คุณพีทคุง พิธันดร
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2560
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
25 พฤศจิกายน 2560
 
All Blogs
 

บทที่ 4 ภารกิจผู้ติดตาม



บ้านสวนป่วนรัก [องครักษ์พิทักษ์คุณชาย]
โรแมนติกคอมเมดี้ แนวความหลากหลายทางเพศ
พิธันดร




บทที่ 4 ภารกิจผู้ติดตาม




บนโต๊ะยาวมีกระเป๋าเดินทางอยู่สองใบ เป็นรูปสี่เหลี่ยมขึงขังดูราวกับหีบอุปกรณ์เครื่องเสียง ใบหนึ่งสีน้ำเงินเข้มเกือบดำเงาวับ อีกใบสีน้ำตาลแดงเข้มเกือบดำเงาวับเหมือนกัน ทั้งสองใบเปิดให้เห็นเสื้อผ้าข้าวของจัดไว้เป็นระเบียบ ข้างกระเป๋าใบสีน้ำตาลแดงมีเสื้อผ้าพับวางไว้กับรองเท้าหนึ่งคู่

          “นั่นเครื่องแบบ”

          พนาได้ส่งขนาดตัวสำหรับเสื้อผ้ารองเท้ามาล่วงหน้า หลังจากเห็นกระบวนการรักษาความปลอดภัยในบ้านหลังนี้แล้วไม่แปลกใจเลยที่ ‘ผู้ติดตาม’ ตัวเล็กๆ อย่างเขาจำเป็นต้องใส่เครื่องแบบ ที่แปลกใจอยู่บ้างก็คือ ถ้าเขาไม่ผ่านการพิจารณาเข้าทำงาน แล้วเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ขนาดตัวเขาจะเอาไปทำอะไร?

          แต่เฮ้ย! พูดไทยได้ด้วยเรอะ! พนาหันไปทำหน้าเหวอใส่แผงหนวดทะมึน

          ซึ่งไม่เกิดผลอะไร เพราะแผงหนวดนั้นยังพูดต่อเสียงต่ำเหมือนคำราม

          “ใบสีน้ำเงินนี่ของคุณชาย...คุณโยธิศ ที่บ้านสวนมีคนซักรีดให้ ไว้ใจได้ ไม่ต้องห่วง ไปถึงเอาเสื้อผ้าจัดใส่ตู้ไม่ให้ยับก็พอ ตรงนี้เป็นของใช้ส่วนตัว เอาออกมาจัดให้ด้วย ส่วนข้างล่างนี่ ห้ามเปิด”

          ประโยคท้ายเสียงหนัก พนาเห็นกระเป๋าเอกสารขนาดเล็กบางมีวงล้อรหัสแล้วรีบพยักหน้ารวดเร็ว กลัวอีกฝ่ายจะสั่งย้ำด้วยอาวุธ

          คุณพ่อบ้านมองเขานิ่ง พนาหาลมหายใจของตัวเองไม่เจออยู่พักใหญ่ พอคุณพ่อบ้านขยับเข้ามาใกล้ เขาก็สะดุ้งโหยง เกือบชักเท้าถอยแต่ข่มขาเอาไว้ให้ปักหลักมั่น คุณพ่อบ้านเลิกคิ้วข้างเดียว

          “แน่ใจนะว่าทำงานนี้ได้”

          ...เอ่อ... ไม่แน่ใจหรอกครับ... แต่ถ้าตอบแบบนั้น เขาคงได้กินอาวุธต่างข้าวแน่ พนากลืนน้ำลาย

          “ผมจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดครับ”

          ดวงตาใต้คิ้วดกครึ้มจับจ้องเขาเขม็ง พนายอมรับว่ารู้สึกเกรง... ไม่สิ กลัวเลยแหละ แต่แปลกใจอยู่นิดหน่อยเหมือนกันที่เขาไม่ได้คิดเกลียดชังอะไรคุณพ่อบ้านทะมึนคนนี้เลยสักนิด

          “อย่าไว้ใจใครทั้งนั้น” แผงหนวดสั่งเสียงหนัก “จนกว่าจะรู้ข้อมูลมากพอ เข้าใจไหม”

          พนารีบพยักหน้า แผงหนวดพูดต่อ

          “ยกเว้นคนบ้านสวน ที่เชิญคุณโยธิศไป เชื่อใจได้ สนิทกันมานานแล้ว”

          พนาพยักหน้าอีกที แล้วขมวดคิ้ว

          “คนบ้านสวน? ที่เชิญคุณโยธิศ? หมายถึงเจ้าของบ้านใช่มั้ยครับ”

