Group Blog
 
 
ธันวาคม 2550
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
ส่ง Mom Tag ฉลองวันพ่อ

ที่ผ่านมาเคยแต่นั่งอ่าน tag ของชาวบ้าน(ทั้งที่เค้าเชิญให้อ่านและแอบอ่านเอง)มานาน แล้วก็คอยนั่งขำเวลาเพื่อนสนิทโดนชาวบ้าน tag มา (งานการมันยังแทบจะไม่ทำเลย ต้องมาทำ tag อย่างตั้งใจยิ่งกว่าทำวิทยานิพนธ์อีกนะนั่น)

อยู่ดีๆ "ปี้นัด" เพื่อนสนิทที่ยังทนคบกันอยู่ก็ส่ง tag มาให้ ตายห่ะ...เคยแต่ขำชาวบ้าน ถึงคราวตัวเองแล้วสิเนี่ยต้องมานั่งทำการบ้าน

...แกคิดว่าช๊านว่างเหรอไงยะ??? แค่เลี้ยงลูก แชทกะพวกแก ก็หมดเวลาไปเกือบๆ 24 ช.ม.แล้วย่ะ

แต่ก็อย่างว่าแหละนะ ดิช๊านเองก็เป็นพวกเวลาทำอะไรก็เต็มที่เหมือนกัน เอาซะหน่อย ...รูปเพียบ





1.ความรู้สึกครั้งแรกที่ตั้งครรภ์

หลังจากแต่งงานมาได้ปีกว่าๆ ช่วงพ.ค.47 ระหว่างนั่งรถไปทำงาน ปวดท้องน้อยจี๊ดๆเป็นระยะ แอบคิดในใจว่าสงสัยประจำเดือนจะมามั้ง เพราะเลทมา 1 วันแล้ว พอถึงออฟฟิศ ผู้ชายก็ถีบส่งหน้าตึก ส่วนเราเองนึกยังไงไม่รู้แวะบู๊ทส์ซื้อที่เทสต์ดีกว่า เลือกแบบถูกที่สุด 60 บาทหรือไงนี่แหละ คือไปถามพนักงานเค้าเลยว่าอันไหนถูกสุด เพราะกะว่าคงไม่ท้องหรอกมั้ง ซื้อแพงไปก็เปลืองเปล่าๆ เรียกว่าซื้อไปเทสต์เล่นๆว่างั้น

เค้าบอกว่าเวลาที่เหมาะสุดที่จะเทสต์ก็คือฉี่แรกของตอนเช้าเลยใช่ป่ะ ตายละวา ฉี่แรกลงชักโครกไปตั้งแต่เช้าแล้วนี่หว่า ทำไงดี เอาวะ ฉี่ตอนสายๆก็ได้ม๊าง ก็เลยไปห้องน้ำ

ฉี่เสร็จ จุ่มเสร็จ นั่งเพ่งเลย เพราะเป็นโรคทำอะไรหลายอย่างพร้อมกันไม่เป็น เทสต์แล้วต้องนั่งรอผล ไม่มีการเดินทิ้งไปแล้วกลับมาดูผลทีหลัง แล้วผลที่ได้...



มันขึ้น 2 ขีดง่า รีบวิ่งไปบอกเพื่อนขาเม้าท์ใน msn ว่า เฮ้ยๆๆ เทสต์ขึ้น 2 ขีดว่ะแต่จางๆจะท้องมั้ยเนี่ย เพื่อนบอกท้องๆๆๆ ไปฝากท้องเลย (มันเห่อกว่าเราอีกว่ะ)

อารมณ์ตอนนั้นทั้งงง ทั้งดีใจ ท้องจริงๆเหรอเนี่ย เพิ่งปล่อยเดือนแรกเองนี่หว่า ทำไมๆๆๆๆ มันช่างง่ายดายขนาดนี้ นึกว่ากว่าจะท้องคงต้องปล่อยซักหลายเดือน

พอรู้ตัวว่าโดนเสกเด็กเข้าท้องแน่แล้ว ก็รีบเข้าห้องบัญชาการลับ(ห้องเซิร์ฟเวอร์)แจ้งให้ผู้ชายมารับผิดชอบโดยด่วน ฮ่าๆๆ

พอผู้ชายรับสายและทราบข่าวถึงกะอึ้งไปเล็กน้อย เพราะคนที่ตัดสินใจปล่อยคือเดี๊ยนเอง ผู้ชายไม่รู้ไม่เห็นอะไรด้วยเลย แค่คุยกันแว้บๆว่าน่าจะปล่อยให้ลูกมาเกิดได้ละนะ แต่ยังไม่ทันตกลงกันว่าจะปล่อยเมื่อไหร่ดี ลูกก็มาซะแล้ว ไวทันใจดีแท้ ฮ่าๆๆ

