Paulla
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2553
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
6 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
2 สาวแบกเป้ตะลุยลุ่มแม่น้ำไนล์ ณ ประเทศอียิปต์

อย่างแรกต้องขอขอบคุณทุกคนที่มาเล่าประสบการณ์ดีๆในประเทศต่างๆให้ฟังทั้งใน pantip และ Bloggang หรือเว็ปอื่นๆ ทำให้ 2 สาวหมวยได้สัมผัสประสบการณ์ดีๆ สนุกๆกับเขาบ้างค่ะ

จากที่ได้อ่านข้อมูลจากหลายๆท่าน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยลงรายละเอียด เช่น การทำวีซ่าเข้าประเทศ หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนที่ Backpack ไปกันเองว่าจะใช้งบประมาณเท่าไร
ดังนั้นเราก็เลยมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อว่าจะมีใครอยากไปและอยากรู้รายละเอียดต่างๆแบบไม่ขัดใจค่ะ (ฮิฮิฮิ)

ขอเกริ่นนิดหนึ่งเนื่องจากเราเพิ่งโพสต์เป็นครั้งแรก ประสบการณ์การเขียนยังไม่มี ถ้าอ่านแล้วติดขัดอะไรขออภัยด้วยน่ะค่ะ
เราจะเขียนเป็น 3 ภาคคือ 1.โปรแกรมการเดินทาง มีที่ไหนบ้าง ส่วนรายละเอียดในแต่ละที่ หาจากblog พี่ๆคนอื่นๆน่ะค่ะ 2. ค่าใช้จ่าย และ 3. ข้อแนะนำและควรระวัง

ขอเริ่มจากการทำ Visa อียิปต์ก่อนแล้วกัน visa ที่นี่จะไม่เหมือน visa ประเทศอื่นๆ อยากแรก คือ การขอวิซ่าต้องขอก่อน 2 เดือนโดยนับจากวันเดินทาง และต้องใช้ตั๋วเครื่องบินจริง (หรือ e-ticket ก็ได้) และต้องมีหลักฐานการจองห้องพักตลอดระยะเวลาที่เราอยู่ที่โน้น

เราเที่ยว 4 เมืองตั้งแต่เหนือจรดใต้ คือ Cairo, Aswan, Luxor and Alexandria เป็นเวลา 10 วันพอดี เราก็ต้องมีใบจองห้องพักทั้ง 4 เมืองเลย พร้อมโปรแกรมการเดินทางว่าวันนี้เราจะไปที่ไหน พักที่ไหน เป็นต้นค่ะ ไม่งั้นต้องกลับไปทำใหม่ค่ะ และที่แปลกอีกอย่างคือ เราไป 10 วัน ช่วงวันที่ 9-19 เม.ย. 53 เขาก็ให้อยู่ที่นั่นได้แค่ 10 วัน ไม่ใช่ 1 เดือน เหมือนประเทศอื่นๆ โชคดีที่ไปปีนี้ ถ้าไปปีที่แล้วคงกลับบ้านไม่ได้แน่ๆเพราะปิดสนามบิน และคงยิ่งยุ่งมากขึ้นเพราะวีซ่าหมดอายุ ไม่รู้ว่ากลัวอะไรเนอะถึงให้แค่ตามที่เราไปเที่ยว งงจริงๆค่ะ (ถ้ามีใครรู้เหตุผล บอกด้วยน่ะค่ะ)


สถานทูตอียิปต์ย้ายไปอยู่ตึกสรชัย สุขุมวิท 63 (ซอยเอกมัย) โทร.02-726-9831-3 (อัตโนมัติ) ชั้น 31 เปิดทำวิซ่า 9.30-12.00 ค่ะ แต่ถ้าจะโทรเพื่อสอบถามข้อมูลไม่มีเจ้าหน้าที่ตอบรับน่ะค่ะ แต่จะบอกแค่เอกสารสำหรับทำวีซ่าเท่านั้นค่ะ (ส่วนใหญ่เรื่องหลักฐานการเงินเขาจะใช้ Bang Garuntee อย่าลืมให้แบงก์ประทับตราด้วยน่ะค่ะ จะได้ไม่เสียเวลา)
ค่าขอวีซ่า 1,500 บาท

หลังจากได้วีซ่าแล้ว เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วก็ออกเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิเลย แต่ว่าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น โอ๊ย!! ทำไมไม่มี flight ที่เราซื้อล่ะ 2 สาวรีบเดินไปสอบถาม counter ทันที ปรากฎว่าพวกเราตกเครื่องบินค่ะ
เราต้องออกเดินทางคืนเมื่อวาน (เนื่องจากเวลาออกเดินทางคือ วันที่ 8 เม.ย. เวลา 00.45 น. ดังนั้นต้องออกคืนวันที่ 7 เม.ย.) ทำไงดี พระเจ้าช่วย กล้วยทอด 2 สาวรีบแจ้นไปที่ counter ทันที เจ้าหน้าที่ก็ใจดีค่ะ บอกว่าจะ waiting list ให้ แต่ว่าคุณเป็นคนที่ 5-6 น่ะค่ะเพราะมีคนมาก่อนคุณ 4 คน (ต่างชาติทั้งหมดเลย) 2 สาว...เอ๋อเลยค่ะ (แล้วพวกตรูจะได้ไปไหมเนี่ย) จะมีใครตกเครื่องเหมือนเรา 2 คนวันนี้ไหม....ถ้าไม่ได้ไปทำไงดี จองที่พักไปหมดแล้ว พวกเพื่อนๆอีกล่ะ..บอกทุกคนไปหมดแล้วด้วยว่าจะไปเที่ยวอียิปต์ โอ๊ย..สารพัดจะคิด
สุดท้าย..พระเจ้าก็เข้าข้างคนดี พวกเราได้ไปค่ะ มีคนตกเครื่องทั้งหมด 8 คน และได้ไปหมดเลยค่ะ แต่ว่าพวกเราต้องเพิ่มเงินคนละ 2000 บาท (เป็นประสบการณ์ที่จะไม่ลืมเลยค่ะ)



