เนื่องจากจู่ๆ พ่อก็ถามว่า ไม่ได้ไป สิงค์โปรนานเท่าไรแล้ว?
ก็ตั้งแต่ ม.1 อ่ะ เพราะตอนนั้น ไปจนเบื่อ แถมเป็นเกาะประเทศเล็กๆ
ไปเที่ยว Sentosa จนหุ่นขี้ผึ้งจำหน้าได้แล้วมั้ง....ไปแม่งทุกปิดเทอม
ไปหาหาอาม่า ซีเจ็ก ซาเจ็ก แล้วก็เปลี่ยนไปเที่ยวฮ่องกง มาเลย์ แทน
จนกระทั้งเข้า มหาลัย ไม่ได้ไปเที่ยวไหนอีกเลย เนื่องจาก ปิดเทอม ไม่พร้อมพี่ชาย
BUIC ชอบปิดไม่เหมือนชาวบ้าน ตอนนั้น ประเทศไทย ยังไม่ปิดเทอม
แบบอาเซียน มีแต่ BUIC อ่ะ ที่ดันไปปิดแบบอาเซียนก่อน

พ่อเลยบอกว่า สิงคโปร์ เปลี่ยนไปเยอะแล้วนะ จะมาเที่ยวมั้ย?
จริงๆ พ่อถามตลอดแหละ ว่าเมื่อไรจะไปเยี่ยมที่สิงคโปร์
แต่เรารู้สึกว่า อยู่ที่นั้นที่ไร เหมือนขาดอิสระ ทำไรไม่สะดวกสบายเท่าอยู่เมืองไทย
ต่อให้ไปเที่ยวก็เหอะ อยู่นานแล้วใจไม่ดี รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีตังค์ 555

แต่คราวนี้ พี่ชายอยากพาแฟนไปเที่ยวสิงคโปร์ เราเลยต้องหาทริปกันแบบสั้นๆ
ไปเจอโปรตั๋วถูก ของ Air asia ราคา ไป-กลับ 5000+ เลยไปสอยมา
แต่พอซื้อปุ๊บ เพื่อนอีกคน ก็ไปเที่ยวทริปสิงค์โปรใกล้ๆกัน ปรากฏว่านาง
ซื้อตั๋วของ Lion air ในราคา 4000+ กรี้ดดดด คืออัลไล! ทำไมเธอไม่บอกชั้นก่อนหน้านี้

บ่นไปก็เท่านั้น สุดท้ายก็ได้บินกับหางแดง อิอิ ตอนขาไปไม่ยอมซื้อ น้ำหนักกระเป๋า
เพราะไม่ได้กะจะขนอะไร แต่ขากลับนี้ ซื้อเลย 40 กก รู้ว่า แม่งต้องมีคนฝากซื้อ
กระเป๋า Charles & Keith ที่สิงค์โปรแน่ๆ เอิ๊กกก แล้วก็ไม่ผิดจริงๆนั้นแหละ
เพื่อนแฟนพี่ชาย ฝากซื้อจน คิดว่า ตม. มันจะให้ผ่านป่าวว่ะ 555 อย่างกะหอบไปขายเอง

แต่ก่อนอื่น การเตรียมตัวไป สิงคโปร์ของพวกเราครั้งนี้ ขอบอกเลย ว่า กากมาก!
ไม่มีวางแผนเที่ยวไรสักอย่าง กะไปตายเอาดาบหน้า เพราะทุกคนต่างคนต่างคิดแค่ว่า
ไปเที่ยวสิงคโปร์ก็พอแล้ว...ฮือๆๆ อดไปเที่ยวตามรีวิวเลยจ้า เซงเป็ด
เพราะความเป็นจริง กะแค่เดินแถวๆ มารีน่า เบย์ ก็โครตตะละ เหนื่อยแล้วอ่ะ
ขึ้นแท็กซี่ไม่ได้ด้วยนะ แพงสาดดด! ค่าแท็กซี่ที่สิงค์โปร เลวร้ายมาก
คิดเพิ่มนู้นนี้นั่น แถมราคา ไม่แน่นอนด้วย ราคาจะถูกบวกเพิ่มขึ้น
ตามเวลาและพื้นที่เขต ยิ่งดึกยิ่งแพง และตามยี่ห้อรถยนตร์ด้วย! ห๊ะ จะบ้าหรอ!!
อยู่เมือง มิตเตอร์ ราคาเริ่มต้นที่ 35 บาท ดึกดื่นแค่ไหนก็ยังแค่ 35 บาทเองอ่ะ
อีกหนึ่งเหตุผล ที่ สิงค์โปร ไม่ใช่เมืองที่น่าอยู่สำหรับเรา
สวยงาม แต่อยู่ยาก ถ้าไม่มีตังค์ นี้....ยิ่งอยู่ยากโครต