พอเลิกอึ้ง ผู้ชายก็บอกว่าดีใจ ไม่รู้หลอกกันป่าว แต่ก็แซวไปว่านี่ช๊านท้องเพื่อจับแกเลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆ

แต่วันนั้นตอนเที่ยงผู้ชายก็มารับไปตรวจซ้ำที่ร.พ. แล้วก็ฝากท้องเลย ไม่ค่อยเห่อเลยเนอะ

พอกลับเข้าออฟฟิศตอนบ่าย ก็บอกให้ที่ออฟฟิศทราบโดยทั่วกัน แล้วก็วางตัวเป็นคุณนาย เลิกยกของหนักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพราะงานปกติของดิช๊านนี่ทำทุกอย่างเกี่ยวกะ IT ค่ะ รวมทั้งยกคอมพิวเตอร์ด้วย เรียกว่าเป็นงานจับกังควายถึกบึกบึนเกินหญิงมากๆ

เหตุการณ์ตอนรู้ว่าท้องแรกผ่านไป พอถึงท้องสองก็เป็นฉะนี้แล...

พอต้นปี 49 กะว่าปีนี้จะมีน้องให้พี่ป่านซะหน่อย ท้องช่วงกลางปีแบบพี่ป่านก็ดีนะ จะได้คลอดต้นปี (วางแผนเสร็จสรรพ) แต่ไม่มั่นใจ เลยต้องมีช่วงทดลองงานซักพักนึงมั้ง ก็เลยเริ่มปล่อยตั้งแต่ต้นปีเลย

มี.ค.49 ตะหงิดๆอีกแล้ว ประจำเดือนเลท 1 วัน ซื้อมาเทสต์เลยดีกว่า คราวนี้เภสัชหยิบให้ ราคาเท่าไหร่ก็ไม่รู้ (เอกิด่าแน่เลยฟร่ะ ซื้อของไม่ดูราคา)

นั่งรอผลเหมือนเดิม ไม่รู้มันขึ้นจางๆหรือตาฝ้าฟาง (อันสีม่วงอ่ะ) แต่คงขึ้น 2 ขีดแหละน่า คราวนี้ต้องโทรแจ้งผู้ชายให้รับผิดชอบอีกแล้ว ฮ่าๆๆ (สงสัยผู้ชายคงอยากด่าเต็มแก่ จะปล่อยก็ไม่บอกกันบ้างเลย)



พอโทรไปบอกผู้ชาย ผู้ชายร้อง "เฮ้ย จริงเหรอ ............ เออๆ มีก็ดี" ฮ่าๆๆ อีกแล้วครับท่าน ปล่อยเดือนแรกก็ติดอีกแล้วครับท่าน

ที่สำคัญ...เมื่อวานเพิ่งยื่นใบลาออกไปเองอ่ะ ก๊ากๆๆ สงสัยไอ้น้องรีบบอกเฮ้ย...แม่จะลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกแล้ว รีบมาเกิดเลยดีกว่าจะได้ไม่เสียเที่ยว เลี้ยงทีเดียว 2 คนเลย (...เหนื่อยชิบ...)

อันแรกที่ซื้อมาเทสต์ดูมันจ๊างจาง ตอนเย็นเลยไปซื้ออีกอันเก็บไว้เทสต์ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น คราวนี้ซื้อ exact เลย เห็นเค้าบอกดีนักดีหนา ไหนๆท้องละ เอาซะหน่อย เผื่อจะไม่ท้องอีกแล้ว จะได้เอาไว้คุยกะคนอื่นได้ว่าช๊านใช้ exact เทสต์นะยะ (ทำไปทำไม ทำไปเพื่ออะไรฟระตรู)

ที่เทสต์ทุกอันเก็บไว้เป็นที่ระลึกอย่างดี เอาไว้เตือนใจว่าทีหลังจะปล่อยก็บอกพ่อของลูกซักนิดนึง ฮ่าๆๆ แต่คงไม่มีทีหลังแล้วมั้ง แค่ 2 คนก็เหนื่อยแล้วอ่ะ

แต่ปล่อยเดือนแรกก็ติดทั้ง 2 ท้องแบบนี้ เจอเพื่อนเหน็บค่ะว่าวันหลังไม่ต้องทดลองปล่อยแล้ว อยากท้องเดือนไหนค่อยปล่อยละกัน นังฮิตาชิ

2.ชื่อของลูก

ป่าน สิตานัน = มีใบหน้ายิ้มแย้ม เบิกบาน
ปอ นันทิตา = เพลิดเพลิน มีความสุข

ตอนตั้งชื่อเล่นก็เลือกกันมาร้อยกว่าชื่อได้ แรกๆตั้งเอามันส์อย่างเดียว เปี๊ยก ปื๊ด เป็ด ปู้ด ป้าด ฯลฯ พอเลิกขำก็มานั่งจริงจัง พลอย แป้ง ปิ่น ปริม ปัน ฯลฯ ขนาดชื่อ "วิว" (เยาวภา) ที่กำลังดังช่วงนั้นก็ถูกส่งเข้าประกวดด้วยเหมือนกัน

แต่ผู้ชายชอบชื่อไทยๆ ง่ายๆ สั้นๆ ถ้าขึ้นต้นด้วยป.ปลาก็ดี เลยแอบสุมหัวกัน 2 คนผัวเมียว่า "ป่าน" นี่แหละน่าจะดี มีความหมายแฝงว่าสายป่านยาว (จะได้สบาย) แล้วก็เป็นชื่อที่ฟังดูไม่หวานแหววเกินไปด้วย

บางคนบอกว่าทำไมไม่ตั้งชื่อ 2 พยางค์ล่ะกำลังฮิต เลยบอกว่าถ้าอยากได้ 2 พยางค์เรียก "ไอ้ป่าน" ก็ได้ ฮ่าๆๆ แต่ขนาดชื่อ "ป่าน" เฉยๆ คนแถวบ้านก็ยังเรียก น้องสายป่าน น้องปอป่าน ...เชิญเรียกกันตามสะดวกเลยค่ะพี่

อาม่าแอบเรียกว่า "สตอเบอรี่" โห...ยาวกว่าชื่อจริงอีกค่ะ อาม่าขา

กำหนดคลอดพี่ป่านคือม.ค. ก็เลยแอบตั้งชื่อจริงให้พี่ป่านว่า "เดือนหนึ่ง" แต่คนที่ถูกใจก็คืออีพ่ออีแม่ของเด็กนี่ล่ะค่ะ ส่วนปู่ย่าตายายร้องยี้กันเป็นแถวบอกว่าแปลกประหลาด ไม่เพราะเลย

เรื่องชื่อจริงก็ตบตีกันพอสมควร เพราะปู่ส่งประกวดด้วยกระดาษแผ่นเล็กๆแผ่นนึง เขียนด้วยลายมือปู่เอง 10 กว่าชื่อได้มั้ง

ส่วนอีพ่ออีแม่ก็เปิดตำรา(กระดาษA4 ที่ปริ๊นท์จากเว็บ)มาเลือกกันเอง ย่าแอบแจมด้วย เลือกแล้วส่งประกวด 1 ชื่อคือ "ศุภาพิชญ์" โห...ผิดคอนเซ็ปของผู้ชายอย่างแรง สะกดยากมาก คาดว่าอาจโดนสะกดเป็น "สุภาพิษ" ฮ่าๆๆ

ตอนนี้มีเรื่องขำเล็กๆ เพราะปู่ไม่ชอบชื่อที่พวกเราเลือกกันไว้ แต่ผู้ชายของเราไม่สนใจใคร เลือกได้ชื่อ "สิตานัน" นี่ล่ะ ตรงคอนเซ็ปอีกละ สะกดง่าย ความหมายดี แล้วให้โทรไปแจ้งทางร.พ.เพื่อทำใบสูติบัตรทันใด จบข่าว...

ส่วนชื่อเล่นของน้องปอ ก็เถียงๆกันอีกแหละ ผู้ชายของเราอยากให้ชื่อ "ปอ" เพราะเหตุผลเดิมๆ แถมคราวนี้มีเหตุผลต่อท้ายว่า "มันเข้ากะป่านดี"

ย่าอยากให้ชื่อปิ่น ชื่อเพราะดี แต่แม่ว่ามันคงไม่เหมาะกะลูกแม่ เพราะลูกแม่คงกระโดกกระเดก ซนเป็นลิง เอาชื่อธรรมดาๆไม่ต้องวิลิศมาหราแหละนะลูก

สุดท้ายย่าก็ยอมให้หลานสาวคนเล็กชื่อ "ปอ" แบบไม่เต็มใจ

ชื่อจริงก็เปิดตำราA4 เหมือนเดิม ก็เลยได้ชื่อคล้องจองกับพี่สาวว่า "นันทิตา" มาประดับใบสูติบัตร ความหมายก็คล้ายๆชื่อพี่สาวนี่แหละ

