Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
6 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
[Yaoi]Noctilucent Ep.02

ชื่อที่หลุดออกมาทำให้มือที่กำคอเสื้ออยู่แน่นนั้นคลายลงด้วยความแปลกใจ “ทำไมรู้ว่าเป็นผม....?”เสียงที่ถามกลับมา เบาจนแทบเป็นเสียงกระซิบ

“ฉันเป็นแฟนBizarreนี่...”

ประโยคสั้นๆที่หวังจะให้คนตรงหน้าดีใจกลับทำให้บรรยากาศหนักอึ้ง คือเสื้อที่อยู่ในกำมือแน่นเมื่อครู่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมานอกจากเสียงถอนหายใจยาว ทำเอาสึโอชะงักกึก....พูดอะไรผิดป่าววะ?

“คุณรีบหนีไปได้แล้ว ทหารRevล้อมที่นี่ไว้หมดแล้วนะ” ร่างเล็กกว่าหันหน้านี้เหมือนหลบสายตา ถึงจะมองไม่ค่อยเห็น แต่สึโอก็รู้สึกถึงบรรยากาศรอบตัวคนตรงหน้าที่เปลี่ยนไปยามที่เขาพูดคำว่าBizarre

“ขอโทษ....ฉันไม่ได้ตั้งใจจะ....”

“ไม่ต้องพูดหรอก คุณรีบไปเถอะน่า...” เด็กน้อยเริ่มเสียงแข็ง น้ำเสียงออกกระชากจนอีกฝ่ายผงะเหมือนกัน ขนาดอย่างเขาเจอพวกเขี้ยวๆมาก็เยอะ...เด็กนี่มันอะไรกัน...

แต่ถึงกระนั้นมือใหญ่ก็คว้าข้อมือเล็กกว่าอย่างถือวิสาสะทันควัน “นายก็ไปด้วยสิ”

“ไม่ไป! ไม่ต้องมายุ่งกับผมหรอก” พยายามจะสะบัดแต่ก็ไม่ได้ทำให้คนตัวโตกว่ายอมปล่อยมือง่ายๆ

“ไม่ยุ่งไม่ได้หรอก ดูสภาพนายสิ ฉันไม่เห็นหรอกนะ แต่เสียงหอบดังลั่นขนาดนี้ยังคิดจะกลับไปฟัดกับพวกมันอีกหรอ เดี๋ยวก็โดนพวกมันรุมตายพอดี”

“จะตายหรือเปล่ามันก็ไม่เกี่ยวกับคุณไม่ใช่หรอ!! ผมมันก็แค่ตัวคนเดียว ตายไปก็ไม่มีใครสนใจหร..”

เพี๊ยะ!!!

เหมือนในหัวชาวาบไปชั่วครู่ด้วยความโกรธ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกของร่างสูงเลยก็ได้ที่เขาฟิวส์ขาดใส่คนที่เพิ่งคุยกันเป็นครั้งแรกทั้งที่ปกติ คนอย่างเขาจะความคุมอารมณ์ได้ดีจนเรียกว่าเย็นชาเสียด้วยซ้ำ แต่นี่เขากลับลงไม้ลงมือกับคนที่เพิ่งเจอเป็นครั้งแรก..

...ไม่สิ นี่ไม่ใช่การเจอกันครั้งแรกสักหน่อย...

จูลิโอ...

พี่ชาย...เจ็บมากไหมฮะ?

ความทรงจำอันไกลแสนไกลที่ผุดขึ้นมาทำให้ความเจ็บปวดแล่นริ้วขึ้นมาในอกจนรู้สึกบีบคั้น “เด็กบ้า..อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ” เสียงทุ้มเค้นรอดไรฟันออกมาจนเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าได้แต่ตกตะลึง

แต่ยังไม่ทันจะได้ถามอะไรออกไป เสียงที่ดังแทรกขึ้นมาก็เรียกความสนใจของคนทั้งคู่อย่างเลี่ยงไม่ได้

“เฮ้ย!! มันอยู่นั่น!!!”

