ตอนอยู่universal เพื่อน มาโพสบนเฟส (เราไปไม่กี่วันโรงแรมค่าเน็ตก็ต้องเสียเพิ่ม ซิมที่ซื้อมาก็ให้เน็ตแค่ 5MB.กดเฮือกเดียวก็หมด โชคดี universal มี wifi ฟรี)บอกว่า ซื้อ Iphone 5 ให้หน่อยตอนนั้นเมืองไทยยังไม่เข้า แล้วมันอยากได้มาก เราก็ไม่รู้จะต้องซื้อที่ไหนเลยหยิบคู่มือที่พกไปด้วย “Singapore เที่ยวเองได้ง่ายจัง” เจอห้างFunan เขาบอกว่าขายพวกของ IT เหมือน pantipบ้านเรา

เราก็ขึ้นรถไฟฟ้าจากสถานี Vivo จำไม่ได้ต้องเชื่อมอะไรยังไงมั้ย แล้วไปลงที่ สถานี City hall ออกมาจะเจอห้าง Funan Digital life mall เข้าไปหาIphone 5 ไม่เห็นมีเลยอ่า ไปเจอร้านนึง ของ Starhub มีเครื่องด้วยสีขาวแบบที่เพื่อนอยากได้เลย แต่เป็นเครื่อง lock ต้องใช้ซิม Star hub ....หาไม่เจอ จะติดต่อเพื่อนก็ไม่ได้ไม่มีเน็ต ... บังเอิญไปเจอคอมพิวเตอร์ เขาให้ใช้บริการฟรี 10 นาทีอิอิ ยืนเล่นเฟสบุค อายเหมือนกัน

พอจะกลับ เดินมาหน้าห้าง เจอ iphone5ถามเค้าเค้าบอกมีของด้วย แต่ราคาที่แพงเกิ๊นน เลยไม่ได้เอา

จากนั้นก็กะจะไปเดินเล่นแถว marinabay มองไปเห็น Singapore flyer ก็เดินตามที่เห็นไป

อยากบอกว่า แว่นเรามันหลอกตาทำให้เห็นว่าอยู่ใกล้ ... ทริปนี้นี่ก็เดินจนตาปลาจะขึ้น

เดินตรงไปเรื่อย จนเห็น Esplanardตึกรูปทุเรียน เอ๊ะ ขั้นด้วยถนนใหญ่จะข้ามยังไงไม่รู้ว่าเค้ามีทางรอดใต้ดิน

วิ่งข้ามจ้า นิสียคนไทยชัดๆ ><”ก็ไม่รู้หนิ บ้าจริง!!

จากนั้นก็ไปนั่งพักรับวิว ที่ Marina bay ไม่ได้ไปถ่ายกับเจ้า Merlionใกล้ๆ เพราะรู้สึกเหนื่อย และไปใกล้ๆ ก็คงไม่มีอะไรมากกว่า เจอสิงโตยืนพ่นน้ำพักสักครู่ ก็ยังเดินต่อไป Singapore flyer

ระหว่างทางเจอ เด็กไทยมาซ้อมการแสดงกันไม่รู้มีแสดงอะไร อาจารย์ที่คุมก็ด่าเด็กๆออกไมค์คิดว่าคนอื่นคงฟังไม่รู้เรื่อง...แต่อยากบอกว่า สิงค์โปรนี่นักท่องเที่ยวไทยยั้วเยี้ยไปหมด แทบจะไม่ได้ฝึกภาษาอังกฤษตามที่หวังเลย

เดินแทบตายกว่าจะถึงตัว Singapore flyerค่าเข้า 30 กว่าเหรียญมั้งถ้าจำไม่ผิด ใจจริงเราอยากดูวิวตอนกลางคืน หรือพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน...เราเห็นว่า นี่แหละ6โมงพระอาทิตย์กำลังจะตกละ กำลังดี

จนขึ้นไปแล้วก็ยังสว่าง นึกได้ที่นี่เวลาเร็วกว่าไทย 1 ชม. ><

พอขึ้นไปสูงๆ ไปยืนริมๆนี่ก็เสียวเหมือนกันแฮะ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งใน2สิ่งที่ประทับใจในทริปสิงค์โปรนี้ “Singaporeflyer” 

ก่อนขึ้น เค้าให้เรากับเพื่อน ถ่ายรูปก่อน แล้วให้บัตรรับรูปพอลงมาเราก็ไปรับรูป

คิดว่าฟรี ดีนะถามก่อน “Is itfree?”

“No, you’re Thai, ห้าร้อย”

“May I ask my partner , I’ll be back”

ถาม เพื่อนแล้ว เพื่อนมิเอาเลยไม่ได้กลับไป และก็ซื้อโปสการ์ด 1$ มาคนละอัน

ลงมาแล้วก็เดินไปหาสถานีรถไฟฟ้ามันเขียนว่า 2กิโลเมตร...เมื่อยเหลือเกิน ... อยากกินข้าวมันไก่ที่เข้าล่ำลือ

เปิดหนังสือเค้าบอกอยู่ Maxwell ลงสถานีChinatownพอถึง หาไม่เจอดูแผนที่เหมือนจะไกล เมื่อยด้วย ขี้เกียจเลยพาเพื่อนเข้าห้างที่ใกล้ที่สุด People park center เพื่อนบอกว่าศูนย์อาหารต้องอยู่ข้างล่างแน่ๆ

ลงมา จริงด้วย เดินหาร้านข้าวมันไก่ในที่สุดก็เจอ 3$ ก็นั่งขำกันว่าสุดท้ายได้มานั่งกินข้าวมันไก่ฟู๊ดคอร์ท

กินไปกินมาก็มองหน้ากัน....อร่อยว่ะ5555 น้ำจิ้มแซบ ไก่ก็อร่อย

เมื่อเต็มทน จะกลับที่พักละเลยนั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานี Kallung พอลง ก็งง ไปไหนต่อถามคนแถวนั้นก็มีแต่นักท่องเที่ยว เราอยู่ Lor6 แต่ที่ยืนอยู่เห็นแต่ป้ายLor1เสิร์จมาใน pantip เค้าบอกมันก็ไกลอยู่จากสถานี แล้วดูใน pantipมา เค้าบอกสายรถที่ผ่านมา ....แต่ประเด็นคือ เค้าบอกสายรถ จากโรงแรม Fragrance Emerald ไปสถานี Kallung แล้วรถเมล์สิงค์โปรมันวิ่ง oneway ซะด้วย

พอรถเมล์ใน check list มาเราก็ขึ้น มันก็พาผ่าน Lor1 Lor2 Lor3 Lor 7 Lor 1x Lor2x

มันชักไม่ใช่ละ ตอนแรกคิดว่ามันอาจจะวนไปอีกทาง เพื่อนชวนลงละ ไอเราก็บอก รอแปป รอดูก่อน “ต่อไปถ้าไม่มีLor กุจะไม่Lorกุจะลงละ”

แล้วมันก็เลี้ยวไป หมดป้าย Lor เพื่อนเลยไปถามคุณลุงคนจีนคนนึง“Lor6” “Lor 60?” “No,Lor6”

แกบอก Lor6 มันผ่านมาแล้วเดี๋ยวลงป้ายหน้าพร้อมแก แกก็พาเราเดินข้ามสะพาน แล้วบอกสายรถให้นั่งกลับพร้อมนับสถานีให้ด้วยนะ บอกว่าขึ้นคันนี้อีก4 ป้ายถึงสรุปก็ได้กลับห้องนอนพักสักที

ตกลงก็ยังงง ว่าLor6มันอยู่ไหนแต่จากตอนนั่งรถ จาก Lor1มันตรงมาเรื่อย ไม่ผ่านLor6 แต่ขากลับจะไป Lor6 มันมีเลี้ยวด้วย แสดงว่าเค้าไม่ได้เรียงซอยตรงๆ

เป็นวันที่เหนื่อยอีกวันนึง...แต่ชอบสนุกดี เวลาได้หลงทางเล็กๆน้อยๆที่ต่างประเทศ

Create Date : 29 ธันวาคม 2555
Last Update : 29 ธันวาคม 2555 11:50:19 น.		0 comments
Counter : 3687 Pageviews.
Share Tweet