียหลักทำโลงหลุดมือจนไปกระแทกกับผนังโบสถ์
ทันใดนั้นก็มีเสียงครางเบาๆเล็ดลอดออกมา พอทั้งหมดช่วยกันเปิดฝาโลงอกก็เห็นหญิงสาวผู้ตายฟื้นขึ้นมา
ปรากฎว่าเจ้าหล่อนมีชีวิตอยู่ต่อมาได้อีก ห้าปีถึงตาย ครั้งนี้หลังจากพิธีศพ สัปเหร่อก็ตรงเข้ามา
แบกโลงจะออกนอกโบสถ์อีกครั้ง ช่วงที่สัปเหร่อแบกโลงเข้าใกล้ผนังนั้น
สามีของหญิงสาวที่เสียชีวิตกฌตะโกนเสียงดังลั่นว่า "ระวังกำแพง!"

5. เหนือชั้นกว่า

หญิงชราเคร่งศาสนากลุ่มหนึ่ง นั่งดื่มชาด้วยกัน
ก่อนจะคุยอวดถึงลูกชายของตัวเองเพื่อทับถมกัน
หญิงชราคนแรกบอกว่า "ลูกชายฉันเป็นบาทหลวง
เวลาเดินไปไหนๆ ใครๆก็เรียกเขาว่า.. คุณพ่อ"
หญิงชราคนที่สองคุยบ้างว่า "ลุกชายฉันเป็นบิชอป
ใครๆก็เรียกเขาว่า พระคุณเจ้า ทั้งนั้นเหมือนกัน"
หญิงชราคนที่สามอวดบ้างว่า "ส่วนลูกชายฉันเป็น
พระคาร์ดินัล ใครๆก็เรียกเขาว่า.. ท่านสาธุคุณ"
หญิงชราคนที่สี่ยกน้ำชาขึ้นจิบ ก่อนบอกว่า
"แต่ลุกชายฉันสิ ไอ้ส่วนนั้นของเขามีขนาดตั้งแปดนิ้ว
ไปไหนๆ สาวแก่แม่ม่าย ต่างก็เรียกเขาว่า..โอ้ พระเจ้า
กันให้ระงม"

6. เหมือนใคร

คุณแม่รีบไปพบคุณครูประจำชั้นของลูกที่โรงเรียน ตามที่คุณครูมีจดหมายไปหาที่บ้าน
คุณครูแจ้งว่า "ลูกสาวคุณไม่ค่อยสนใจการเรียนเลยค่ะ แถมดิฉันยังพบว่าแกมีนิสัยขี้หลงขี้ลืมเอามากๆ
บางครั้งแกทำการบ้านมาผิดหน้า อ่านหนังสือมาผิดบท นั่งผิดที่ และยังใช้ล็อกเกอร์ผิดตู้ด้วย"
คุณแม่ทำหน้างงๆ "ลูกสาวดิฉันเป็นถึงขนาดนั้นเลยจริงๆเหรอคะ เอ..แกไปได้นิสัยขี้หลงขี้ลืมนี่มาจากใครกันนะ"
คุณครูพูดต่อ "แต่ยังไงแกก็เป็เด็กดีมีน้ำใจกับเพื่อนๆ ดิฉันคิดว่า ถ้าเราช่วยกันคงจะปรับพฤติกรรม
แกให้ดีขึ้นได้ เรื่องที่ดิฉันจะแจ้งให้คุณแม่ทราบ ก็มีเท่านี้แหละค่ะ ..ว่าแต่ มีอีกเรื่อง
ดิฉันจำได้ว่านัดคุณแม่มาคุยวันพรุ่งนี้ไม่ใช่เหรอ"

7. ทางเลือก

สามีไปปรึกษาหมอว่า ภรรยาไม่ยอมให้กุ๊กกิ๊กด้วยมาเจ็ดเดือนแล้ว
หมอเลยเรียกภรรยามาพบ เพื่อสอบถามปัญหาเป็นการส่วนตัว
ภรรยาอธิบายว่า "เจ็ดเดือนที่ผ่านมา ฉันนั่งรถแท๊กซี่ไปทำงานทุกวัน
แต่ฉันไม่มีค่ารถ คนขับแท๊กซี่เลยเสนอว่า ฉันจะจ่ายหรือจะทำอย่างอื่น
ฉันเลยเลือกทำอย่างอื่นที่ว่า และก็เพราะมัวแต่ทำอย่างอื่น ฉันเลยไป
ทำงานสายทุกวัน หัวหน้าฉันเลยเสนอว่า จะให้รายงานฝ่ายบุคคลหรือว่า
จะทำอย่างอื่น ทำไงได้ ฉันไม่อยากเสียประวัติ ก็เลยเลือกทำอย่างอื่นอีก
เหมือนกัน คุณหมอลองคิดดูสิคะ ฉันต้องเจออย่างนี้ทุกวัน วันละสองรอบ
กลับบ้าน ฉันก็ไม่อยากทำอะไรกับสามีแล้ว" หมอพยักหน้าเข้าใจ ก่อนบอกว่า
"คุณจะให้ผมบอกเรื่องนี้กับสามีคุณ หรือว่า.. คุณจะทำอย่างอื่น"

8. ไร้เดียงสา

กลับจากโรงเรียน ลุกสาวรีบวิ่งเข้ามาอวดแม่ว่า
"วันนี้ที่โรงเรียนเรียนนับเลขด้วย หนูเป็นคนเดียว
ที่นับเลขหนึ่งถึงสิบได้ นี่เป็นเพราะหนูฉลาดใช่ไหมคะแม่"
ปม่พยักหน้า "ใช่จ้ะ ลูกฉลาด" วันต่อมาลูกสาวบอกแม่ว่า
"วันนี้ที่โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ หนูเป็นคนเดียวที่ท่อง
เอถึงแซดได้ นี่เป็นเพราะหนูฉลาดใช่ไหมคะแม่"
แม่ตอบว่า "ใช่จ้ะ ลูกฉลาด" วันถัดมาลูกสาวกลับจาก
โรงเรียนด้วยความสงสัย "วันนี้ที่โรงเรียนสอนว่ายน้ำ
หนูเป็นคนเดียวที่มีหน้าอก..นี่เป็นเพราะหนูฉลาดกว่า
คนอื่นด้วยหรือเปล่าคะแม่" แม่บอกว่า "ไม่ใช่จ้ะ แต่เป็น
เพราะลูกอายุยี่สิบแล้วต่างหาก"

Create Date : 16 กันยายน 2550

Last Update : 16 กันยายน 2550 17:51:17 น.

1 comments

Counter : 410 Pageviews.

555 ขำมากมาย ขอบคุณค่ะที่เอามาให้อ่าน

โดย: vnv IP: 221.128.74.90 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:26:49 น.