แสงไฟจากกระบอกไฟฉายของทหารRevส่องมาจากด้านหลังตามมาด้วยเสียงโหวกเหวกโวยวายจนฟังไม่รู้เรื่อง

สึโอไม่รอช้า อาศัยจังหวะทีเผลอคว้าข้อมือร่างเล็กตรงหน้าแล้วลากให้วิ่งตามตนมาโดยไม่เปิดโอกาสให้ประท้วง

“คุณ...! ปล่อยนะ!!”

“ไม่ปล่อย ถ้าปล่อยแล้วนายจะย้อนกลับไปตายล่ะก็ ไม่มีทาง” ดวงตาสีม่วงส่องประกายกล้ายามหันมาพูดกับคนที่วิ่งตามอยู่ด้านหลัง แววตาที่สร้างความสับสนให้ร่างเล็กกว่าที่กำลังโดนลากให้วิ่งตามอยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้

...ทำไมต้องทำหน้าอย่างงั้นใส่ด้วยฟะ?...
จูลิโอรู้สึกหงุดหงิดยังไงบอกไม่ถูก เขาไม่ชอบสีหน้าแบบนี้ของคนที่ไม่รู้จัก สีหน้าของการตัดพ้อเรื่องการไม่ให้ความสำคัญกับตัวเอง

แล้วมันเรื่องอะไรของเขาล่ะ จูลิโอร้องโวยวายในใจ แต่มือใหญ่ที่กระชับแน่นขึ้นนั้นทำให้ความคิดที่กำลังโวยวายอยู่หยุดกึก ไม่มีการต่อปากต่อคำใดๆกันอีก มีแต่เสียงฝีเท้าและเสียงโหวกเหวกที่ไล่ตามมาจากด้านหลังเท่านั้น

เสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้ทีละน้อย กับซอกทางเดินที่ทอดยาวอยู่เบื้องหน้า ที่ยังไม่เห็นวี่แววทางออกเลยแม้แต่น้อย

....ขืนยังเป็นแบบนี้โดนไล่ตามทันแน่....

“นี่คุณ...ปล่อยผมก่อน” จูลิโอคิดอะไรบางอย่างออก แต่คงลงมือทำอะไรไม่ได้แน่ ถ้าคนตรงหน้ายังยึดมือเขาไว้แบบนี้

“ฉันไม่เถียงกับเธออีกรอบหรอกนะ” ร่างสูงที่วิ่งอยู่ด้านหน้าไม่แม้แต่จะหันมามอง

“ปล่อยก่อนเถอะน่า อย่างงี้เราหนีไม่ทันหรอกนะ”
ไม่มีคำพูดใดๆตอบกลับมา ชิ ใช้วิธีเดียวกับเวลาเลี้ยงเด็กเอาแต่ใจงั้นหรอ หึ...ดีล่ะ

“นี่ตาลุงหื่น ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ คิดว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วจะทำอะไรก็ได้หรือไง” เจ้าเด็กแสบแผดเสียงดังลั่น กะว่าทำเป็นไม่ได้ยินยังไงก็ต้องเข้าหูแน่นอน

แล้วก็ได้ผล ชายหนุ่มวัยสามสิบต้นๆที่ใครๆต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวว่าสุขุมเยือกเย็นมีบุคลิกน่าเกรมขามเมื่อเทียบกับคนวัยเดียวกัน หัวกะทิแห่งหน่วยวิจัยและพัฒนาของบริษัทในเครือเอเวอโรน จะมาดกระเจิงก็วันนี้แหละ

“นี่แหนะเจ้าตัวแสบ นายเรียกใครว่าลุงหื่นกัน ห๊ะ" สึโอหันขวับกลับมาหาร่างเล็กกว่าที่วิ่งตามอยู่ด้วยแววตาประกายกล้า หนอย...มันจะมากไปแล้ว พออ่อนข้อให้หน่อยมันลามปามขนาดนี้ ขอหันไปเขกกะโหลกซักทีเหอะ...

...แต่พอหันกลับไปเท่านั้นแหละ...

