|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
Finally, it is time !!
หลังจากที่จดๆ จ้องๆ ว่าจะเขียน blog เรื่องนี้ดีไหม
เราก้อได้โทรศัพท์เข้ามาหาเราเมื่อเย็นวันศุกร์ ที่ 7พย. ขณะขับรถกลับบ้านหลังเลิกงาน เป็นเค้าคนนั้นนั่นเอง เค้าบอกว่าเค้ากลับมาจากเมกาแล้ว ตอนนี้อยู่เมืองไทย ต้องการให้เราไปเซ็นหย่าให้เค้าโดยเร็วที่สุด เค้าบอกว่า ข้อตกลงเหมือนเดิม คือ ถ้าเค้าอยู่เมืองไทย ลูกต้องอยู่กะเค้าอาทิตย์หนึ่ง อยู่กะเราอาทิตย์หนึ่ง ซึ่งข้อตกลงนี้เองที่เรายังไม่ได้เซ็นหย่ากะเค้าจนถึงทุกวันนี้
ก้อพ่อคุณเล่นหายไปเลย ปีหนึ่งเต็มๆ ไม่ติดต่อมาเลย อีมงอีเมล์ส่งไปหาก้อเงียบ โทรศัพท์ก้อไม่มี แต่พอจะให้เซ็นหย่า จะมาให้ลูกไปอยู่อาทิตย์เว้นอาทิตย์ เราก้องงจิ ว่า เอ... เค้ารักลูกยังไง ไม่เข้าใจ ที่สำคัญแล้วลูกจะรู้สึกยังไงหล่ะ ทำไมเค้าไม่คิดถึงความรู้สึกลูก ว่าไม่รู้จักคนนี้เลย แต่จะมาเอาไปอยู่ด้วย ลูกต้องไม่เข้าใจแน่ๆ
หลังจากนั้น พ่อคุณก้อบอกว่าให้ไปคุยกะทนายเค้า เราก้อเลยต้องเอาทนายของเรา (เพื่อนของน้าสาว) ไปคุยต่อรองอีกทีหนึ่ง ตอนนั้นเราบอกทนายไปเลยว่า ค่าเลี้ยงดูไม่จำเป็น เราไม่เอา เราขอให้ลูกอยู่กะเราอย่างเดียว ซึ่งทนายเค้าก้อบอกว่า เค้าจะให้ฝ่ายโน้นจ่ายค่าเลี้ยงดูด้วย ทนายบอกว่า ให้คิดว่า ตอนนี้ราทำเพื่อลูก เราไม่ได้ทำเผื่อตัวเอง เราก้อเลยบอกว่าได้ แต่ถ้าค่าเลี้ยงดูทำให้เรื่องมาก ก้อช่างมันเถอะ
หลังจากที่ทนายโทรต่อรองกันไปมา อันนี้เราขอใช้คำว่าต่อรอง เพราะพ่อคุณเล่นต่อรองราคาเหมือนซื้อของเลย อันนี้เราขอละรายละเอียดออกไปแล้วกัน แต่สรุปว่าเค้ายอมว่าให้ลูกอยู่กะแม่
สุดท้าย ก้อนัดไปเจอกันที่สำนักงานเขตวันศุกร์ที่ 14พย. เนื่องจากว่า พ่อคุณเค้ายืนยันว่าต้องเซ็นภายในอาทิตย์นี้ ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก้อ ASAP (as soon as possible) อะไรทำนองนั้น
พอไปถึงก้อคุยเรื่องข้อตกลงกะเจ้าหน้าที่เขต พ่อคุณก้อเริ่มยึกยัก เรื่องลูกอีก (อาจเป็นเพราะว่าเค้ารู้ว่าลูกคือจุดอ่อนของเรา) เค้าบอกว่า เค้าจะไม่ไปเยี่ยมลูกที่บ้านเรา เค้าต้องเอาลูกออกไปบ้านเค้า แล้วลูกก้อต้องไปนอนบ้านเค้าทุกๆเดือน เราก้อเลยถามเค้าว่าเริ่มเมื่อไหร เค้าก้อว่าถ้าเดี๋ยวนี้ได้ก้อดี เราก้อเลยบอกว่า ทำไมไม่ค่อย phase in ค่อยๆให้ลูกมีความคุ้นเคยกะเค้าก่อนหล่ะ เพราะลูกไม่ได้เจอเค้ามาหนึ่งปีเต็มๆ ไม่ได้ติดต่อกันเลย นึกถึงลูกบ้าง
เค้าก้อประมาณว่าไม่ยอม ยังไงก้อต้องเขียนในหนังสือสัญญาว่าต้องระบุ กี่ครั้ง กี่วัน เราก้อถามว่าระบุว่า ให้นำไปอยู่ด้วยได้ โดยที่บุตรและมารดายินยอม ได้ไหม พ่อเจ้าประคุณเธอก้อไม่ยอม เธอบอกว่าเราไม่ยอมให้เค้าแตะลูกเลย เราก้อเลยบอกว่า อ้าว พูดอย่างนี้ไม่แฟร์นะคะ เพราะเราไม่เคยห้ามให้มาเยี่ยมเลย เราเป็นคนส่งรูปลูกไปให้เค้าทางอีเมล์ด้วยซ้ำ แต่พ่อคุณก้อไม่ติดต่อกลับมาเลย สมัยแยกกันแรกๆ เราเคยถามด้วยว่าทำไมไม่มาหาลูกบ้าง เค้าบอกเองด้วยซ้ำว่า มันเป็นสิทธิ์ของเค้าที่เค้าจะไม่มา
