Piano in the MorN_ing (aka. พี่หมอน ครับผม)
 
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
19 พฤษภาคม 2552

หนังสือที่หายไป (ตอนที่ 1)

เปล่าครับ หนังสือของผมไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ เพียงแต่ว่า...
ผมเริ่มมาคิดถึงอนาคตของงานที่ผมทำ ว่าผมควรจะเตรียมการอย่างไร



แล้วผมก็เริ่มศึกษา E-Book Reader ที่จะมาแทนที่หนังสือกระดาษของทุกวันนี้
ได้ไปดูวิดีโอ KindleDX ตัวใหม่ล่าสุดของ Amazon
แล้วก็ Sony PRS-700 ก็รู้สึกว่าน่าสนใจดี ตรงที่เค้าบอกกันว่า

1. ใช้เทคโนโลยีหมึกพิมพ์อีเล็กทรอนิกส์ ที่ไม่ใช่การเปล่งแสงออกมาเหมือนจอ LCD
2. ตัวหนังสือสามารถคงอยู่ได้ โดยไม่ต้องมีไฟไปเลี้ยง

สองข้อนี้ทำให้ผมเริ่มสงสัยว่า อ๊ะ หลักการมันเป็นยังไงกันแน่เนี่ย ถึงได้ทำได้แบบนี้
ตามค้นคว้าดูก็รู้ว่าเค้าทำได้จริงแฮะ (ตอนต่อไปจะมาเล่าเทคโนโลยีให้ฟังนะครับ)

ทั้ง Amazon แล้วก็ Sony ต่างก็มีลูกเล่นทางการตลาดที่คล้ายๆกัน
แต่ Amazon มีจำนวนหนังสือที่ให้อ่านได้มากกว่า Sony ในตอนนี้

ดูรายละเอียดต่างๆ ก็ทำให้ผมเชื่อว่า หนังสือของผมคงจะเริ่มหายไปในไม่ช้า
เพราะผมเองก็ชอบอ่าน แต่ไม่ชอบเก็บหนังสือไว้เยอะๆในบ้านเหมือนกัน
เทคโนโลยี E-book น่าจะตอบโจทย์ของผมได้พอสมควรทีเดียว

ผมมาคิดต่อว่า ถ้าผมจะทำให้เกิดการบูมของ E-book ในเมืองไทย ผมต้องทำอย่างไรบ้าง
สิ่งสำคัญที่สุด ก็คือการมี Content ที่น่าสนใจให้คนที่อยากอ่านหนังสือได้สัมผัสได้

แล้วผมก็เริ่มคิดอะไรดีๆได้หลายอย่าง.....

(ไว้มาต่อตอนสองนะครับ)

*ภาพประกอบเป็น Prototype Reader ของ Plastic Logic นะครับ




 

Create Date : 19 พฤษภาคม 2552
4 comments
Last Update : 19 พฤษภาคม 2552 17:43:01 น.
Counter : 415 Pageviews.

 

กำลังสนใจ kindle เลยค่ะ สรุปว่าบ้านเราใช้ได้ โหลด e book ได้ใช่ไหมคะ

 

โดย: พัท IP: 85.75.7.232 19 พฤษภาคม 2552 22:46:22 น.  

 

ที่จริงชอบอีบุ๊คตรงที่มันไม่เปลืองกระดาษค่ะ

แต่ก็รู้สึกว่า..การอ่านผ่านจอ มันทำร้ายสายตาอยู่มากเหมือนกัน แหะๆ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 20 พฤษภาคม 2552 8:26:51 น.  

 

KindleDX ใช้ระบบเน็ตเวิร์คของ Sprint ในอเมริกาครับ
(เป็น 3G ครับ)
โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายรายเดือนเพิ่มแต่อย่างใด
แต่ของบ้านเรายังไม่รองรับคร้บ

แต่ก็มีหน่วยความจำในตัวถึง 2G ซึ่งใส่หนังสือได้ประมาณ 1500 เล่ม

ถ้าซื้อจากอเมริกา ก็นั่งโหลดกันก่อนเลยครับ
แล้วค่อยเอากลับมานั่งอ่านที่เมืองไทยครับ

ตอนนี้ของเค้ายังเอาไว้ใช้เฉพาะในอเมริกา
ผมเองกำลังหาทางที่จะทำให้เมืองไทยมีใช้อยู่เหมือนกันครับ

 

โดย: Piano in the MorN_ing IP: 203.185.131.233 20 พฤษภาคม 2552 8:31:40 น.  

 

ตอบคุณสาวไกด์ใจซื่อครับ

เทคโนโลยีคนละอย่างกับจอคอมครับ
จอแบบนี้เป็น Passive ครับ คือไม่ได้ยิงแสงออกมา
แต่เป็นการทำงานเหมือนหมึกพิมพ์
ที่เอาหมึกไปแปะไว้บนพื้นผิวครับ

เดี๋ยววันนี้เขียนต่อเรื่องเทคโนโลยีให้ฟัง
จะเห็นภาพชัดมากขึ้นครับ

 

โดย: Piano in the MorN_ing IP: 203.185.131.233 20 พฤษภาคม 2552 8:33:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Piano in the MorN_ing
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




--------------------------------------

I know you so late..
As I am so old...

I can only touch you in the morning...
Just to kiss you goodbye...

I want to spend all my time with you....
But my work keeps me away for all day long....

Someday we will never be apart....
I will keep my hands on you forever....

I love you..... My Piano

--------------------------------------
[Add Piano in the MorN_ing's blog to your web]