ดวงตาสีมะกอกตอนนี้ฉายพราวไปด้ายประกายขบขันส่องประกายเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงอาทิตย์ ใบหน้าเปื้อนยิ้มน้อยๆอย่างเป็นธรรมชาติทำให้

บรรยากาศตึงเครียดรอบๆเหมือนจะหยุดเคลื่อนไหวไปโดยไม่รู้ตัว มานึกๆดู สำหรับร่างสูงแล้ว นี่น่าจะเป็นครั้งแรกล่ะมั้งที่เขาได้เห็นเด็กหนุ่มในระยะใกล้ขนาดนี้ ได้เห็นรอยยิ้มชัดเจนขนาดนี้

รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจผู้จัดการหนุ่มร้อนวาบ

“ฮะๆ คุณนี่ไม่เหมือนในทีวีเลยนะ” จูลิโอเอ่ยปนเสียงหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆดึงมือใหญ่ออกจากข้อมมือตัวเอง “ผมนึกอะไรดีๆออกแล้ว เราจะได้ไม่ต้องหนีกันตาเหลือกแบบนี้”

พูดจบจูลิโอก็หันขวับกลับไปทางที่วิ่งมาโดยไม่รอให้ร่างสูงตรงหน้าพูดอะไรทั้งนั้น

...อยากเห็นมากกว่านี้...

ดวงตาสีอเมธิสต์ยังคงจับจ้องอยู่ที่แผ่นหลังที่เดินออกไปนิ่ง สิ่งที่เขาเห็นคือ ร่างเล็กที่ขยับกายสองสามครั้ง แล้วเพดานทางเดินก็เริ่มร้าว...ก่อนจะค่อยๆถล่มลงมา

เฮ้ยย....

สึโอกะพริบตาถี่ๆอีกหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองเห็นไม่ได้ตาฝาดไป

เพดานทางเดินเริ่มถล่มลงมาจริงๆ ใบหน้าตื่นๆถึงขั้นเริ่มเลิ่กลั่กของเด็กน้อยที่หันหลังเดินไปเมื่อครู่เป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดี เสียงโวยวายของจูลิโอสะท้อนเข้ามาในโสตชัดเจน

“วิ่งสิครับ จะยืน(ทำบื้อ)อยู่ทำไม”

คงเพราะที่นี่เป็นฮอลล์ใต้ดิน การที่เด็กหนุ่มไปพังโครงสร้างภายใน อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื่องถึงขั้นถล่มลงมาหมดได้

“นายทำอะไรน่ะ?” สึโอแผดเสียงถามแข่งกับเสียงถล่มของอิฐ หิน ปูน ทรายที่กำลังไล่จี้เขามาติดๆอยู่ข้างหลัง

“ผมก็แค่กะจะให้เพดานมันถล่มลงมาปิดทางผ่านของพวกทหารเท่านั้นแหละ ไม่คิดว่าโครงสร้างมันจะเปราะบางขนาดถล่มลงมาหมดแบบนี้” ไม่ๆ นั่นไม่ใช่คำตอบที่ร่างสูงอยากได้สักหน่อย เขาอยากรู้ว่าทำไมอยู่ดีๆมันถล่มได้ต่างหาก

“วิ่งไปเถอะฮะ อธิบายไปคุณก็ไม่เข้าใจอยู่ดี อ๊ะ เห็นทางออกแล้ว”
ป้ายทางออกติดไฟสีเหลืองสว่างโร่ที่เห็นอยู่ลิบๆตรงหน้านั้นทำให้คนทั้งคู่รู้สึกโล่งใจบอกไม่ถูก แต่ก็ไม่ได้ถึงกับโล่งใจมากมายนัก ถ้าไม่ใช้เพราะแรงถล่มที่ตามมาติดๆด้านหลัง

“ระวัง!!”
ร่างเล็กกว่าดึงคนข้างๆกระโดดอออกจากทางออกพ้นอย่างเฉียดฉิวก่อนที่เพดานทางออกจะถล่มใส่ ทั้งคู่กลิ้งหลุนๆไปด้วยกันจนมอมแมมไปหมด

