ที่มา... ที่ไป
ประเทศเบลเยี่ยม ที่ทราบๆกันว่าเป็นประเทศนึงในยุโรป และที่ต้องตั้ง group นี้ เพราะเป็นประเทศที่เปิ้ลใช้เวลาอยู่เยอะที่สุด ของทริปเที่ยวยุโรปทั้ง 2 ปีของเปิ้ลคะ และที่พิเศษคือคนรู้ใจเราเป็นคนของที่นี่คะ Belgian in Belgium ถ้ายังงัยเพื่อนคนไหนอยากทราบข้อมูลโดยลึกของประเทศเบลเยี่ยมหรือที่ท่อง เที่ยว ก็สอบถามมาได้นะคะ เปิ้ลจะพยายามหาข้อมูลมาให้คะ หรือว่าจะเข้าแวะชม website นี้ได้คะ //www.beebah.net/ เจ้าของเวบไซด์คือคุณผึ้งหรือคุณบีคะ หญิงไทยคนเก่งที่ตอนนี้อพยพไปอยู่ ณ เบลเยี่ยมแล้ว เปิ้ลก็ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากคุณผึ้งนี่แหล่ะคะ ทุกๆเรื่องก็ว่าได้ (นอกจากที่ทราบจากคุณแฟน) ขอบคุณมากคะคุณผึ้ง ขอออกตัวก่อนนิดนึงคะเพราะเปิ้ลยังไม่ได้เชี่ยวชาญมากกับประเทศนี้ แม้ว่าจะไปเยือนมาแล้วถึง 2 ครั้ง :P ดังนั้นข้อมูลที่เปิ้ลเขียนอาจมีบางจุดที่ไม่สมบูรณ์ทีเดียว แต่จะพยายามหาข้อมูลมาให้หากเพื่อนๆอยากรู้เรื่องอะไรเป็นพิเศษนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นหวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย หรืออาจแค่เพื่อความเพลิดเพลินในการอ่าน หรือตามไปเที่ยวกัน ก็ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้นะคะ ก็ยินดีเป็นเพื่อนกับทุกๆคนเลยคะ ประเทศนี้เป็นประเทศในยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเนเธอร์แลนด์ เยอรมัน ลักเซมเบิร์ก ฝรั่งเศส และทะเลเหนือ มีเมืองหลวงคือกรุงบรัสเซลส์คะพอพูดถึง Belgium ก็ต้องนึกถึงช็อคโกแลต เบียร์ วาฟเฟิล เฟรนฟราย อืมมมม พูดแล้วหิวขึ้นมาทันที อิอิ ของโปรดทั้งน้าน เปิ้ลจะ up รูปไว้ในหัวข้อเรื่องอาหารล่ะกันนะคะ (What's a lekker) ส่วนเรื่องอากาศ ก็ทั่วๆไปของยุโรปน่ะคะ แต่ทั้ง 2 ครั้งที่เปิ้ลไปเป็นช่วงปลายหนาวต้นร้อนคะ (เมษาถึงพฤษภา) เวลาอากาศหนาวก็หนาวสุดๆ จะเริ่มหนาวกันก็ช่วงตุลาไปจนถึงประมาณกุมภา ยิ่งช่วงปลายปีต่อต้นปีนี่จะหนาวสุดๆ เค้าว่ากัน จะมีหิมะตกก็ช่วงนั้นแหล่ะคะ คราวหน้าไปจะต้องไปเจอหิมะจริงๆให้ได้ ..... ส่วนช่วงมีนาอากาศก็จะอุ่นขึ้นเล็กน้อย แต่สำหรับคนไทยเราก็ยังเรียกว่าหนาวอยู่น่ะคะ และจะอุ่นขึ้นเรื่อยๆไปจนถึงประมาณปลายพฤษภาที่เริ่มเข้า Summer ของที่โน่น ที่เปิ้ลไปก็มีบางวันที่อุ่นจนร้อนนะคะ อากาศที่นั่นเอาแน่นอนไม่ได้ บางวันจู่ๆฝนก็ตกมาซะงั้น ส่วนวันไหนแดดออกนี่คนจะแห่ออกนอกบ้านกันเลย ที่ park จะเต็มไปด้วยผู้คน เหมือนว่าไม่เจอแดดมานาน (มาแบ่งความร้อนจากเราไปบ้างก็ได้นะ อิอิ)เวลาที่นั่นจะเดินช้ากว่าบ้านเรา 5 ชั่วโมง (ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนตุลาคม) ส่วนช่วงหน้าหนาว (ต้นพฤศจิกาถึงปลายมีนา) จะช้ากว่า 6 ชั่วโมงและพระอาทิตย์ที่โน่นจะตกช้ากว่าฝั่งบ้านเราด้วย คือฟ้าจะมืดช้ากว่าฝั่งเราน่ะคะ ช่วงหน้าหนาวนี่ก็เริ่มมืดประมาณ 1-3 ทุ่มแล้วแต่อากาศแต่ละวัน แต่ถ้าเป็นหน้าร้อนแล้วจะมืดช้ามากๆ บางที 4 ทุ่มฟ้าเพิ่งจะเริ่มมืด ตอนไปแรกๆเที่ยวเพลินเลยพอดูนาฬิกาตกใจเลยคะว่า 3 ทุ่มแล้วยังสว่างอยู่เลย มิน่าถึงเริ่มง่วงแล้ว อิอินี่ตอนเกือบ 2 ทุ่มแล้วยังมีแดดออกอยู่เลย ภาษาที่ใช้ในประเทศเบลเยี่ยมจะมี 3 ภาษาคะ ภาษาดัชท์ ภาษาฝรั่งเศส และภาษาเยอรมัน คนพูดดัชท์ (เฟรมมิช) เป็นภาษาหลักราว 60+- เปอร์เซนต์ และประมาณ 40+-เปอร์เซนต์สำหรับภาษาฝรั่งเศส โดยภาษาเยอรมันมีคนพูดน้อยกว่า 1 เปอร์เซนต์ คนที่พูดภาษาดัตช์ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือของประเทศ เรียกว่าฝั่ง Flander คะ (ส่วนที่ติดกับประเทศเนเธอร์แลนด์) ส่วนคนที่พูดภาษาฝรั่งเศสส่วนใหญ่จะอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ จะเรียกคนฝั่งนี้ว่าพวกวัลลูน (ส่วนที่ติดกับประเทศฝรั่งเศส) ส่วนภาษาเยอรมันมีคนพูดอยู่ในเขตชายแดนตะวันออกของประเทศ (ส่วนที่ติดกัีบประเทศเยอรมัน) คนในบรัลเซลส์ส่วนใหญ่จะพูดภาษาฝรั่งเศสคะ และดัชท์ ถือว่า 2 ภาษานี้เป็นภาษาราชการคุณแฟนอาศัยอยู่ฝั่ง Flander คะเลยพูดภาษาดัชท์ พูดฝรั่งเศสได้ด้วยแต่ไม่ถึงกับคล่อง ภาษาเยอรมันนิดหน่อยไม่มาก นี่เค้าก็เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยเลยพูดได้นิดหน่อย แต่ต้อง speak English กับเรา ไม่งั้นคุยกันไม่รู้เรื่อง อิอิ ก็ว่าจะสอนให้พูดภาษาไทยด้วย แต่เดี๋ยวได้งงแน่ๆแหล่ะ 555 ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องภาษาสำหรับที่โน่นสำคัญมากๆ ถ้าเราพูดภาษาเค้าไม่ได้ เรื่องหางานนี้เรียกว่าโอกาสน้อยมาก (จากที่น้อยอยู่แล้วกับสภาวะเศรษฐกิจช่วงนี้) แต่ถ้าใครต้องไปอาศัยอยู่ที่โน่น เค้าก็จะมีบังคับให้เรียนภาษาคะ และก็จะมีสอบเป็น level ไป เห็นคุณผึ้งบอกว่าถ้าจะเข้าทำงานนี้ต้องจบอย่างน้อย level 5 นะคะ งานที่ว่านี้หมายถึงงานประจำดีดีที่ทำใน office ไม่ใช่งานขายของหรือทำความสะอาดนะคะ แต่ถึงแม้ว่าใครที่จะต้องไปอยู่ที่นั่นแล้วไม่ได้คิดว่าจะต้องหางานทำ เรื่องภาษาก็สำคัญมากอยู่ดีคะ เพราะส่วนใหญ่เค้าก็พูดภาษาของเค้านั่นแหล่ะคะ ก็เหมือนเราก็พูดภาษาไทย แต่จะดีหน่อยคือคนไทยเราจะพยายามพูดภาษาอังกฤษกับพวกฝรั่ง ยิ่งพวกแม่ค้านี่บางที speak เก่งมากเลย นับถือจริงๆคะ แล้่วพวกป้ายบอกทาง หรือเมนูส่วนมาก (แทบทั้งหมด) ไม่ภาษาดัชท์ก็ฝรั่งเศสอะคะ ฉะนั้นจะไปอยู่ที่นั่นก็ให้คิดไปเลยว่า 2 ปีแรกเรียนภาษานี่แหล่ะคะ ไว้ถ้าต้องไปอยู่เราก็ต้องไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง ก็ต้องสู้ๆนะคะ หญิงไทยใจแกร่งอยู่แล้ว อิอิ ป้ายบอกทางทั่วไปบนถนนและ highway คะแม้แต่ป้ายคอนเสริต์ Lionel Richie (ศิลปินคนโปรดเรา อิอิ แต่อดดูเพราะต้องไป London ) ก็ยังเป็นดัชท์เมนูอาหาร
เก่งจังเลยค่า
ถ้าสอนภาษาไทยเพิ่มให้อีก เยี่ยมไปเล๊ยย หุหุ