|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
intro ชีวิตเปลี่ยว เดี่ยวเมกา
ก็ จะทยอยลงชีวิตที่นี่ซะหน่อยครับ เริ่มแต่ต้นกันเล้ย!!
เขาบอกว่าคนเขียนบล็อคที่ดีเนี่ย ต้องสม่ำเสมอใช่ไหมครับ ผมสอบข้อนี้ไม่ผ่านล่ะ แหม... ก็ทำไงได้ งานมันยุ้งงงง (จิตสำนึกภายในสะกิดยิกๆ เฮ่ย เพ่ แล้วเอาเวลาที่ไหนไปคุยกะน้องโนบุโกะ จิวอน คาโรไลน์ เลโบ ดะอิน คารา เอมี แอลลิสัน เซียรา ฯลฯ ล่ะคับ ว่าไงเพ่) พอเหยียบเท้าทับจิตสำนึกแบนแต๊ดแต๋แล้ว ผมก็เขียนต่อเลยละกันครับ คงต้องขอข้ามการเขียนถึงที่พักของนักเรียนไทยช่วงหน้าร้อนไปก่อน บริวสเตอร์อะแคเดมีเป็นโรงเรียนที่ดีมากๆ เลยครับ พวกเรานักเรียนไทยห้าสิบกว่าคน ได้ความพร้อมทั้งตัวและหัวใจไปต่อสู้กับความยากลำบากแบบตัวคนเดียวที่อเมริกาได้โขเลยล่ะ ทั้งเรียนวิชาวัฒนธรรมอเมริกัน การเลือกและสมัครมหาวิทยาลัย เตรียมการสอบมาตรฐาน SAT ที่คะแนนมักจะออกมา sad และสอบโทเฟิล วัดระดับภาษาอังกฤษ ครู และผู้ช่วยครู หรือทีเอ ที่นี่ ก็เป็นทั้งเพื่อนและผู้สอนที่เก่งและฮากันมากๆ เลยทีเดียว แต่ถ้าเขียนแล้ว คนอ่านมันก็เพื่อนๆ กัน ที่สำคัญมันก็อ่านภาษาไทยออก นินทาภาษาไทยไม่สะดวกปากเลยครับ พับเผื่อสิ ผมยิ่งถือคติว่า นินทาไม่มัน ฉันก็ไม่เขียนเอาเสียด้วย เพราะฉะนั้น เหยื่อน้ำลายของผมในบล็อกนี้ จะปรากฎแต่แขก ตี่หมวย และฝรั่งเป็นไหๆ แต่คนไทยจะเหลือคนเดียวที่ผมนินทาได้มันที่สุด ผมเองครับ เพราะหลังจากบริวสเตอร์แล้ว ผมถูกส่งมาประจำอยู่ที่ เดอะฮิลล์สคูล มลรัฐเพนน์ซิลเวเนีย เพื่อนคนอื่น อาจจะไปเรียนกันคน สองคน สามคน ไปอยู่โรงเรียนที่มีคนไทยอยู่แล้วสี่ห้าคนบ้าง คนสองคนบ้าง ตามแต่กรณีไปครับ แต่สำหรับตั้มน้อยคนนี้แล้ว ต้องโดนเฉดหัวไปคนเดียวเพียวๆ ในโรงเรียนที่มีแต่ไทยสกอลาร์ เท่านั้น ที่ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จัก นอกนั้น...ก็ยังรู้ว่าอาหารไทยวันนีส อร่อยมาก (ว่าที่รูมเมทเมล์มาคุยด้วยก่อนนิดนึง ชื่อแมทธิว จอห์นสัน ซึ่งเป็นชื่อที่มีผู้ใช้มากกว่าหนึ่งพันคน... ท็อปฮิตมาก) เอาละ อุตส่าห์ตั้งปณิธานไว้แล้ว ว่าเราจะไม่ขี้บ่น...ไม่ขี้บ่น แต่ผมก็เก็บกดนี่ครับท่านผู้อ่าน นี่ขนาดอธิบายย้อนหลังมาแปดเก้าเดือนแล้วยังจำอารมณ์หงุดหงิดได้ไม่หาย
กระเป๋าในมือวอร์มก็ถูกลากครืดๆ ห่างออกไปแล้วเกินจะมองตามไปได้ ตอนป่านนั้นสาวน้อยที่เจอชะตากรรมคล้ายๆ กะผม คือไปโรงเรียนแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ ก็คงลงบันไดเลื่อนไปชานชาลาอื่นไปแล้วครับ ปล่อยให้ผมนั่งหดอยู่เดียวดายในชานชาลาเครื่องบินจากสนามบินแมนเชสเตอร์ นิวแฮมเชียร์ ที่ตั้งของบริวสเตอร์ ไปที่สนามบินฟิลาเดลเฟีย ชื่อสนามบินเป็นชื่อเดียวกันกับเมืองหลวงของรัฐเพนน์ซิลเวเนีย เนื่องจากอย่างไรก็ดี ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน(ฮอร์โมนเพศชาย)ของผม ก็ยังออกฤทธิ์เป็นปกติ ถึงมันจะไม่ทำให้ผมขนดกเป็นพุ่มไสว หรือมีกล้ามเนื้อล่ำบึ้กให้สาวๆ อยากทาครีมกันแดดให้ มีแต่ไขมัน แต่มันก็ทำให้ผมมีปฎิกริยาทางจิตวิทยาอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นผลจากฮอร์โมนชนิดนี้เหมือนกัน มันคืออาการ ขี้เก๊ก ครับท่านผู้อ่าน ดังนั้น แม้ว่าเครื่องในกำลังบิดตัวเหมือนโดนรีดน้ำจากผ้าขี้ริ้วด้วยความเสียวสุดขีด เพราะไม่เคยอยู่คนเดียวแบบไร้คนไทยใกล้ๆ มาก่อนเลยในชีวิต ทั้งหมดที่ผมทำคือนั่งยืดหลังตรงอย่างเรียบร้อย ทอดกายอ่านหนังสือในท่าตามสบาย แต่ลูกกะตาเหลือบไปมองจอแสดงเครื่องบินทุกสามสิบวิฯ คือ... มันกลัวตกเครื่องน่ะครับ
ยิ่งตอนแบกกระเป๋าปีนกระไดขึ้นเครื่องไปอีก ใจหายว่า ต่อไปนี้ เราจะไม่ได้พูดภาษาไทยอีกแล้วนะ จะไม่ได้ร้องเพลงลูกทุ่งเสียงเจื้อยๆ แจ้วๆ ในฝักบัว แล้วมีคนมาด่าว่าผิดคีย์อีก เพราะจะไม่มีใครฟังรู้เรื่อง จะไม่ได้ร่วมประนามอาหารฝรั่ง ที่จืด มัน และเลี่ยน แล้วพูดถึงอาหารไทยอีก เพราะถึงแม้ทุกคนจะรู้จัก แต่ก็คงไม่เคยได้กิน จะไม่ได้เอาซอสมะเขือเทศมาราดแพนเค้กแก้เลี่ยน ไม่ได้เอาน้ำเชื่อมมาราดไส้กรอกแก้เค็มอีกแล้ว ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษสำเนียงไทยๆ อีกแล้ว ถ้าอยากสื่อสารกะชาวบ้านได้ ที่ผ่านมา แม้จะจากบ้านมาไกล แต่ทุกคนเกินกว่าครึ่งที่อยู่ด้วย คือนักเรียนทั้งหมด ก็เป็นคนไทย คนชาติที่เข้าใจเหตุผลของแทบทุกการกระทำของเรา ยิ่งเป็นเพื่อนกันมานาน...ชนิดที่มองตาก็เข้าใจ ...จะไม่มีใครเข้าใจผมอีกต่อไป ตั้งแต่วินาทีที่เท้าของผมก้าวพ้นจากทางเชื่อมระหว่างสนามบินกับตัวเครื่องบิน ผมคือผม อยู่กับผม และต้องพึ่งพาผม...คนเดียวเท่านั้น ว่าแต่ ก่อนจะเก๊กมาดเศร้าเอาใจสาว เอาตัวให้รอดก่อนเถอะ... จิตใต้สำนึกสะกิดผมทันเอาตั๋วยื่นให้คุณพนักงานดูพอดี๊ พอดี
และแล้ว หลังจากนั่งเครื่องบินมาอย่างทุลักทุเล ผมก็มาถึง สนามบินฟิลาเดลเฟียครับ ผู้คนขวักไขว่ สีผมสีผิวไล่สีกันเป็นสิบเป็นร้อย ดวงตาแต่ละคู่ล้วนแตกต่าง ไม่ซ้ำกันสักคน ทีนี้ผมถึงได้เข้าใจว่า ทำไมวรรณกรรมฝรั่งเขาถึงบรรยายกันจริงจัง โดยเฉพาะพวกวรรณกรรมยำรวมมิตร(แฟนตาซี) ทั้งหลายแหล่ ไอ้ผมสีเออร์เบิร์น ตาสีเฮเซล ผมสีไอวรี่บลอนด์ ตาสีเขียวมรกต ทำนองนี้ ผมมารู้ทีหลังด้วยแน่ะครับว่า แฟ้มประวัติของชาวอเมริกัน เขาบันทึกสีผมกะสีตาเอาไว้ด้วย กันเหนียว นี่ไม่รวมสีผิวที่ไล่โทนตั้งแต่ขาวจั๊วะเป็นนมข้นไปจนถึงดำเข้มร้อนแรง แบบดาร์กช็อคเบบี้ ไปเลยครับ แล้วผมก็ลากกระเป๋า ตามหาคนที่จะมารับไปโรงเรียน เดอะ ฮิลล์ สคูล ต่อไป
Create Date : 14 เมษายน 2550 |
|
5 comments |
Last Update : 14 เมษายน 2550 23:18:22 น. |
Counter : 1083 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Makok (Castertroy ) 15 เมษายน 2550 14:26:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: hnulekk (เวียงละกอน ) 22 เมษายน 2550 13:12:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 25 เมษายน 2550 11:28:56 น. |
|
|
|
| |
|
|