การเดินทางเป็นไปด้วยดี พวกเราอยู่บนเครื่อง 9 ชั่วโมง เขาให้อาหารพวกเรา 2 มื้อค่ะ (แนะนำให้ใช้สายการบินอียิปต์น่ะค่ะ ราคาถูกกว่าและเป็นสายการบินเดียวที่ direct flight ค่ะ)

อยากแนะนำว่า ถ้ามีแผนจะไปอียิปต์จริงๆให้จองตั๋วเครื่องบินเลยน่ะค่ะ เพราะราคาจะถูกมากกว่าวันใกล้ๆจะไป
แนะนำบริษัท JALPAK TOUR & TRAVEL(THAILAND) CO.,Ltd เขาให้ Rate ดีและมีระยะเวลา due date ในการจ่ายตังค์ให้ด้วย

ต่อค่ะ พวกเรามาถึงสนามบินไคโรประมาณตี 5 ซึ่งเร็วกว่าบ้านเรา 5 ชม.พอดิบพอดีเลยค่ะ จากนั้นเราก็รีบไปที่ information เพื่อขอ Brochure และ แผนที่ ปรากฎว่า "ไม่มี" สนามบินไรเนี่ยไม่มีข้อมูลอะไรให้นักท่องเที่ยวเลย เป็นประเทศที่แปลกจริงๆ ตั้งแต่ทำ Visa แล้ว ไม่เป็นไรเนื่องจากเรา print แผนที่และข้อมูลต่างๆมาจากเมืองไทยเรียบร้อยแล้วแค่นี้จิ๊บๆ

ดังนั้น อันดับแรกต้องแลกเงิน Egyptian Pound ก่อน (ขอแนะนำให้แลกเงิน EURO ดีกว่าแลก USD ค่ะ เพราะrate EURO แลกเป็น L.E. ได้มากกว่า USD และให้แลกที่สนามบินไคโรไปเยอะๆเลยค่ะ เพราะ rate สนามบินให้ราคาดีกว่าในตัวเมืองค่ะ)

พอออกจากสนามบินปุ๊บ...เราก็นั่งรถบัส Terminal 1 ไปลงสุดสาย แล้วเดินต่อไปยังรถเมล์สาย 356 จะไปถึงสถานีรามเสส (เหมือนหัวลำโพงบ้านเรา) หรือดูจากเว๊ปนี้ก็ได้ค่ะ
//www.cairo-airport.com/services_transportation.asp
คนแปลกหน้าที่สนามบินจะพยายามเข้ามาช่วยถือกระเป๋า อย่าให้เขาช่วยน่ะค่ะ เพราะเขาจะเอาเงินค่ะ



พอเราถึงสถานีรถไฟรามเสสก็ไปต่อ Metro หรือรถไฟใต้ดินได้เลย ซึ่งที่พักที่เราจองไว้ New Palace Hostel อยู่ใกล้ Metro สถานี Orabi เดินแค่ 5 นาทีถึง


ก่อนมาที่นี่ได้อ่านข้อมูลมาเยอะมาก คิดว่าจะเดินทางไปแต่ละที่ด้วยตัวเองและซื้อ day trip จากโรงแรมแต่ละเมือง แต่พอไปถึงโรงแรมที่ไคโร พนักงานรีบสอบถามพวกเราใหญ่เลยว่าได้วางแผนไปเที่ยวไหนหรือยัง อยากไปไหนบ้าง แล้วเขาก็เอากระดาษ ปากกามาจัดแผนให้พวกเราเฉยเลย แต่ที่เขาจัดให้ตรงกับที่พวกเราจัดไว้เป๊กๆเลย (รู้ใจจริงๆ) แล้วก็แจ้งราคาให้เสร็จสรรพ

พวกเราก็ปฏิเสธไปก่อนเลยว่าไม่เอา เราเตรียมข้อมูลมาพร้อมแล้ว แต่เขาให้เหตุผลว่าคนพื้นเมือง Aswan และ Luxor พูดอังกฤษไม่ค่อยได้ คุณจะมีปัญหาในการสื่อสารน่ะ ใช้บริการเราดีกว่า พวกเราก็คิดๆๆๆแล้วก็ตกลงใช้ Local tour ของเขา ซึ่งรวมค่ารถไฟไป-กลับ ค่าที่พักโรงแรม 2 คืนที่ Aswan + Dinner 1 มื้อ ค่าล่องเรือ Fulucca พร้อมอาหาร 3 มื้อและค้างบนเรือ 1 คืน ค่าที่พัก 1 คืนที่ Luxor + Lunch 1 มื้อ แต่ไม่รวมค่าเข้าสถานที่ และค่าอาหารมื้ออื่นๆ


ที่พักไคโร (โรงแรม New Palace ) ไม่อยากแนะนำที่นี่ค่ะ ถ้าคุณไปถึงเขาจะขายทริปคุณแน่นอน และราคาก็แพงกว่าที่อื่นๆ จากที่ได้สอบถามเพื่อนร่วมทางเขาบอกว่า ซื้อทัวร์มาแค่ 100 USD เองค่ะ และที่สำคัญไม่สะอาดอย่างที่เขาโพสต์ไว้ใน เว็ปไซด์ hostelworld or hostelbookers ถึงแม้ว่าจะใกล้สถานีก็ตาม

หลังจากพวกเราตกลงราคากันแล้วเพื่อไม่ให้เสียเวลาเพราะ 9 โมงเช้าแล้ว อยากไปเที่ยวปิรามิคใจจะขาด เลยซื้อ Day Trip 1 วัน ไป Saqqara Memphis และ Giza 140 L.E ต่อคน (1 L.E. = 6 บาท) ไกด์พวกเราชื่อ Abraham เป็นไกด์ที่เก่งมาก ให้ความรู้เยอะและคอยถ่ายรูปให้พวกเราตลอด


Giza


Memphis




ไกด์เราพาเดินทั้งวันเลย มีขึ้นรถม้าพาไปบนเขาทรายเพื่อดูปิรามิคและรอบๆ Giza ได้อย่างชัดเจน (ค่าขึ้นรถม้าคนละ 20 L.E.มีค่าผ่านด่านอีก 5 L.E.) ที่นี่เก็บเล็กเก็บน้อยจริงๆ จากนั้นพวกเราก็เดินบนทะเลทรายลงมา เหนื่อยมากเลยค่ะ แต่สนุกดีได้บรรยากาศไปอีกแบบ ถึงแม้แดดจะแรงแต่อากาศไม่ร้อนอย่างที่คิดเลยค่ะเพราะได้ลมเย็นๆพัดผ่านตลอดเวลา มีเหงื่อนิดหน่อย เดินได้เรื่อยๆ ไม่เหมือนบ้านเรา แดดแรงแถมลมร้อนอีกต่างหาก อบอ้าวไม่ไหวๆ



หลังจากเที่ยวปิรามิคแล้วไกด์ก็พาเราไปกินอาหารพื้นเมืองค่ะ เป็นไก่ย่าง หน้าตาเหมือนบ้านเราเลย รสชาดก็คล้ายกัน มีข้าวสีคล้ำๆ คล้ายข้าวหมกไก่ และมีเครื่องจิ้มคล้ายอาจาด ถ้ามีส้มตำคงจะดีมากๆเลยค่ะ (ราคา 15 L.E)


วันรุ่งขึ้นเราก็มีโปรแกรมไป Coptic Museum และ Egyptian Museum ค่ะ พวกเรานั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Mar Girgis (ค่ารถไฟใต้ดิน 1 LE ตลอดสาย) ก็ถึง Coptic เลยค่ะ จากนั้นเราก็ไปเที่ยวใกล้ๆติดกัน ก้อมี Church โรมันและมัสยิด สวยดีค่ะ




หลังจากชมความงานของโบสถ์แล้วเราก็ไปต่อที่พิพิธณฑัณฑ์แห่งชาติต่อเลย เรานั่งรถไฟใต้ดินหรือเรียกว่า Metro ไปลงสถานี Sadat และเดินต่ออีก 300 เมตรก็จะเห็นตึกส้มๆใหญ่ๆค่ะ



ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของเขาใหญ่จริงๆค่ะ ภายในมีทุกอย่างเลยตั้งแต่โรงศพ มัมมี่ รูปปั้น เครื่องไม้เครื่องมือสมัยโบราญ

แต่ที่เด่นมากๆ คือ หน้ากากทองคำของ Tutakarmen ค่ะ (อร้าอร่ามจริงๆ) รวมถึงสร้องทอง ต่างหูทอง เห็นแล้วอึ้งค่ะ เพราะเส้นใหญ่มากกกก

หลังจากชมสิ่งต่างๆแล้ว พวกเราก็ออกไปตามถนน กะว่าจะไปห้างสรรพสินค้า แต่ว่าเจอผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 45-50 ปี เข้ามาบอกว่าให้ไปเดินถนนสาย 26 July สิ เป็นแหล่ง shopping มีของขายเยอะแยะ และมีร้านขายของที่ระลึกราคาถูกไม่แพง เขาบอกว่า "เขาเป็นครู สอนเด็กๆ เขาไม่เอาตังค์น่ะ ไม่ต้องให้เขา" เน้นมาก และบอกบ่อยมาก

ไอ้เราก็งง มาบอกเราทำไม "ว่าไม่ต้องให้ตังค์" ด้วยความเอ๋อ หรืออะไรไม่รู้...เลยเดินตามเขาไป

พอเข้าไปถึง หน้าร้านติดป้ายว่า "by Government" เจ้าของร้านก็ออกมาต้อนรับอย่างดี บอกเราว่า "You're my friend, I give a special price for you." ไอ้เราก็เชื่อ โดนต้มซะเปลื่อยเลย


จำผู้ชายคนนี้และร้านนี้ไว้น่ะค่ะ อย่าได้หลงเข้าไปเด็ดขาด

มาต่อกันดีกว่า หลังจากเดินซื้อของและชมสินค้าที่ถนน 26 July คร่าวๆก่อน (ไว้วันสุดท้ายจะมาเดินอีกที เพราะที่ถนนสายนี้เหมือนสยามบ้านเรา มีเสื้อผ้าแฟชั่นมากมายค่ะ และคนอียิปต์มาเลือกซื้อของกัน) เพราะต้องรีบกลับทีพักไปเอาสัมภาระเพื่อเตรียมตัวไปสถานีรถไฟ (รามเสส) ไปยัง Aswan ค่ะ


รถไฟชั้น 1 ราคา 109 LE ผู้โดยสารเป็นคนอียิปต์แถมเป็นผู้ชายทั้งนั้นด้วย มีผู้หญิงแค่ 1-2 คนได้ (แต่มากับแฟน)

