Group Blog All Blog
|
เรื่องเล่ากว่าจะเป็นหมอ ep 6 หมอศัลย์ คือ หมอผ่า รักษาคนหรือ คณะจัดกลุ่มละ 8-12 คน ให้ไปลงพื้นที่ฝึกงาน รพ ใน ต่างจังหวัด ที่เรียกว่า วนนอก เมื่อเด็ก ๆ ไปถึงสถานที่ทำงาน แชร์รูปถ่าย ห้องพักมาให้ ดู แห่งแรกก็เป็นห้องกว้าง มี ฟูกบางๆ ปูกับพื้น นอนรวมๆกัน 5-6 คน มีหมอนกับผ้าห่มคนละชุด ไม่มีแอร์ มีแค่พัดลมติดเพดาน ห้องน้ำแบบนั่งยองๆ ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น หรือตู้เย็น อีกแห่งเป็นห้องนอนกัน 2 คน มีเตียงให้ แต่อย่างอื่นไม่แตกต่างกันเท่าไร ใครที่ได้ฝึก รพ ที่อยู่ใกล้ชุมชน ที่เจริญมีห้องพัก ก็อาจเลือกออกเงินไปเช่าห้อง แต่บางแห่งอยู่ไกล หาห้องพักยาก ก็ต้องอยู่หอพักที่ รพ จัดให้ เรื่องเสื้อผ้าก็หาจ้างคนใน รพ ที่รับไปซักรีดให้ อาหารก็หาร้านที่อยู่ใกล้ๆ มีครั้งหนึ่ง ทำงานเสร็จลงมาตอน 4 ทุ่ม ร้านค้าปิดหมด วันนั้นก็อดข้าวไป วันต่อไป พอสัก 5 โมง จะส่งคนลงไปซื้อข้าวกล่องมาเก็บไว้ทาน บางทีกว่าจะเสร็จเวรก็เที่ยงคืน เราถามว่าอาหารบูดไหม มีไมโครเวฟ เอาไปอุ่นได้ไหม ลูกบอกกินไปงั้นๆ เพราะเหนื่อน เพลียอยากนอน แถมพรุ่งนี้ก็ต้องตื่นมาทำงาน เวลาว่างก็ต้องทบทวนเนื้อหาเตรียมสอบอีก ภาระหน้าที่ของเด็กปี 5-6 ในแต่ละวอร์ด เริ่มที่วอร์ดฮิต คือ หมอศัลย์ วอร์ดศัลยกรรม เวลาดูซีรี่ย์เกี่ยวกับหมอ ตัวเอกส่วนใหญ่จะเป็นหมอศัลย์ บุคลิกจะเป็นคนเก่ง คนเท่ห์ สามารถใช้การผ่าตัดช่วยชีวิตคนไข้ เด็กที่เริ่มเรียนหมอ ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าถ้าจะเรียนหมอจบแล้ว ก็อยากต่อเฉพาะทางเป็นหมอศัลย์ นั่นหมายว่าเมื่อเรียนจบหมอ 6 ปี แล้วต้องต่อเฉพาะทาง อีก 4 ปีถึงจะได้เป็นหมอศัลย์ทั่วไป สามารถใช้การผ่าตัดทั่วไปในการรักษาคนไข้ หากต้องการเชี่ยวชาญเฉพาะด้านแต่ละอวัยวะของร่างกาย ก็ต้องเรียนต่อยอดอีก 3 ปี หากพูดถึงสาขายอดฮิตก็คือ คือ ศัลยกรรมตกแต่ง หลังจบศลย์ทั่วไป ต้องเรียนต่ออีก 3 ปี รวมๆแล้วก็ 6+4+3 ปี แต่ที่ที่เปิดสอนมีน้อยมาก และแต่ละปีก็รับคนเรียนต่อน้อยมาก จึงเป็นหนึ่งในสาขาที่การแข่งขันสูงมากกกกกก ดังนั้นเวลาเจอคนที่อยากเป็นหมอ พยายามจะสอบ บางคนอายุก็ 20 