Bloggang.com : oHLa : ACADEMIE :: 100%HydraDerm ช่วยเติมความชุ่มชื่น เติมน้ำคืนสู่ผิว

ACADEMIE :: 100%HydraDerm ช่วยเติมความชุ่มชื่น เติมน้ำคืนสู่ผิว

รีวิวครั้งนี้จะมาแบบยกแพคบ้าง หลังจากรีวิวแบบฉายเดี่ยวมาเยอะแล้ว ใครที่ติดตามเก๋มานานคงจะพอจำกันได้ที่เก๋เคยพูดถึงการใช้สกินแคร์แบบเหมายกชุด กับแบบแยกเดี่ยวๆไปครั้งนึงเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งเท่าที่เก๋รู้จักนั้นมีน้อยคนนักที่จะใช้สกินแคร์แบบยกเซต ประเภทว่าแบรนด์เดียวกันและกลุ่มผลิตภัณฑ์เดียวกันตั้งแต่โฟมล้างหน้า โทนเนอร์ ซีรั่ม บำรุงต่างๆ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลยซะเมื่อไหร่? ขอยกมือว่าเป็นคนนึงล่ะที่เมื่อไหร่ที่มีปัญหาผิวเรื่องหนึ่งเรื่องใดหนักๆก็จะพยายามใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เน้นแก้ปัญหาเฉพาะที่เป็น อย่างเช่นครั้งนี้ก็เหมือนกันที่พยายามปรับเปลี่ยนเวลาการนอนให้เป็นปกติแบบเข้านอนก่อนเที่ยงคืนและตื่นนอนแต่เช้าตรู่ที่ยังทำไม่ได้ซะที นาฬิกาชีวิตจะเริ่มต้นเมื่อราว 1 ชั่วโมงก่อนเที่ยงวัน และปิดทำการเมื่อเวลาตี 3-ตี4 ทุกครั้งไป (หรือแม้แต่เข้านอนตอนพระอาทิตย์ขึ้นก็ทำเป็นระยะๆ) ซึ่งแน่นอนล่ะว่าพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้สภาพผิวอิดโรย ขาดความชุ่มชื่น และดูแห้งกร้าน ยังไม่นับถึงผลที่ตามมาอย่างพวกริ้วรอยต่างๆไปจนถึงอาการใต้ตาบวมน้ำ และอาการใต้ตาคล้ำ

ACADEMIE เป็นแบรนด์ที่เริ่มต้นก่อตั้งมาตั้งแต่เมื่อปี 1926 โดย Dr. Georges Gay เภสัชกรผู้มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง ซึ่งภายหลังได้ก่อตั้งสถาบันความงาม ACADEMIE และ โรงเรียนสอนทางด้านความงามขึ้นเป็นแห่งแรกในปี 1928 และหลังจากนั้นก็ได้มีการพัฒนาและคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน

ทาง ACADEMIE นั้นมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันให้ได้เลือกหลายกลุ่ม คือ Hypo-Sensible, 100%HydraDerm, Scientific-System, Bronzecran, Acadayspa, ACADEMIE Men, ฯลฯ ซึ่งโดยส่วนมากหลายคนอาจจะเคยเห็น หรือเคยใช้ผลิตภัณฑ์ของ ACADEMIE จากสปาชื่อดังต่างๆหลายแห่งจาก 62 ประเทศทั่วโลก ส่วนสปาชื่อดังในไทยที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ ACADEMIE ก็มี Chiva-Som, Banyantree, Philip Wain, Dhevarana Spa, Marie France, Adamas Resort&Spa, ฯลฯ

ในช่วงราว 4 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นก็ได้เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม 100% ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสกัดจากน้ำแอ๊ปเปิ้ลที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยเติมน้ำให้กับเซลล์ผิวได้ดี ซึ่งตรงกับความต้องการของผิว ณ ตอนนี้พอดีในรีวิวนี้เก๋ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม 100%Hydra Derm ซึ่งมีทั้งหมด 5 ชิ้น ก็คือ

1. ACADEMIE Gentle Peeling Cleanser 2IN1 size 250ml., shelflife 12M
ครีมน้ำนมสำหรับใช้ล้างเครื่องสำอางบนใบหน้า ที่มีเม็ดสครับกระจายตัวอยูในเนื้อผลิตภัณฑ์ วิธีใช้ บีบเนื้อครีมออกมาประมาณเหรียญ 10 บาท ทาให้ทั่วหน้าแล้วคลึงวนเบาๆเป็นรูปก้นหอยให้ทั่วผิวหน้า เว้นบริเวณริมฝีปากและรอบดวงตา ส่วนตัวแล้วเก๋จะเน้นวนบริเวณที่มีสิวเสี้ยนนานกว่าบริเวณอื่นเล็กน้อย อย่างเช่นบริเวณจมูก และคาง เพราะว่าจะทำให้สิวเสี้ยนลดลงได้ด้วย

