Day 0 ♥ การเตรียมตัว & Rental car

Day 0 การเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง - วันเดินทาง - Changi International Airport (Singapore) - รับรถเช่า Apex Car Rent @Auckland




การเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง
ทริปนิวซีแลนด์ตะลุยทั้งเกาะเหนือ~ยาวไปยันเกาะใต้ 1-12 Dec 2011 ของพวกเราในครั้งนี้ เกิดขึ้นได้จากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนMBAจุฬา โดยมี "ปุ้ยปุ้ย" เป็นตัวตั้งตัวตี และวางแผนการเดินทางทั้งหมด
จากนั้นแหม่มกับษาและเราก็ตกลงปลงใจไปด้วย โดยมีพี่หมูหิน แฟนน้ำผึ้งติดตามไป โดยขอสมัครตำแหน่ง All-time Driver (เพราะชอบขับรถมาก~)

เราคุยๆกันตั้งแต่ต้นปี ประมาณช่วงมีนา-เมษา แล้วก็ตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินกันตั้งแต่ไก่โห่ นั่นคือวันที่ 5 เมษา เนื่องจากราคาช่วงนั้นโปรดี (ตั๋วไปกลับรวม 28,585 บาทไทย)
ขาไป ไปแอร์เอเชียต่อ Jet Star = 13,527 และ ขากลับ กลับแอร์เอเชีย = 15,058 แต่เรื่องที่ฮามากคือวันที่โทรไปชวนแฟนตัวเอง พี่เค้ากังวลเรื่องวันลาไม่พอ

น้ำผึ้ง : พี่ พี่ น้ำผึ้งอยากไปนิวซีแลนด์กับเพื่อนๆได้ป่าว


พี่มห. : (น้ำเสียงยิ้มแบบหัวเราะๆ) ก็เอาสิคะ ไปนานปล่าว


นผ : (น้ำเสียงอ่อยๆ) ^^ หกวันได้ป่าว..

พี่มห. : อู้หูไปตั้งหกวันเลย นานจัง


นผ : (น้ำเสียงอ่อยหนักเข้าไปอีก) ^^" ป่าว.. หกวันน่ะ วันลา

พีมห. : ..........




แฮ.. แฮ.. แล้วเราก็ผ่านพ้นตรงจุดนั้นมาได้ สรุปว่ารวบหัวรวบหางไม่รู้แหล่ะน้องอยากไป คุณพี่ก็ต้องไปเป็นเพื่อนน้อง ( 555+ )
สุดท้ายเลยต้องหลอกล่อว่า ไปคราวนี้จะเช่ารถขับกันเองกางแผนที่กันเองด้วยน๊า (ล่อหลอกถูกจุด) พี่เค้ารีบตอบว่างั้นไปๆๆ ฝากบอกปุ้ยให้พี่ด้วยถ้าให้พี่ขับ พี่ไป !! 55+ ( โถพ่อคู้น ไม่มีใครเค้าบ้าขับรถเหมือนคุณหรอกค้า เอาเลย เอาเลย ยอม )

ขั้นตอนต่อมา ก็เป็นเรื่องของการแบ่งกันทำหน้าที่ในทริป เรารับหน้าที่จองรถ
พี่มห.ศึกษาทาง
ษาเป็นคนเตรียมเรื่องกับข้าว แหม่มดูแลเรื่องที่พัก ส่วนเป้กับนี๋เพิ่งมา join ทริปทีหลัง เลยรับอาสาเรื่องรูป เธอจัดแจงแบกไปทั้งขาตั้งกล้อง & External harddisk จึงช่วยรวบรวมดูดรูปจากทุกกล้องและไรท์ให้เพื่อนๆ และเป้อาสาเป็นพลขับสลับไม้สอง ให้กับพี่หมูหิน

ขั้นตอนการจองรถก็ไม่ยุ่งยากอะไรมาก (แต่ใช้เวลาอดตาหลับขับตานอนหลายวัน! 55+ อีนี่แม่งเยอะ)
เพียงแค่เลือกรุ่นรถที่เหมาะกับจำนวนสมาชิก และเลือกบริษัท Car rental ที่เชื่อถือได้
โอ๊ยทีแรกมาหมดทั้ง Omega , Ace , Your way , Avis , Budget , Hertz ยาวไปยันถึงโน่นน Europ Car (เพราะอยากได้ KIA -Carnival ฮิๆ ) มีบางแว่บแอบเหลียวหลังมามองพวก Quality กับ Ginz บ้างเหมือนกันเพราะถูกดี
แต่สุดท้าย ก็มาตัดใจได้ที่บริษัท Apex นี่แหล่ะซึ่งเป็น Local company ที่ก็เห็นคนไทยหลายๆคนชอบใช้กัน ราคาก็ไม่ค่อยแพง (แต่ไม่ถูกที่สุดนะบอกก่อน) ที่สำคัญชอบที่เค้า "การันตี Model" (เป็นอีกปัจจัยสำคัญเลยนะ ที่ทำให้เราเลือกที่นี่ เพราะไม่อยากได้รถเก่าๆโทรมๆ ชีวิตทั้ง7ชีวิต เป็นสิบวันฝากไว้กับมัน)
อ้อ ลืมบอกไปรถที่น้ำผึ้งเช่าคือ TOYOTA PREVIA เครื่องยนต์ 2400 cc. ปี 2006-2010

เลือกรถได้แล้วเราก็ทำ Quatation เข้าไป และรอเค้าตอบรับกลับมา ซึ่ง มิสเตอร์ไมเคิล ที่เราดีลด้วยก็ทำงานเร็วตอบไวและน่ารักดี สรุปค่าเสียหายครั้งนี้อยู่ที่ 2,067 NZD - ประกอบด้วยค่าเช่า 127 เหรียญต่อวัน, ค่าเช่าGPS วันละแปด, ค่าประกันภัยแบบ Full Insurance/Zero Access วันละ 12, ค่าคืนรถนอกเวลาทำการ 25 เหรียญ และ ค่าเรือเฟอร์รี่บริษัท InterIslander วันที่ 4 Dec คนละ69$ ค่ารถขึ้นเฟอรี่ 89$ ครึ่งราคาจาก178$ เพราะเป็นโปรโมชั่นเช่าเกิน10วันของที่นี่จ้า ( จริงๆต้องฟรีเลยแต่เฉพาะเรือรอบเช้าสุดเท่านั้น ซึ่งเราไม่โอเค จึงไปไฟท์มาจนสำเร็จที่ลด 50% เย้ๆ) จากนั้นเค้าจะให้เรากรอกข้อมูลบัตรเครดิตไว้ก่อน แต่จะทำการตัดบัตร ก็ต่อเมื่อเราเข้าไปทำการที่ออฟฟิศเค้า โดยปรินท์ Voucher เพื่อนำไปแสดงในวันจริง



มาเข้าเรื่องที่พักกันบ้าง

ที่พักของเราในแต่ละเมืองที่หนู๋แหม่มศรีจองให้เป็นดังนี้ค่ะ
(ส่วนใหญ่พวกเราจองเป็นแบบ Shared room นะคะนอนกลิ้งรวมกันทั้งหมดนี่แหล่ะหนุกดีถูกด้วย)
1. Pentland @Auckland (www.pentlands.co.nz) คืนละ 28 เหรียญ/คน
2. Blackcurrant Backpackers @Taupo ( //blackcurrantbp.com/ ) 27 เหรียญ
3. Tombstone Backpackers @Picton ( //www.tombstonebp.co.nz ) 28 เหรียญ
4. Jailhouse Accommodation @ไครเชิร์ช ( //www.jail.co.nz ) 30 เหรียญ
5. Global Village Backpacker @Greymouth ( //www.globalbackpackers.com/ ) 33 เหรียญ
6. Fox Glacier Holiday Park @Fox ( www.fghp.co.nz/ ) 28 หรียญ
7. Wanaka Bakpaka @Lake Wanaka ( //www.wanakabakpaka.co.nz ) 26 เหรียญ
8. TOP TEN HOLIDAY @Te Anua คืนละ 40 เหรียญ
9. Central Backpackers @Dunedin (www.bbh.co.nz) คืนละ 27 เหรียญ