คนอียิปต์ชอบสูบบุหรี่มากๆ แบบมวนต่อมวนเลย โชคดีที่พวกเราเอาผ้าปิดปากปิดจมูกไปด้วย ไม่งั้นตายเพราะควันบุหรี่แน่ๆเลย

ใครที่แพ้บุหรีขอแนะนำว่าให้นั่ง sleeper train ดีกว่าค่ะ หรือไม่ก็ Nefertiti class เป็น overnight seats train คือเป็นห้องๆหนึ่งนั่งได้ 6 คนค่ะ ขบวนนี้มีคนสูบบุหรี่เหมือนกันแต่น้อยกว่า ลองดู link ข้างล่างก็ได้ค่ะ มีตารางราคาและเวลาออกเดินทาง

//www.seat61.com/Egypt.htm

และแล้วพวกเราก็มาถึง Aswan โดยสวัสดิภาพไม่เป็นโรคปอดเกรียมค่ะ จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่บริษัททัวร์มารับที่สถานีรถไฟและพาไปที่พัก Paradise hotel โรงแรมระดับ 1-2 ดาว ห้องพักแย่มากๆ ประตูห้องน้ำปิดไม่ได้ แอร์ทำงานเสียงดัง และควบคุมอุณหภูมิไม่ได้อีก คนที่พักส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่นค่ะ

พวกเราอยากเปลี่ยนห้องจะแย่แต่ห้องอื่นยังทำความสะอาดไม่เสร็จ บวกกับพวกเราเหนื่อยจากการดมบุหรี่ตลอดคืน เลยขี้เกียจรอและขอเปลี่ยนห้องค่ะ ต้องทนไปอีก 2 คืน

พอตกบ่ายทางบริษัทก็พาพวกเราไป Hight Dam และ Philae Temple สวยมากๆ ชอบค่ะ ไกด์อธิบายสถานที่ต่างๆดีมากค่ะ เข้าใจง่ายด้วย


ไกด์คนที่ 2 ของเรา ด้านหน้าเป็นเขื่อนค่ะ


Philae Temple

ใช้ Local tour ก็ดีน่ะค่ะ สะดวกดี ได้เพื่อนใหม่ตลอดทางเลยค่ะ เพื่อนร่วมทางเป็นคนต่างชาติทั้งนั้นเลย 2 สาวได้ฝึกภาษากันสนุกเลย จากนั้นก็กลับที่พัก และเจ้าหน้าที่คนเดิมก็พาไปกินอาหารพื้นเมืองค่ะ อาหารก็เหมือนเดิมคือไก่ย่างแต่ว่าอร่อยกว่าไคโรค่ะ หอมและหวานกว่า หรือเพราะว่าหิวก้อไม่รู้น่ะ

หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จแล้ว เขาก็พาไปเดินดูของและพาไปเดินเรียบแม่น้ำไนล์ค่ะ วิวสวยดี บนถนนไม่ค่อยมีรถวิ่งด้วยค่ะ ลมก็เย็นๆ เลยเดินเพลินเป็นกิโลๆเลยค่ะ เอาเป็นว่าเดินจนเมื่อย เลยแวะกินน้ำอ้อยและฟรุ้ตสลัด (น้ำอ้อย 2 แก้ว ฟรุ้ตสลัก 1 ถ้วย ทั้งหมดก็ 5 LE) ไม่แพงค่ะ

ในวันรุ่งขึ้นเราตื่นนอนกันตี 3.30 น. เพราะต้องเดินทางไป Abu Simble ค่ะซึ่งอยู่ไกลจาก Aswan 3 ชม. ทุกๆคนก็เลยนอนหลับกันในรถ ส่วนเราก็รอดูพระอาทิตย์ขึ้น แหม..นานๆจะตื่นเช้าขนาดนี้แถมได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นแถวทะเลทรายอีก เลยไม่อยากพลาดค่ะ..ฮิฮิ







Abu Simbel

ไปที่แรกก็หมดไปครึ่งวันแล้ว จากนั้นเราก็ไป Unfinished Obelisk ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยค่ะ เข้าไปแล้วเสียดายตังค์ชะมัด

จากนั้นเราก็เดินเล่นใกล้ๆที่พัก ซื้อของฝากและหาอะไรอร่อยกินกัน ก็สนุกไปอีกแบบ

ตอนเข้าไปนั่งร้านอาหารพื้นเมืองน่ะค่ะ เด็กๆทั้งหญิงและชาย มองพวกเราจากหน้าร้านกันใหญ่เลย บางคนหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป บางคนรีบมานั่งโต๊ะใกล้ๆ และมองพวกเรากิน ตลกดีค่ะ รู้สึกตัวเองเหมือนดารายังไงก็ไม่รู้

ตอนอยู่ไคโร เด็กจะกล้ามากกว่านี้ ถึงขนาดเดินเข้ามาจับไม้จับมือ พูดคุยและขอถ่ายรูปด้วยเลยน่ะค่ะ อย่าว่าแต่เด็กเลย วัยรุ่นผู้หญิงก็เหมือนกัน ขอถ่ายรูปจากมือถือ เป็นอะไรที่แปลกกว่าบ้านเราเยอะค่ะ แบบเราๆก็แค่มองเชยๆ ไม่ค่อยทักเหมือนคนอียิปต์ เห็นเขาบอกว่าคนพื้นเมืองชอบนักท่องเที่ยว (ถ้าจะชอบมากจริงๆ)