“อูย...” ผู้จัดการหนุ่มโอดโอย หลังจากที่ได้ตัวช่วยหยุดเป็นต้นไม้ต้นเบ้อเริ่ม แถมยังต้องทำหน้าที่เป็นเบาะรองร่างเล็กกว่าตรงหน้าอีกต่างหาก ดวงตาสีอเมธิสต์หรี่มองเด็กน้อยอีกคนที่ลูบหัวป้อยบนร่างตัวเอง

....อืม แต่อย่างหลังก็ไม่ได้แย่นักหรอกนะ

“เธอ....เป็นไรมั้ย?” ขณะที่สึโอผงกศีรษะขึ้นมามองสภาพคนที่กำลังหอบแฮ่กจากการทั้งวิ่งทั้งลากกระโจนโดยดึงตัวเขามาด้วย กลิ่นหอมอ่อนๆจากเส้นผมของร่างตรงหน้าก็ลอยมาแต่ปลายจมูกร่างสูงโดยไม่ได้ตั้งใจ

“นั่นมันคำพูดผมต่างหาก ว่าแต่...” เด็กน้อยเอ่ยตอบเรียบๆ “ไม่ทราบว่าจะปล่อยผมได้หรือยังครับ?” จูลิโอเงยหน้าขึ้นมาจ้องร่างสูงเขม็ง ใบหน้าที่อยู่ใกล้จนปลายจมูกแทบจะสัมผัสกัน ทำให้คำพูดร่างเล็กกว่าแทบไม่ได้เข้าหูสึโอเลยสักนิดเดียว

มีแต่เสียงหัวใจที่เต้นโครมครามจนกลบเสียงอื่นจนหมด

“คุณ!!!” จูลิโอเรียกซ้ำด้วยน้ำเสียงเน้นย้ำกว่าเดิม ดังลั่นจนคนถูกเรียกสะดุ้ง

“หะ..อะไรหรอ?”

“ยังจะมาถามว่าอะไรอีก” ร่างเล็กขยับตัวอึกอัก “มือน่ะ อยู่ตรงนั้นมานานแล้ว จะปล่อยได้หรือยัง ผมไม่ใช่เด็กในสังกัดคุณนะ มิสเตอร์เฮนเดอร์เซน”

สึโอได้แต่ทำตาปริบๆ ใช้เวลาอีกหลายวินาทีกว่าจะรู้ตัวว่ามือใหญ่ของเขาวางอยู่ที่ไหน

สัมผัสจากสะโพกแน่นๆในมือกลับทำให้ร่างสูงลอบยิ้ม แทนที่จะปล่อย กลับรั้งร่างให้แนบชิดกว่าเดิม “ยังไม่ได้เป็นก็เป็นมันซะเลยเป็นไง หืม?” แถมเคลื่อนใบหน้าเข้าใกล้หวังสัมผัสริมฝีปากบางท่าทางนุ่มนิ่มตรงหน้า

...ท่าจะเข้าทางแหะ...ไม่เห็นว่าอะไรซัก...


โป้ก!!!

แทนที่จะได้ริมฝีปากนุ่มๆ กลายเป็นหน้าผากแข็งๆแบบเต็มแรงไม่มีการออมมือไปซะได้ เมื่อเด็กน้อยในอ้อมกอดไม่ได้ว่าง่ายอย่างที่คิด ฝ่ายจูลิโอต่างหากที่ทำให้หนุ่มเจ้าสำราญตายใจก่อนจะจัดการด้วยลูกโหม่งพิฆาตที่เล่นเอาร่างสูงเกือบได้นอนนับดาวต่ออีกรอบ

“ประสาท! โรคจิตนะคุณเนี่ย แล้วอีกคนที่อยู่กับคุณก่อนหน้านี้ไปไหนซะแล้วล่ะ?”

คำพูดของจูลิโอทำให้อาการมึนงงของชายหนุ่มหายเป็นปลิดทิ้ง จริงด้วย!! รีสหนีออกมาได้หรือเปล่าเนี่ย?!

