พฤศจิกายน 2556

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
Fly Me to Japan # วันแรกบนแดนอาทิตย์อุทัย
 

สมชื่อจริง ๆ ออกจากเมืองไทยราว ๆ 2 ทุ่มกว่า ๆ  หลังทานของว่างเราก็หลับ จนแอร์มาปลุกเพื่อเสริฟอาหารเช้า  ทานไปเพลินๆ ท้องฟ้าเริ่มสว่าง เห็นแสงอาทิย์อุทัย  

 พอเครื่องลง เอาล่ะสิ !!!  จะหาคนที่มาด้วยกันอย่างไงดี เดินตามทางไปกับคนอื่น ๆ ก่อน  พอถึงจุดหนึ่ง เห็นผู้ชายยืนถือป้ายเขียว ๆ และมีคนไทยกลุ่มหนึ่งยืนรออยู่ ใช่แล้วคนที่จะไปด้วยกัน  ไกด์ทริปนี้ชื่อคุณสุพจน์  เป็นคนอารมณ์ดี  มี Service mind ดี  ที่สำคัญพูดญี่ปุ่นคล่องจนเราคิดว่าเขาเป็นคนญี่ปุ่นที่พูดไทยได้  รู้จักและชำนาญเส้นทางดี  มีการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ลูกทัวร์น่าพอใจ

 

                  

 

Immigration ที่นี่ทำงานเร็ว  ประกอบกับเราเคยมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว ผ่านฉลุยไม่มีคำถาม  รับกระเป๋าเสร็จ  ให้เวลา ครึ่งชั่วโมงเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว  เดินเข้าไปอ่างล้างหน้าเต็มไปหมด แต่ก็มีน้ำใจแบ่งปันที่ทางให้กัน  จากนั้นเดินไปขึ้นรถบัสที่รอรับอยู่  ออกมานอกอาคารอากาศเย็นสบายดี  เสียแต่เจอฝน ทางไกด์ส่งร่มมาให้ แต่ไม่ครบคน  ใครมีร่มหรือหมวกของตัวเองก็ดีไป หนุ่มๆก็อาศัยวิ่งเร็วๆ ขึ้นรถไป

 

วันแรกเราจะออกจากนาริตะไป นิกโก้ นั่งรถประมาณ 3 ชั่วโมง ก้นของฉันจะบานไหมเนี้ย  นั่งเครื่องมา 6 ชั่วโมง  ได้เดินไม่ถึงชั่วโมงนั่งรถอีกแล้ว  

พอขึ้นรถก็มีกิจกรรมแนะนำตัวว่าชื่ออะไร ทำงานอะไร มาจากไหน เหมือนย้อนกลับไปทัศนศึกษากับเพื่อนๆ เลย

เท่าที่ถามๆกันดู ส่วนใหญ่กว่าครึ่งจะมาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ว้าว...โชคดีกันจริงๆ  บางคนก็ทาน OIshi Ramen หรือชาบูบ้าง และก็มักเป็นคนที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่น  ไม่เหมือนเราที่ไปทานเพราะแม่ชอบทาน

 จากนั้นก็นั่งชมวิวสองข้างทางไปเรื่อย  ถึงจุดแวะพักเข้าห้องน้ำ  ประทับญี่ปุ่นก็เรื่องความสะอาดและสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องน้ำที่มีให้ครบ  ขึ้นรถเพื่อเดินทางต่อ กิจกรรมการ Feed อาหารก็เริ่มขึ้น มีขนมมามาแจกอีกแล้วจากผู้ใหญ่ใจดีทั้งของ Oishi และ AIS แย่งกันแจกทั้งน้ำและขนม ตลอดทริป  เรียกว่ามาครั้งนี้น้ำและขนม ของว่างมีให้ทานตลอด ไม่มีอั้น  จะมีก็เพียงตอนที่รถติดอย่างสุดๆ ในวันหลังๆ ที่จะเล่าให้ฟัง

และแรกอาหารมื้อแรกในแดนญี่ปุ่น เริ่มขึ้น  เป็นเนื้อหมูอบบนจานร้อนๆ  คุณแซม Oishi เดินมาถามว่าใครจะรับเครื่องดื่มอะไร เบียร์ Coke ฯลฯ หรือจะลองทางอุด้งก็ได้  ทั้งหมดไม่มีใน set ทาง Oishi ออกให้พิเศษ มีคนอยากทานสั่งมาแล้วก็แบ่งใส่ถ้วยทานกัน เป็นอุด้งกับน้ำซุปร้อนๆ อากาศเย็นๆทานก็คล่องคอดี  แต่นิสัยคนไทยพอเห็นไม่มีเนื้อสัตว์เลย ก็ขำๆ กันไป ลงมาซื้อขนมของฝากด้านล่างกันนิดหน่อย  

 

 

เดินทางต่อไปเที่ยวที่ ”ศาลเจ้าโทโชคุ”  สร้างโดยโชกุลรุ่นที่ 3 ของตระกูลอิเอะยาสุ  จุดเด่นเช่น แมวนอนหลับ ลิงสามตัว และมังกรหัวเราะ  เดินเที่ยวชม ถ่ายรูป และซื้อเครื่องราง กันเสร็จ ต้องบอกว่าห้องน้ำที่ศาลเจ้านี้  กลิ่นสุดๆ ประหนึ่งห้องน้ำสาธารณะของไทย  นี่คืออีกหนึ่ง Surprise

  เมื่อพร้อมกันล้อเริ่มวิ่งต่อ จุดหมายต่อไป ก็คือ “ ซามูไร “Edo Wonderland” เป็น เมืองจำลองยุคเอโดะ ที่มีทั้งนินจา ซามูไร  มีการแสดงของนินจาให้ชมตื่นเต้นดี  บรรยากาศภายในการร่มรื่น 

 

คืนนี้เราพักที่ Kinugawa Onsen Hotel ที่พักสะดวกสบาย มีออนเซนทั้งแบบในร่มและด้านนอก ให้ชมทิวทัศน์และบ่อจาคุชชี่ ให้แช่  น้ำอุ่นสบายดี  ในห้องมีชุดยูกาตะที่ทาง Oishi กับ AIS มอบให้เป็นที่ระลึก ถึงเวลาอาหารเย็นแบบไคเซกิ มีเนื้อปลาวาฬดิบด้วย แต่เราไม่กล้าทานสัตว์ใหญ่ แต่ได้ชิม เหล้าบ๊วย รสชาติอร่อยดี ส่วนอาหารวัตถุดิบสดดี แต่เป็นแบบเย็นๆ style sushi ไม่ค่อยถูกปากเรามากนัก 

 

 

 

   เหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวัน ที่นอนนุ่มๆ อากาศกำลังสบาย หลับสนิทเลย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 




Create Date : 11 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2556 13:01:33 น.
Counter : 1495 Pageviews.

1 comments
  
ตามอ่านอยู่นะคะ
โดย: mariabamboo วันที่: 11 พฤศจิกายน 2556 เวลา:19:42:48 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แมวเหมียวลายสีชมพู
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]