My Sliding Door
|
||||
กระตุ้นไข่ครั้งที่ 3: ใส่ตัวอ่อนครั้งที่ 5 ผ่านไปอีก 1 ปีที่ทำใจได้ ทีนี้ก็เริ่มกลับมาหาข้อมูลคลินิคที่จะทำกันอีกรอบ นั่งเปรียบเทียบอยู่ 4-5 คลินิคที่มีชื่อเสียง ขออนุญาตแจ้งรายรายละเอียดของแต่ละคลินิคคร่าวๆ เผื่อมีคุณแม่ท่านไหนจะสนใจ (ราคาปี 2018) มาคราวนี้คิดว่าอยากจะเลือกคลินิคที่มีห้องแลปดีๆ มีนักวิทย์ที่เชี่ยวชาญและมีคุณหมอผู้ดูแลที่ใส่ใจคนไข้มากๆ จำเคสของเราได้ เพื่อที่การรักษาจะได้ต่อเนื่อง สุดท้ายตัดสินใจทำกับคุณหมอมัธชุพรที่รพ.ปิยะเวท ซึ่งคุณหมอเป็นอาจารย์หมอที่รามาด้วย ครั้งแรกที่เข้าไปคุยประทับใจมาก คุณหมอวิเคราะห์และให้คำแนะนำแบบละเอียด ไม่รีบทำการรักษาจนเกินไป และพยายามหาสาเหตุที่ทำให้การใส่ตัวอ่อนในครั้งก่อนๆไม่ติด เริ่มจากคุณหมอให้เริ่มทานวิตามินบำรุงร่างกายก่อน 2 เดือน ประกอบไปด้วย Folic, วิตามิน C, วิตามิน E, Q 10, วิตามิน Astaxanthin ระหว่างนั้นเริ่มออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานในคลาส วันละ 1 ชม. สัปดาห์ละ 3-4 ครั้งเพื่อเตรียมตัว และเราได้ปรึกษาคุณหมอถึงสาเหตุที่กระตุ้นไข่ในรอบก่อนแล้วมีไข่จำนวนหนึ่งไม่โตตามยากระตุ้น รู้สึกเสียดายเพราะมันหลายฟองมาก เทคนิคของคุณหมอคือการฉีด Enantone 2 เข็ม ก่อนการเริ่มกระตุ้นไข่ในรอบนี้ ซึ่งจะช่วยในเรื่องคุณภาพของไข่อีกด้วย มีการเจาะเลือดหาค่าความผิดปกติของโครโมโซมของเราและสามี ดูค่าเลือดว่ามีการปฏิเสธตัวอ่อนหลังฝังไปรึป่าว ซึ่งทุกอย่างปกติดี (ยกเว้นซีสต์ที่รังไข่ที่เรามีอยู่แล้ว) เมื่อมั่นใจแล้วจึงเริ่มฉีดยากระตุ้นไข่ เรารับยาที่รพ.รามาเพื่อคุมค่าใช้จ่าย ฉีดยากระตุ้นไป 11 วัน จำไม่ได้ว่าวันละกี่ miu แต่ว่าไข่มีขนาดโตขึ้นในขนาดที่ใกล้เคียงกัน อัลตร้าซาวน์เห็นไข่ 12 ฟอง หลังจากนั้นจึงไปเก็บไข่ที่รพ.ปิยะเวท ที่นี่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนจีน มีคนไทยบ้างประปราย (ต้องทำนัดก่อนเท่านั้น) สถานที่สวยงาม มีห้องบริการรองรับ เก็บได้ทั้งหมด 10 ฟอง ผสมเป็นตัวอ่อนถึง Day 5 ได้ 4 ตัว ลุ้นอยู่ทุกวัน ถามไลน์พยาบาลเรื่อยๆ ก่อนจะใส่ตัวอ่อนรอบนี้ คุณหมอตรวจดูโพรงมดลูก โพรงมดลูกเรียบ สวยและไม่มีติ่งเนื้อจึงนัดใส่ตัวอ่อนในรอบเดือนถัดไป ตัวอ่อนที่ใส่เป็นเกรด AA 1 ตัว BB 1 ตัว คิดอยู่ในใจยังไงรอบนี้ต้องติดๆๆ หลังใส่ตัวอ่อนเสร็จ นอนรอที่ห้องรพ. 2 ชม.