“นี่..เธอรู้หรือเปล่าว่าทางออกอีกทางมันอยู่ทางไหนน่ะ” สึโอจับไหล่บางเค้นถามสิ่งที่ต้องการ ท่าทางกระตือรือล้นนั่นทำให้คนอ่อนวัยกว่าหมั่นไส้ไม่น้อย
“ทางออกฮอลล์นี้มีเป็นสิบนะครับ ถ้ายิ่งไหลไปตามท่อทางออกพวกนั้นด้วยล่ะก็ จะไปโผล่ฝั่งไหนนี่ไม่มีสิทธิ์รู้หรอก” จูลิโอตอบเหมือนปัดไปให้พ้นๆ “หมอนั่นก็เป็นผู้ใหญ่แล้วไม่ใช่หรอ มาดูคอนเสิร์ตแบบนี้เรื่องแค่นี้น่าจะเอาตัวรอดได้น่า” จูลิโอพูดฉอดๆ อย่างไม่ค่อยใส่ใจนักพลางค่อยๆปัดฝุ่นออกจากร่างกาย

“ไม่ใช่หรอก หมอนั่นโดนฉันลากมาต่างหาก ทุกทีฉันจะรู้ตัวก่อนจู่โจมแล้วหนีไปได้ก่อนซะส่วนใหญ่ แต่คราวนี้...” ท้ายประโยคเสียงอ่อยลงเหมือนเด็กสำนึกผิดพลางช้อนสายตามองร่างเล็กตรงหน้า ที่ดูจะไม่ได้สนใจสายตาเขาแม้แต่น้อย

“ทำไมฮะ? คราวนี้มัวแต่เหม่อมองเหยื่อใหม่อยู่หรือไง”

“อืม...ก็มัวแต่มองเธอนั่นแหละ”

คำพูดที่หลุดไปโดยไม่ทันคิดของคุณผู้จัดการ ทำเอาอดีตมือเบสวงดังหันขวับมามองคนพูดด้วยสายตาไม่เชื่อสุดๆ ส่วนคนพูด แม้จะพูดไปแล้วก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป จนกระทั่ง...

“อ๊ะ... เอ่อ... เมื่อกี๊ฉันพูดอะไรนะ...” สึโอออกแนวเอ๋อขึ้นมาเสียเฉยๆ เล่นเอาคู่สนทนาเซ็ง เขาก็พอรู้นิสัยคนตรงหน้าจากพวกข่าวกอซซิปอยู่บ้างหรอก แต่พอนึกว่าตัวเองก็โดนเหมือนกันด้วยแล้วมันน่าทิ้งไว้ให้เพดานถล่มทับจริงๆ

“มุขจีบเด็กเห่ยๆแบบนั้นน่ะ ขอเหอะ อย่าเอามาใช้กับผมเลย” พูดจบก็ทำท่าจะเดินไปอีกทาง อารามว่าไม่อยากจะสุงสิงต่อด้วยแล้วยังไงอย่างงั้น

“เดี๋ยวสิ..ไม่ใช่อย่างงั้นนะ จูลิโอ รอก่อนสิ...”
ไม่อยากจะพูด นี่เป็นครั้งแรก ที่คนอย่างสึโอ เลวิส เฮนเดอร์เซน ต้องเดินตามง้อคนอื่นเชียวนะเนี่ย...
ถึงจะเป็นเพราะหาทางออกจากตรงนั้นไม่ได้ก็เถอะ...


การเดินผ่านเส้นทางผ่าสวนสาธารณะสุดรกที่ผู้คนนิยมใช้เป็นทางลัดในเวลามืดค่ำไร้แสงสว่างแบบนี้ไม่ใช่เรื่องสนุกสำหรับสึโอเอาเสียเลย ถ้าไม่ติดว่าเขาไม่รู้จักโซนนี้ของเมืองเลยล่ะก็ เขาคงไม่มาทางนี้เด็ดขาด แม้เจ้าหนูตรงหน้าจะพูดว่าทางนี้กลับเข้าทางหลักได้เร็วที่สุดก็เถอะ

