Flat Marble มีดีที่วัตุดิบ

ชื่อร้าน : Flat Marble
รายการอาหาร : Miyazaki Beef Steak
เวลาเปิดบริการ : 17.00-midnight
ที่ตั้งร้าน : พหลโยธิน 9, กรุงเทพมหานคร พญาไท Thailand
พิกัด GPS : 13° 46' 59.96" N 100° 32' 45.69" E

ดูแผนที่เพิ่มเติม

-__-! ขออนุญาติให้ logo ร้านในการเขียนนะคะ

อิฉันที่ได้รับการบอกกล่าวมาว่าให้ไปลองไปชิมดู เพราะมีเมนูเห็ด Truffle ที่อิฉันชอบอยู่หลากหลาย  หูผึ่งทันที  การไปชิมอาหารจึงเกิดขึ้น จัดการโทรจองที่นั่ง ร้านแจ้งว่า สามารถรับลูกค้าได้ครั้งละ 10 ที่ เปิดขายเฉพาะอาหารเย็นเท่านั้น  เจ้าของร้านเล่าว่าตอนนี้เปิดเพิ่มจากวันละ 1 รอบเป็นวันละ 3 รอบ คือ รอบ 17.00-19.00, 19.00-21.00, และรอบ 21.00-12.00 กินกันยันเที่ยงคืนเลยทีเดียว แต่อาหารเย็นยัยพลอยจะให้รอดึกขนาดนั้นกระเพาะคงรอคอยไม่ไหว จึงจัดไปรอบ 5 โมงเย็น เพราะถ้าหิวเกินก็จะสั่งเกินงามและเป็นไม่อร่อยไป

ภาพหน้าร้าน ยัยพลอยไม่ได้ถ่ายมา 😁

ขออนุญาติใช้ภาพของทางร้านเองที่เป็นภาพโปรโมทบน fb นะคะ

เมื่อไปถึงก็พบว่าเป็นร้านบริการแบบเปิดครัวโล่ง แบบซึเคบะของซูชิบาร์  แรกเข้าไปนั่งร้านก็บริการน้ำดื่มด้วย Evian .. ซึ่งดีงาม

ไม่ให้เป็นการเสียเวลา  เริ่มสั่งอาหาร มีการสอบถามและแนะนำถึงสิ่งที่สนใจจะกิน แนะนำเนื้อว่าวันนี้มีอะไรบ้าง มี US. beef, Australia Beef, และ Miyagi Beef  ได้ยินชื่อจังหวัดมิยากิ ก็ไม่ต้องตัดสินใจให้ยาก เลือกตัวนี้ทันที  ทางร้านนำเนื้อที่มีมาให้ชมและเลือกตามใจชอบ และสอบถามถึงการปรุงต่างๆ ที่ต้องการ จากนั้นสั่ง  Appitizer, soup, salad เพื่อรออาหารจานหลัก

Appetiser เป็น หอยทาก Escargot อ้วนๆ ย่างเนย กระเทียม

และขนมปังกระเทียมหอยลาย  1 จานมี 4 ชิ้น แต่กินจะหมดแล้วเพิ่งนึกได้  ว่าต้องถ่ายรูป 555 หอยฟูๆกันไป

Truffle Soup ด้านบนมี truffle 1 แผ่นบางๆเล็กๆ วางแปะหน้ามาเพื่อความสวยงาม ได้จมไปแล้ว

Lobster Soup อันนี้ยัง feel เฉยๆอะ  ขอโทษนะคะกินไปแล้วจึงถ่ายภาพจึงไม่ค่อยโสภานักให้ชมค่ะ

Cesare Salad  with Parma Ham

Spagetti Cabonara Truffle ก็โอเครนะ ถึงแม้เห็ดจะดูไม่ค่อยงามเท่าไหร่

Scallop Spagetti เผ็ดมากขอบอก ใครชอบรสจัด จัดป๊ะ  ส่วนอิฉัน ห่อกลับบ้าน 55

ปลากะพงนึ่ง

Truffle Mashed Potatoes

ต่อมาจานเนื้อ จานแรกเป็น Tenderoid Miyazagi A5 Beef  ก็อร่อยดีนะคะ ถ้าใครไม่ชอบมันเลี่ยน กินใกล้หมดพึ่งนึกได้ คือจานนึง 200 g. มัน 5-6 ชิ้นเองนะคะ ต้องเข้าใจนิดส์ว่าลืมตัว กินก่อนถ่ายภาพ  มันจึงดูแหว่งๆเยี่ยงนี้  อันนี้ทานกะซอส portwine

จานนี้ให้ดาวเยอะสุดของมื้อนี้  เนื้อ Ribeye Miyazagi A5 Beef เช่นกัน แต่มัน ติดมันกว่าเยอะ สวรรค์ของคนรักเนื้อ   ความรู้สึกจึงค่อยเคลื่อนย้ายขึ้นไปบนสวรรค์หน่อย  จานนี้ทานกันเกลือtruffle. จริงๆยัยพลอยชอบเนื้อที่เซียเบาๆแล้วกินแค่กะเกลือบางๆกะพริกไทย หรือ เกลืออย่างเดียวก็ได้มากกว่าใส่ซอส แต่ด้วยจานนี้เป็นเกลือ จาน Tenderoid จึงสั่งเป็นซอส ให้เค๊าแยกมา เพื่อลองชิมซอสเฉยๆไม่ได้จะราดลงบนเนื้อให้เสียรส   ร้านมีเกลือให้เลือก 3 ประเภท Maldon (เป็นดอกเกลือของอังกฤษ), Himalayan Salt, และ Truffle Salt ค่ะ

เมื่อทานเนื้อแล้วตัดมันที่เนื้อออกจะทิ้ง ทางร้านจึงนำเสนอเอาไปทำข้าวผัดมันเนื้อให้ค่ะ อร่อยดีงามค่ะ

จบคาวแล้วต้องต่อด้วยของหวาน เดี๋ยวจะหาว่า "ทานคาว ไม่ทานหวาน สันดานไพร่" จึงจัดมาให้จบ

Chocolate Crumbule'  ปกติไม่ชอบขนมอะไรที่เป็นรสช๊อคโกแลต แต่นี่อร่อยจริงไรจริง

อันนี้จำชื่อบ่ได้ง่ะ  แต่อีตัวขนมสีขาวเหมือนที่กินที่ร้านในญี่ปุ่นเลย อร่อย นุ่มนวลลิ้นมาก มีกลิ่ม คาราเมลและ ส้มYuzu Aroma อยู่ในปากพร้อมเม็ดป๊อกแป๊ปรสสตอเบอรี่ ที่กินตอนเด็กๆ

จบการชิมของวันนี้ไปด้วยดี อิ่มแล้ว ได้เวลากลับบ้านนอน 5555  ไม่ดีนะคะกินแล้วนอนอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แต่วันนี้ขอdarkวันนึงเหอะ 5555

Ploy Journey Journal

Create Date : 19 เมษายน 2560		0 comments
Last Update : 19 เมษายน 2560 14:49:05 น.
Counter : 5030 Pageviews.
Share Tweet