ก่อนกลับบ้าน รอบนี้พยายามทำใจให้สบาย ไม่เครียดดีที่สุด ไม่ต้องสนใจอะไรมาก ติดก็ดี ไม่ติดก็ไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม รอบนี้ไม่นอนติดเตียง ลุกเดินไปมาภายในบ้าน บางวันก็ออกไปเดินเล่นที่ห้าง ไปดูหนังสบายใจเฉิบ พี่สาวให้ First Response มา 1 แท่ง เค้าบอกว่าตรวจได้เร็วก่อนปจด.มาถึง 6 วัน พอใส่ตัวอ่อนเข้าวันที่ 6 ก็หยิบมาตรวจเลย ถ้าไม่ติดจะได้เลิกลางาน กลับไปทำงานเหมือนเดิม ถ้าติดจะได้ระวังตัวต่อไป ผลที่ออกมาคือขึ้น 2 ขีดจ้า น้ำตาไหลพราก ตื่นเต้นสุดๆ รีบโทรบอกสามี ติดแล้วๆๆ แต่พอรู้ว่าติดแล้วกลับมีความเครียดเข้ามาแทน เวลาจะลุกจะนั่งก็คิดว่าเอ๊ะ จะสะเทือนมั้ย โอเคมั้ย กลายเป็นว่าคิดเยอะกว่าตอนยังไม่ตรวจ อาการของรอบที่ติดแตกต่างจากรอบอื่นชัดเจนคือ ตัวรุมๆ วัดอุณหภูมิได้ประมาณ 37 (ปกติจะประมาณ 36.4-36.7) มีเหงื่ออกมือ คัดหน้าอก ไม่มีเลือดซึมยาติดออกมาเหมือนรอบก่อนๆ คุณหมอนัดเจาะเลือดวันที่ 7 ซึ่งถือว่าเร็วกว่าที่อื่นมาก ผล HCG = 22 เราก็คิดว่าทำไมน้อยจัง คนอื่นได้เป็นร้อย แต่คุณหมอบอกว่านี่เรานัดตรวจเร็วมาก ผลขึ้นแบบนี้แสดงว่าติดเเล้วแน่นอน ขอให้พักผ่อนต่อ day rest อีกซัก 7 วัน แล้วมาตรวจใหม่ หลังจากวันนั้นก็ใช้ที่ตรวจครรภ์ตรวจปัสสาวะทุกวัน เอ้ะ ทำไมเหมือนมันจางลงๆ หรือว่าของที่ใช้มันไม่ดี เริ่มกังวลแต่ก็รอจนครบ 7 วันไปตรวจเลือดใหม่ ระหว่างรอเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น เป็นชม.ที่ตื่นเต้นเหลือเกิน มือเย็นเฉียบ คิดว่าถ้าหลุดจะทำยังไง จนได้พบคุณหมอ ผลเจาะเลือดค่า HCG ลงเหลือ 12 ช็อคมาก หมอบอกว่าฮอร์โมนตก ตัวอ่อนน่าจะหลุด น้ำตาไหล มันพูดอะไรไม่ออก หมอบอกว่าเดี๋ยวไปฉีดยากันแท้งไว้ เพราะเคยมีคนไข้ที่เป็นแบบนี้แต่สุดท้ายก็ไม่หลุด (เราแอบคิดในใจว่ามันคือคำปลอบใจใช่มั้ยคะ) เดินเบลอๆไปฉีดยา หลังจากวันนั้นก็เครียดมากเหลือเกิน คิดว่าทำไมๆถึงได้ยากเย็นถึงเพียงนี้ แอบไปเจาะเลือดที่รพ.ใกล้บ้าน ผลที่ออกมาคือ HCG = 3 สรุปคือลูกไม่อยู่แล้วจริงๆ ยื้อไม่ไหว จบครั้งนี้ไปกับค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด 280000 บาท ยังเหลือตัวอ่อนฟรีซอยู่ที่นี่อีก 2 ตัวเกรด BC และ CC แต่คุณหมอไม่แนะนำให้ใส่เนื่องจากเกรดไม่สวยมาก เราจึงเก็บลูกไว้ก่อนจนถึงปี 65 |
primprince
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |