----- เริ่มต้นเดิมทีมันมาจากความคิดเล็กๆ ที่ว่าแค่อยากพาลูกขึ้นเครื่องบินในวัยที่เค้ายังกินนมแม่จากเต้าอยู่ เพื่อที่เค้าจะได้ไม่ปวดหูเวลาเครื่อง take-off หรือ landing  ก็แค่นั้น 

~ก็เริ่มคุย Line กัน "พี่ว่าประเทศไหนดี?" "ญี่ปุ่นสิ" "ทำไมอ้ะไม่นั่งไกลหน่อยไปหน่อยเหรอ ลูกเราจะไหวป่าว"   "ญี่ปุ่นแหล่ะลูกเราแข็งแรงสบายอยุ่แล้ว รถไฟฟ้าเราก็ชำนาญสุด เอาที่เราเคยไปเราจะได้มั่นใจกว่าประเทศอื่น บ้านเมืองผู้คนก็น่ารักไม่เถื่อน เอานี่แหล่ะเหมาะสุดละเอาลูกเล็กไป"  "อะเหรอๆอืมก็ได้เชเช งั้นขุ่นแม่อ่านรีวิว Pantip ที่เค้าพาทารกก่อนนะ ดีเหมือนกันจะได้เอาเค้าไปถ่ายรูปใส่ชุดเจ้าหญิงที่ดิสนีย์แลนด์เก็บไว้ให้เค้าดูตอนโต ได้เรื่องยังไงเดี๋ยวมาบอก" 

----------

จากนั้นก็ Go So Big ค่ะอยากไปหลายที่มาก แบบที่เคยไปกันสมัยยังไม่มีลูก_ซึ่งคือสิบวันสิบเมืองหัวหกก้นขวิดแอดเวนเจอร์เอาซะคุ้มเลย ( หาอ่านได้จาก blog ที่เขียนไว้ปี 2009 ในนี้นะค้า ) _แต่ด้วยความกระเตงลูกเล็กแบเบาะไปด้วย เราคงต้องปรับแผนใหม่ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ เพราะเท่าที่เ็นหลายๆรีวิวก็บอกไว้เช่นกัน  555+  วันนึงไปได้ 1-2 แห่งก็หรูละ!! 

----------

สุดท้ายก็มาลงตัวที่ Disneyland ( ตัดใจ SanrioPuroLand ทิ้งค่ะ ) และแพลนซื้อตั๋วรถบัสไปต่างจังหวัดวันนึงเพื่อไปถ่ายรูปกับคุณภูเขาไฟฟูจิซัง ที่ทะเลสาบ kawaguchiko คือโปรแกรม A-must ของเรา อย่างอื่นคือโบนัสแล้วค่ะ ขอแค่ได้ทำสองอย่างนี้ถือว่า success แล้ว 

-----

1) สมาชิกร่วมทริปค่ะ : มีใครบ้างทริปนี้มีเราสามคนพ่อแม่ลูก และแน่

นอนค่ะเราหนีบพี่เลี้ยงไปด้วย ช่วยโน่นช่วยนี่หลายหัวดีกว่าหัวเดียวโน๊ะ   เราออกค่าใช้จ่ายทังหมดให้แอ๊ปค่ะ เราปรึกษากันแล้วว่าเดี๋ยวหารกันคนละครึ่งค่ะ 555+ ( สุดท้ายเราก็ตื๊อชวนคณยายของน้องภีชไปด้วยนะคะ) สิริรวมผู้ใหญ่ 4 คน + ทารกน้อย 1 คนเป็น 5 ขบวนการตะลุยตะลอนค่าา~ 