มาต่อที่ Aswan กันดีกว่า หลังจากที่พักผ่อนมาเต็มที่ พวกเราก็พร้อมจะเดินทางต่อด้วย Fullucca (เรือใบ) ค่ะ แต่ก่อนเราจะนั่งเรือใบ เราก็ข้ามไปเกาะช้างกันก่อน ที่นั่นจะมีพิพิธภัณฑ์มัมมี่ เครื่องไม้เครื่องมือสมัยโบราณแปลกๆน่าสนใจมากค่ะ เราอยากจะไปดูชนเผ่า Nubian แต่เวลาไม่พอ...เสียดายจัง

หลังจากนั้น เราก็เดินทางกันต่อ โดยนั่งเรือ Fulucca ซึ่งใช้กระแสลมเป็นตัวพลักดัน แต่การล่องเรือของเรา เราจะทวนกระแสค่ะ เพราะถ้าตามกระแส...เรือจะแล่นเร็วมาก พวกเราค้าง 1 คืนบนเรือ วิวแม่น้ำไนล์ 2 ข้างทางสวยมาก มีลมเย็นๆพัดสบายๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายจริงๆ





แต่จะลำบากก็ตรงเข้าห้องน้ำนี่สิ แบบ Natural มากๆเลย ต้องหาพุ่มไม้ตามทาง แค่นึกถึงก้ออดจะยิ้มไม่ได้จริงๆค่ะ ตอนกลางคืนก็หนาวมากก พวกเราก็เลยหากิจกรรมรอบกองไฟเล่นกัน

ในกลุ่มมีแต่คนต่างชาติ ทั้งออสซี่ แม็กซิกัน มาเลเซีย และสาวไทย พวกคนเรือซึ่งเป็นชาวนูเบียนก็เลยตีกลอง ร้องเพลงพื้นเมืองให้ฟังกัน พอร้องเสร็จก็ให้นักท่องเที่ยวร้องเพลงของตัวเองบ้าง คราวนี้..กลุ่มออสซี่ ซึ่งเคยเห็นรำวงของไทย เลยบอกให้พวกเราโชว์รำวงให้ดูหน่อย แหม..เชียร์กันขนาดนี้ สาวไทยใจกล้าก็จัดให้ค่ะ






ถ้าใครชอบกิจกรรมนี้อย่าลืมสอบถามกับ local tour หรือเรือ fulucca น่ะค่ะ

พอตอนเช้าเราก็ขึ้นบกไปเที่ยว วิหาร Kom ombo และต่อด้วย วิหาร Edfu เลยค่ะ


Kom Ombo Temple


Edfu Temple

หลังจากตะลุยกันเหนื่อยพอสมควรเพราะแดดแรงมาก ทางใต้ของอียิปต์อากาศจะร้อนมาก เหงื่อนี่หยดติ๋งๆเลยค่ะ ไม่เหมือนไคโร ที่นั่นอากาศเย็นกว่าเยอะเลย

เจ้าหน้าที่ก็พาพวกเราไปที่พัก ที่นี่ดีค่ะ เขาบอกว่าระดับ 3 ดาว สะอาดและน่านอนกว่า โรงแรมใน Aswan เยอะเลย ชื่อ Rayal House Hotel (คืนละ 44 $/ห้อง)


แม้ว่าโรงแรมจะกี่ดาวก็ตาม อาหารเช้าก็เหมือนเดิม คือ ไข่ต้ม 1 ฟอง ขนมปังแบบฝรั่งเศสขนาดเล็ก 1 แถวยาว น้ำชา/กาแฟ 1 แก้ว ชีส 1 ก้อน และแยม 1 ก้อน (จะอิ่มไหมเนี่ย อยู่บ้านกินข้าวเหนียวหมูปิ่ง)

หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ เราก็ออกเดินทางไป Vallay of King กันเลย ที่นี่เขาจะไม่ให้เอากล้องเข้าไป เลยอดถ่ายรูปมาฝาก แล้วพวกเราก็ไปต่อด้วย Hatsheptut temple เป็นวิหารของกษัตริย์ที่เป็นผู้หญิง



ช่วงบ่ายเราก็เดินทางไปเที่ยววิหาร Karnak และวิหาร Luxor ตามลำดับ

Karnak temple


Luxor Temple

ว้า.หมดไปอีก 1 วันแล้ว เที่ยวจนลืมเหนื่อยเลยค่ะ เสาแต่ละต้นใหญ่ๆทั้งนั้นเลย ไม่รู้เมื่อก่อนขนกันมาได้ยังไง เก่งมากๆค่ะ

พอตกกลางคืน....พวกเราก็เตรียมตัวไปสถานีรถไฟเพื่อตีกลับไคโรและไป Alexandria ต่อค่ะ

ที่ Alexandria ก้อเป็นเมืองท่าที่สำคัญ ที่นี่มีสถานที่เที่ยวประมาณ 5-6 แห่ง แต่ที่สวยๆ น่าสนใจที่สุดก็ต้องเป็น...ป้อมปราการค่ะ

ถ้าใครมา Alexandria สามารถเดินทางไป-กลับภายใน 1 วันได้ค่ะ เพราะเรา 2 คนจ้างรถจากโรงแรมในไคโรมา พร้อมพาไปเที่ยว 5 แห่ง รวมน้ำมัน แต่ไม่รวมค่าเข้าสถานที่ ราคา 150 LE. ค่ะ

ที่แรกที่เราไปก็คือป้อมปราการ




วันนี้เป็นวันเสาร์แต่ที่อียิปต์ไม่หยุดค่ะ เด็กประถมและมัธยมมาทัศนศึกษากันเต็มไปหมดเลย

