มีนาคม 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
24 มีนาคม 2560
 

ฝึก 4



  (ต่อ)
คาบเรียนดูเหมือนลากไปยาวกว่าคาบอื่น อาจเป็นเพราะว่าวันนี้อาจจะเรียนวันสุดท้ายหรืออาจเป็นเพราะฉันกำลังรอให้ความอึดอัดของเขาได้คลายลงหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ ซึ่งเขาไม่เคยทำได้ เขายังคงนั่งอยู่อย่านั้นต่อไปเหมือนกับไม่มีลมหายใจ เกิดอะไรผิดปกติกับเขาหรือเปล่า? นี่เป็นพฤติกรรมปกติของเขาหรอ? ฉันถามขึ้นในใจบนความขมขื่นระหว่างทานข้าวของเจสสิก้าในวันนี้ ฉันคิดว่าเธออาจจะไม่พอใจเหมือนกัน
   มันไม่ควรที่จะเกิดขึ้นกับฉัน เขาไม่เคยเจอฉันมาก่อนนะ?
   ฉันจ้องมองไปที่เค้าอีกครั้ง และต้องเสียใจกับสิ่งที่ทำ เพราะเขายังจ้องมาที่ฉัน ในดวงตาสีดำของเขามีแต่ความรังเกียจจนทำให้ฉันผงะออกและนั่งหดตัวอยู่กับเก้าอี้ ถ้อยคำที่ว่าสายตานั่นสามรถฆ่าฉันได้มันก็ผุดขึ้นมาในหัวฉันทันที
   และในเวลานี้ ระฆังหมดเวลาก็ดังขึ้น ทำให้ฉันกระโดดขึ้นมา และเอ็ดเวิร์ดก็ลุกออกจากที่นั่งของเขา เขาร่างสูงมากกว่าที่ฉันคิด เขาอยู่ข้างหลังฉัน และเขาก็เดินออกจากห้องไปก่อนคนอื่นด้วย
   ฉันนั่งตัวแข็งอยู่ที่เก้าอี้ของตัวเอง กะพริบตาถี่ๆหลังจากที่เขาออกไป เขามีความหมายมาก มันไม่เห็นจะแฟร์เลย ฉันเริ่มรวบรวมความคิดอย่างช้าๆ พยายามระงับความโกรธที่เกิดขึ้น สำหรับความกลัวน้ำตาของฉันก็เริ่มไหลออกมา และสำหรับบางเหตุผล ฉันมักจะร้องไห้เมื่อโกรธ มันดูเป็นนิสัยที่น่าอายมาก
"คุณคืออิสซาเบลล่า สวอน ใช่ไหม"เสียงผู้ชายถามขึ้น  ฉันเงยหน้ามองความน่ารักและใบหน้าอ่อนเยาว์ของเขา เขาผิวซีดและมีผมสีบลอนด์ที่จัดทรงมาอย่างดี เขายิ้มมาให้ฉันอย่างเป็นมิตร สงสัยเขาจะไม่รู้แน่ๆว่าฉันกำลังรู้สึกแย่อยู่
"ใช่เบลล่า" ฉันตอบเขาและยิ้มให้
"ฉันไมค์นะ"
"หวัดดีไมค์"
"เธอต้องการความช่วยเหลือในการหาคาบเรียนถัดไปไหม?"
"ฉันมีเรียนยิม ฉันคิดว่าฉันหามันได้นะ"
"ผมก็เรียนนั่นนะ" เขาดูตื่นเต้น แม้ว่ามันจะไม่เป็นเรื่องบังเอิญนักสำหรับโรงเรียนเล็กๆแห่งนี้
   พวกเราเดินเข้ามาในคาบเรียนพร้อมกัน เขาเป็นคนช่างพูดมาก ทำให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับฉันสำหรับบทสนทนา เขาอาศัยอยู่ที่แคลิฟิเนียจนอายุ 10 ขวบและเค้าก็รู้ว่าฉันรู้สึกยังไงกับแสงแดด และเค้าก็อยู่ในคาบเรียนภาษาอังกฤษกับฉันด้วย เขาเป็นคนที่ดีมากคนหนึ่งที่ฉันได้เจอวันนี้
   และเมื่อเราเดินเข้ามาในยิม เขาถาม "อืม...คุณโดนเอ็ดเวิร์ดทำร้ายมาด้วยดินสอหรือว่าอะไรล่ะ? ฉันไม่เคยเห็นเขาทำแบบนี้กับใครมาก่อน"
   ฉันก้มหัวด้วยความกลัว เพราะว่าฉันไม่ใช่คนเดียวที่จะสังเกตุเห็นความผิดปกติของเอ็ดเวิร์ด
"คนที่นั่งข้างฉันตอนวิชาชีววิทยาน่ะหรอ?" ฉันโกหกเขาไป
"ใช่" เขาพูด "เขาดูเหมือนเจ็บปวดหรือเป้นอะไรสักอย่าง"
"ฉันไม่รู้เลย" ฉันตอบ "ฉันไม่เคยพูดกับเขา"
"เขาเป็นผู้ชายแปลกๆ" เขาอ้อยอิ่งอยู่ใกล้ๆฉันแทนที่จะไปยังห้องแต่งตัว "ถ้าฉันโชคดีได้นั่งข้างเธอบ้าง ฉันคงจะคุยกับเธอ"
 ฉันยิ้มให้เขาก่อนที่จะเดินผ่านไปยังห้องล็อกเกอร์ของผู้หญิง เขาดูเป็นมิตรและดูชื่นชมกับฉันอย่างชัดเจน แต่มันไม่มากพอที่จะทำให้ฉันหายโกรธ