ที่แรกสุดก็ดี มีห้องครัวส่วนกลางให้ยืมใช้เก็บล้างคืนปกติ ^-^ ห้องน้ำส่วนกลางเหมือนกัน ชอบที่จอดรถได้หน้าที่พักเลย แล้วก็มีซุปเปอร์มาเกตใกล้บ้านขับรถไปนาทีเดียวถึง (ชื่อ Countdown)
ที่ต่อๆมาก็จะเป็นเตียงสองชั้นบ้าง เตียงคิงส์ไซส์บ้าง และมีอะไรคล้ายๆกันกับที่แรก ยกเว้นที่ Fox เราจะต้องเสียค่าเช่าเครื่องครัวต่างหาก (กระบุงละ 5 เหรียญครบเซต) แล้วก็เช่าผ้าห่มเพิ่มผืนละ 6 เหรียญแถมผ้าเช็ดตัว ฮ่าๆๆ แต่ชอบที่นี่มาก รู้สึก privacy ดีเหมือนมีแต่พวกเรา ที่สำคัญระหว่างทำอาหารเรามี Trampoline ขนาดยักษ์ให้โดดดึ๋งๆเล่นกันลืมอายุ สนุกม๊าก

ที่ๆแพงที่สุดของเราทริปนี้ อยู่ที่ Lake Te Anua ซึ่งเดิมเราต้องพักที่ควีนส์ทาวน์แต่เปลี่ยนแผนนิดหน่อย
ที่นี่ก็ต้องเบิกเครื่องครัวเหมือนกัน (แต่รวมอยู่ในค่าห้องแสนแพงแล้ว) ^-^ แต่ก็ไฮโซตรงที่ทุกห้องมีจานชามในลิ้นชักเป็นของตัวเอง มีแอร์และTVของใครของมันทุกห้อง (แต่ไม่ได้เปิดเพราะมันหนาว 555+)




และก็มาถึงการเตรียมตัวเรื่องปากท้องกันบ้าง

ตั้งแต่เมืองไทยที่ษา(และปุ้ย)ช้อปปิ้งข้าวของเครื่องปรุง ข้าวสาร และซอสต่างๆไว้ครบมือทุกกระเบียดนิ้ว รวมถึงฝึกหุงข้าวสวยด้วย microwave (ไฮโซ๊ว~) ทำให้เราอุ่นใจมากเรื่องอาหารการกิน (เฮ~ อาหารไทย)



งานนี้เรามีทั้งวาซาบิ ซอสญี่ปุ่น คนอร์ มาม่า ซอสเทอริยากิ น้ำปลา พริกไทย เครื่องเทศ ผงปรุงรสมากมาย พอที่จะทำให้พวกเราอิ่มพุงแตกตายกันไปในทุกๆมื้อ (เมนูที่ทำทานกันที่นั่นได้แก่ : ไก่กระเทียม แกงเขียวหวานเนื้อ ไข่เจียวหมูสับ ผัดผักดอกกะหล่ำ ไข่ตุ๋น ลาบวุ้นเส้น ต้มยำไก่ หมูกะเทียม ไส้กรอกแกะย่าง สเต๊คเนื้อหมูไก่ แล้วก็เนื้อแกะ)



ความประทับใจกับการไปเที่ยวเองครั้งนี้

นิวซีแลนด์เปนประเทศที่ตลอด2ข้างทางสวยมากๆ (ก่อนบิน คิดแต่ว่ากลัวจะนั่งรถเบื่อ อุตส่าเซฟ app นู่นนี่ใส่ tablet ไว้เยอะเลย สุดท้ายไม่ได้เล่นเลย 55+) ไม่สามารถก้มหน้าได้แม้แต่วินาที ไม่อยากให้อะไรมาพรากสายตาเราไปจากวิวสวยๆ ได้เลย
ในความรู้สึกแล้วประเทศนิวซีแลนด์มีข้อดีเยอะมาก หนึ่งแกะเยอะ เยอะจนราชบุรีเราแพ้ไปเลย (ฮา) เยอะแบบกว่ามากกว่าประชากรคนอีก เราแทบไม่เห็นคนแต่เราเห็นแกะ แกะเหมือนเมล็ดข้าวสารสีขาวเกลื่อนเป็นจุดๆบนทุ่งหญ้า!!







สองคือเรื่องความซื่อสัตย์ของผู้คนในนิวซีแลนด์ การมีระเบียบต่อกฎหมายเอย วินัยบ้านเมืองเอย สิ่งนี้เป็นอะไรที่เค้าปลูกฝังกันมาดีจริงๆ ที่ประเทศอย่างเราอาจจะ เอ๋อ ไปเลยในบางเรื่องเพราะเรามันมาจากประเทศที่มีวินัยและคุณธรรมตรงข้ามกันอย่างรุนแรง (ฮา) เช่น การคืนรถเช่าทิ้งไว้ที่สนามบินโดยไม่ต้องล็อครถ และยังให้ทิ้งกุญแจไว้ในเก๊ะ (!!!พระเจ้า ถ้าเป็นเมืองไทย หายแน่ๆ) อึ้งทึ่ง และมันทำให้ในบางทีเราจะยังกังวลไม่เลิกอีกด้วย ประมาณว่าก็แหมนะ คนมันไม่เค๊ย~ ไม่เคย

หรืออย่างเรื่องการเสียค่าที่จอดรถที่ให้หยอดเงินใส่ตู้เอาเอง (ทำได้ไงค๊าบ นับถือๆ)~ ไม่ว่าจะเป็นบนอาคารจอดรถ หรือตามฟุตบาท ยาวไปจนถึงการเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัดเป๊ะ หรือเรื่องการหยุดรถให้คนข้ามถนน ทึ่งอ้ะค๊า~
จนมันทำให้เรารู้สึกว่าเป็นประเทศที่น่าอยู่ เป็นประเทศที่ผู้คนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินค่อนข้างสูง (แม้ตามสถานที่ท่องเที่ยวจะมีโจรบ้าง เรื่องธรรมดา) ขนาดเพื่อนๆยังพูดในรถกันเล่นๆว่าในวัยเกษียณอายุ อยากมาใช้ชีวิตที่นี่

สาม..คือน้ำประปาดื่มได้ สี่..คือซุปเปอร์มาเกตใหญ่ๆมีแทบทุกเมือง น้ำผลไม้และนมราคาถูกเมื่อเทียบกับน้ำเปล่า สนุกดี

ห้า..อากาศดีมากกกกกกกกกกกก
ขนาดซัมเมอร์ที่เราไปอุณภูมิกลางวันยังราวๆ 9-20 องศา

หก.. กิจกรรมสนุกๆให้ทำมีเยอะ และมีความปลอดภัยสูง เช่น ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมธารน้ำแข็งบนเขา , กระโดดบันจี้จัมพ์ (เจ้าแรกของโลก) , Shotover Jet , Sky Gondola และ Luge , Puzzling world ที่ทำให้โลกพิลึกกึกกือ งงงวย สนุกสนาน , สวนนกกีวี , ฟาร์มลามะ , ล่องมิลฟอร์ซาวด์ , ดูปลาวาฬยักษ์ขนาดใหญ่ลำดับสองของโลก , ถ้ำที่มีหนอนเรืองแสง (ระยิบระยับสวยเหมือนดูดาว) ฯลฯ

นับข้อดีได้ตั้ง 6 ข้อแล้ว ทุกๆคนก็รีบเก็บสตางค์ เก็บกะเป๋า ทำใบขับขี่ แล้วก็รีบจองตั๋วเครื่องบินมาเที่ยว New Zealand กันเถอะนะจ๊า~ ซักครั้งในชีวิต (A must เลย)





เอาล่ะโม้เกริ่นนำมาตั้งนานละ ได้เวลามุดลงกระเป๋า Backpack ของพวกเราแล้วตามมาเที่ยวกันอย่างละเอียดกันได้แล้วค่าาา ~

1 ธค. 54 : วันนี้เป็นวันพฤหัสแต่ไม่ได้ไปทำงาน เพราะเตรียมตัวไปขึ้นเครื่องเที่ยวบิน 13.10 ที่สุวรรณภูมิ
เช้ามา เช็คกะเป๋า Backpack ครั้งสุดท้ายเติมนิดนี่หน่อยยัดไม่เข้าละ ( 555+ ความจิงรูดซิปมาตั้งกะอาทิตย์ก่อนละ ไม่อยากเปิดแล้วกลัวรูดกลับไม่ได้ )
สุดท้ายก็ออกจากบ้าน ให้คนรถที่บ้านไปส่ง คนรถก็ชวนคุยโน่นนี่ บอกว่าดีจังเลย ได้มีโอกาสไปเที่ยวแบบนี้ในชีวิตกับเพื่อนสนิท คงสนุกมากๆไปเองกับเพื่อนๆ
พอไปถึง BTSหมอชิต พี่มห.ก็สะพายเป้ของตัวเอง และลากกะเป๋าใบน้อยของเราขึ้นบันไดไปให้
มาลงที่สถานีพญาไทเพื่อขึ้น airport link ต่อ (คนมองเยอะเหมือนกัน อาจเพราะใส่เสื้อสกรีน NZ เหมือนกันก็เป็นได้ )