          คุณพ่อบ้านส่งเสียงต่ำรับ นิ่งไปชั่วครู่ แล้วระบายลมหายใจเหยียดยาว ใบหน้ากร้าวดูอ่อนโยนลงแปลกตา

          “ดูแลคุณชาย...คุณโยธิศให้ดี เพิ่งมาถึงเมืองไทยไม่นานข่าวก็แพร่ไปไกลแล้ว แค่ฐานะอย่างเดียวก็ล่อใจคนตั้งเท่าไหร่ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงหน้าตา”

          พนาได้แต่พยักหน้าอีกรอบ เมื่อครู่เขาเห็นหน้าอีกฝ่ายเพียงแวบเดียวยังถึงกับชะงัก ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ มีรึจะไม่ถูกจ้องตาเป็นมันจากทุกสารทิศ

          “ดูแลคุณชายให้ดี”

          คุณพ่อบ้านย้ำเสียงต่ำแต่ไม่กระชากห้วนอย่างเมื่อแรก พนาสบตาอีกฝ่าย รู้สึกราวกับมองเห็นความรักภักดีที่มีต่อเจ้านายอย่างเต็มเปี่ยม เขายิ้มรับ ตอบด้วยความมั่นใจและเต็มใจ

          “ผมจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดครับ”




“เปลี่ยนเสื้อผ้าเสียสิ” คุณพ่อบ้านพยักหน้าไปทางชุดเครื่องแบบที่พับวางข้างกระเป๋าใบสีน้ำตาล “น่าจะพอดี”

          พนารับคำ ปลดกระเป๋าใบเล็กจากบ่าวางลงบนโต๊ะ พอเห็นพับผ้าชัดๆ ก็ยิ้มขำ ที่วางอยู่บนสุดคือเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงชั้นในแบบขาสั้น ทั้งสองชิ้นสีขาวสว่างตัดกับรองเท้าหุ้มข้อสีดำมันปลาบ

          คือต้องสมบูรณ์แบบตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยว่างั้น

          กลัวคุณพ่อบ้านรอนาน เดี๋ยวคงต้องแนะนำสอนงานกันอีกยกใหญ่ พนารีบถอดเสื้อผ้าพับลวกๆ วางไว้ข้างรองเท้า ครู่เดียวก็ครบหมดทุกชิ้น พอหย่อนชิ้นสุดท้ายแปะลงบนกองแล้วถึงค่อยนึกได้ มัวแต่รีบร้อนจนลืมอาย มารู้ตัวอีกทีตอนหันไปเห็นคุณพ่อบ้านยืนกอดอกมองตรงมา

          แต่สายตาคู่นั้นช่างนิ่ง และร่างทะมึนในชุดดำทั้งตัวก็นิ่งสนิท เหมือนกับว่าไม่ได้มองเห็นอะไรมากไปกว่าข้าวของบนโต๊ะ แล้วก็อาจจะสิ่งมีชีวิตอีกก้อนหนึ่งซึ่งจับจองพื้นที่กีดขวางสายตาอยู่เท่านั้นเอง

          เห็นแล้วหมดอารมณ์จะเขินอายกันเลยทีเดียว

          พนาเผลอยักไหล่ จะว่าไปเวลารีบร้อนเขากับอาจารย์ก็เคยต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้ากันอยู่หลายครั้ง คราวนี้ก็ไม่แตกต่างอะไรมากมาย เพียงแต่เขากับคุณพ่อบ้านยังไม่ได้รู้จักคุ้นเคยกันดีเท่านั้นเอง

          ส่วนคำสั่งของคุณโยธิศในห้องเย็นเมื่อครู่นั่นไม่นับ! โดนนั่งจ้องแบบนั้นใครจะขาไม่สั่นกัน!

          พนาจัดการบรรจุตัวเองเข้าไปในเครื่องแบบอย่างรวดเร็ว รู้สึกได้ว่าชั้นในสีขาวสองชิ้นเนื้อผ้านุ่มละเอียดโอบอุ้มสรีระกำลังสบาย กางเกงขายาวสีดำสนิทเป็นฝ้ายเนื้อแน่นมีปุ่มปมประปรายเหมือนทอด้วยวิธีธรรมชาติ ตัดเย็บประณีตกระชับเรือนร่างแต่ไม่อึดอัด เสื้อทรงตรงแขนกระบอกสีน้ำตาลเปลือกไม้เป็นฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ ชายเสื้อตัดตรงผ่าข้างเล็กน้อยดูรู้ว่าตั้งใจให้ปล่อยไว้ด้านนอกไม่ต้องสอดเข้าในกางเกง รองเท้าหุ้มข้อสีดำเงาวับเป็นแบบรูดซิป เลือกขนาดได้พอดีจนเขาแปลกใจ

