โรคหัวใจและหลอดเลือด
เรื่องแปลกแต่จริงค่ะ แม้ว่าโรคหลอดเลือดพบบ่อย แต่คนส่วนใหญ่ยังคิดว่า "คงไม่เกิดกับตัวเรา" กว่าจะมีอาการ โรคหัวใจและหลอดเลือด ไขมันได้สะสมอยู่ในผนังหลอดเลือดมาเป็นเวลานาน ถึงแม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าแนวทางการป้องกันจะเป็นการดีกว่า การรักษา แต่ว่าคนส่วนใหญ่จะลงทุนในการรักษาโรคมากกว่าการรักษา
สาเหตุของการเกิดโรคนี้ เกิดการอักเสบ ในหลอดเลือด มีไขมันเข้ามาพอก ลิ้มเกิดการอุดตัน และน่าแปลกเป็นอย่างยิ่งค่ะ ... แพทย์มีการสั่งยาหลายชนิดให้คนไข้ แต่ถ้าให้ กินเอง หมอจะไม่กิน (อันนี้เป็นคำพูดของหมอจริงค่ะ) สิ่งที่จะช่วยได้คือ สารต่อต้านอนุมูลอิสระค่ะ วันนี้นันมีข่าวสารมาฝาก เกี่ยวกับโรคนี้โดยตรงค่ะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์อย่างมากมายนะค่ะ สารต้านอนุมูลอิสระ....ยาดีสำหรับชีวิต เรียบเรียงโดย สายศิริ ศิลป์วุฒิ (วท.ม. เทคโนโลยีทางอาหาร) สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์เป็นสิ่งที่คนเราต้องการให้เกิดขึ้นในชีวิต แต่ก็ไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่าปัจจัยในการดำรงชีวิตใดบ้างที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญและน่าสนใจคือ สารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระมีคุณประโยชน์อย่างมากต่อระบบที่สำคัญต่าง ๆ ในร่างกายทั้ง 5 ระบบได้แก่ ระบบหลอดเลือดและหัวใจ ระบบภูมิคุ้มกัน กลุ่มเซลล์ประสาทที่ทำงานเฉพาะในสมอง การต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ และการชะลอความชรา รวมทั้งกระบวนการต่าง ๆ ที่โดดเด่นในการปกป้องชีวิต ระบบต่าง ๆ เหล่านี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับสุขภาพร่างกายของเรา ตัวอย่างเช่น โรคหัวใจที่เกิดจากการอุดตันของเส้นเลือดที่อาจเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ซึ่งบางทีอาจจะเกิดจากการสะสมสารต่าง ๆ ที่บริเวณหลอดเลือดทำให้ผนังหลอดเลือดถูกทำลาย ในกรณีโรคอื่น ๆ เช่น โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimers disease) ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างแน่ชัดว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเมื่อใด ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเซลล์ประสาทในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ อาจจะเกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลานานแล้วหรืออาจจะก่อนที่จะมีใครสักคนเริ่มที่ตระหนักถึงปัญหานี้สารต้านอนุมูลอิสระสามารถที่จะช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบางกระบวนการแต่ไม่ใช่ว่าจะสามารถแก้ปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นแล้วได้ อย่างไรก็ตามก็ไม่เป็นการสายเกินไปที่จะเริ่มต้นบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพเข้าไปและจะเป็นการดีมากที่จะเริ่มต้นเสียแต่ในตอนนี้ โดยการบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระเป็นประจำทุกวันและต่อไปจนตลอดชีวิตของคุณจนเป็นนิสัย ในระหว่างนี้นักวิทยาศาสตร์ต้องการที่จะทราบผลการทดลองที่แสดงให้เห็นถึงคุณประโยชน์ของการใช้สารต้านอนุมูลอิสระทุกวันตลอดช่วงชีวิตที่ต้องใช้เวลานานนับสิบ ๆ ปี รวมทั้ง ค่าใช้จ่ายนับล้านดอลล่าร์ ด้วยสาเหตุที่สารต้านอนุมูลอิสระมีคุณประโยชน์ต่อชีวิตของเราจึงจำเป็นที่จะต้องเข้าใจถึงประโยชน์ของมันที่เกิดขึ้นกับแต่ละระบบหรือกระบวนการต่าง ๆ เสียก่อน สารต้านอนุมูลอิสระกับระบบหลอดเลือดและหัวใจ ในระบบหลอดเลือดและหัวใจ สารต้านอนุมูลอิสระสามารถต่อต้านการเกิดออกซิเดชั่นของไลโพโปรตีน (lipoprotein) ชนิดที่มีความหนาแน่นต่ำ (LDLs) ซึ่งเป็นโคเลสเตอรอลชนิดที่มีโทษต่อร่างกาย นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยป้องกันการสะสมของสารต่าง ๆ ในหลอดเลือดทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดและอาการหัวใจขาดเลือดรวมถึงอวัยวะอื่น ๆ เช่นสมอง อีกด้วย สารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยป้องกันการสูญเสียความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือดและการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในการป้องกันการเกาะตัวกันของแผ่นเลือดซึ่งนำมาสู่การแข็งตัวเป็นก้อนของเลือดกับระบบหลอดเลือดและหัวใจอีกด้วย การสะสมของสารต่าง ๆ และการที่หลอดเลือดถูกทำลายไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในผู้สูงอายุหรือคนที่มีปัญหาทางพันธุกรรมเกี่ยวกับไขมันและคลอเลสเตอรอลเท่านั้น แต่สามารถเกิดได้กับผู้ที่เริ่มเป็นผู้ใหญ่อีกด้วย การป้องกันแต่เนิ่น ๆ เป็นวิธีที่น่าสนใจมาก แต่สารต้านอนุมูลอิสระเพียงลำพังไม่สามารถที่จะทำงานเดี่ยว ๆ ได้จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมโปรแกรมในการรักษาสุขภาพต่าง ๆ ถึงต้องมีทั้งการแอโรบิกออกกำลังกาย การควบคุมความเครียด การรับสารอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ การผ่อนคลายอารมณ์ด้วยเสียงเพลงและงานศิลป์ การหัวเราะ การเข้าสังคมและการบริโภคอาหารเสริมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระรวมเข้าไปด้วย สารต้านอนุมูลอิสระกับระบบภูมิคุ้มกัน ระบบภูมิคุ้มกันช่วยปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมทั้งภายในและภายนอกร่างกาย แบคทีเรีย ไวรัสและปรสิตต่าง ๆ สามารถเข้าสู่ร่างกายและเข้าสู่ปอดผ่านทางระบบทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร ผิวหนังและกระแสเลือด ระบบภูมิคุ้มกันมีทั้งที่ติดตัวมาแต่กำเนิดและที่ได้รับมาภายหลัง ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันทั้ง 2 แบบนี้จะช่วยปกป้องร่างกายจากความเสียหายของอวัยวะต่าง ๆ และช่วยขจัดอันตรายที่หลงเหลืออยู่ ระบบภูมิคุ้มกันยังทำหน้าที่ในการตรวจตราและทำลายเซลล์มะเร็งต่าง ๆ ที่แปลกปลอมเข้ามา สารต้านอนุมูลอิสระให้ประโยชน์ทั้งกับระบบภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิดและแบบที่ได้รับเข้ามาภายหลัง โดยมีส่วนช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดเซลล์ตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิดในการต่อสู้กับมะเร็งและเซลล์ที่มีการติดเชื้อ รวมถึงการตอบสนองของเซลล์ที่กำลังติดเชื้อ ในส่วนของการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่ได้รับมาภายหลังจะทำหน้าที่ในการกำจัดเซลล์ที่มีการติดเชื้อแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันจะต้องพร้อมต่อการตอบสนองต่อการบุกรุกของอวัยวะที่ติดเชื้อและการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง การบำรุงรักษาภูมิคุ้มกันให้สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ซึ่งก็เป็นวิธีที่ดีในการป้องกันปัญหาและการต่อสู้กับการติดเชื้อต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น การบำรุงรักษาเสียแต่ตอนนี้กลายมาเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะการตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกันบางอย่างจะหมดไปพร้อมอายุที่เพิ่มขึ้น สารต้านอนุมูลอิสระกับเซลล์ประสาท ในสมองพบว่าเซลล์ประสาทบางส่วนได้รับผลกระทบและเกิดความเสียหายจากอนุมูลอิสระโดยเฉพาะอนุมูลอิสระที่เกิดจากออกซิเจน