ขั้นตอน Check-in เร็วมว๊าก :) เร็วเกิ๊น~ เนื่องจากไม่มีกะเป๋าโหลด (มันดีตรงนี้แหล่ะ) เราจึงเข้ามาข้างในกัน และไปเลาจน์ที่เก่าเวลาเดิม Louis Tavern CIP first-class lounge
ปักหลักกินกะเพรา V.S สตรอเบอรรี่จากเชียงใหม่ของดุ๊ก เอ๊ย!กินของว่างเครื่องดื่มในเลาจ์เค้าซักพักก็นอนเอ้อระเหยเล่นเนต เช็คบีบี ร่ำลาพ่อแม่พี่น้อง ฝากฝังมูมู่น้อยไว้กับแฟนพี่ชายเสร็จ สบายใจก็ถือกะเป๋าเข้าสู่ตัวเครื่อง

พอมาถึงที่หน้า gate ปรากดว่าเครื่องท่าทางจะดีเลย์จริงจัง (เที่ยงห้าสิบแล้วเครื่องยังไม่สวมปล่อง)
เจอพี่ตุ๊กที่รู้จักทักเลยคุยกันว่าพาลูกไปเที่ยวสิงคโปร์ ส่วนเราจะไปแค่เพื่อทรานซิทเปลี่ยนเครื่องไปโอ๊คแลนด์~
ก่อนขึ้นเครื่องได้ sms จากนี๋กับเป้ว่าถึงสิงคโปร์แล้ว (กรี๊ด รอชั้นโด้ย~)
วื๊ดเดียวไม่ถึง 2 ชม.เราก็บินมาถึงสนามบิน Changi airport สิงคโปร์ >> พี่มห.รีบลากกะเป๋าไปหาที่เช็คอินตั๋วของ JetStar ทันทีเพราะกลัวไม่ทันเครื่อง (เวลาเที่ยวบินห่างกันสามชม.ก็จริง แต่แอร์เอเชียดันดีเลย์ไปซะเยอะ เลยกลัวจะตกเครื่อง)
คุณ Cristine ผู้จัดการธนาคาร Standard Chatered ที่สิงคโปร์ก็มายืนคอย อยู่หน้าทางออกผู้โดยสาร ทักทายและพาเราไปที่เคาเตอร์เช็คอินด่วนจี๋ และจัดแจงเลือกร้านอาหารให้เสร็จสรรพ เพื่อที่ว่าจะพาเราสองคนไปเลี้ยงอาหารสิงคโปร์ซักมื้อเป็นการขอบคุณที่เคยมาเมืองไทยแล้วได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี

ข้าวมันไก่กับหมี่โกเรงโคดอร่อย (หรือว่าเราหิวแฮะ)
เข้ากันได้ดีมากกับ Soda mint พร้อมเนื้อลิ้นจี่

ร่ำลาขอบคุณคริสตินแล้วเธอก็พาเรามาส่งถึงตรง Departure เลย น่ารักมากๆ
ขึ้นเครื่องมาปุ๊บแอร์สจ๊วต ก็มาเสิรฟอาหารเราก็เชอะหยิ่งเพราะกินมาแล้วก่อนขึ้นเครื่อง (ฮา)
แต่ที่ไหนได้พอหลับไปตื่นนึง ประมาณ 6 ชม.ผ่านไป ดันตื่นขึ้นมากลางดึกด้วยความหิวและหนาว (เวลาบินรวมทั้งหมด 9 ชม.)
เลยปลุกพี่มห.ขึ้นมาปรึกษาว่าจะเรียกสจ๊วตมาสั่ง Cup noodle กินดีมั้ยหนาวจัง