3.ไหนโชว์รูปลูก ๆ หน่อยซิ


พี่ป่าน อายุ 2 วัน


น้องปอ อายุ 2 วัน


พี่ป่าน รูปติดบัตร หน้าตรง ไม่สวมหมวก ไม่ใส่แว่น ฮ่าๆๆ หน้าเจี๋ยมเจี้ยมมาก


น้องปอ รูปติดบัตร แต่แอบหลับซะงั้น

2 รูปนี้ตอนพี่ป่านประมาณขวบนึง หลายคนบอกให้ส่งไปเป็นพรีเซนเตอร์มิชลิน





ตอนที่อ้วนๆนั่นเห็นทุกวันจนชินตา ไม่รู้สึกว่าอ้วน แต่พอตอนนี้มาเปิดดูรูปเก่าๆ อ่ะจ๊าก!!! น่ากลัวจริงๆเลย ...แต่ตอนนี้ไม่อ้วน แค่อวบๆเนอะ

จริงๆรูปที่เห็นชัดๆว่าอ้วนกว่านี้มีอีกเยอะเลย แต่คิดว่าแบล๊คเมล์ลูกพอเป็นน้ำจิ้มแค่นี้พอ เดี๋ยวโตมาแล้วเธอจะอาย อ่าๆๆ

ส่วนนังหนูปอ ผอมกว่าพี่สาวเยอะเลย น้ำหนักตอนครบขวบนี่เท่ากะพี่ป่านตอน 6 เดือน กร๊ากๆๆๆ





4.น้ำหนักแรกเกิดของลูก ๆ คุณ

พี่ป่าน 3,420 กรัม / น้องปอ 2,890 กรัม

น้ำหนักเราขึ้นต่างกันประมาณ 5 โลได้ ลูกดั๊นต่างกันตั้ง 5 ขีด จากที่เคยเห็นเด็ก 3 โลกว่าแบบพี่ป่าน พอมาเห็นน้องปอแว้บแรก คิดในใจว่า "ตัวเล็กจังว่ะ"

5. ตอนท้องคุณบำรุงอย่างไร

ก่อนท้องกินโฟเลตประมาณ 2-3 เดือน

ตอนท้องก็กินอาหารตามปกติทุกอย่าง แล้วก็ยาบำรุงต่างๆที่หมอจ่ายมา

กินนมน้อยมากๆๆๆๆ เพราะกินแล้วไม่สบายปากอย่างแรง พะอืดพะอม พาลจะอ้วกทิ้ง เลยไม่กินดีกว่า เน้นความสบายใจและสบายอารมณ์ของตัวเองเป็นหลัก

ทั้ง 2 ท้องกินของทอดๆมันๆหรือกระเทียมเจียวไม่ได้เลย กินตั้งแต่เช้า ตกเย็นยังได้กลิ่นน้ำมันอยู่เลย

ชอบกินไอติมมากๆ กินแล้วยิ้มหน้าบาน ...แบบนี้เค้าเรียกว่าของบำรุงป่ะ แหะๆ

พอพ้น 7 เดือน ก็กินน้ำมะพร้าวบ้าง แล้วก็ยาจีนจับซาไท้เป้า 5 เทียบ

6.ความรู้สึกครั้งแรกเมื่อเห็นเจ้าตัวเล็ก

ตอนเห็นพี่ป่านครั้งแรกนะ รู้สึกว่าไม่เห็นจะเหี่ยวเหมือนที่คิดไว้เลย หน้าตาดูเหมือนเด็กโตที่พองลมแล้ว แต่พอหลังจากคุณเธอพองลมจริงๆแล้ว เฮ้ย!!! ทำไมแก้มมันบานๆ หน้าตาเหมือนชินจัง


พี่ป่านสงสัยว่าพี่แว่นคนนี้เป็นใครกันหนอ???


แว้ก....พี่แว่นคนนี้พ่อหนูเหรอเนี่ย แง้ๆๆๆ หนูกลัว


พี่ป่าน มองหางตาหาเรื่องตั้งแต่ออกจากท้องแม่เลยวุ้ย

ส่วนตอนเห็นน้องปอ คิดว่าทำไมหน้ายู่ๆหว่า แต่พ่อเค้าบอกว่า...หน้าตาเหมือนพี่มันแหละ เหมือนเด๊ะ แค่ย่อขนาดลงหน่อยนึงแค่นั้นเอง


น้องปอ หลับลูกเดียว

7.มีโรคแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์หรือไม่

ไม่มี๊ แต่ตอนท้องน้องปอช่วงท้ายๆ น้ำตาลสูงปรี๊ด (เฉียดเกินเกณฑ์ไป 1 แต้ม) เพราะลงมาเป็นผีตู้เย็นกินไอติมก่อนนอนเกือบทุกคืน

8.คุณคลอดด้วยวิธีไหน

ผ่าคลอด+บล็อกหลัง สบ๊ายสบาย

ตอนท้องพี่ป่าน นัดหมอผ่าตอนเคารพธงชาติ 8 โมงเช้าเลย พอตอนเย็นวันก่อนจะไปคลอดโทรไปขอเลื่อนเป็นตอนเที่ยง พอถึงเวลาผ่าจริงๆ ตอนซักประวัติ พยาบาลจะถามทุกคนเลยว่า "ที่ตอนแรกนัดผ่าตอน 8 โมง แล้วเลื่อนเป็นเที่ยงใช่มั้ยคะ"

