กุมภาพันธ์ 2553

 
2
5
6
7
8
9
10
11
12
14
16
18
19
20
22
23
25
26
27
28
 
 
All Blog
"ชีวิตต้องสู้" เพื่ออะไร ??
วันนี้ขับรถกลับจากสุรินทร์ตั้งแต่ 6 โมงเช้ามุ่งหน้าสู่พนมดงรัก ด้วยระยะทาง 80 กม.เพื่อที่จะไปขึ้นเวรตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน แค่เห็นเวลาก็เหนื่อยแล้ว ระหว่างที่ขับรถมาก็คิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อคืนไปพลางๆ.......... เมื่อวานออกจากบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เพื่อมาส่งน้องไปทำงานที่สุรินทร์ ทั้งๆที่ไม่จำเป็นเลย แต่เพียงเพราะอยากไปหา อยากเจอหน้าใครบางคน ทำให้เราต้องหาทางไปสุรินทร์ให้ได้ ลำบากแค่ไหน ไกลแค่ไหนก็ยอม ใครจะว่าอะไรก็ไม่ใส่ใจ ระยะทางประมาณ 100 กม.คือจุดมุ่งหมายของเรา ออกเดินทางตั้งแต่ 17.00 น ถึงสุรินทร์ 18.30 น.พอไปถึงสิ่งที่ไม่คาดคิด ไม่อยากให้เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนก็เกิดขึ้นจนได้ เกือบจะไม่ได้เจอหน้ากันแล้ว แค่เขาบอกว่า "วันนี้เป็นวันของครอบครัว ออกมาหาไม่ได้" ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็นิ่งหมดเลย........มีแต่ใจที่มันเจ็บจี๊ดๆ พูดอะไรไม่ออก บอกใครก็ไม่ได้ เคยได้ยินที่เขาว่าน้ำตาตกในมั๊ยค่ะ มันเป็นแบบนั้นเลย น้ำตามันออกมาข้างนอกไม่ได้ แต่ข้างในมันแทบจะท่วมจนเกือบหายใจไม่ออกแล้ว สิ่งที่ทำได้ตอนนั้นก็คือตั้งใจขับรถพาน้องซึ่งเป็นลมพิษเต็มตัวไปให้ถึงที่พักให้ได้ แล้วก็ต้องอดทน อดทนอย่างเดียว............ 45 นาทีต่อมาเขาโทรมาพาออกไปข้างนอกเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่ต้องบอกหรอกว่าการ ขับมอเตอร์ไซด์ชมบรรยากาศข้างทางยามค่ำคืนมันสุดยอดแค่ไหน ใครที่ไม่เคยทำก็ลองไปทำดูนะค่ะ มีความสุขมากๆขอบอก แต่สำหรับเราคืนนี้มันไม่สนุกเลย มันไม่ได้มีความสุขเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา เราคุยกันไม่รู้เรื่อง เหมือนต่างคนต่างความคิดและไม่ยอมกัน เราพยายามไม่เถียงยอมรับที่เขาพูดเขาบอกทุกอย่าง แต่ในใจนะมันดิ้นๆๆๆ แทบกระโดดออกมานอกตัวแล้วก็ยืนเท้าใส่เอวชี้หน้าว่าคืนเลย แต่ก็ทำไม่ได้ แล้วก็ไม่รู้จะทำทำไมด้วย ก็เขาเป็นคนที่เรารัก ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องไม่ทำให้เขาเสียใจ แต่สิ่งที่ทำไปแล้วมันคือความที่เราไม่รู้ต่างหาก ก็เลยทำให้เขาโกรธและเป็นเรื่องเป็นราวจนได้ ขับรถชมวิว(ทะเลาะกัน) สักพักเขาก็มาส่งเราที่พัก ในหัวเรามันยังมึนตึ๊บอยู่เลย นี่มันอะไรกัน ??? นั่งทำใจสักพัก ก็อาบน้ำ นอน เพราะอยู่ต่อไม่ได้แล้วเดี๋ยวจะเลอะเทอะ ฟุ้งซ่าน ทำเรื่องไม่เป็นเรื่องให้เป็นเรื่องใหญ่โต ก่อความเสียหายอย่างมหาศาลเหมือนที่เคยทะเลาะกันครั้งที่ผ่านมาอีก พอหลับตานอนเท่านั้นเเหละ เหตุการณ์ต่างๆมันก็วิ่งกรูเข้ามาที่หัวทันที เจ้าน้ำตาก็หลั่งไหลออกมาอย่างที่ไม่ต้องบิ้วอารมณ์อะไรเลย คิดไปคิดมา น้ำตาก็ไหลเรื่อยๆหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ นาฬิกาปลุกอีกทีตอนตี 5 ครึ่งก็เลยลุกอาบน้ำแต่งตัวเดินทางกลับมาทำงานที่พนมดงรักต่อ ดันลืมโทรศัพท์ไว้ที่สุรินทร์อีก กลัวว่าเขาจะโทรมาแล้วเราไม่ได้รับเขาจะเป็นห่วง อีกอย่างเราเคยโทรหาเขาทุกเช้า วันนี้ไม่มีโทรศัพท์ให้โทร ก็แทบจะอยู่ไม่ได้ โชคดีมีรถโรงพยาบาลเข้าไปส่งคนไข้ที่สุรินทร์ก็เลยวานให้เขาเอามาให้ ในใจคิดว่าเขาต้องโทรหาเราแน่นอน พอได้โทรศัพท์มาเราก็จะรีบโทรกลับไปหาเขาเลย.... แต่ที่ไหนได้พอโทรศัพท์มาจริงๆ เขาไม่ได้คิดโทรหาเราเลย ไม่มีเบอร์เขาเลย มีแต่เราที่คิดถึงเขาตลอดเวลา พอโทรไปหาเขา เขาก็ไม่อยากรับ......ไอ้เจ้าน้ำตามันก็เลยตกในอีกรอบ ไม่ต้องห่วงเลยใจมันเจ็บกว่าเดิมอีก อานุภาพแห่งรัก คนที่มีประสบการณ์เท่านั้นจึงจะรู้ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน ผ่านการอบรมธรรมะมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ "เขาไม่ใช่ของๆเรา" คำนี้จำได้ขึ้นใจ พระที่ไหนก็บอกมา แต่ตอนนี้เราก็จะเอาเขาเป็นของเราให้ได้ มันก็เลยทุกข์แบบนี้แหละ

ย้อนเวลาระหว่างที่ขับรถจากสุรินทร์มาจอดที่สี่แยกไฟแดงอำเภอปราสาท เราจอดอยู่หลังมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งซึ่งบรรทุกพืช-ผักระโยงระยางซ้ายขวา เต็มไปหมด ด้านบนมองเห็นแต่ศีรษะใส่หมวกไอ้โม่งสีน้ำตาล แขนขวาโผล่มานิดหนึ่งบอกได้ว่าใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน แขนซ้ายมองไม่เห็น ขาขวาก็โผล่ให้เห็นแค่รู้ว่าใส่รองเท้าคีบเหมือนยี่ห้อดาวเทียวเลย ส่วนขาซ้ายก็มองไม่เห็นเช่นกัน เราก็มองไปมองมา แล้วก็เห็นคล้ายๆไม้ค้ำยัน(เหมือนไม้เท้า)ที่ด้านซ้ายแตะกับพื้นถนนอยู่ ขยับไป-ขยับมา พอไฟเขียวขึ้น เราก็ใส่เกียร์รอออกรถตามปกติ แต่มอเตอร์ไซด์คันข้างหน้ายังไม่ขยับ ด้วยความที่นิสัยไม่ดีก็เลยกะพริบไฟใส่หลังแก ดิ๊กๆ หวังให้เห็นแสงไฟผ่านกระจกแก แกจะได้รู้ว่าไฟเขียวแล้ว ออกรถไปได้แล้ว แต่ไม่ได้บีบแตรกลัวแกตกใจ และแล้วสิ่งที่เราเห็นก็ต้องทำให้เราอึ้ง ๆ ๆอย่างเดียวเลย แกขยับขาขวาใส่เกียร์แล้ววางลงกับพื้นถนนเหมือนเดิม แล้วยกเอาไม้เท้าที่ด้านซ้ายขึ้นวางบนแฮนด์รถแล้วก็ค่อยๆขยับรถผ่านไฟเขียวไป แล้วแกก็ค่อยๆชิดข้างทางเข้าเลนมอเตอร์ไซด์อย่างระมัดระวัง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเราก็เลยขับรถเลยแกไปแล้วก็ชะลอหันไปมองแก สิ่งที่เราเห็นก็คือหน้าตาอันเหี่ยวย่น หนวดเคราสีขาว บอกได้ว่าเป็นผู้ชายแน่นอนและแก "ไม่มีขาซ้ายค่ะ" มีแต่ไม้ค้ำยันที่เห็นตอนแรกนั่นแหละ แกทำได้ยังไง พืช-ผักเต็มรถที่แกจะนำไปทำอะไรก็ได้ เพื่อให้ได้รายได้มาแน่นอน มันจะได้สักกี่บาท แล้วตาแกทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว ทำไมตาต้องทำขนาดนี้ด้วย.........แล้วเราหละเสียเงินค่าน้ำมันรถไปหาเขาตั้งกี่บาท ความสุขที่ได้เทียบกับความสุขของตาได้ไหม???? แล้วเรามัวทำอะไรอยู่.....เมื่อไหร่จะคิดได้ซะทีก็ไม่รู้



Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2553 19:30:50 น.
Counter : 498 Pageviews.

6 comments
  
เรื่องความรัก คุณใส่ความหวังลงไปเยอะค่ะ คุณเอาความลำบากในการเดินทางของคุณเป็นเงื่อนไข ประมาณว่า ชั้นลำบากเธอควรรู้และเห็นใจชั้นสิ นั่นเป็นบ่อเกิดของความทุกข์ของคุณเมื่อเขาไม่เข้าใจคุณ คุณต่างหากค่ะที่ต้องวางความหวังนั้นลง

รักสวยงามนะคะ รักของจุฬาภินันท์กับสามีสวยงามมาก เราไม่ได้พบกัน เจอกันแค่สองครั้งในรอบสี่เดือน แต่เพราะไม่หวังและเชื่อมั่น ความทุกข์จึงไม่เกิดค่ะ

ถ้าจะเกิดมาเพื่อรักก็ต้องทำเพื่อรักค่ะ
โดย: Chulapinan วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:19:43 น.
  
เข้าใจที่สุดเลย เรากับคนรักก็อยู่ไกลกัน ไกล แล้วก้ กลัว

กลัวความห่างไกลจริงๆเลย
โดย: Triumph Patavee int วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:2:49:55 น.
  
รู้สึกเห็นใจและเข้าใจครับ เคยประสบมาเหมือนกัน แล้วก็พบทางออก
"อริยสัจ 4 " บวกกับเวลาและอนัตตา ครับ

"การจัดการบริหารความทุกข์ คือการบริหารชีวิต"
โดย: HUNNALL วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:48:36 น.
  
ใอ้หมอนี้มันแย่จริงๆ
โดย: noom IP: 125.26.119.34 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:03:55 น.
  
ใช่ มันแย่จิงๆด้วย แย่มากๆ เหอๆๆ
โดย: nungning IP: 203.185.146.82 วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:14:34:48 น.
  
ดีจังเลย...หาความสุขได้จากการปลอบใจตัวเอง

ดีใจที่ได้รู้จักน่ะค่ะ
โดย: คนไกล้..ตัว IP: 192.168.212.190, 203.172.176.115 วันที่: 25 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:57:07 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prettything
Location :
สุรินทร์  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



today is going to be a much better day than yesterday
New Comments