แสงสว่างจากไฟถนนปรากฏอยู่ตรงหน้าท่ามกลางเสียงซวบซาบที่ดังอยู่เป็นจังหวะ อยู่ดีๆร่างเล็กที่เดินนำอยู่ด้านหน้าก็หยุดเดิน เขาหันมาส่งสัญญาณให้ร่างสูงก่อนจะย่อตัวลงนั่งไม่ไกลจากริมถนนนัก

“มีอะไรหรอ” เสียงทุ้มกระซิบถามอยู่ข้างๆ ถึงจะไม่ค่อยมีเซนส์เรื่องบู๊ แต่เขาก็เข้าใจท่าทางของเจ้าหนูนี่ได้ไม่ยาก

“ทหารRev” จูลิโอตอบเสียงเบาไม่ต่างกัน สายตาที่จ้องออกไปยังจุดที่เสียงเอะอะอยู่ไม่ไกลออกไปนั้นเป็นคำอธิบายอย่างดี

ดวงตาสีอเมธิสต์มองตามไปทางเดียวกับเด็กน้อย ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า คือทหารRevประมาณ20คนกับกลุ่มประชาชนอีกกลุ่มใหญ่ๆกลุ่มหนึ่ง

“สงสัยที่ออกมาจากคอนเสิร์ตเมื่อกี้แน่เลย” จูลิโอพึมพำเบาๆ แต่ก็ไม่ได้เบาเกินกว่าที่ชายหนุ่มจะไม่ได้ยิน คำพูดของจูลิโอทำให้สึโอเริ่มสอดส่องสายตาหาร่างโปร่งของรีสที่อาจจะปะปนอยู่ในกลุ่มคนที่ถูกจับอยู่นี่ก็ได้

ยังไม่ทันคิดจบประโยค ภาพของเจ้าของเรือนผมที่ทองที่ขยับเคลื่อนไหวอยู่ในกลุ่มคนที่ถูกจับก็ผ่านเข้ามาในจอรับภาพสีอเมธิสต์

สึโอยังไม่ทันมองจนแน่ใจว่าเจ้าของเรือนผมทองที่อยู่ตรงนั้นใช้รีสหรือเปล่า ร่างเล็กกว่าที่อยู่ข้างๆก็เริ่มขยับตัวจะออกเดินต่อ หากแต่ร่างสูงกลับเป็นฝ่ายไม่ยอมขยับเสียอย่างนั้น

“คุณ...ไม่ไปหรอ พ้นตึกนี่ไปเราก็น่าจะหลุดจากเขตปิดล้อมแล้ว” แววตาสีมะกอกหันมามองคนที่เดินตามหลังเขาอยู่เมื่อครู่อย่างสงสัย ทั้งที่ก่อนหน้านี้อยากไปจากที่นี่จะเป็นจะตาย พอใกล้จะพ้นดันทำเฉย

เขตปิดล้อมที่ว่า คือบริเวณที่Revล้อมบุกจับนักดนตรี มักจะกินช่วงกว้างประมาณ3-4ช่วงตึก เป็นบริเวณที่Revประกาศใช้กฎอัยการศึกเต็มรูปแบบ ประชาชนที่อยู่ในเขตปิดล้อมจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้าน หากถูกพบเห็นจะถูกตั้งข้อหาเช่นเดียวคนที่มาคอนเสิร์ตด้วย

เพราะงั้นตอนแรก จูลิโอก็เข้าใจว่าทำไมคนตรงหน้าถึงได้กังวลเรื่องการที่ต้องมาเดินดุ่มๆอยู่ในเขตผิดล้อม แล้วดูตอนนี้สิ ดวงตาสีม่วงที่จ้องแน่วแน่ไปยังพวกที่ถูกจับ คงไม่ได้คิดจะทำตัวเป็นฮีโร่หรอกนะ

“นี่คุณ อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะ...”