ตอนท้องน้องปอ นัดผ่าช่วงบ่าย 3 - 5 โมงเย็น พยาบาลบอกว่าให้ไปถึงร.พ.ประมาณเที่ยงนะค๊า แต่พอเอาเข้าจริงทางร.พ.ต้องโทรมาตาม 2-3 รอบ รอบหลังสุดนี่กำลังอยู่ในรถเลย ตอนนั้นประมาณบ่าย 2 ได้ละ พอถึงเวลาผ่าจริงๆ ทั้งตอนอยู่ในห้องรอคลอด ทั้งตอนเข้าห้องผ่าตัด พยาบาลจะพูดเหมือนกันทุกคนเลยว่า "บ้านอยู่แถวไหนคะเนี่ย รถติดเหรอคะถึงมาช้า" หุหุ

ถ้ามีอีกคนจะมีท็อปปิกไหนให้ถามอีกมั้ยเนี่ย

9. วีรกรรมเจ้าตัวเล็ก 1 เดือนแรก

วีรกรรมของเด็ก 2 คนก็ไม่มีอะไรมาก กินๆนอนๆ เลี้ยงง่าย แต่อึบ่อยโค่ด วันนึงประมาณ 8-10 รอบได้ บางทีกำลังเปลี่ยนผ้าอ้อมอยู่ รองแผ่นใหม่เข้าไป พุ่งปรี๊ดอีกละ ทำเอาอีแม่เซ็งเลย เสียดายผ้าอ้อม

แล้วพี่ป่านก็มีวีรกรรมตัวเหลืองอ๋อย ตอนออกจากร.พ.วัดได้ 13.5 พออีก 3 วันไปอีกทีขึ้นมาเป็น 14.5 พออีก 3 วันไปใหม่ก็ลดลงมา 12 หมอเลยบอกว่าลดช้ามาก ให้กินนมผง แต่อีแม่ก็ไม่ได้ค๊า พอดีไปปรึกษาคลินิกนมแม่มาด้วย โอ....ภัยร้ายของนมผงช่างมากมายเหลือเกิน (ความรู้สึกในตอนนั้นนะ) ก็เลยไม่ได้ให้กินนมผง กว่าพี่ป่านจะหายเหลืองสนิท ก็ใช้เวลาประมาณเดือนครึ่งได้ เหลืองทน เหลืองนาน คิกๆ

ส่วนน้องปอไม่มีปัญหาเรื่องตัวเหลือง เพราะกรุ๊ปเลือดเดียวกะเรานี่ล่ะ เลยหมดห่วงไป

อ่อ วีรกรรมตอนพาน้องปอกลับบ้านวันแรก ตอนกลางวันนี่สบายมากๆ แต่พอถึงเวลาเข้านอนตอนกลางคืนเนี่ยดิ่ เรียกว่านรกลอยมาอยู่ตรงหน้าเลย เพราะเด็ก 2 คนแข่งกันร้องไห้กระจองอแง พี่ป่านก็จะกินนมแม่ๆๆๆ พอไม่ได้กินก็ร้องไห้ พอน้องได้ยินเสียงพี่ร้องไห้ก็ร้องกะเค้ามั่ง ทำเอาอีแม่เครียดจนหน้าแก่ทันใด กว่าทุกอย่างจะอยู่ในความสงบก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่า ...นึกย้อนไปถึงตอนนั้นยังสยองไม่หาย

เหตุการณ์สยองก่อนนอนก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ประมาณ 3-4 วัน ก็ค่อยๆปรับกันไปเรื่อยๆ กว่าจะสบายจริงๆก็ประมาณ 2 เดือน



10.หน้าท้องแตกลายงาหรือไม่

จะเหลือเร๊ออออออออ ตอนท้องพี่ป่านช่วงแรกก็หมั่นสังเกตนะ ไม่แตก ไม่แตก ไม่แตก พอตอนปลายๆ นอนเล่นมองพุงขยับ เอ...เส้นอะไรหว่าสีเงินๆ สวยดีวุ้ย พอเริ่มมีสติ ตายห่านนนนน...ท้องแตกลายงาซะแล้ว

พอตอนท้องน้องปอ พุงที่เคยแตกลายอยู่แล้วก็ไม่ได้แตกเพิ่มนะ เพราะน้ำหนักขึ้นมาน้อยกว่าตั้งหลายโล แต่ว่ามีของเก่าอยู่อ่ะ ฮือๆๆๆ