พี่เค้าไม่รอท่า รีบกดเรียกมาในทันใด
ปร๊าดเดียวคุณสจ๊วตก็เอามาคุกเข่าเสริฟเรา ท่ามกลางความมืด
(เค้าปิดไฟให้ผู้โดยสารคนอื่นนอน แต่อีนี่ดันหิว) ^^
บอก 5 เหรียญ AUD (แถมไม่รับ cash อีก) โอ๊วพระเจ้ารูดบัตรเครดิตไปร้อยกว่าบาท คอยดูจะกินให้ไม่เหลือน้ำซักหยด(ฮา)
เงินซื้อความสุขได้จิงๆ ซดไปสองคำ ร้อนจี๋มีความสงบ และสุขสุดๆหายหนาวเลย ฝรั่งผู้หญิงข้างๆคงแอบอิจฉา (จริงๆคงรำคาญ) 55+ กินๆได้พักเดียว ทั้งลำก็เปิดไฟพรึ่บพรึ่บ สว่างแล้วกัปตันประกาศลดระดับ
เย้ ใกล้ถึงแล้ว นิวซีแลนด์ๆๆๆๆ แดนกีวี - - กรู๊วว์ ^0^//

ตลอดการเดินทาง 9 ชม.รู้สึกว่าจะลุกฉี่สองครั้ง ยืดเส้นยืดสายไปในตัว
ลงมารวมพลกันตรงสายพานรับกะเป๋า ชักภาพสมาชิกครบทีมกันหน่อยยยย



ได้กะเป๋าครบทุกใบแล้วก็เข็นไปผ่านตม. (ดีใจที่สุดคือกะเป๋าเสบียงอาหาร ไม่หาย 55+ เย้)
เค้าก็ถามว่าจะ declare ใบไหนก็ชี้ไปที่ใบนั้น แล้วเค้าก็ยกขึ้นโต๊ะ ทำการชันสูตร เอ๊ย!เปิดดูทีละชิ้น ชิ้นไหนสงสัยก็ถามพวกเราก็ตอบได้หมด
สุดท้ายก็เฮ .. ผ่านหมดทุกชิ้น (แต่เก็บเองนะ 55+ โห รื้อซะกระจุยเชียวคุณลุง)

เข็นกะเป๋าออกมา พร้อมต่อสายหาเบอร์ Toll free ของรถเช่า Apex
สายไม่ว่างพักใหญ่ก็มีคนรับ และบอกให้พวกเรามายืนรอตรงหน้า McDonald กำลังส่ง shuttle ออกไปรับอยู่

เลี้ยวซ้ายมานิดเดียวก็เป็น Mc แล้ว ยืนรอ5นาทีก็มีรถมาจริงๆแต่ดันชนกันสองกรุ๊ป
เค้าเลยเลือกรับ Family นั้นก่อนเพราะมีเด็กๆเยอะ ส่วนพวกเราวับสะรุ่นล้วนก็รอไป
(เค้าบอกให้เอาเฉพาะกะเป๋าไปก่อนนะเด๋วเรียกอีกคันมารับให้ พร้อมกับเรียกพี่มห.ไปทำเรื่องที่ออฟฟิศที่อยู่ห่างสนามบินไปแค่ 5 mins :) เราเลยขอติดรถไปด้วยคน)

ออกรถปุ๊บคุณแจ๊คกี้ก็ทักทายโอภาปราศรัยทุกคนบนรถ แนะนำตัวและชวนคุยต่างๆนานา จน5นาทีก็มาถึงสำนักงานเค้า ซึ่งมีเคาเตอร์พร้อมพนักงานอีกราวๆ 4-5 เคาเตอร์ได้ ดูดีทีเดียว
เรากับพี่มห.ล่วงหน้ามาก่อน ^^
เราก็เลือกไปนั่งที่หน้าโต๊ะคุณป้าคนนึงดูใจดี (แต่หน้าดุ) ^^' พร้อมกับเปิด Tab ให้แกดูเลขที่ Bkg ที่เราจองออนไลน์มา
พิมพ์ๆไป ป้าแกก็ขอดูใบขับขี่สากลของทุกคน เราเลยบอกว่าคนอื่นๆกำลังมากับรถอีกคัน ^-^ (ฝนก็ดันปรอยลงมาซะงั้น แถมกะเป๋าสเบียงหายอีกตะหาก คงติดไปกับ shuttle คันเดิมที่วนกลับไปรับลูกค้าคนอื่นที่สนามบิน ตกกะใจกันแทบตาย ดีนะว่าสุดท้ายก็หาเจอ เฮ- -)
ระหว่างป้าแกนั่งพิมพ์ทำเรื่องให้ เราก็ตื่นเต้นเพราะเห็นรถ Toyota Previa สีขาวคันงามจอดอยู่ที่ลานหนึ่งคัน สวยเข้าตามาก และในที่สุดหลังจากเราอ้อนถามเค้าว่าใช่คันสีขาวนั้นมั้ย (เพราะมีคันสีเงินที่เก่ากว่าจอดอยู่ใกล้ๆด้วย! กลัวได้คันนั้นมาก><)
สรุปสุดท้ายเค้าก็ยิ้มหวานและบอกว่า Here You are ! เย้ (วี๊ดๆๆ) คุ้มค่ากับการที่งุ๊งงิ๊งกระแซะถาม แม้ป้าแกจะจุ๊ปากให้เรารอ ก็ตาม(แป่ว) >< ก็เก๊ากัวไม่ได้นี่หน่า เครี๊ยดค้า (ชอบรถสีขาว)