ผลกระทบต่อเซลล์ประสาทนี้ปรากฎว่าก่อให้เกิดการทำลายและความเสียหายรวมทั้งโรคการเสื่อมของเซลล์ประสาท เช่น โรคพาร์คินสัน (Parkinsons disease) ที่มีอาการสั่น กล้ามเนื้อตายและการเคลื่อนไหวลำบาก โรคอัลไซเมอร์ (Alaheimers disease) ที่มีอาการสูญเสียความทรงจำและการรับรู้ รวมทั้งโรคกล้ามเนื้อตาย(Gehrigs disease) สารต้านอนุมูลอิสระสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดอันตรายกับเซลล์ประสาทได้ โดยมีการศึกษาถึงวิธีการป้องกันเพื่อที่จะรักษาความสมบูรณ์ในการทำหน้าที่ของเซลล์ประสาทที่เสื่อมสภาพในโรคพาร์คินสัน เราสามารถป้องกันเซลล์ประสาทจากอนุมูลอิสระ ที่เกิดขึ้นตามวัยที่เพิ่มขึ้นได้โดยการยับยั้งการเพิ่มขึ้นของการก่อตัวของอนุมูลอิสระ อย่างไรก็ตามผลจากการป้องกันการก่อตัวของอนุมูลอิสระเมื่อเกิดขึ้นในช่วงแรก ๆ จะได้ผลที่ดีกว่า ดังนั้นจึงเป็นที่มั่นใจว่าสารต้านอนุมูลอิสระที่จะสามารถช่วยปกป้องเซลล์สมองได้นั้นควรจะเริ่มตั้งแต่แรกและดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ตลอดช่วงชีวิต สารต้านอนุมูลอิสระกับการต่อต้านเซลล์มะเร็ง เซลล์มะเร็งสามารถก่อตัวได้เมื่อกลไกทางพันธุกรรมของเซลล์มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากการเพิ่มจำนวนของเซลล์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ กลไกต่าง ๆ ที่สนับสนุนการเกิดของเซลล์ได้แก่ การถ่ายทอดทางพันธุกรรม สารพิษจากสิ่งแวดล้อม รังสี ผลกระทบจากอาหารที่บริโภคเข้าไปและสาเหตุอื่น ๆ มะเร็งแต่ละชนิดมีความจำเพาะและมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน จึงทำให้การบำบัดรักษาเป็นไปได้ยาก แต่อย่างไรก็ตามเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าอนุมูลอิสระเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อกลไกทางพันธุกรรมแก่เซลล์หลายชนิดและสนับสนุนให้เกิดความเสี่ยงต่อการก่อตัวของมะเร็งอีกด้วย กระบวนการในการต่อต้านเซลล์มะเร็งทั้งวิธีการป้องกันและระบบภูมิคุ้มกันที่มีความสัมพันธ์กับการทำลายเซลล์มะเร็งในร่างกายยังคงดำเนินต่อไปตลอดช่วงชีวิตของเรา ในขณะที่การเกิดของรูปแบบต่าง ๆ ของเซลล์มะเร็งเพิ่มขึ้นตามอายุ การปกป้องและป้องกันก็ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ การต่อต้านมะเร็งหลายชนิดสามารถทำได้โดยการบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่เหมาะสม เป็นที่น่าสังเกตว่าวิธีที่ดีที่สุดคือเริ่มบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระก่อนที่โรคมะเร็งจะเกิดขึ้นดีกว่าที่จะบริโภคหลังจากที่มะเร็งได้เกิดขึ้นแล้ว สารต้านอนุมูลอิสระกับการต่อต้านวัยชรา อายุที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้านของระบบและกระบวนการที่สำคัญต่าง ๆ ในร่างกาย ระบบเลือดและหัวใจมีความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้นจากความเสียหายเนื่องจากเส้นเลือดแข็งตัว ประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในการปกป้องร่างกาย จากการบุกรุกของสิ่งแปลกปลอมและการก่อตัวของมะเร็งบางชนิดลดน้อยลง ระบบประสาทบางส่วนในสมองไม่สามารถที่จะสร้างเซลล์ประสาทตัวใหม่มาทดแทนเซลล์เก่าที่เกิดความเสียหายจากการทำลายของอนุมูลอิสระจะเห็นได้ว่าการสะสมของอันตรายจากปัจจัยต่าง ๆ ที่สนับสนุนการเกิดมะเร็งขึ้นตลอดช่วงชีวิตของเรา ความเสียหายต่อกลไกทางพันธุกรรมของเซลล์หลายชนิดมีการสะสมเพิ่มมากขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่เราควรจะบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระเป็นประจำทุกวันตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ปริมาณที่แนะนำให้บริโภคในแต่ละวันเพียงพอหรือไม่ สิ่งแรกที่ทุกคนต้องตั้งคำถามคือ ทำไมถึงไม่สามารถได้รับสารต้านอนุมูลอิสระทั้งหมดได้โดยตรงจากอาหารที่บริโภคเข้าไป มีสารอาหารมากมายที่อยู่ในผักและผลไม้และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมากรวมอยู่ด้วย เช่น วิตามิน C และวิตามิน E เบต้าแคโรทีน และซีลีเนียมปริมาณเล็กน้อย เท่านี้ก็น่าที่จะเพียงพอต่อการป้องกันการขาดวิตามินแล้ว แต่มันยังมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระที่ยังไม่เพียงพอ องค์การอาหารและยาแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA) ได้เสนอว่าปริมาณที่น้อยที่สุดที่ต้องการในแต่ละวันแสดงถึงปริมาณการบริโภคที่จำเป็นเพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร โดยไม่ได้ระบุถึงปริมาณที่เหมาะสมในการปกป้องระบบต่าง ๆ ของร่างกายที่ดีที่สุดเอาไว้ เพื่อที่จะได้รับในปริมาณที่เหมาะสมจำเป็นที่จะต้องบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มเข้าไป แต่สารต้านอนุมูลอิสระบางตัวต้องไม่บริโภคในปริมาณที่มากเกินไป เช่น ซีลีเนียมสามารถก่อให้เกิดพิษกับร่างกายได้ถ้าบริโภคในปริมาณที่มากกว่า 500 ไมโครกรัม ควรจะได้รับคำแนะนำหรือความรู้จากแพทย์หรือผู้ดูแลสุขภาพในปริมาณที่เหมาะสมโดยตามการบริโภคของแต่ละบุคคล น้ำหนักและสุขภาพ การทำงานของไตและปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจจะมีผลต่อความต้องการและกระบวนการในการต้านอนุมูลอิสระ สำหรับการบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระที่ข้าพเจ้าได้เลือกให้กับตัวข้าพเจ้าเองได้รับประทานในแต่ละวัน คือ รับประทาน วิตามิน C และE สารสกัดจากเมล็ดองุ่น ซีลีเนียมและโค-เอนไซม์คิวเท็น (co-Enzyme Q10) ประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระในวิตามิน C ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ และวิตามิน E ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในไขมันจะทำหน้าที่ร่วมกันโดยให้ผลที่ดีขึ้นต่อระบบที่สำคัญ ๆ ทั้งหมดและส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย วิตามิน C และ E เป็นที่รู้จักกันดีถึงความสามารถในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้เกิดสมดุลของอนุมูลอิสระที่เกิดจากสารพิษที่สามารถเป็นภัยกับการเจริญเติบโตของเซลล์ ในปัจจุบันพบว่า 2-O-glycosylisovitexin (2-O-GIV) ซึ่งเป็นสารที่ค้นพบใหม่จากใบอ่อนข้าวบาร์เลย์และบางทีอาจจะมีประสิทธิภาพมากกว่าสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย ในปี ค.ศ. 1999 ทากายูกิ ชิบาโมโตะ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย California- Davis ภาควิชาพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม สามารถที่จะอธิบายหลักการที่เป็นไปได้ของสารสกัดจากใบอ่อนข้าวบาร์เลย์ที่ช่วยให้ได้รับรางวัล Jerrys World Championship Marathon เขาค้นพบว่าศักยภาพในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระของ 2-O-GIV สามารถป้องกันอันตรายจากการออกซิเดทีฟของไขมันที่ผิวหนังจากแสงยูวี ได้ประมาณ 500 เท่าซึ่งสูงกว่าวิตามิน E เสียอีก นอกจากนี้ 2-O-GIV ยังแสดงความสามารถในการเป็นตัวยับยั้งที่มากกว่าวิตามิน C อีกด้วย (ลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการฉบับวันที่ 23 และ 30 กรกฏาคม 2546)
Free TextEditor
Create Date : 18 ธันวาคม 2551 |
|
1 comments |
Last Update : 18 ธันวาคม 2551 2:33:01 น. |
Counter : 493 Pageviews. |
|
|
|