  อาจารย์ที่สอนยิม ให้ฉันใส่ชุดแต่ไม่ได้ทำให้ฉันแต่งตัวน้อยลงสำหรับคาบเรียนวันนี้ ที่บ้านของฉันจะให้เรียนวิชาแบบนี้ 2 ปี แต่มีที่นี่เท่านั้นที่ให้ฉันเรียนวิชานี้ไปอีก 4 ปี เฮ้อ ฟอร์คเป็นนรกบนดินของฉันชัดๆ
  ฉันมองดูเกมส์การเล่นวอลเล่บอล จำได้ว่ามีการบาดเจ็บเท่าไหร่แล้วที่ทำให้ฉันมีบาดแผล นั่นทำให้ฉันขยะแขยงขึ้นมา
  สุดท้ายระฆังก็ดังขึ้น ฉันเดินอย่างช้าๆไปยังที่ทำงานเพื่อรับกระดาษงาน ฝนตกปรอยๆตลอดเวลา แต่ไม่มีลมหรืออากาศที่หนาวเลย ฉันกอดตัวเองเอาไว้
  เมื่อฉันเดินเข้ามาในห้องทำงานที่อบอุ่น ฉันจึงเดินไปรอบๆและเดินกลับออกมา
  เอ็ดเวิร์ด คัลเลน ยืนอยู่หน้าโต๊ะตรงหน้าฉัน ฉันได้รู้จักกับทรงผมที่ยุ่งเหยิงสีบรอนซ์อีกครั้ง เขาไม่ได้สังเกตเห็นฉันเข้ามา ฉันจึงยืนอยู่หลังผนังห้องและรอให้พนักงานต้อนรับทำงานต่อไป
  เขาโต้เถียงกับเธอในน้ำเสียงทุ้มมีเสน่ห์ ฉันจึงเดินเข้าไปฟังคำโต้เถียงนั่น  เขาพยายามที่จะซื้อเวลาเรียนของวิชาชีววิทยา 6 ชม. รวมทั้งเวลาอื่นด้วย
 ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเกี่ยวกับฉัน ฉันต้องทำอะไรบางอย่าง บางอย่างที่เกิดขึ้นก่อนที่ฉันจะเข้ามาในห้องชีววิทยา มองไปบนใบหน้าของเขาที่มีความรุนแรงมากขึ้น มันไม่น่าเป็นไปได้ว่าที่คนแปลกคนนี้จะไม่ชอบฉันเป็นอย่างมาก
  ประตูเปิดขึ้นอีกครั้ง และลมเย็นก็เข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว ทำให้กระดาษบนโต๊ะเสียงดังกรอบแกรบ ผมของฉันหมุนวนมารอบๆหน้า มีผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาและหยุดอยู่ที่โต๊ะเท่านั้น วางโน้ตไว้ในตะกร้าไวน์ และเดินกลับออกไป เอ็ดเวิร์ดตัวแข็งทื่ออีกครั้ง
เขาจ้องมาที่ฉันอย่างช้าๆ ใบหน้าของเขาหล่อเหลาอย่างไร้สาระกับสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง  ฉันกลัวเขาขึ้นมาและยกผมมาอยู่บนแขน และมองเขาเป็นครั้งที่สอง แต่มันกลับทำให้ฉันตัวเย็นกว่าการเยือกแข็ง เขเดินกลับไปยังพนักงานต้อนรับ
  "ไม่ต้องห่วงแล้วครับ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม "ผมเห็นความเป็นไปไม่ได้แล้ว ขอบคุณคุณมากสำหรับความช่วยเหลือ" และเขาก็เดินออกไปพร้อมกับมองมาที่ฉัน และหายไปกับประตู
  ฉันเดินไปที่โต๊ะนั่นอย่างสุภาพ ใบหน้าของฉันเป็นปกติและรับสมุดเซ็นชื่อจากเธอ
"วันแรกของเธอเป็นยังไงบ้าง ที่รัก" พนักงานต้อนรับถามฉันขึ้นเหมือนแม่คนนึง
"ก็ดีค่ะ" ฉันโกหกด้วยน้ำเสียงตระหนก เธอดูไม่ค่อยเชื่อฉันเลย
  เมื่อฉันมาถึงรถ มันเป็นรถคันสุดท้ายของที่นี่ พร้อมแล้วที่จะทิ้งทุกอย่างไว้และกลับบ้าน ฉันนั่งอยู่ข้างในในขณะที่มองออกไปยังกระจกหน้ารถ และสุดท้ายฉันก็เย็นพอที่จะต้องการความอบอุ่น ฉันสตาร์ทรถและขับมุ่งหน้าไปยังบ้านของชาลี ต่อสู้กับน้ำตาในทุกวิถีทาง
 จบตอนที่ 1 แล้วค่าาา 





Create Date : 24 มีนาคม 2560
Last Update : 24 มีนาคม 2560 0:18:39 น. 0 comments
Counter : 499 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

สมาชิกหมายเลข 3751594
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
[Add สมาชิกหมายเลข 3751594's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com