พวกเราทุกคนตกลงใจรูดบัตรแบบซื้อน้ำมันถังแรกในราคา 20% discount ด้วยเลย รวมเป็นยอดเงิน 2,067+107 = 2,174 nzd (เรตวันนั้น 24.8 บาท)
มาถึงขั้นตอนตื่นเต้น (ลุกไปดูรถ) ป้าแกก็ congratulation ชั้น เย้ๆ คุณได้สิทนั้นเด๋วนี้ รถคันขาวสวยงามเลิศหรูก็มาเกยตรงหน้า
พร้อมกับเอกสารตรวจรับรถ
คำอธิบายวิธีคืนกุญแจที่ไครเชิช , Voucher ของ ferry ticket (ซึ่งเค้าขอชื่อนามสกุลครบทุกคนเป็น Eng ไปเมื่อซักครู่)
พร้อมกับ box ใส่ Navigator เย้ๆ ตื่นเต้นพร้อมออกเดินทางแล้ววววว
พวกเราบรรจงลำเลียงกะเป๋าสัมภาระทั้ง 7 ใบขึ้นท้ายรถอย่างลุ้นระทึก (ว่ามันจะไม่พอ 55+) แต่สุดท้ายก็สำเร็จ โว้ววว
เอาของพี่มห.มาไว้ตรงเกียร์แค่ใบเดียว นอกนั้นวางได้หมดเลย (กะเป๋าเสบียงด้วย)





Taaa Daaa ♥ ♥

เป็นยังไงบ้างค๊า รถที่น้ำผึ้งภาคภูมิใจมากมายสวยมั้ย จ๋วยมั้ยๆๆ
( 555+ ฝันที่เป็นจริง ได้รถอย่างที่ตั้งใจจองมา เฮ้อหมดความกังวลกันซักทีเน้อ)
(วันจริงแฮปปี้มาก รถวิ่งไปแค่สี่หมื่นกว่าโลเอง 44,545 kms. สภาพใหม่เว่อร์ ขาวเด้ง ออร่าเปล่งประกายระยิบระยับวับวาว .. เอ้า เอ้า ชักเพ้อ) ^-^=


ขึ้นรถได้เราก็กด GPS ไปยังจุดหมายแรกเลยนั่นก็คือพิพิธภัณฑ์เพนกวินและสัตว์น้ำ Kelly Tarlton's ใน Auckland (สังเกตุเข็มน้ำมันอยู่ที่ Full ล้นๆเลยด้วยซ้ำ ดีจัง)^-^
ออกเดินทางพร้อมหน้าที่ Nevigator สาว & ตุ๊กตาหน้ารถของคนขับสุดหล่อแฟนเราเอง พร้อมเพื่อนๆที่มีแต่ความสนุกเฮฮาตลอดการเดินทาง



เอาล่ะพร้อมกันรึยังคะ ถ้าพร้อมแล้วคาดเข็มขัดนิรภัยให้พร้อมแล้วไปลุยกับพวกเราในหน้าถัดไปกันเลยค่า~




Click Here >>> Let's Go to Auckland ♥ Day1 ♥

Create Date : 15 ธันวาคม 2554		10 comments
Last Update : 19 ธันวาคม 2554 14:29:40 น.
Counter : 10434 Pageviews.
Share Tweet