|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
การเลี้ยงหม้อ
คนหลายคนจะคิดว่าการเลี้ยงหม้อข้าวหม้อแกงลิงเป็นเรื่องยากเลี้ยงไปเดี๋ยวก็ตาย 1-สิ่งที่เราจะต้องคำนึงถึงก่อนตัดสินใจเลี้ยง สำหรับมือใหม่ คุณจต้องเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะกับสถานที่ที่เราจะเลี้ยง
2-ในธรรมชาติ ถ้าคุณนำข้าวหม้อแกงลิงมาเลี้ยงในบ้าน คุณต้องเปลี่ยนความเป็นอยู่ให้หม้อเสียใหม่ จะใช้ดินปลูกแบบเก่าไม่เหมาะแล้ว เพราะพื้นดินที่เคยกว้างใหญ่ที่หม้อเคยอยู่ ปัจจุบันมันจำกัดอาณาเขตอยู่แค่กระถาง 8 นิ้ว 10 นิ้ว หรือจะ 12 นิ้ว เมื่อสถานที่เปลี่ยน เครื่องปลูกก็ต้องเปลี่ยนด้วยครับ ( บางคนคิดว่าการเลี้ยงหม้อข้าวหม้อแกงลิงให้ดีนั้น จะต้องลอกเลียนเครื่องปลูก ให้เหมือนกับสภาพจริงๆ ในป่า คิดว่าจะทำให้มันเจริญเติบโตได้ดี )
กระถาง
3-สภาพแวดล้อมต่างๆ ทั้งในเรื่องแสง ความชื้น อุณหภูมิ เครื่องปลูก อาหาร การให้น้ำ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเลี้ยงหม้อข้าวหม้อแกงลิง ถ้าเราจัดการสร้างสมดุลทั้งหกปัจจัยให้กับหม้อได้แล้ว เราจะพบความสุขกับการเลี้ยงหม้อได้โดยง่าย
สถานที่ปลูก สำหรับบ้านที่มีพื้นที่บริเวณบ้าน น่าจะเลือกที่มีไม้ใหญ่ขึ้นให้ร่มเงา แต่มีแสงส่องเข้าได้ตลอดวัน เป็นพื้นดินสนามหญ้าก็จะยิ่งดีครับ เพราะจะได้เรื่องของความชื้นเพิ่มขึ้น วางหม้อข้าวหม้อแกงลิงบนพื้นหญ้า เช็คดูให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก แต่ลมต้องไม่พัดแรงเกินไปเพราะจะทำให้แห้งขาดความชื้น อาจจะเป็นมุมชิดกำแพงสองด้านมีเพื่อกันลมพัดความชื้นไปหมดก็ดี ส่วนคนที่อาศัยคอนโด หอพัก หรืออพาร์ตเม้นท์ เลือกระเบียงที่แสงส่องได้ตลอดวันนะครับ หม้อจะได้เติบโตดี
แสง แสงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้หม้อข้าวหม้อแกงลิงออกหม้อได้ขนาดใหญ่ และสวยงามทั้งในด้านสีสัน และรูปทรง อีกทั้งความเข้มของแสงยังสัมพันธ์กับความชื้นในอากาศ และการรดน้ำ ความชื้น คำว่าความชื้นในที่นี้หมายถึงความชื้นในอากาศ ไม่ใช่ความชื้นในดิน และไม่ได้แปลว่าดินเปียกนะครับ ความชื้นและแสงมีความสัมพันธ์กันอย่างยิ่ง หม้อข้าวหม้อแกงลิงได้รับแสงมากขึ้นเท่าไรความชื้นก็จะต้องเพิ่มสูงขึ้นเท่านั้น ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยอยู่ราว 80 % หม้อข้าวหม้อแกงลิงเป็นพืชที่ไวต่อความชื้นมากและต้องการความชื้นคงที่สม่ำเสมอตลอดทั้งปี ฤดูหนาวเป็นช่วงที่ความชื้นในอากาศต่ำสุด ถ้าไม่ดูแลหม้อจะกรอบแห้ง เช่นเดียวกับฤดูร้อนคือลมแล้งพัดโกรกต้นไม้แห้งตายได้ จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องรักษาความชื้นไว้ให้คงที่ วิธีหนึ่งที่ทำได้คือการใช้พลาสติกคลุมบริเวณที่ปลูกทั้ง 3 ด้าน และบนหลังคาหรือใช้อิฐมอญหรือทรายหรือวัสดุดูดน้ำได้ปูที่พื้นและลดน้ำให้ชุ่มเสมอ กับอีกวิธีหนึ่งคือปลูกใต้ไม้ใหญ่หรือวางเสมอพื้น การให้น้ำ เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่จะต้องให้ดินเปียกชื้นอยู่เสมอ ถ้าดินแห้งแม้แต่วันเดียวระบบรากอาจจะเสียไปเลยก็ได้ และหม้อข้าวหม้อแกงลิงก็ต่างจากพืชกินแมลงชนิดอื่นๆ ตรงที่มันไม่ค่อยไวต่อความเค็มหรือเกลือแร่ในดิน นั่นหมายความว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้น้ำบริสุทธิ์
Create Date : 06 สิงหาคม 2551 |
|
2 comments |
Last Update : 28 กันยายน 2551 16:13:31 น. |
Counter : 728 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ป้าแอ๊ค่ะ (Naaee58 ) 6 สิงหาคม 2551 18:51:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดาว IP: 202.12.97.100 10 มีนาคม 2553 21:36:08 น. |
|
|
|
|
|
|
style>body{background-image:url("http://http://img329.imageshack.us/img329/3007/bg2ia5.jpg");}
|
|
|
|
|
|
|
แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจคือคุณบอกให้วางกับพื้นแต่
ของป้ามันเป็นแบบห้อยน่ะค่ะป้าห้อยไว้ใต้ต้นไม้
แต่ตอนนี้มันเริ่มแห้งทั้งๆที่ฝนก็ตกบ่อยคุณบอกว่า
ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำบริสุทธ์แปรว่าน้ำอะไรค่ะงงค่ะ