Group Blog All Blog
|
บาหลี จุดเริ่มต้นของบันทึกการเดินทางของสาว(น้อยจริง) เคยไหมเราอาจเดินทางไปเที่ยวสถานที่บางแห่งที่เราไม่เคยอยู่ในหัวมาก่อน กับเรา บาหลี นี่แหละ ทำไม สถานที่ในฝันของนักท่องเที่ยวมากมาย แต่เรากลัวทั้งเรื่องอาหาร ที่มีกลิ่นเครื่องเทศ และกลัวเรื่องอื่นอีกมากมาย จึงไม่เคยนึกหาข้อมูลเกี่ยวกับที่นี่ จนวันหนึ่ง อาจเพราะชะตาลิขิต เผลอรับปากตกลงไปกับเพื่อน ก็ต้องไปตามสัญญา แต่ทริปบาหลีมันทำให้เราเริ่มสนุกกับการท่องเที่ยวไปดินแดนที่เราไม่รู้จัก จึงมีความตั้งใจจะเดินทางไปสถานที่ที่ไม่เคยไป กับทริปอื่นตามมาหลังจากนั้น บันทึกการเดินไปดินแดนที่เราไม่เคยไปกำลังจะเริ่ม การเดินทางที่เราพร้อมจะไปคนเดียว หรือไปกับคนรู้จักที่อาจไม่สนิท ก็ตามมา เพียงเพราะเราอยากไป คำตอบนั้นก็เพียงพอแล้ว ที่สำคัญเราได้ประสบการณ์ใหม่จากคนที่หลากหลาย ได้ความสนุก บางครั้งก็ความสุขที่ได้เดินทางคนเดียว ได้อิสระเสรีที่ทำให้การเที่ยวคนเดียว ได้เจอคนร่วมทาง ทั้งคนท้องถิ่น หรือ ต่างชาติ ต่างภาษาที่ใจดี มีน้ำใจกับ สาวน้อย (ที่น้อยจริงๆ) เกริ่นมาพอควร มาเริ่มเข้าเรื่องบาหลีที่ฉันไปเยือนมา ครั้งนี้ เลือกไปกับคนรู้จักของเพื่อน เขาจะจัดทริป โดยรับผิดชอบทุกอย่างที่บาหลี แต่เรื่องตั๋วเครื่องบินลูกทัวร์จองกันไปเอง เราได้เจอกันจริงๆ คือ ที่สนามบิน Ngurah Rai ลุ้นดีนะ แบบถ้าลงไปแล้ว ไม่มีคนมารับ จะทำไงดี เมื่อผ่าน ตม แล้ว มีคนเดินมาเรียกให้ไปรวมกัน เราได้เจอเพื่อนร่วมทริป สาววัยกลาง จนถึงสูงวัย 555 รวมกัน 14 คน สบายใจแล้ว ทริปน่าจะเที่ยวกันอย่างสนุก ไม่มีช่องว่างระหว่างวัย สนามบินค่อนข้างแออัดมาก นทท ก็เยอะ ไกด์ท้องถิ่น ยืนถือป้ายชื่อลูกค้า มองจนตาลายจริง ๆ พอรวมพลได้ครบ ไกด์ก็จะโทรให้รถบัสมา ต้องรอคิวรถนานเกือบ 20 นาที เรื่องประหลาดใจแรก คือ คนต่างชาติ โดยเฉพาะ ฝรั่ง มาเที่ยวบาหลีเยอะมากจริง ทาง รร จะมายกกระเป๋าไปให้ ส่วนพวกเราก็ขึ้นรถไปเที่ยว อ่ะ! แล้วกระเป๋าจะหายไหม เพราะสนามบินดูวุ่นวายสับสน แต่ไกด์ท้องถิ่นบอกไม่หาย จ๊ะๆ ก็ได้จ๊ะ จุดแรกที่ไกด์จะพาไป คือ วัดอูลูวาตู จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก❌ จุดถูกลิงตกของไป✅ ไกด์ย้ำแล้วให้เก็บแว่นตา