จากนั้นเราก็ไป Library ซึ่งเป็นห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งแรก และต่อด้วย Roman Theatre





และช่วงบ่ายก็ต่อด้วย Pillar และ Catacomb




พวกเรากลับมาถึงไคโร เกือบ 6 โมงเย็น รถติดมากๆเลยค่ะ เลยดมทั้งควันบุหรี่และควันรถ แค๊กแค๊กแค๊ก

วันสุดท้ายแล้ว...เวลาทำไมเดินเร็วแบบนี้.....เราจะอยู่อียิปต์เป็นวันสุดท้าย เลยร่ำลาด้วยการไป Old Cairo กันหน่อย

พวกเราเรียกรถ taxi สีขาวจะมี Meter ค่ะ เริ่มต้นที่ 1.50 L.E ดังนั้นก่อนอื่น เราต้องไป Citadel ก่อนดีกว่า เป็นมัสยิดที่ใหญ่มากๆ สามารถมองดูบ้านเมืองได้อย่างชัดเจน ที่นี่เราก็เจอเด็กๆ (น่าจะชั้นประถม) มาทัศนศึกษากันอีกแล้ว คราวนี้เป็นเด็กนักเรียน Inter ซะด้วย เลยฟุตฟิตฟอไฟ กันใหญ่เลย (ที่อียิปต์วันเสาร์และอาทิตย์ บางโรงเรียนและบางบริษัท จะไม่ปิดทำการ)

จากนั้นก็ไปซื้อของฝากอีกนิดหน่อยที่ตลาด Khan El Khalili เป็นตลาดที่ตั้งแผงลอยติดต่อกัน เดินไปเรื่อยๆจนสุดซอยและกลับออกมา (ที่นี่..พวกเราไม่ค่อยเห็นนักท่องเที่ยวสักเท่าไร) เดินจนเพลินไม่รู้กี่โมงแล้ว แต่นาฬิกาข้าเจ้าไปไหนเนี่ย โอ้..มันขโมยไปแล้ว..โดยไม่สึกตัวเลยค่ะ (ตอนนี้จิตตก)โธ่..หมดกัน วันสุดท้ายจะกลับแล้วด้วย เศร้ามากเลย แต่มาคิดอีกที ก็ยังโชคดีที่หายเป็นวันสุดท้ายไม่งั้นคงเที่ยวไม่สนุกแน่ๆเลย



ก่อนกลับขอกิน pizza แขกหน่อยเถอะ มีคนบอกว่าอร่อย

พิซซ่า vegetable ค่ะเพราะไม่กินเนื้อ อร่อยจริงๆด้วย แต่ไม่รู้ราคาเท่าไรค่ะ เพราะมีคนเลี้ยง ฮิฮิ


hotdog ไก่ ชิ้นละ 5 L.E. อร่อยมากค่ะ


เป็นอาหารชุด (เยอะมาก) ที่ร้าน El Tabei ใกล้ Metro Orabi ค่ะ ราคา 24 L.E.

หลายคนคงอยากรู้ว่าพวกเราใช้งบกันคนละเท่าไร เอาเป็นว่าไม่รวมตั๋วเครื่องบินก็คนละไม่เกิน 16,100 บาทค่ะ (เฉลี่ยวันละ 1,610 บาท) ขอแจกแจงราคาเป็น Egyptian Pound และ USD น่ะค่ะ เพราะคนที่อยากไปปีหน้าหรือปีถัดไปจะได้คำนวนค่าใช้จ่ายตัวเองถูกค่ะ

(ณ เม.ย. 2553 (1 $ = 5.5 L.E) (1 $ = 32.66 บาท) (1 EUR = 7.3 L.E.)

1) ค่า Local Tour คนละ 235 USD (รวมค่าที่พัก Aswan 2 คืน Luxor 1 คืน Alexandria 1 คืน ค่าเรือfulucca พร้อมอาหาร 3 มื้อ ค่ารถไฟไป-กลับจาก Cairo-Aswan,Luxor-Cairo และค่าอาหาร 2 มื้อเย็น) เพื่อนต่างชาติที่รู้จักระหว่างทางเขาซื้อถูกมากค่ะ ราคา 150 $ เอง
2) ค่ารถยนต์จากที่พักในไคโรไป Alexandria และสถานที่ท่องเที่ยว 5 ที่ รวมน้ำมัน ราคา 150 L.E.
3) ค่าทริป 1 วัน ไป Saqqara, Memphis และGiza ราคา 280 L.E/2 คน
4) ค่าน้ำเปล่า 1.5 ลิตร ที่ Cairo/Luxor ขวดละ 2.5 L.E., Aswan ขวดละ 3 L.E.
5) ค่าน้ำอัดลม กระป๋องละ 4 L.E. บางแห่งก็ 5 L.E.
6) ค่าน้ำส้มคั้นสดๆ Alex แก้วละ 2 L.E. แต่ตลาดข่าน แก้วละ 3 L.E.
7) ค่ามันฝรั่งยี่ห้อ Smiths หรือ Lay's บ้านเรา ราคา 3 L.E. ในไคโร
8) ไอศรีมที่ร้าน El ABD อยู่ถนน 26 July อร่อยมากค่ะ (ห้าม!!พลาดเด็ดขาด) โดยเฉพาะรสช็อคโกแลต 2 scoops/3 L.E. ภายในร้านจะมีช็อคโกแลตขายด้วยซื้อเป็นของฝากได้เลยค่ะ อร่อยเหมือนกัน ราคาไม่แพงด้วย ซื้อแบบคละๆกันได้ ถ้าเดินไปเรื่อยๆจะเจอไอศรีมอีกร้าน อร่อยเหมือนกันแต่แพงกว่า 2 scoops/4L.E. (ขายเฉพาะกลางคืนค่ะ)
9) ค่าขึ้นม้าลาก 20 L.E. ต่อคน
10) ของฝาก เช่น ตุ๊กตาอูฐมีเสียงเพลง ตัวละ 10 L.E., ปากกามีหัวฟาร์โร ด้ามละ 5 L.E., แม็กเนตรูปต่างๆ ชิ้นเล็ก ราคา 5 L.E., กระดาษปาปิรุส แผ่นเล็กหรือใหญ่ ราคาไม่ต่างกันมาก ไม่เกิน 50 L.E.
11) ร้านอาหาร GAD ขาย Pizza, hamberger คนท้องถิ่นเข้าไปกินกันเยอะค่ะ ราคาไม่แพง (ชั้นล่าง - ยืนกิน, ชั้นบน-นั่งกิน charge เพิ่ม 3 L.E.) วันนั้นซื้อ Frenchfried ราคา 3 L.E. น้ำอัดลม 2 กระป๋อง คิดแค่ 5 L.E. pizza น่ากินมากแต่ไม่ได้ซื้อเพราะอิ่มค่ะ