ปลายๆ เกือบๆ 30 คนกลุ่มนั้นควรจะถามใจว่าทำไมถึงอยากเป็นหมอ และลองคิดดูเล่นๆ หากตอนนี้อายุ 28 + 6 ปี กว่าจะจบอายุก็ 34-35 ปี ตอนนั้นเพื่อนๆคุณอาจมีครอบครัว มีหน้าที่การงานที่ดี สร้างฐานะครอบครัวไปแล้ว แต่คุณเพิ่งออกมาทำงาน ต้องใช้ทุนอีก 3 ปี หากจะเรียนต่อเฉพาะทางอีก 3-8 ปี กว่าจะได้เป็น คุณหมอเฉพาะทาง ก็อายุราวๆ 41-48 ปี หายไปเกือบครึ่งชีวิตของมนุษย์เลยนะ ออกนอกเรื่องไปไกล วกกลับมาคุยเรื่องหน้าที่ๆ ได้รับมอบหมายในช่วงฝึกงานของเด็กๆ ในวอร์ดนี้ คือ นั่งสังเกตุการณ์ เวลาคนไข้มาพบอาจารย์ ช่วยประสานงานนัดหมายจองคิวห้องผ่าตัด ช่วยเตรียมห้องผ่าตัด เช็คความพร้อมทั้งบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องมือผ่าตัด พอ หมอ เริ่มผ่าตัดก็จะยืนดูจนกว่าจะผ่าตัดเสร็จ ก็จะตามดูอาการคนไข้หลังผ่าตัด จนถึงส่งคนไข้กลับห้องพัก ถ้าเป็นเคสผ่าตัดใหญ่ยืนจนเมื่อยมาก ตอนเริ่มเรียนแรกๆ ลูกบอกสนใจอยากต่อยอด อยากเป็นหมอศัลย์ พอได้ฝึกงานจริงๆ เปลี่ยนใจแล้ว นี่คือ ประโยชน์ของการวนทุกวอร์ดก็เพื่อให้เด็กสัมผัสการทำงานจริงๆ จะได้รู้ว่าตัวเองชอบไม่ชอบงานด้านไหน เราถามเวลาเห็นการผ่าตัดรู้สึกอย่างไร เขาบอกในฐานะคนดู ยืนเฉยๆ ก็เบื่อ แต่คนที่สนใจเรียนต่อก็คงดูด้วยความสนใจ เรื่องกลิ่นเลือด และภาพอวัยวะต่างๆ เพราะผ่านการเรียนกับอาจาร์ยใหญ่มาแล้ว จึงไม่มีผลใดๆมากนัก อีกหน้าที่ก็คือ ต้องคอยติดตามดูอาการคนไข้ที่พักฟื้นหลังผ่าตัด ทำความสะอาดแผลผ่าตัด และอื่นในส่วนนี้รุ่นพี่จะจัดตารางเวรให้ เพราะต้องดูแลคนไข้ 24 ชั่วโมง ที่เหลือก็ตามเก็บงานเอกสาร พอลูกเริ่มรู้ตัวว่าชอบ อยากเป็นหมอ Med (อายุรกรรม) หมอรุ่นพี่ จึงมักให้งานดูแลคนไข้ก่อนและหลังผ่าตัด และงานเอกสาร แทนงานเข้าห้องผ่าตัด ซึ่งลูกก็บอกว่าดีกว่าไปยืนดูเฉยๆ ในห้องผ่าตัด นี่คือ 1 ใน 4 วอร์ดหลัก ที่เรียกกันสั้นๆว่า สูติ ศัลย์ เมด เด็ก
|
แมวเหมียวลายสีชมพู
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] Link |
|||||||||||||||
ว่าฝึกงานต่าง ๆ ลำบาก... เคยทราบมาเหมือนกันว่า ห้องผ่าตัด
ต้องมีการทำความสะอาด รมยา. ทิ้งไว้
ถ้าว่างเล่าอีกนะครับน่าสนใจจริง ๆ