2.)เราเลือกบินกับการบินไทยค่ะ ด้วยเหตุผลหลายๆประการ ด้วยการพาลูกไปก็อยากไปแบบสบายลูกสบายแม่นิดนึงเนอะ เบาะกว้างก็มีชัยไปกว่าครึ่ง  ( เลือกบินลงฮาเนดะและเลือกไฟลท์ดึกจะได้ปล่อยลูกนอนบนเครื่อง_จากที่เพื่อนๆฝากกระซิบว่าลูกจะได้ไม่งอแง เพราะนั่งนานนิดนึง )
ตอนนั้นเป็นลูกเพจอาแปะ Ar-pae.com  ค่ะเลยเห็นว่าการบินไทยประกาศปรับค่าธรรมเนียมตั๋วแลกไมล์ เหลือ 1650 baht/ท่าน การตัดสินใจจึงไปลงเอยที่สายการบินนี้อย่างมิต้องลังเลค่า
ด้วยคะแนนสะสมบัตรเครดิต scbt ที่ถืออยู่ ก็โทรแจ้งโอนเข้า TG ให้ครบ4คน _ ส่วนเด็กทารกนั้น ตามกฎเค้าเป็น Nominee ไม่ได้ค่ะ จึงต้องซื้อตั๋วให้น้องภีชไป ในราคา25% นั่นคือ 6,555 บาท (ทารก <2ขวบ) ดีงามพระรามแปด  เอาล่ะค่ะร่ายยาวก่อนเดินทางกันมานาน ทีนี้เมื่อได้ตั๋วแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนจองที่พักกันบ้าง แต่นแต๊น! AirBNB สิคะรออะไร 555 ติดตามข่าวมานานค่ะ จดๆจ้องๆในห้องบลูฯมาก็นาน ได้เวลาลงมือจิ้มซักที / สามี install ลงไอแพด ชวนพันยานั่ง scroll ดูมีที่พักสวยๆชวนกิเลศเกิดเยอะแยะไปหมดเลยค่ะ แต่สุดท้ายท้ายสุดเราก็มาได้ของ host คุณแม่ลูกสอง (ยังสาว) คนนึงค่ะ เธอชื่อว่า Misa ด้วยเหตุผลที่ความน่ารักมีน้ำใจ จะเอาอะไรขอให้บอกของมิสะ และ location ที่ติด station รถไฟใต้ดิน มาวินไปเลยค่า เอาไป10คะแนนเต็ม

 Apartment ของมิสะมีลิฟท์ด้วยนะคะ เหมาะกับบ้านเรามากๆเพราะ 1.ของเยอะมีเด็ก  2.มีวีลแชร์ของขุ่นยายค่า  / นอกนั้นก็อุปกรครบเครื่องมากทั้งเครื่องดูดฝุ่น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ ตู้เย็นใหญ่ เตียงนอนขนาดใหญ่ (KingSize 1ห้องนอน) และเตียงแฝด Twin bed (1ห้องนอน) มี 7-11 อยู่ฝั่งตรงข้าม มี supermarket ที่เปิดถึงสามทุ่มทั้ง2แห่ง   #ไม่เอาไม่ได้แร้น
เอาล่ะค่ะด้วยประการทั้งหมดเราจึงตัดสินใจจองที่นี่ หลังจากคุย Line กันถูกชะตา คนเป็นมนุษย์แม่ด้วยกัน (ปล,ชำระผ่าน AirBNB ค่าเสียหายทั้งหมดที่ตัดบัตรเครดิตไป 17,000 บาท รวมค่า cleaning fee เรียบโร้ย ฮุฮิ) มิสะน่ารักค่ะเธอ offer อ่างอาบน้ำเป่าลมให้ลูกเราเพิ่มด้วยโดยไม่คิดตังค์ อีกทั้งยังหมั่นถ่ายรูปส่งไลน์มาอัพเดทตลอดจนกว่าจะถึงวันที่เราเข้าพักค่ะ / วันไปถึงประทับใจมาก มี Combi baby cart (รถเข็นเด็ก) พร้อมพลาสติกคลุมกันฝน จัดไว้ให้ในบ้าน  มี microwave-ricecooker และเครื่องครัวถ้วยชามน้ำยาล้างจาน ตะเกียบช้อนถ้วยชามครบจำนวนคน

เท่านั้นยังไม่พอนะคะ ไฮไลท์เลยค่ะเปิดตู้เย็นมาถึงกับเซอร์ไพรส์สุดขีด มิสะเตรียมการ์ดวันเกิด พร้อมของขวัญสุดพิเศษใส่ในตู้เย็นเขียนอวยพรถึงน้อง Peach สาวน้อยของเราที่กำลังจะครบขวบในทริปนี้ด้วยค่ะ จุดนี้พีคมากๆน้ำตาจิไหลทำไมคนญี่ปุ่นละเอียดอ่อนเช่นนี้รักเลยค่ะพูดเลย



24 June 2016 : ได้เวลาเดินทาง (แม่ ลูก พี่เลี้ยง ยาย ไปสุวรรณภูมิด้วยรถตู้ของที่บ้านพร้อมคนรถที่บ้านไปส่ง / ส่วนคุณพ่อเลยจากที่ทำงานไปเจอที่สนามบินเลย) 18.00 ออกจากบ้าน / ประมาณ 19.30 เราก็ได้เช็คอินโหลดกะเป๋าก่อนใครละค่ะ ( flight 22.45 น)