Bloggang.com : weblog for you and your gang
ชีวิต...คือความหลากหลาย
Group Blog
ที่เห็นและเป็นไป
เพียงลมพัดผ่าน
หนังสี่จอ
หนังแผ่น
ตะลอนทัวร์ไปกับพิน
หนังสือดีมีไว้บอกต่อ
จารึกไว้ในแผ่นดิน
เพลงนี้มีเรื่องราว
แด่นายูง 3 ปีที่จะไม่ลืม
<<
กุมภาพันธ์ 2550
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
24 กุมภาพันธ์ 2550
การบังคับใช้สิทธิในการผลิตยา 3 ตัวแรกในประเทศไทย
All Blogs
แด่ วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ ด้นหญ้าบนภูเขา
ร่วมอาลัย วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ นักต่อสู้เพื่อคนทุกข์ยาก
การบังคับใช้สิทธิในการผลิตยา 3 ตัวแรกในประเทศไทย
19-20 กันยายน : รัฐประหารครั้งที่สองในช่วงชีวิตผม
พระราชดำรัส 9 มิถุนายน
รักและอาลัย เชิด ทรงศรี
ศาลปกครอง เพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตฯ คดีไอทีวี
พระราชดำรัส แก้วิกฤตชาติ 2
พระราชดำรัส แก้วิกฤตชาติ 1
การบังคับใช้สิทธิในการผลิตยา 3 ตัวแรกในประเทศไทย
การประกาศใช้สิทธิตามสิทธิบัตรยาและเวชภัณฑ์ด้วยการนำเข้าหรือผลิตภายในประเทศ โดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าของสิทธิ หรือ Compulsory License ตามมาตรา 51 ของ พรบ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 ที่ระบุกระทรวงสาธารณสุขสามารถใช้สิทธินี้ได้ด้วยเหตุผล เพื่อบรรเทาการขาดแคลน อาหาร ยา หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างอื่น
ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศใช้สิทธินี้กับ ยา 3 ตัว ได้แก่
1. Efavirenz เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2549
2. Kaletra (ยาผสมระหว่าง Lopinavir และ Ritonavir) เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2550
3. Plavix เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2550
โดยมอบสิทธิให้กับองค์การเภสัชกรรม เป็นผู้ใช้สิทธิแทนในการผลิตหรือการนำเข้าจากต่างประเทศ
สำหรับยาสองตัวแรก เป็นยาที่สำหรับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ซึ่งพบว่าราคายาที่ตั้งไว้โดยบริษัทต่างชาตินั้น ทำให้ รัฐไม่สามารถจัดหายาได้เพียงพอตามความต้องการ กล่าวคือ จากงบประมาณที่มีสามารถจัดหายา ให้กับผู้ป่วยในประเทศได้เพียง 82,000 คน จากจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดหลายแสนราย
สำหรับ plavix นั้นเป็นยาสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหา โรคเส้นเลือดอุดตันในหัวใจ ซึ่งนับเป็นโรคที่ร้ายแรงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ของผู้ป่วยในประเทศ และยามีราคาแพงมาก
การใช้สิทธิครั้งนี้ยังถือว่าอยู่ภายใต้ข้อตกลง TRIPS ซึ่งระบุว่า ประเทศที่เป็นสมาชิก WTO มีสิทธิที่จะปกป้องการสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเป็นการส่งเสริมการเข้าถึงยาอย่างถ้วนหน้า ด้วยการบังคับการใช้สิทธิในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน
จากประชาชาติธุรกิจ 8 กุมภาพันธ์ 2550
.........................................................................
เนื่องจากเป็นเรื่องใกล้ตัวผมในฐานะหมอ
ขอแสดงความเห็นไว้หน่อยว่า
นับตั้งแต่เปลี่ยนรัฐบาลมา ผมขอยกเรื่องนี้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ผ่านมากี่รัฐบาลไม่มีใครกล้าใช้สิทธินี้ ทั้งที่สามารถทำได้
ผู้ป่วยหลายพันหลายหมื่นคนที่ไม่มีสิทธิ จะได้ใช้ยาที่มีคุณภาพสักที
และรพ. เล็กๆ บางทีจะได้มีโอกาสใช้ plavix กะเขาสักที นับตั้งแต่เรียนมา มีความรู้แต่ไม่เคยได้ใช้สักที
เหตุผลเดียวคือมันแพง ใช้ของถูกๆ ไปก็แล้วกันนะหมอ
อีกอย่างคือ ทำไมข่าวดีๆ เรื่องดีๆ แบบนี้ ไม่ค่อยมีคนรู้ กว่าผมจะรู้ก็ปาไปเป็นเดือนๆ
Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2550 16:36:40 น.