          พอเก็บข้าวของที่พกติดตัวใส่กระเป๋ากางเกงเรียบร้อย พนาก็หันกลับไปทางคุณพ่อบ้านราวกับส่งชิ้นงานให้ตรวจ คุณพ่อบ้านก้าวเข้ามาประชิด มือจับคลำไปทั่วเนื้อตัวของเขาคล้ายกับตอนตรวจร่างกายหาขีปนาวุธเมื่อตอนอยู่ในห้องมืด แต่คราวนี้ไม่ถึงกับขยำขยี้แบบจะบี้ให้ตายกันไปข้าง พอครบทั่วทุกองศาทั้งแนวตั้งและแนวนอนก็ถอยกลับไปพยักหน้ายิ้มกริ่ม

          “พอดี ไม่ต้องแก้”

          ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผิวสีน้ำตาลอ่อนรับคำพยักหน้า แล้วเผลอทำตาโต

          คุณพ่อบ้านทะมึนยิ้ม!

          ดูเป็นผู้เป็นคนผิดตาขึ้นมาทีเดียว พนากลั้นขำหันกลับไปหากองเสื้อผ้าของตัวเองที่พับวางไว้แค่ลวกๆ เสียงคุณพ่อบ้านดังมาจากข้างหลัง

          “วางไว้ก่อน ไปคุยกันที่โต๊ะกินข้าว”

          ไม่ยักตะคอกเหมือนตอนแรก พนารีบรับคำแล้วออกเดินตาม พอถึงประตูก็กระโดดโหยง

          เทพกรีก! เอ๊ย! คุณชาย! เอ๊ย! คุณโยธิศ! มายืนยิ้มอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!




การ ‘คุยกันที่โต๊ะกินข้าว’ ให้ข้อมูลกับพนามากมาย แต่ไม่ทำให้เขารู้สึกว่า ‘รู้จัก’ เจ้านายคนใหม่มากขึ้นเลย

          โยธิศเป็นใครมาจากไหนเขาก็ยังไม่รู้ ทำไมหน้าตาเหมือนคนต่างชาติ แต่กลับมีชื่อไทย และพูดไทย แถมยังมีสำเนียงชัดเจนสมบูรณ์แบบอย่างคนไทยคนหนึ่งทุกอย่าง เรียกว่าตอนอยู่ในห้องมืด(และเย็น)เมื่อครู่ เขาไม่เอะใจเลยแม้แต่น้อย จนได้เห็นใกล้ๆ เมื่ออีกฝ่ายก้าวเข้ามาดักหน้าเขาไว้นั่นแหละ

          สิ่งที่คุณพ่อบ้าน ‘คุย’ กับเขา ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่อง ‘งาน’ ในหน้าที่ — กินอาหารทั่วไปได้ตามปกติ ไม่แพ้อะไร กินเผ็ดได้ กินเนื้อได้ กินผักได้ กินของหวานได้ ดื่มแอลกอฮอล์ได้ เสื้อผ้ามีอะไรบ้าง ชุดกลางวันปกติ ชุดกลางคืนปกติ (เหมือนชุดกลางวัน) ชุดกลางคืนโอกาสพิเศษ (เหมือนชุดกลางวัน) ชุดนอน (เหมือน... อ้อไม่ใช่) เวลาเข้านอน (แล้วแต่กิจกรรมในคืนนั้น) เวลาตื่น (แล้วแต่เวลาเข้านอน) สิ่งที่ไม่ชอบ ความวุ่นวาย คนตามตื๊อ (ต้องคอยแทรกแซง) สิ่งที่ชอบ ความสงบ ธรรมชาติ (การแกล้งลูกน้อง อันนี้พนาเติมเอง) ฯลฯ

          เนื่องจากโยธิศเพิ่งกลับ(?)มาถึงเมืองไทยและยังไม่ได้เริ่มธุรกิจอย่างเป็นทางการ ปฏิทินนัดหมายจึงยังว่างเปล่า แต่ตอนนี้จะเริ่มมีคนต้องการขอนัดพบ พนาต้องจัดการเรื่องตอบรับ(และปฏิเสธ)นัดเหล่านี้ด้วย คุณพ่อบ้านให้โทรศัพท์มือถือเขาหนึ่งเครื่อง และบอกว่าในกระเป๋าเดินทางของเขามีนามบัตรคุณโยธิศอยู่สองกล่อง หมายเลขโทรศัพท์บนนามบัตรคือโทรศัพท์เครื่องนี้ อีเมลบนนามบัตรก็ส่งตรงมาที่โทรศัพท์เครื่องนี้อีกเหมือนกัน นอกจากคนที่บ้านนี้แล้วมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถติดต่อโยธิศโดยตรงได้โดยไม่ต้องผ่านพนา