ข้อแนะนำและข้อควรระวัง

1) Metro หรือรถไฟใต้ดินที่ไคโร เขาจะแยกโบกี้ชายและหญิง ก่อนที่จะขึ้นให้ดูรอบๆว่าบริเวณนั้นมีผู้หญิงหรือไม่น่ะค่ะ ไม่งั้นจะเหมือนเรา 2 สาวที่ขึ้นผิดไปเจอโบกี้ชายล้วน พวกเขามองเหมือนตัวประหลาด บางคนจ้องตลอดเวลาเลยค่ะ น่ากลัวมาก
2) ผู้ชายอียิปต์จะสูบบุหรี่เยอะมาก เดินไปทางไหน มีแต่คนสูบบุหรี่ ยกเว้นรถไฟใต้ดิน ดังนั้นแนะนำว่าควรพกผ้าปิดจมูกไปด้วยน่ะค่ะ หรือไม่ก็ยาดมเผื่อว่าจะเวียนหัวขึ้นมา
3) คนที่จะเดินทางไป Aswan or Luxor โดยรถไฟจะเป็น sleeper train หรือ ชั้นปกติ สามารถขึ้นจากที่สถานีรามเสสได้เลยน่ะค่ะ แต่ต้องศึกษาดีๆเพราะเป็นสถานีใหญ่คนเยอะมากและมีหลายเส้นทาง
4) แหล่ง shopping ของคนท้องถิ่นทั้งวัยรุ่นและวัยทำงาน จะอยู่ที่ถนนสาย 26 July ที่นี่จะคล้ายๆ Siam บ้านเรา (ลง Metro สถานี Gezzira) ย่านนี้จะมี Mcdonal ร้านไอศรีม ร้านpizza ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นสวยๆ ถ้าเดินมาจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจะมีร้านขายของที่ระลึกหลายร้านราคาไม่แพง ต่อรองราคาได้ บางอย่างถูกกว่าตลาดข่านอีกค่ะ
5) ในกรณีจะถามทาง ควรจะถามคนใส่สูตรดูภูมิฐานหรือคนใส่ชุดทำงาน คนเหล่านี้จะพูดภาษาอังกฤษได้บ้างค่ะและให้ข้อมูลเป็นจริง
6) ระวัง!!! พวกมิจฉาชีพที่ชอบแอบอ้างว่าเป็นครูสอนหนังสือเด็กๆ เขาจะแนะนำว่าร้านนี้ดี ร้านนี้ถูก เขาไม่เอาเงินน่ะ ไม่ต้องให้เขา พวกนี้แหล่ะค่ะตัวดีนักเลย "อย่าไปหลงเขาน่ะค่ะ"
7) ถ้ามีคนเสนอความช่วยเหลือ ต้องระวังให้ดีน่ะค่ะ เพราะเขาต้องการเงิน
8) บัตรนักศึกษา ISIC สามารถช่วยลดค่าเข้าสถานที่ได้ 50% ทุกที่ ยกเว้น Abu simble and Unfinished Obelik ทำได้ที่ถนนข้าวสารจะมีหลายเจ้า เลือกคนไทยน่ะค่ะ ต่อรองราคาได้ดีกว่าและช่วยคนไทยด้วยกันด้วยค่ะ ราคาบัตรละ 200 บาท แต่เรา 2 สาวต่อเหลือ 150-160 บาท

Note : ถ้าใครสนใจและอยากไปเที่ยวอียิปต์ อยากแนะนำว่าให้แลกเงิน EURO แทน USD ค่ะ เพราะจะได้ Rate Egypt pound ดีกว่าค่ะ
สำหรับที่พัก ถ้าเพื่อนๆหาใน //www.hostelbookers.com or //www.hostelworld.com เขาจะมี Rate ของการจัดอันดับที่พักดีๆ อยากบอกว่าอย่าไปเชื่อ เพราะเราพักที่ไคโร ไม่เห็นสะอาดเลย และทางโรงแรมเขาจะมี trick ในการ up rate ให้สูงๆเพื่อชักจูนคนค่ะ สัมผัสมาเองเลยค่ะ

หวังว่าประสบการณ์ของเราคงจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังจะไปน่ะค่ะ
โชคดีค่ะ ^0^



Create Date : 06 พฤษภาคม 2553
Last Update : 13 มีนาคม 2555 10:57:30 น. 15 comments
Counter : 31008 Pageviews.