2. ACADEMIE Moisturizing Toner size 250ml., shelflife 12M
โทนเนอร์สำหรับเช็ดทำความสะอาดผิว ซึ่งมีส่วนผสมหลักมาจากน้ำแอ๊ปเปิ้ลเพื่อช่วยเติมความชุ่มชื่นกลับคืนสู่ผิวได้ดี บางคนอาจมีความเชื่อว่า toner ไม่ใช่สิ่งจำเป็นเท่าไหร่นักในการดูแลผิวพรรณ แต่ส่วนตัวเก๋แล้วกลับมองว่า toner นั้นไม่เพียงแต่ช่วยให้ผิวอยู่ในสภาพที่พร้อมรับการบำรุง แต่ยังช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าทำความสะอาดผิวได้หมดจด และไม่มีโฟม หรือครีมล้างหน้าตกค้างอยู่บนผิวอีกด้วย สังเกตความชอบส่วนตัวของเก๋กับ toner ได้จากปริมาณที่เหลือในขวดนี่ล่ะ เพราะ toner จะเป็นอะไรที่เก๋ใช้เปลืองที่สุดแล้ว

3. ACADEMIE Light Fluid Hydrating Treatment size 50ml., shelflife 12M และ
4. ACADEMIE High Absorbent Moisture Gel Hydrating Treatment size 50ml., shelflife 12M
โลชั่น และเจลที่ช่วยบำรุง และเติมน้ำให้กับผิว ให้ผิวดูชุ่มชื่นขึ้น ไม่แห้งกร้าน ลดอาการขาดน้ำในผิวได้ด้วย เจ้าสองตัวนี้มีคุณสมบัติเหมือนกันแทบทุกประการ ต่างกันนิดหน่อยตรงที่ Light Fluid Hydrating Treatment นั้นจะเหมาะสำหรับคนที่มีผิวธรรมดาถึงผิวผสม ส่วน High Absorbent Moisture Gel Hydrating Treatment นั้นจะเหมาะสำหรับคนที่มีผิวมัน ซึ่งหลายคนที่ติดตาม blog ของเก๋น่าจะเคยเห็นว่าเก๋เคยบอกไว้ว่าถ้าผิวมันและมีอาการขาดน้ำ แล้วให้เลือกใช้ระหว่างผลิตภัณฑ์ควบคุมความมัน กับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมน้ำให้กับผิว เก๋มักจะเน้นอยู่เสมอว่าปัญหาที่ควรแก้อันดับแรกคือการเติมน้ำให้กับผิว เพราะอาการผิวมันหรือการที่ผิวขับน้ำมันออกมาในช่วงระหว่างวันนั้น บางครั้งก็อาจจะมีสาเหตุมาจากภาวะขาดน้ำก็เลยทำให้ผิวต้องขับน้ำมันออกมาเพื่อทดแทนความชุ่มชื่นของผิวที่ขาดหายไป เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าเราทำให้ผิวอยู่ในภาวะที่มีความชุ่มชื่นสมบูรณ์แล้วก็อาจจะส่งผลให้ผิวผลิตน้ำมันออกมาน้อยลงได้เช่นกัน

5. ACADEMIE Gentle Re-hydrating Cream-Mask Weekly Treatment size75ml., shelflife 12M
มาส์คสำหรับเติมความชุ่มชื่นให้กับผิว ซึ่งวิธีใช้ก็ไม่ยาก แค่เกลี่ยบางๆให้ทั่วทั้งหน้าและมาส์คทิ้งไว้ 10-15 นาที โดยเว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำเปล่า ในคำแนะนำเค้าบอกว่าให้ใช้มาส์คนี้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ยงไงเก๋ขอแนะนำเพิ่มนิดนึงว่าการมาส์คหน้าเพื่อเติมน้ำให้กับผิว หรือมาส์คบำรุงต่างๆที่ไม่ได้เน้นการขัด ลอก หรือผลัดเซลล์ผิวนั้น สามารถทำได้บ่อยตามความต้องการของผิวและตามกำลังทรัพย์ส่วนบุคคล ช่วงไหนที่ผิวของเก๋แห้งกร้าน หรือแย่มากๆ เก๋จะใช้พวกมาส์คที่เน้นบำรุงผิวแทบทุกวันเพื่อกู้สภาพผิวที่ดีให้กลับคืนมาเร็วๆ