          ฟังดูเหมือนเขาเป็นคนสำคัญมากมาย แต่นึกถึงปริมาณการสื่อสารที่เขาอาจจะได้รับและต้อง ‘กรอง’ แล้ว พนาก็รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ขึ้นมาติดหมัดเหมือนกัน

          คุณพ่อบ้าน ‘คุย’ กับเขาต่ออีกพักใหญ่ วิธีการใช้งานโปรแกรมต่างๆ ในโทรศัพท์ที่จำเป็นต่อการทำงาน แหล่งข้อมูลสำหรับค้นหาว่าผู้ที่ติดต่อมาคือใคร หลักเกณฑ์การตัดสินใจตอบรับและปฏิเสธนัด โชคดีของพนาที่หลักเกณฑ์และแนวทางเหล่านี้ถูกจัดทำเป็นไฟล์เอกสารใส่ไว้ในโทรศัพท์เรียบร้อย ถ้าต้องจดด้วยมือทุกอย่างคงได้นั่ง ‘คุย’ กันถึงเย็นแน่

          มื้อเที่ยงของพนาคือก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว เรียบง่าย แต่รสชาติดีชะมัด หอมกลิ่นไหม้แบบที่กระทะเคลือบสมัยใหม่ให้ไม่ได้ ถ้าอาหารที่นี่อร่อยแบบนี้ทุกมื้อ เขาก็อยากให้โยธิศกลับจากบ้านสวนมาอยู่ประจำที่นี่ไวๆ!

          เสร็จจากมื้อเที่ยงอันเดียวดาย พนากลับไปที่ห้องเก็บกระเป๋าเดินทาง พบว่ากระเป๋าผ้าใบย่อมที่เขาสะพายติดตัวมาถูกบรรจุลงหีบเอ๊ยกระเป๋าเดินทางสีน้ำตาลแดงของเขาไว้ พอเปิดดูข้างในกระเป๋าเดินทางก็ต้องเลิกคิ้ว เสื้อผ้าที่เขาถอดวางไว้เมื่อครู่ถูกซักสะอาดเรียบร้อย กลิ่นแดดยังหอมติดผ้า แสดงว่าข้างนอกคงร้อนได้ใจทีเดียว

          “พร้อมหรือยัง”

          เสียงคุณพ่อบ้านทำเอาเขาสะดุ้ง

          “เรียบร้อยครับ”

          ตอบพลางปิดกระเป๋าไปด้วย ใบสีน้ำเงินเข้มของโยธิศไม่อยู่แล้ว พนาลากกระเป๋าของตัวเองตามคุณพ่อบ้านย้อนกลับไปด้านหน้า ลัดเลาะทางเดินจนถึงโรงรถ คุณพ่อบ้านคงเห็นเขาเก้กังนัก เลยจัดแจงยกหีบเอ๊ยกระเป๋าใส่ท้ายรถเองเสร็จสรรพ

          พนาคาดว่าจะเห็นรถยุโรปคันเท่าบ้านพร้อมคนขับใส่เครื่องแบบคล้ายเขา แต่ปรากฏว่าข้างหน้านี่คือรถสัญชาติเอเชียขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กสีดำสนิทรูปทรงเรียบร้อย และยังไม่เห็นเงาคนขับตรงไหนเลยสักคน

          แต่โยธิศพูดไว้ว่าคุณพ่อบ้านไม่ได้ไปด้วย...

          หันกลับไปยังไม่ทันอ้าปากถาม ก็เห็นร่างสูงใหญ่ในชุดแบบเดียวกับที่เขาใส่อยู่เพียงแต่เสื้อเป็นสีดำสนิท เดินตรงเข้ามาโดยนิ้วมือควงกุญแจรถเสียงดังกรุกกริกพร้อมกันไปด้วย

          พนายืนมองตามกะพริบตาปริบจนประตูฝั่งคนขับถูกเปิดออก และใบหน้าขาวคมประดับด้วยหนวดเคราเรียบกริบพยักเพยิดเรียกเขาขึ้นรถ ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ในชุดดำจะผลุบนั่งลง

          ตกลงว่า... คนขับรถคือเทพกรีก!

          เอ๊ย!

          คุณโยธิศ!




*





 

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2560
1 comments
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2560 15:36:53 น.
Counter : 1047 Pageviews.

 

ไปกันสองคน....

 

โดย: จากฉันถึงเธอ 21 มกราคม 2561 13:11:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พิธันดร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




คุณพีทคุง พิธันดร
Friends' blogs
[Add พิธันดร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.