 
เที่ยวอียิปต์ด้วยคนนะคะ

ข้อมูลเพียบเลย


โดย: KOPI & CHAYEN วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:32:58 น.  

 
สนุกคะ ลุยมากเลย เรารู้สึกว่าคนชาตินี้เรียกทุกคนว่าเพื่อน(แล้วแอบแทงข้างหลังทั้งนั้นเลย) พวกเดินตามแล้วเรียกๆ ดูเป็นมิตรอบอุ่น เราอย่างกลัวเลยคะ


โดย: marzo วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:40:27 น.  

 
โบสถ์สวยจังเลยค่ะ
ปิรามิดใหญ่มาก ๆเลยค่ะ
คนตัวเล็กนิดเดียวเอง



โดย: ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:41:46 น.  

 
WOW !!!!! ลงข้อมูลละเอียดดีมั่กๆๆๆ


โดย: ิำำbee IP: 192.168.182.196, 110.164.248.101 วันที่: 13 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:03:35 น.  

 
ข้อมูลและรูปภาพเยี่ยมมากๆค่ะ เป็นประโยชน์มากมายเลย
ขอบคุณมาก เพราะจะเดินทาง ต.ค นี้


โดย: หน่อย IP: 125.25.94.42 วันที่: 16 มิถุนายน 2553 เวลา:22:46:51 น.  

 
ถ้าอยากทราบข้อมูลอะไรเพิ่มเติม เขียนมาถามได้น่ะค่ะ ขอให้คุณหน่อยสนุกกับการผจญในทะเลทรายค่ะ


โดย: paulla_j วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:23:25:22 น.  

 
กำลังจะแบกเป้ไปสองสาวเหมือนกันค่ะ
ข้อมูลมีประโยชน์มากๆ เลย ขอบคุณนะคะ


โดย: ลิน IP: 124.241.238.158 วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:18:38:29 น.  

 
แชร์ข้อมูลค่ะ

ขอวีซ่าไปสิบวันเหมือนกัน แต่โชคดีได้วีซ่ามาเดือนนึงเลยค่ะ ;D


โดย: ลิน IP: 124.241.238.158 วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:18:41:03 น.  

 
ประเทศในฝันอยากไปมั่งจัง
ขอบคุณสำหรับข้อมูลคะ


โดย: youpade (youpade ) วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:9:01:25 น.  

 
ไปปีหน้าคับ อยากรู้ว่าค่าใช้จ่ายทั้งทริปประมาณเท่าไหร่คับ


โดย: Jossy IP: 110.164.181.204 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:01:10 น.  

 
ถึงคุณ jossy
ตอนที่ไปใช้เวลาประมาณ 10 วัน 4 เมือง ไม่เกิน 45000 บาทค่ะ ถ้าอยากตั๋วถูกต้องซื้อล่วงหน้าอย่างน้อย 4 เดือนน่ะค่ะ เรื่องวีซ่าไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ผ่านขอแค่เขียนโปรแกรมแต่ละวันไปเที่ยวที่ไหน พักเมืองอะไร แค่นั้นก็พอค่ะ รถไฟระหว่างเมืองถ้าอยากได้ตู้นอนราคาถูกต้องให้คนพื้นเมืองซื้อให้ค่ะ
ขอให้สนุกกับการเดินทางน่ะค่ะ อย่าลืมนอนบนเรือ Fulucca สักคืนแล้วทริปนี้จะประทับใจไม่ลืมเลยค่ะ


โดย: jossy (paulla_j ) วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:11:30:37 น.  

 
อยากสอบถามเรื่องที่พักค่ะ พอดีลองอ่านข้อมูลของคุณแล้วได้ความรู้มาก เพราะว่ากำลังคิดว่าจะไปเดือนมกราคม ปีหน้าค่ะ แต่มีข้อสงสัยอยู่ว่า ตอนคุณขอวีซ่าคุณได้ทำการจองโรงแรมทุกที่แล้ว แต่ทำไมตอนไปถึงที่อียิปต์ คุณจองทัวร์กับที่พักซ้ำอีกรอบค่ะ

ไม่ทราบว่ามีอีเมล์ส่วนตัวไหมคะ ดิฉัน maewnoi_thu@hotmail.com
ถ้ายังไงรบกวนเวลา ตอบกลับด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ


โดย: Tuja ka IP: 188.249.128.123 วันที่: 7 สิงหาคม 2554 เวลา:12:35:48 น.  

 
รบกวนอยากได้ โปรแกรมเที่ยวค่ะ
nat_boonboon@hotmail.com
รบกวนตอบกลับด้วยนะคะ


โดย: pong IP: 61.91.85.10 วันที่: 31 กรกฎาคม 2556 เวลา:15:34:29 น.  

 
รบกวนสอบถามคำถามเดียวกับคุณTuja ka นะครับ
จองที่พักไว้ตั้งแต่ตอนแพลนเที่ยวและขอวีซ่าแล้ว
แล้วซื้อ local tour ก็มีรวมที่พักอีก ที่เราจองไว้ก็ทิ้งเลยเหรอครับ


โดย: ArmyStb IP: 49.230.163.40 วันที่: 5 เมษายน 2558 เวลา:3:33:14 น.  

 
กำลังจะไปเดือนหน้าพอดีเลยขอบคุณค่ะ


โดย: Pim IP: 1.46.104.25 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:11:22:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

paulla_j
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ
เพื่อนๆคนไหนมีประสบการณ์ที่ประทับใจก็แชร์ได้น่ะค่ะ
ยินดีค่ะ ^o^
Friends' blogs
[Add paulla_j's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.