|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
การเลี้ยงกาบหอยแครง
เครื่องปลูก นิยมใช้พีทมอส 70 % ผสมกับทรายขาวสะอาดที่เป็นทรายแม่น้ำ 30 % คลุกเข้าด้วยกัน อาจเพิ่มทรายเป็น 50 % ก็ได้ แต่โอกาสน้ำแห้งง่ายเพราะดินโปร่งเกินไป ต้องให้น้ำบ่อยๆ ไม่ต้องผสมปุ๋ยในดิน เพราะเท่ากับเป็นการฆ่ากาบหอยแครง บางสูตรใช้เพอร์ไลท์แทนทราย นีโอเอ็กโซทิกแพลนท์สก็ใช้สูตรนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเกลือจริงๆ (ถ้าเกิดผิดพลาดทรายที่ใช้มาจากทะเล VFT ตายแน่นอน) และเพอร์ไลท์ช่วยให้ดินเป็นกรด สำหรับ พีทมอส เนอเซอรีใหญ่อย่าง Triffid Park เน้นว่าต้องเป็น sphagnum peat moss ของแคนาดายี่ห้อ TEEM เท่านั้น Dean Cook เจ้าของ Cook Carnivorous ไม่เน้นยี่ห้อ ขอให้เป็น sphagnum peat moss ก็พอ ส่วน Hungryplants ใช้ sphagnum peat moss ของแคนาดาเช่นกัน ว่ากันว่า ถ้ามอสที่ใช้ทำจากประเทศอื่น กาบหอยแครง มักตายเพราะมอสประเทศอื่นค่อนข้างเค็ม ถ้าคุณทำดีที่สุดแล้ว กาบหอยแครง ต้นโปรดยังตาย ให้คิดถึงมอสที่ปลูก มันอาจเป็นต้นเหตุครับ
ควรเปลี่ยนเครื่องปลูกทุกสองปี
กระถาง การเลือกกระถางก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่าใช้กระถางดินเผา เพราะมันมักดูเกลือแร่ไว้ในรูพรุน ทำให้ดินเค็มมากขึ้นตามเวลา ควรใช้แต่กระถางพลาสติกเท่านั้น เลือกกระถางทรงสูงแบบมาตรฐานดีกว่ากระถางแบนครับ เพราะ กาบหอยแครง มีระบบรากยาว โดยทั่วไปเลือกปลูกในกระถางใหญ่กว่ากอสักหน่อย เผื่อการเจริญเติบโตในอีก 2 ปีข้างหน้า เพราะ กาบหอยแครง ไม่ชอบให้รบกวนระบบราก ปลูกแล้วปลูกเลย ไม่ต้องพรวนดิน ถือคติ อย่าไปยุ่งกับมัน บางคนใช้กระถางกว้าง ปลูก กาบหอยแครง 3 ต้นใกล้ๆ กัน พอโตเป็นกอ แลดูสวยงาม แน่นดี
การรดน้ำ รองกระถาง VFT ในจานรอง พลาสติก เติมน้ำให้สูง 1-2 นิ้ว ดูแลอย่าให้น้ำแห้งเด็ดขาด ไม่นิยมรดน้ำครับ เพราะหยดน้ำที่ตกลงไปบนฝาหอยที่เปิดอ้าล่อแมลง อาจทำให้มันเข้าใจผิด ฮุบเอาหยดน้ำ เปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ
น้ำในอุดมคติที่ใช้เติมจานรอง คือน้ำกลั่น เพราะไม่มีเกลือแร่ใดๆ หากหาไม่ได้ ใช้น้ำฝนที่สะอาด รองลงมาคือน้ำจำพวกโพลาริส ยี่ห้อใดก็ได้ที่กรองน้ำด้วยระบบ Reverse Osmosis แต่ถ้าคุณมั่นใจว่า น้ำประปาที่บ้าน คุณภาพดี ไม่มีเกลือแร่ หรือมีต่ำมาก ไม่ใช่น้ำกระด้าง ก็อาจขังทิ้งสัก 2 3 วันก่อนเติมในถาด กาบหอยแครง กินน้ำเร็วมาก หากน้ำมีเกลือแร่เพียงเล็กน้อย ไม่นานมันจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนกาบหอยแครงถึงแก่อสัญกรรมในที่สุด ถ้าคุณแก้ปัญหาเรื่องน้ำได้ กาบหอยแครง รอดแน่นอนครับ การถ่ายน้ำในถาดบ่อยๆ ช่วยลดความเค็มจากเกลือสะสมได้ครับ
แสง และความชื้น
กาบหอยแครง ชอบแสงแดดจัดตั้งแต่เช้าจนค่ำ เว้นกลางวันแดดอาจแรงไปสักนิด ทำหลังคาโปร่งๆ กรองแสงกลางวัน 10 20 % ก็เพียงพอ การที่ กาบหอยแครง ก้านยาวเก้งก้าง ฝาหอยเขียวปี๋ อวบน้ำ ทรงใบผิดปกติ นี่เป็นตัวชี้ว่าแสงน้อยเกินไป กาบหอยแครง ที่ได้แสงเพียงพอ จะมีสีแดง ส้ ม เหลือง หรือม่วง ตามสายพันธุ์ครับ แสงสัมพันธ์กับความชื้น ยิ่งได้แสงมาก ยิ่งต้องให้ชื้นมาก อาจทำตู้พลาสติกครอบ หรือถุงพลาสติกครอบบางส่วน เพื่อกักความชื้นไว้ ให้อยู่ในช่วง 70 90 % ตามความแรงแสงแดด
Create Date : 12 สิงหาคม 2551 |
|
4 comments |
Last Update : 28 กันยายน 2551 16:42:50 น. |
Counter : 1291 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: คนที่สนจัย posadon IP: 117.47.52.57 10 พฤศจิกายน 2551 20:36:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: แมงปอ IP: 113.53.62.33 8 มีนาคม 2552 11:55:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฟพะรทรห (Artimis ) 31 มีนาคม 2552 21:29:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: nann_watch IP: 125.24.221.79 18 กรกฎาคม 2552 14:10:06 น. |
|
|
|
|
|
|
style>body{background-image:url("http://http://img329.imageshack.us/img329/3007/bg2ia5.jpg");}
|
|
|
|
|
|
|
(เพาะน้ำท่วม....หอยทากกินด้วย)
เสียดาย