เราก้อเลยถึงจุดที่ว่า ทำไมเราต้องมานั่งเถียงกันแบบนี้ ในเมื่อตกลงกันยังไม่ได้ เราก้อเลยบอกว่า งั้นก้อไม่เซ็น กลับบ้านเถอะ เพราะเราก้อไม่ได้รีบร้อนอะไร พ่อเจ้าประคุณก้อหน้าเสีย แล้วก้อไปคุยอะไรก้อไม่รู้กะทนายความเค้า เราก้อบอกเค้าว่า เมื่อไหรที่เค้าสามารถพิสูจน์ว่า เค้ารักลูกจริง สามารถทำให้เราไว้วางใจเค้าเรื่องลูกได้ เราก้อจะให้เค้าเอาลูกไปอยู่ด้วยได้ แต่เรื่องมาเยี่ยม สามารถมาได้ทุกเวลา เราไม่เคยห้าม เพราะที่ผ่านมา เค้าหายหน้า หายตาไปเลย เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเค้าไปทำงานอะไร หรือไปทำเรื่องอะไรบ้าง เราก้อบอกเค้าว่า เราเลี้ยงของเราคนเดียว มาหนึ่งปีเต็มๆ ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย
สุดท้ายแล้วเค้าก้อเลยยอม ให้ระบุว่า บุตรอยู่ในความปกครองของมารดา สามารถให้นำบุตรไปอยู่ด้วยได้ โดยที่บุตรและมารดายินยอม เราก้อเลยได้เซ็นหนังสือหย่าได้สมบูรณ์ เมือวันที่ 14พย. 2551
อ้อ ลืมบอกไป ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ทำเรื่อง ดูท่าทางพ่อคุณเค้าเครียดมากเลย เราก้อชวนคุยธรรมดา แต่เค้าไม่ค่อยอยากจะคุยกะเราเท่าไหร เราก้อเลยคว้า knitting ขึ้นมาถักซะเลย ดีซะอีกได้สงบจิตสงบใจไปในตัวด้วย
ที่เล่ามานี้ เราอยากให้ใครก้อตาม ที่กำลังประสบปัญหา ขอให้คิดถึงลูกก่อน ก่อนที่จะนึกถึงว่าตัวเองจะลำบากใจขนาดไหน ปัญหาของเรา จิงๆ มันมีรายละเอียดเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกรีนการ์ด วีซ่า แต่เนื่องจากว่า ทุกวันนี้เรามองหน้าลูก และเราก้อคิดถึงอนาคต ความรู้สึกของลูกมาก่อนสิ่งใด ดังนั้นชีวิตของเราจึงผ่านมาได้จนถึงทุกวันนี้
Create Date : 17 พฤศจิกายน 2551 |
|
8 comments |
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2551 13:40:02 น. |
Counter : 548 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: BongKet 17 พฤศจิกายน 2551 14:24:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: BongKet 17 พฤศจิกายน 2551 22:38:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: MeMoM 18 พฤศจิกายน 2551 10:31:12 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
จากเด็กที่เคยงอแงเวลาแม่ให้สอยผ้าหรือปักชื่อบนเสื้อนักเรียนของตัวเอง จากคนที่เคยโดดเรียนวิชาคหกรรมตอนเรียนมัธยม ปัจจุบันเป็นsingle mom คุณแม่ลูกหนึ่ง เริ่มหัด knittingจากหนังสือตอนที่ไปอยู่เมกา แล้วก็ชอบตั้งแต่นั้นมา เริ่มอยากทำงานผ้าตอนตั้งแต่อยู่เมกา แต่ไม่เคยได้ทำเองสักที ได้แต่คุ้ยๆความรู้งูๆปลาๆ การเย็บผ้า แล้วก็ดูจาก website หรือ blog ของคนอื่นๆ จนเมื่อกลับมาเมืองไทย ถึงได้ตัดสินใจเริ่มในสิ่งที่เราอยากทำซะกะที
|
|
|
|
|
|
|
บางทีไม่ยากจะคิดอัคติน่ะค่ะว่าผู้ชายบางคนหน่ะเห็นแก่ตัวสุดๆ คิดถึงแต่ตัวเอง
อิอิ อย่าซีเรียสไปเลยค่ะ ดีน่ะที่พกไม้นิ๊สไปด้วย ถ้าไม่ใด้เอาถัก ก็เอาเคาะหัว...ไปเลยค่ะ
มาชวนไปดูกระเป๋าแสนสวยที่บล็อกค้า(ไม่รู้จริงหรือเปล่า)
ที่บ้านก็ใช้เตาอบอันเล็กๆอยู่ เป็นเตาที่อาก๊งเจ้าพวกนี้ไปใด้รางวัลมา เดี๋ยวท่างานนี้ทำใด้เป็นเรื่องเป็นราว คงใด้ถอยที่มันใหญ่กว่านี้ล่ะค่ะ