แต่ผู้ชายบอกว่าไม่เป็นไรหรอก แตกลายแค่นี้เรื่องนิดเดียว แหม...ก็ที่แตกลายงานี่มันพุงช๊าน ไม่ใช่พุงแกนี่หว่า เชอะ

11.ให้อาหารเสริมครั้งแรกตอนลูกกี่เดือน คืออะไร

พี่ป่านกินอาหารเสริมครั้งแรกตอน 5 เดือนกว่า เป็นน้ำซุปกระดูกหมู ใส่ขวดนมให้ดูดเลย 4 ออนซ์ได้มั้ง ซัดเรียบ พอหลังจากนั้นก็เป็นกล้วยครูด ข้าวครูด ...ยัยคนนี้ป้อนหาย...ป้อนหาย

ตอนนู้นทำกับข้าวให้พี่ป่านครั้งนึงก็ทำเผื่อให้กินได้ทั้งอาทิตย์เลย ประโคมใส่สารอาหารแทบจะล้นหม้อเลยมั้ง ผลที่ได้ก็คือทำให้พี่ป่านเป็นเด็กอ้วนไปพักใหญ่เลยทีเดียว

น้องปอกินอาหารเสริมครั้งแรกตอน 6 เดือนกะอีกกี่วันก็จำไม่ได้ เนื่องจากอีแม่ขี้เกียจตัวเป็นขน มัวแต่เล่นกะลูกจนลืมว่าลูกถึงวัยเริ่มกินอาหารเสริมได้แล้ว พอถึงเวลาก็อุ๊ยตาย...วัตถุดิบไม่มีติดบ้านเลย ก็ต้องรอๆๆจนถึงวันหยุดค่อยไปซื้อ มื้อแรกเป็นข้าวบดน้ำซุป กินไปปลิ้นไปทุกมื้อเลย

ฮือๆๆ แม่ขอโทษน๊านังหนูปอที่ไม่ค่อยทุ่มเททำกับข้าวให้หนูกินอ่ะ เพราะหลังจากเห็นน้องปอกินไปปลิ้นไปทุกมื้อ ก็เลยไม่กล้าทำครั้งละเยอะๆแบบพี่ป่าน เพราะกลัวเหลือ กลัวทิ้ง เสียดายอ่ะ

น้องปอก็ไม่ค่อยชอบกินอาหารเละๆ ฟันก็ยังไม่มี แม่ก็เลยไม่รู้จะทำอะไรให้กิน ก็อาจจะเพราะสาเหตุนี้ด้วยมั้งเลยทำให้น้องปอเป็นเด็กกินน้อยมาถึงทุกวันนี้

อันไหนที่น้องปอไม่กิน พอเข้าปากปุ๊บ คุณเธอพ่นปู้ดดดดดดดดซะงั้น หัดพ่นข้าวตั้งแต่เริ่มกินอาหารเสริมใหม่ๆเลย

แต่เรื่องขนมนี่คุณเธอสู้ตาย ไม่มีน้อยหน้าพี่สาวเลยนะเนี่ย แถมยังชะเง้อคอยาวส่งเสียงเรียกให้ผู้ใหญ่มาหยิบให้ด้วยอ่ะ

12. แล้วหย่านมแม่ตอนกี่เดือน

พี่ป่าน หย่านมแม่ตอนขวบนิดๆ (น่าจะประมาณ 1 ขวบ 4 เดือน) แต่ตอนนั้นเลิกไม่จริงจังเท่าไหร่ พอหกล้มเจ็บตัวก็เอานมแม่ปลอบใจ แล้วก็เลิกใหม่อีกรอบ เป็นแบบนี้อยู่ 3-4 ครั้งได้

แต่ช่วงท้องน้องปอตอนท้ายๆ พี่ป่านก็มีมาขอกินนมแม่อยู่เป็นระยะ อีแม่ใจดีก็แถมให้นิดๆหน่อยๆ พอคลอดน้องปอแล้วยังให้พี่ป่านมาช่วยดูดกระตุ้น ก็เลยกลายเป็นว่ากลับมาติดนมแม่อีกรอบซะงั้น คราวนี้เลิกยากกว่าเดิมอีกอ่ะ

ช่วงน้องปอกลับมาบ้านจนถึงอายุประมาณ 2 เดือน เป็นช่วงที่เหนื่อยมากๆ เพราะพี่ป่านกลับมาติดนมแม่อีกรอบ บางทีให้นมน้องปออยู่พี่ป่านก็จะมาเบียด มาบีบน้ำตา ด้วยความเป็นแม่ใจอ่อนก็จับลูกซ้อนสองกินพร้อมกันมั่ง ท่ารักบี้มั่ง (ทำไปได้เนอะ) แต่หลังปีใหม่พี่ป่านไม่สบาย ไม่มาขอกินนมแม่อยู่ 3 วัน หลังจากนั้นก็เลิกได้เองซะงั้น สบ๊ายสบาย

ส่วนน้องปอ ยังไม่หย่านมแม่เลยจ้า ไม่รู้จะเลิกเมื่อไหร่ดี ยิ่งโตขึ้นก็คงเลิกยากขึ้น เพราะพักนี้รู้มาก อยากกินเมื่อไหร่ก็เขย่าๆเสื้อแม่ ถ้าแม่นอนเล่นอยู่ก็จะมาเปิดเสื้อหาของกินซะงั้น ท่ากินก็สุดแสนจะพิสดาร กินๆอยู่ก็เริ่มขยับขาขึ้นมาขี่แม่แล้วเอาหัวทิ่มพื้นซะงั้น(แต่ปากยังไม่ปล่อยนะ)

13.สามีมีบทบาทในการช่วยเลี้ยงลูกยังไงบ้าง

สมัยพี่ป่าน ผู้ชายมีบทบาทน้อยมาก ฮ่าๆๆ เพราะเราก็เกรงใจไง เค้าทำงานนอกบ้านเหนื่อยๆ นมจากเต้าก็ไม่มี ก็เลยเหมาเป็นหน้าที่เราหมดทุกอย่าง (ไม่ดีค่ะ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง) แต่ก็มีช่วยอุ้มบ้าง เล่นกะลูกบ้างนิดๆหน่อยๆ



ผู้ชายมาเริ่มมีบทบาทมากขึ้นก็ตอนที่พี่ป่านเริ่มโตพอจะรู้เรื่อง ยิ่งตอนมีน้องปอแล้ว โดยเฉพาะเวลาเข้านอนเป็นเวลาที่เหนื่อยมากๆ ก็ได้ผู้ชายนี่แหละพาน้องปอไปจัดการกล่อมกันเอง ส่วนอีแม่ก็กล่อมพี่ป่านเข้านอนซะก่อน



ที่ช่วยได้มากๆและเห็นได้ชัด ก็ตอนที่ไปคลอดน้องปอนี่แหละ เพราะตอนไปนอนเฝ้า เค้าก็ไปกันพ่อกะลูก พ่อก็ช่วยอาบน้ำ สระผม ใส่ผ้าอ้อม ป้อนข้าว จากที่ไม่เคยทำ ก็ทำได้ดีภายในพริบตาเหมือนกัน ^-^



พอลูกยิ่งโต ผู้ชายก็มีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ใกล้ชิดกับลูกมากขึ้น มีอ่านนิทานให้ลูกฟังบ้าง พาลูกดูการ์ตูนบ้าง บางทีกลับจากทำงานเหนื่อยๆ เจอลูกอ้อนเข้าไป ใจอ่อนยวบ ควงแขนกันขึ้นไปดูการ์ตูนซะงั้น



14.ถ้าเป็นไปได้โตขึ้นคุณอยากให้เค้าเรียนอะไรมากที่สุด

เรียนอะไรก็ได้ ขอให้เป็นสิ่งที่เค้าชอบและสนใจ เพราะไม่อยากให้เรียนไปตามที่ผู้ใหญ่คิดว่าดี แล้วพอเรียนจบมาก็ค่อยบอกว่าไม่ชอบในสิ่งที่เรียน ไม่อยากทำงานในสายที่เรียนจบมา (เหมือนรุ่นเราๆนี่ล่ะ)



แต่ถ้าเรียนแล้วจบมาสามารถทำเป็นอาชีพอิสระเลี้ยงตัวได้โดยไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร ก็จะดีมากๆค่ะ



15.ถึงจุดคลายแมกซ์ คุณจะส่งต่อ tag นี้ให้ใครทำบ้าง

ตามอ่านของชาวบ้านมาก็เยอะ ไม่รู้จะส่งต่อให้ใครดี แต่มีเพื่อนรักอีกคนนึงบ่นแว้บๆว่าอยากทำ tag นี้ ก็ส่งต่อให้ละกัน

เอาไปเลยย่ะหล่อน ยัยเจี๊ยบ แม่ลูกสอง ...แต่แกจะมีเวลาทำเหรอเนี่ย เพราะไม่เห็นอัพบล็อกเลย คิกๆ ...แต่ถ้าแกไม่ทำ ช๊านขออวยพรให้ลูกแกติดแม่เป็นตังเมหนืด ฮ่าๆๆ

16.เพลงกล่อมลูกประจำที่คุณร้องให้ลูกฟัง



โอ้ววววว เยอะมาก ร้องรอบนึงเท่ากะอัลบั้ม mp3 เลยมั้งเนี่ย ประมาณว่าขุดทั้งเพลงกล่อมเด็ก เพลงสมัยประถม เพลงเชียร์ มากล่อมลูกในคราวเดียวกัน

twinkle twinkle little stars
abc
ก.เอ๋ย ก.ไก่
แมงมุมลาย
โยกเยกเอย
สัปดาห์หนึ่งมีเจ็ดวัน
หนึ่งปีมีสิบสองเดือน
ทิศทั้ง 8
เต่าตัวลาย
เที่ยวเขาดิน
กิ่งก้านใบ
นิ้วโป้งอยู่ไหน (แล้วก็ร้องให้ครบทั้ง 5 นิ้ว)
อาหารหลัก 5 หมู่
อิ่มอุ่น
วิมานดิน
แทนคำนั้น



แล้วก็ยังมีเพลงจากการ์ตูนหรือซีดีต่างๆที่พี่ปอรีเควส ถ้าร้องได้ก็จัดให้



พอดูรายชื่อแล้วบางเพลงไม่น่าเอามาร้องกล่อมลูกนอนเลยเนอะ แด๊นซ์ซะขนาดนั้น



17.คุณคิดว่ารายนามที่เอ่ยจะยอมทำ tag ให้คุณไหม
รายเดียวที่ส่งต่อ คิดว่าคงจะทำ เพราะเจ้าหล่อนรีเควสมาเอง แต่...จะทำเมื่อไหร่ก็ไม่รู้นะ เมื่อกี๊แวะเข้าไปดูที่บล็อกของคุณนาย อัพเดตล่าสุด(ตอนแรกและตอนเดียว)ตั้งแต่ก.ค.แน่ะ ฮ่าๆๆ

18.ถ้าคุณมีเงินสักก้อนคุณจะทำยังไงกับเงินนั่นเพื่อลูก

ถ้ามีเงินซักก้อนก็คงเอาไปลงทุนอะไรซักอย่างให้เงินมันงอกเงย จะได้เอาไว้เป็นทุนสำรองให้เค้า แต่จะห้ามเอาออกมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน



ส่วนใช้จ่ายประจำวัน ถ้าลูกเรียนจบ มีงานมีการทำ ก็คงให้เค้าหาเงินไว้ใช้เองแหละ จะได้รู้ค่าของเงินว่ากว่าจะได้เงินมาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย







19.วันหนึ่ง ๆ คุณหอมลูกทั้งหมดกี่ครั้ง

หอมเยอะมากๆ ไม่เคยนับ เพราะนัวเนียกันทั้งวัน แล้วหอมครั้งนึงก็เป็นชุดอ่ะ



20.สุดท้ายนี้มีพรให้คุณขอหนึ่งข้อคุณจะขออะไรให้ลูก

ขอให้มีสุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพจิตดี มีความสุขกับชีวิต ถ้าต้องเจอความทุกข์ก็ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี เป็นคนดีแต่ไม่โง่ให้คนอื่นเอาเปรียบ ไม่ต้องฉลาดมาก แค่เอาตัวรอดและดูแลตัวเองได้ พี่น้องรักกัน คอยดูแลซึ่งกันและกัน แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ (เยอะเหมือนกันเนอะเนี่ย)








Create Date : 05 ธันวาคม 2550
Last Update : 6 ธันวาคม 2550 1:33:00 น. 3 comments
Counter : 606 Pageviews.

 
กรี๊ดดดดดดดดดด รีบเจิมๆเอาฤกษ์เอาชัย ตรูโดนเข้าแล้วจะทำวิธีไหนดีละเนี่ย คิดๆๆๆๆๆ หาเวลาว่างปีใหม่เลยละกันแก๊ เฮ้อ


โดย: จ IP: 124.121.188.141 วันที่: 6 ธันวาคม 2550 เวลา:9:08:27 น.  

 
รูปเพียบสมใจเลย พี่ป่านน้องปอของพี่นัด น่ารักจริงๆ

เห็นพี่ป่านน้องปอแล้วทำให้ชั้นอยากมีลูกคนที่สองขึ้นมาเลยว่ะ แต่ต้องยั้งความคิดไว้ก่อน

ต้องรีบเอาหน้าเอกิตอนมันอุ้มน้องเกล้าแล้วมองเจ้าโคมที่ปลดปล่อยพลังเต็มที่ในสนามหญ้ามาเตือนสติโดยด่วนนน





โดย: นัด IP: 202.28.27.6 วันที่: 6 ธันวาคม 2550 เวลา:9:27:44 น.  

 
อ่านเพลินแถมรูปน่ารัก ๆ เพียบเลย


โดย: iamlek IP: 124.120.27.108 วันที่: 8 ธันวาคม 2550 เวลา:13:51:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พู่ระหง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add พู่ระหง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.