ครม. เก็บภาษี 15% บอนด์ ซื้อหุ้นตัวไหนดี วันนี้ (12 ต.ค.) ครม มีมติออกมาตราการลดผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท แบ่งเป็น 3 มาตรการย่อย 1.มาตรการชะลอการไหลเข้าของเงินทุน คือการยกเลิกยกเว้น (เมื่อก่อนเคยยกเว้น ตอนนี้ไม่ยกเว้นแล้วนะ) การจัดเก็บภาษี 15% จากกำไรและดอกเบี้ยในพันธบัตรที่ถือโดยนักลงทุนต่างชาติที่เป็นธุรกรรมใหม่ (แสดงว่าของใหม่มาจะต้องเสียภาษาให้กับรัฐบาลไทย 15% ด้วยนะจ๊ะ) ซึ่งครอบคลุมพันธบัตรรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 2. ให้หน่วยงานรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนที่ใช้เงินตราต่างประเทศและจัดซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า(ฟอร์เวิร์ด) (อารมณ์ประมาณจะทำอะไรกับต่างประเทศก็รีบทำ เดี่ยวบาทอ่อนอีกซวย แล้วอย่าลืมประกันราคาล่วงหน้าไว้ด้วยล่ะ แล้วทำแค่พอประกันตัว อย่าเสือก เก็งกำไรด้วยล่ะ) 3.มาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีผู้ส่งออกที่จะได้รับผลกระทบ โดยจะให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(เอ็กซิมแบงก์) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ibank) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME Bank) และ ธนาคารกรุงไทย(KTB) สนับสนุนให้เอกชนทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน สำหรับกรณีผู้ส่งออกเอสเอ็มอีที่มีมูลค่าไม่เกิน 5แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือ 15 ล้านบาท และให้บริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) ทำการค้ำประกันการทำฟอร์เวิร์ด คิดดอกเบี้ย 0.75% (ถ้าเป็นบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ใหญ่ที่ส่งออกจะมีมาตราการเหล่านี้ ไม่น่าเป็นห่วง ส่วน SME ช่วยเค้าหน่อยก็แหล่มเลย แต่ที่แน่ๆ อย่าเอาไปเก็งกำไรกันล่ะ ดอกเบี้ยแค่ 0.75% เองนี่นา) นอกจากนี้ ครม.มีมติอนุมัติโครงการเสริมสภาพคล่องให้ผู้ส่งออกเอสเอ็มอีผ่าน 5 แบงก์รัฐ เอสเอ็มอีแบงก์ เอ็กซิมแบงก์ กรุงไทย และอิสลามแบงก์ และออมสิน ปล่อยสินเชื่อเพื่อการส่งออก(แพ็กกิงเครดิต) 5 พันล้านบาท โดยให้บสย.ค้ำประกัน และวงเงินสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง 1 หมื่นล้านบาท โดยให้บสย.ค้ำประกัน 50% วงเงินสินเชื่อต่อราย ไม่เกิน 10% ของยอดส่งออก รวมแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยพิเศษ MLR-1.5% เป็นเวลา 2 ปี กำหนดชำระเงินคืนภายใน 5 ปี รวมทั้งโครงการสินเชื่อเป็นเงินเหรียญสหรัฐ ไม่เกิน 3 แสนเหรียญสหรัฐต่อราย ดอกเบี้ยไลบอร์+3%เป็นเวลา 1 ปี โดยแบงก์จะอนุมัติภายใน 3 วัน ( อ่านแล้วดูวุ่นวาย แต่ตีเอาว่าปล่อยสินเชื่อแหลกลานแถมยาวไป 5 ปีนู้น) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาปัญหาค่าเงินบาท โดยมีมาตรการหลักๆ เพื่อจำกัดการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศและอำนวยความสะดวกให้เงินทุนไหลออก รวมถึงมาตรการช่วยเหลือเรื่องสภาพคล่องและประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับธุรกิจส่งออกขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) เป็นแนวทางของรัฐบาลที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบความเดือดร้อนของผู้ประกอบการจากการที่ค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้น และเป็นการยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่ารัฐบาลไม่มีแนวคิดเรื่องการใช้ระบบการกำหนดเป้าอัตราแลกเปลี่ยน แต่จะพิจารณาเพื่อป้องกันหรือบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจจริง โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายขนาดกลางและขนาดย่อมที่เป็นผู้ส่งออก อ่านสรุปต่อได้ที่ หุ้นปันผล Create Date : 12 ตุลาคม 2553 Last Update : 13 ตุลาคม 2553 19:44:32 น. 0 comments Counter : 490 Pageviews.   Share Tweet ชื่อ : Comment :   *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก