สำหรับรางวัลใหญ่อย่างสาขาภาพยนตร์อย่างภาพยนตร์ดรามายอดเยี่ยมนั้น ตกเป็นของตัวเต็งอย่าง The Social Network ไปตามคาด ขณะที่ผู้กำกับคนดัง เดวิด ฟินเชอร์ ก็คว้ารางวัลในสาขาผู้กำกับไปครอง The Social Network เล่าเรื่องการถือกำเนิดของเว็บไซต์เครือข่ายสังคมสุดฮิตแห่งยุค Facebook กับเรื่องความสำเร็จของคนหนุ่มที่โด่งดังแห่งยุค มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ค แลกความโด่งดังและเงินทอง กับมิตรภาพของคนรอบตัว
The Social Network ยังกวาดรางวัลไปอีก 2 สาขา ได้แก่ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมโดยนักเขียนคนดัง แอรอน ซอกิน และ ดนตรี ประกอบยอดเยี่ยมของ เทรนต์ เรซเนอร์ และ อัตติคัส รอสส์
โดย The King's Speech เล่าเรื่องของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ที่ต้องกล่าวสุนทรพจน์นำอังกฤษเข้าสู่สงครามโลก และได้รับความช่วยเหลือจากนักบำบัดอาการผิดปกติทางการพูดชาวออสเตรเลีย เพื่อแก้ไขปัญหาการพูดติดอ่างของพระองค์
สองคู่หูจาก Toy Story ขึ้นเวทีมาเพื่อประกาศรางวัลในสาขาภาพยนตร์ตลกหรือเพลง และกลายเป็น The Kids Are All Right ที่คว้ารางวัลใหญ่รางวัลนี้ไปครอง ขณะที่ พอล เจียมาติ (Barney's Version) และ แอนเน็ต เบนนิ่ง (The Kids Are All Right) ได้รับรางวัลสำหรับการแสดงนำในสาขานี้ไปครอง
ในลูกโลกทองปี 2011 นับว่าเป็นปีของหนังที่สร้างมาจากเรื่องจริง นอกจาก The Social Network และ The Kings Speech ที่คว้ารางวัลใหญ่ไปครองแล้ว The Fighter ที่สร้างจากประวัติชีวิตนักมวยชื่อดัง ก็สามารถคว้ารางวัลไปได้ถึง 2 สาขาในด้านการแสดง
ขณะที่ อัล ปาชิโน่ และ แคลร์ เดนส์ ซึ่งได้รับรางวัลในสาขานักแสดงชายในสาขามินิซีรี่ส์จาก You Don't Know Jack และ Temple Grandin ก็เป็นผลงานที่สร้างมาจากเรื่องจริงเช่นเดียวกัน
Toy Story 3 ปิดตำนานการ์ตูนอนิเมชั่นขวัญใจประชาชนอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการคว้ารางวัลอนิเมชั่นยอดเยี่ยม และนับเป็นรางวัลลูกโลกทองคำตัวที่ 6 สำหรับ Pixar สตูดิโอผลิตอนิเมชั่นชื่อดังแห่งวงการภาพยนตร์แล้ว