หมวกและทุกอย่างที่มีลักษณะแวววาว ลิงจะชอบมาก เราเป็นคนสายตาสั้น ไม่ใส่แว่น โลกก็สวยแบบมีหมอกปกคลุม จึงเอาแว่นใส่กระเป๋ากางเกง หยิบออกมาตอนที่จะดูวิว ขณะกำลังจะถ่ายรูป รู้สึกเหมือนมีอะไรมาแตะตรงกระเป๋ากางเกง มือเบามาก ใช่ค่ะ โดนล้วงกระเป๋าครั้งแรกในชีวิต เงยหน้ามา ก็ทำได้แค่ถ่ายรูปลิงกับแว่นตาเป็นหลักฐาน จะเอาไปแจ้งความที่ไหนได้ ก็ทำใจ โดนรับน้องตั้งแต่เพิ่งลงเครื่องบินไม่ถึง 3 ชั่วโมง ที่นี่ลิงเยอะมาก ฉกของไปซึ่งๆหน้า โดยเฉพาะแว่นตา กัดจนหักแล้วก็หาเหยื่อรายใหม่ เรียกว่าเป็นการเดินเที่ยวที่หวาดระแวง ไม่สนุก ไม่สามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติที่งดงาม จะถ่ายรูปก็กลัวโดนฉก ยิ่ง เห็น นทท ปีนโขดหิน ลงไปวิ่งไล่ เอาโทรศัพท์มือถือคืน ทำให้เราระแวงมากขึ้น พอเดินไปถึงด้านหลังวิหาร เจอคนทำอาชีพทวงของคืน ในมือจะมีหนังสติ๊ก กับเม็ดพืชอะไรไม่รู้ไว้ ยิงใส่ลิง ขู่ให้มันทิ้งของในมือ เจ้าของก็จะจ่ายเงินให้ทิปเขา เราจึงเดินไปบอกว่า ช่วยลงไปจุดที่เราโดนลิงฉกแว่น เอาคืนกลับมาได้ไหม ระหว่างทางเดินลงไปก่อนถึงจุดที่แว่นหาย มีคนตะโกนว่า Black Sun Glass ซ้ำ ๆ วินาทีนั้นเราก็ยกมือตะโกนว่า Mine Mine ทั้งที่ยังไม่เห็นของ แต่พอรับมาแล้ว ก็ต้องประหลาดใจของๆ เราจริง ขณะเดียวกันก็ขนลุกซู่ เพราะเราแอบบ่นในใจกับสิ่งศักดิ์ที่อยู่ ณ วิหารแห่งนั้น ว่าทำไงจะได้แว่นตาคืน แม้ราคาจะไม่กี่พัน และใช้งานมานาน แต่ก็เป็นหนึ่งในแว่นกันแดดที่ไปท่องเที่ยวกับเรามานาน จนแอบผูกพัน เมื่อรับของคืนเราจึงหันมองขึ้นไปทางวิหาร ยกมือไหว้ขอบคุณที่ช่วยให้ได้ของคืนมา แบบไม่บุบสลายเลย เพื่อนๆ แซวว่า เจ้าแม่ตลาดนัด มาพลาดโดนลิงล้วงกระเป๋าครั้งแรกของชีวิต นี่ไง สิ่งที่ไม่เคยพบ ก็ได้เจอ ได้สัมผัส พอมาได้ยินข่าวเรื่อง ลิง ที่ลพบุรี จึงเข้าใจว่า การที่ต้องเดินและใช้ชีวิตอยู่แบบ หวาดระแวงว่าจะโดนฉกของส่วนตัวไป มันเป็นเช่นไร ทิวทัศน์หน้าผาก็สวยดี แต่เพราะช่วงแรกๆ ไม่ใส่แว่น มองอะไรไม่ชัด และต้องคอยระแวง กลัวโดนฉกมือถือด้วย จึงเที่ยวไม่ค่อยสนุกมาก และถ่ายรูปน้อย
|
BlogGang Popular Award#20
แมวเหมียวลายสีชมพู
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] Link |