“รีสอาจจะอยู่ในนั้น” เสียงทุ้มดังแทรกประโยคขึ้น สายตายังไม่ละจากคนกลุ่มนั้น “เขามากับฉัน ฉันจะทิ้งเขาไว้แล้วปล่อยให้เขาถูกจับไปไม่ได้”

“คุณจะบ้าหรอ...ถามหน่อยเถอะคุณจะไปช่วยเขาออกมายังไง” จูลิโอยังไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยิน อะไรของเขาเนี่ย? ตอนแรกผู้ชายคนนี้ดูขี้กะโล้โท้เป็นลูกคุณหนูเหมือนจะทำอะไรไม่ได้ซักอย่างแล้วตอนนี้จะมาทำเก่งเข้าไปช่วยแฟนตัวเองเนี่ยนะ จะบ้าตาย

“ไม่รู้เหมือนกัน อย่างน้อยก็คงเข้าไปดูใกล้ๆอีกหน่อยเพื่อให้นแน่ใจว่าใช่เขาหรือเปล่า” ร่างสูงตอบเสียงหนักแน่น สายตาหนักแน่นหันมาสบดวงตาสีมะกอก สายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ว่าเขาจะไม่เปลี่ยนใจจากสิ่งที่พูดออกไปเมื่อครู่ “เธอไปเถอะ ขอบคุณที่ช่วยมาถึงตรงนี้ ที่เหลือฉันดูแลตัวเองได้แล้วล่ะ”

รอยยิ้มที่มากับคำพูดเมื่อครู่ไม่ได้ทำให้จูลิโอรู้สึกวางใจเลยแม้แต่น้อย เขายิ่งปวดขมับเข้าไปอีก “ดูแลตัวเองได้อะไรของคุณ คุณรู้มั้ยว่านอกจากพวกทหารบนถนน มันยังมี...” ยังไม่ทันจบประโยค ฉับพลันสีหน้าของเด็กน้อยก็เปลี่ยนไป เพียงชั่วเสี้ยววินาทีที่สึโอเห็นนัยน์ตาสีมะกอกเบิกกว้างด้วยคววามตกใจก่อนจะรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนเหวี่ยงจนตัวลอยกลับเข้าไปทางโพงหญ้าที่เดินออกมาเมื่อครู่ แต่ดูเหมือนว่าไม่ใช่ว่าเขาโดนเหวี่ยง เจ้าเด็กน้อยน่าจะคว้าตัวเขากระโดดกลับเข้ามาในนี้มากกว่า ร่างสูงโปร่งของเด็กหนุ่มทาบทับอยู่บนตัวเขา

“เกิดอะไรขึ้น...?” สึโอลุกขึ้นมาอย่างงงๆ ถึงหัวจะไม่ได้กระแทก แต่แรงกระแทกก็ทำให้ให้เขาจุกใช่ย่อย แต่ความจุกก็แทบจะหายไปทันทีเมื่อของเหลวอุ่นๆสัมผัสกับมือใหญ่

“อึก...” จูลิโอค่อยๆยันตัวขึ้นด้วยความทุลักทุเล มือข้างหนึ่งกุมที่ช่วงเอวแน่น ของเหลวแดงสีเข้มกำลังซึมผ่านร่องนิ้วออกมา



Create Date : 06 กันยายน 2552
Last Update : 6 กันยายน 2552 17:57:39 น. 2 comments
Counter : 320 Pageviews.

 
เอ้ย โช โดนยิงหรือเนี้ย มีพวกดักซุ่มด้วยหรือฟร่ะ อึ่ม แล้วนี้ป๋าจะช่วยใครล่ะ สุดที่รักหรือนังพวกเล็ก ๆ (โห ใช้คำซะเห็นภาพเลยตรู) แต่ป๋าแมนมากอะ บู๊ก็ไม่เป็นยังจะทำเท่ห์อีกอะ


โดย: arm IP: 58.137.191.202 วันที่: 8 กันยายน 2552 เวลา:15:51:12 น.  

 
โอ้ยๆ ค้างอีกแล้ว
จะรอนะครับ


โดย: อายะตัน IP: 124.121.184.248 วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:14:41:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

iArlaDieL
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เพื่อนที่กำลังชมบล็อก
Friends' blogs
[Add iArlaDieL's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.