5 comments
Counter : 561 Pageviews.
Share
Tweet
เห็นด้วยค่ะสำหรับเรื่องนี้
ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่า สิทธิบัตร หรือลิขสิทธิ์อะไรเนี่ย สมควรใช้กับสินค้าที่ไม่ได้จำเป็นในการช่วยชีวิตเท่านั้นค่ะ
พวกสินค้าแฟชั่น ขายเสื้อแบรนด์เนมตัวละ 2 แสน หรืออาหารเสริมกินแล้วสวย ขายเม็ดละ 2 พัน หรือซีดีเพลงแผ่นละแพงๆ ก็ทำไปเถอะ(ถ้าไม่กลัวว่าจะขายไม่ออก)
แต่ไม่น่ามาทำกับยาที่ช่วยชีวิตคนนะ คนไม่มีเงิน ก็มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เท่าๆกับทุกคน
อ่านไปบ่นไป
โดย:
พจมารร้าย
วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:16:12 น.
มีประโยชน์มากๆค่ะ ขอบคุณค่ะ
แล้วจะแวะมาอ่านอีกนะคะ
โดย: White-angle (
White-angle derss
) วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:21:59 น.
ดีจัง
คนจนจะได้รับสิ่งดีๆกับเขาบ้าง
ป.ล.คราวนี้comment น้อย ไม่ว่ากันนะเจ้าคะ
รู้สึกว่าแสงตะวันจะพลาดไปหลายหน้าBlog ของคุณนะ
ไว้ตามไปอ่านค่ะ เฮ้อ....ยุ่งมากค่ะ เพิ่งสอบเสร็จด้วย
โดย:
เเสงตะวัน
วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:09:10 น.
อีกอย่างคือ ทำไมข่าวดีๆ เรื่องดีๆ แบบนี้ ไม่ค่อยมีคนรู้ กว่าผมจะรู้ก็ปาไปเป็นเดือนๆ
------------------------------
เรื่องนี้ที่จริงดังมา 2-3 ปีแล้วล่ะ
มาดังเปรี๊ยงก็เพราะว่า มีการฟ้องรัฐบาลอินเดีย แล้ว รัฐบาลไทย ก็ดันจะทำ compulsory license เมื่อปลายปีที่แล้ว
ดังขนาด new england journal of medicine ลงบทความสองบทความ อันนึงเป็น india อันนึงเป็น ไทย
ที่จริงแล้ว ตอนทีมีการประชุม Thai-US FTA ที่เชียงใหม่ ก็ดังเปรี้ยง เพราะว่า ข้อตกลงนึกคือ รัฐไทยต้องไม่ประกาศใช้ compulsory license แต่ว่า เรารู้ว่ามันเสียเปรียบ เลยมีการประท้วง และล้มการประชุมในที่สุด
โดย:
Plin, :-p
วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:39:46 น.
เคยเห็นข่าวแว่บไปแว่บมา แต่ก็ไม่รู้รายละเอียดซะที
ขอบคุณมากนะจ๊ะที่มาบอก
ยอมรับกันรึยังว่า double standard มีอยู่จริง
โดย:
jeafish
วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:23:57:57 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
pigletdora
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
ปลาทอง Golden Fish
เเสงตะวัน
Doungtawan
a_somjai
ทะเลสีฟ้าจัง
คำห้วน-lopzang-เฉือนคำรัก
JewNid
Webmaster - BlogGang
[Add pigletdora's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่า สิทธิบัตร หรือลิขสิทธิ์อะไรเนี่ย สมควรใช้กับสินค้าที่ไม่ได้จำเป็นในการช่วยชีวิตเท่านั้นค่ะ
พวกสินค้าแฟชั่น ขายเสื้อแบรนด์เนมตัวละ 2 แสน หรืออาหารเสริมกินแล้วสวย ขายเม็ดละ 2 พัน หรือซีดีเพลงแผ่นละแพงๆ ก็ทำไปเถอะ(ถ้าไม่กลัวว่าจะขายไม่ออก)
แต่ไม่น่ามาทำกับยาที่ช่วยชีวิตคนนะ คนไม่มีเงิน ก็มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เท่าๆกับทุกคน
อ่านไปบ่นไป