 พล่ามมาโครตเยอะ แต่น้ำล้วนๆ 5555 เข้าเรื่องดีกว่า...ก่อนวันเดินทาง เราก็ไปแลกเงิน
ที่ Super rich แลกไว้จำนวนหนึ่ง เพื่อไม่ให้เงินมันขาด เวลา ช็อปจะได้ไม่สะดุด
 กลัวไปแลกที่สนามบินแล้วแพงอ่ะ แต่เราว่า Super rich ให้เรท แลกเงิน ดีที่สุดล่ะ
เราไปแลกหลัง Big C ราชประสงค์อ่ะ เห็นเขาบอกว่า เรท ดี งั้นงี้

พอแลกเงินเสร็จก็จัดกระเป๋า เตรียม ออกเดินทาง ไปถึงดอนเมืองตอนสิบโมง
เข้าไปรอข้างในได้ไม่นาน เครื่องบินก็มา เป็นครั้งแรก ที่บินกับ Air asia ไปต่างประเทศ
ก็ประทับใจดีนะ เครื่องไม่เล็ก ไม่ใหญ่ มีขายอาหารบนเครื่องบินด้วย
พี่ชายเรา กินข้าวที่สนามบินไม่อิ่ม เลยซื้อผัดกระเพรา กินบนเครื่อง
โอโห้! กลิ่นแรงและกระจายทั้งลำเลยค่า 5555 นอนอยู่ดีๆ นี้ตื่นเพราะกลิ่นอาหารได้เลยนะ



หลังจากใช้เวลา 3 ชม เราก็มาถึง สิงค์โปร์โดยสวัสดิภาพ
พ่อมารับ ไปบ้านพ่อ แล้วออกไปเที่ยว มารีน่า เบย์ ทันทีเลย เพราะอยู่แค่ 3 วัน
ต้องรีบ ทำเวลา ก็ไปเดินเที่ยว ไปถ่ายรูปตาม จุดท่องเที่ยว
พอดีเราไปวันเสาร์ มีโอกาสได้ดู ทหารเรือเขาซ้อมรับด้วยอ่ะ
มีเครื่องบิน เฉี่ยวหัวไปมา ตื่นเต้นดี เราใช้เวลาอยู่ที่นั้น เกือบทั้งวัน ทั้งคืน



เนื่องจากไม่ได้ไปสิงคโปร์นานแล้ว เกือบสิบปี แทบจะจำสิงคโปร์ไม่ได้
เปลี่ยนไปเยอะมาก เจริญขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยจ้า แล้วทุกอย่างก็แพงมหาโหดยิ่งกว่าเดิมอีก
ตอนอยู่เมืองไทย ไม่เคยรู้สึกว่า น้ำเปล่าเป็นสิ่งหายาก และแพงมาก น้ำขวดละสิบบาท
ได้เป็นลิตร แต่ที่นี้ น้ำขวดกระติ๊ด ราคาเกือบร้อย พระเจ้า!! เลยต้องกินน้ำส้ม ราคาพอๆกันแทน
อีกอย่าง ตอนกินแม็กนั่มที่ไทย แท่งล่ะ 40-45 กูก็ยังว่าแพง มา สิงค์โปร เจอไปแท่งล่ะ 127
เงิบค่า 555 แต่ก็ซื้อมากินนะ อยากลองดู อิอิ


อาหาร จานหนึ่ง ราคาที่นี้ ตกร้อยกว่าบาทไทยแต่เขาให้เยอะอยู่นะ
ปรากฏว่า คืนแรก พวกเรา ใช้เวลาอยู่แถว มารีน่าเบย์ จนถึงเที่ยงคืนค่า
อาเมน! กลับไปสลบ ลืมตายอ่ะ อิอิ











อย่าลืมแวะดู การแสดงเล่น แสง สี ไฟ หน้าห้างมารีน่า เบย์ด้วยนะคะ สวยมากกก



ขอบอกว่า อลังการตามั่กมาก สวยงามมั่กมาก ประทับใจ จนเพลง what a wonderful world
ติดอยู่ในหัวอ่ะ แบบ เคลิ้มมาก โรแมนติกเว่อร์ หันไปมองพี่ชายกะแฟน
แห๊มมม! สวีทกันจนตาเยิ้มเชียว เนื้องอก ส่วนเกินแบบเรา เลยได้แต่คิดในใจ
อย่าให้ตูมีแฟนบ้างนะ! คนโสดเคืองค่า!! 5555




ก่อนหน้าที่เราจะแวะไป มารีน่าเบย์ เราก็ไปซื้อ ทริป universal studios
ที่ China town เห็นคนรีวิว ว่ามีร้านหนึ่งดี พนักงานให้บริการเยี่ยม
แต่ทำไม พวกเราซวยก็ไม่รู้ เจออิพนักงาน เหวี่ยง ถามไรก็ตอบแต่ว่า
ให้ดูรายการ+โบวชัวส์ ตามนี้ มีแค่นี้แหละ! ดีอออกกก!! สุดท้ายก็ซื้อแบบ งง
พ่อถาม ทำไม ไม่ไปซื้อที่โน้น กระแดะ บอกพ่อว่า อ่อ ที่นี้มันถูกกว่าอ่ะป๊า!!
สุดท้ายก็มานั่งเสียใจ (เดี๋ยวจะเล่าตอนหน้า ว่าทำไมถึงเสียใจ) ชิชะ
เป็นบทเรียน ว่า บางครั้งการไปซื้อโดยไม่มีข้อมูล อ่านจากรีวิว
แล้วไปซื้อ เราอาจจะพลาดได้ เพราะงั้น เราต้องคิดก่อน ศึกษาให้ดีซะก่อน
แต่อาจจะเป็นเพราะคราวซวยหรือป่าวไม่รู้ รู้แต่ว่า เซงกับอิร้านสีเขียว
ชั้นสาม ตรงตึก China town มากก



หลังจากที่เที่ยวห้างในมารีน่าเบย์แล้ว
พวกเราก็ไปแวะไปเที่ยว Garden by the Bay (โดยค่า แท็กซี่ไป 500 กว่าบาท)
นั่งจาก มารีน่า เบย์ ไป การ์เด้น บาย เดอะ เบย์ โครตตะละใกล้
แต่กระแดะขี้เกียจเดินไง เป็นไงล่ะ จ่ายเงินค่าแท็กซี่
แล้วรู้เลย ว่า คราวหน้ามึงเลือกเดินจะดีกว่ามั้ย? หึหึ ไม่เจียมตัวกันเลย





ไปถึงก็ไปซื้อตั๋วเข้าชม เนื่องจากเราไปเกือบจะเย็นแล้ว
Information เลยบอกให้เราไปเข้า Could forest ก็พอ ไม่ต้องเข้า
Flower dome ก็ได้ เพราะถึงเข้าไปชมตอนนี้ ก็ไม่ค่อยมีแสงสว่างให้ถ่ายรูปสวยหรอก
เราก็ไปเข้าแถวต่อคิวซื้อ ตอนซื้อ อิเปิ้ลเสือกงกคะ เห็นราคาแล้วตกใจ
เห้ย! ทำไมมันแพงแบบนี้ เป็น 200$ อิเปิ้ลจะเป็น ลม
ที่ไหนได้เอะอะโวยวาย โชว์โง่ตั้งนาน! สุดท้าย มีพี่คนไทยเดินมาบอก
น้องๆ ราคา 200 กว่านั้นมันเป็น ราคาเข้าชมตลอดทั้งปี!
(เพล้ง เพล้ง หน้าแตก 5555) พี่เขาบอก ซื้อนี้สิ 15$ หรือ 28$ นี้แหละ จำไม่ได้
เข้าไปชมแต่ Could forest ก็พอ ต้องขอบคุณพี่จริงๆ ที่ทำให้น้องเลิกหายโง่ 555













อยากบอกข้างใน Could forst อลังการมาก
อารมณ์เหมือนป่าอับชื้น มีน้ำตก ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นป่า สวยเฟ่อร์ๆๆ





เจอากาศร้อนเข้ามาข้างใน นี้ อย่างฟินเลย! ขอบอก ว่าชอบมาก
เราว่า มันคุ้มค่าอยู่นะ เหมือนเดินอยู่ในป่า รู้สึกไม่เสียดายเงินเลยสักนิด
 กลับไปไม่มีบ่น จบนะ? 555























พออกมาข้างนอก ก็มืดแล้ว แต่สวยงาม อลังการตามาก
กับวิวตอนกลางคืนของ Garden by the bay













จริงเขามีให้ขึ้นไปชมวิวตอนกลางคืนด้านบนฟรีด้วย แต่เไม่ได้ไป
เพราะมันดึกแล้ว เหนื่อย เราก็เลยแวะกลับไปบ้านพ่อเลยดีกว่า
อยากจะว่า แถวบ้านพ่อ อยู่ ไกลมากก นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปแล้วแทบจะสลบคาที่นั่ง
เกือบ 40 นาที ถึงที่หมายแล้วต้องต่อด้วย รถเมล์อีก อาเมน

กลับไปถึงบ้านพ่อ เจอพ่อ แล้วหายเหนื่อยเลย เพราะพ่อน่ารักมาก
ตอนนั้น เราไปถึงเกือบเที่ยงคืนแล้ว พ่อเดินออกมาเปิดประตูรอแล้วบอกว่า
หิวมั้ย? ไปหาอะไรกินกัน เพราะข้างล่าง มีร้านอาหารอารมณ์แบบ ฟู๊ด คอร์ดอยู่
เปิด 24 ชม ด้วย พวกเราเลยรีบ อาบน้ำ แล้วลงไปกินข้าว
จากนั้นก็แปรงฟันนอน อยากบอกว่า โครต เหนื่อย
สลบยาว จนเช้าเลยคะ เพราะ พรุ่งต้องไปเที่ยว universal studios ต่อ
เราเลยต้องตื่นเพื่อเตรียมตัวเพื่อกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง อิอิ






อาหารมื้อดึก มื้อแรกของพวกเรา เกี๋ยวเตี๋ยว ลูกชิ้นปลา ราคา 4$
คุณพระ อร่อยดี แต่แพงจุง แต่เราก็ซัดโฮกกด้วยความหิว อิอิ
ก่อนจะลากับไปนอนหลับด้วยความเหนื่อยล้า