มาดูวิดีโอการใช้และความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับ ACADEMIE 100%HydraDerm กันค่ะ

ผลลัพธ์และความรู้สึกหลังจากทดลองใช้มากว่า 3 สัปดาห์

ปัญหาผิวขาดความชุ่มชื่นลดลง ผิวนุ่มขึ้นและชุ่มชื่นมากขึ้นกว่าเดิมมากโดยเฉพาะบริเวณแก้มนั้นเห็นและรู้สึกได้ชัดเจน สิวเสี้ยนที่จมูกและปลายคางลดน้อยลงทำให้ผิวดูดีขึ้นด้วย ผลิตภัณฑ์ที่เก๋ประทับใจและชอบมากที่สุด ก็คือ Gel Moisturizer เพราะว่าเป็นครีมบำรุงที่เติมความชุ่มชื่นให้กับผิว และไม่ทิ้งความเหนอะหนะให้ผิวมันเยิ้มอีกด้วย ซึ่งตัวนั้นเป็นคนที่มีผิวผสม และเมื่อก่อนก็พยายามหาผลิตภัณฑ์ประเภทเติมความชุ่มชื่นในลักษณะเดียวกันนี้ แต่ยังไม่เจอตัวใช่แบบ 100% ซะที โดยมากที่เจอจะมีแต่เติมความชุ่มชื่นแต่ก็ส่งผลให้ผิวเหนอะกว่าเดิมเล็กน้อย แต่เจ้าตัวนี้กลับตรงกันข้าม คือให้ทั้งความชุ่มชื่น และก็ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ และความมันให้กับผิวเลย

ผลิตภัณฑ์ที่ชอบรองลงมาก็คงไม่พ้น Cleanser ที่เป็นทั้งตัวทำความสะอาดคราบเครื่องสำอางบนผิวและเป็นทั้งสครับในตัว ซึ่งช่วยลดปัญหาสิวเสี้ยนบริเวณจมูกและคางได้ดี ซึ่งปกติทั่วไปการแก้ปัญหาสิวเสี้ยนนั้นสามารถที่จะใช้บรรดาผลิตภัณฑ์ประเภทสครับล้างหน้า แผ่นลอกสิวเสี้ยน และมาส์คลอกสิวเสี้ยนได้ แต่บ่อยครั้งที่ความขี้เกียจครอบงำ และทำให้บรรดาอุปกรณ์เสริมที่พูดมาข้างต้นนั้นเกือบจะเป็นหมัน เพราะความขยันน้อยส่วนบุคคล เพราะฉะนั้น cleansing นี้ก็เลยตอบโจทย์นี้ได้อย่างเหมาะเจาะ เพราะเก๋ต้องใช้เครื่องสำอางแทบจะทุกวันอยู่แล้ว (ใน 1 สัปดาห์อาจจะมีสัก 1-2 วันที่ไม่ได้แต่งหน้าออกไปไหน)

ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นๆอย่าง toner และ mask ก็เป็นตัวเสริมที่ช่วยให้การแก้ปัญหาภาวะขาดน้ำและความแห้งกร้านของผิวนั้นทำได้ง่ายและเร็วทันใจมากขึ้น เพราะฉะนั้นหลายคนที่มีคำถามว่าแล้วอย่างนี้เวลาที่จะเลือกซื้อครีมบำรุงต่างๆควรจะใช้แบบยกเซตไปเลยไม๊? เก๋เชื่อว่าทุกคนสามารถตอบคำถามนี้ให้กับตัวเองได้ไม่ยาก แค่ลองลิสต์รายการปัญหาผิวของตัวเองออกมาแล้วลองดูว่ามีข้อไหนที่ทำให้ตัวเองรู้สึกไม่พอใจกับผิวมากที่สุด? แล้วก็เลือกแก้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก่อนนั่นแหละค่ะ แต่ก็อย่างที่บอกข้างต้นว่า อย่าลืมวิเคราะห์สาเหตุของปัญหานั้นๆด้วยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะผิวมันแต่ขาดน้ำเนี่ย ลองแก้ปัญหาภาวะขาดน้ำดูก่อน ไม่แน่อาจจะเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวก็ได้นะ

-NB แต่ละคนมีสภาพผิวต่างกัน เพราะฉะนั้นอาจจะใช้ของแต่ละอย่างแล้วได้ผลที่ต่างกันนะคะ

-

find out more