ของขวัญวันอังคาร ฉบับที่ 22/2559 ยามสายัณห์รัญจวน
ทุกเวลามีความหมายถ้าทุกคนได้เห็นค่าของทุกเวลาที่มี... นักธุรกิจมองเห็นค่าของเวลานั้นเป็นเงินเป็นทอง นักการพยาบาลมองเห็นค่าของเวลานั้นเป็นดั่งเส้นด้าย ผู้ป่วยมองเห็นค่าของเวลานั้นเป็นดั่งฟางเส้นสุดท้าย แต่คนตายอาจไม่มีสิทธิ์ได้ใช้แม้แต่เวลา แล้วคุณผู้อ่านล่ะเห็นเวลาเป็นเช่นอะไร เวลาของไอ๊หมดไปกับการคิด ทั้งที่ริเริ่มสร้างสรรค์ ทั้งที่เพ้อฝันฟุ้งซ่าน แต่ท้ายที่สุดไอ๊ก็สามารถนำความคิดกระจัดกระจายมากอบกุยให้มีค่าเสียยิ่งกว่าเงินทอง ไม่ใช่แค่งานเขียนที่ได้ผ่านสายตาคุณผู้อ่านเท่านั้นหรอก การที่มีคนรักใคร่ อนุญาตให้ไอ๊นำคำบอกเล่าจากประสบการณ์ของเขาไปถ่ายทอดด้วยวิธีการต่าง ๆ การถูกว่าจ้างให้เป็นคนขององค์กรหนึ่ง ๆ ล้วนมีที่มาจากการใช้เวลาไปกับการคิดนี่นั่นโน่นทั้งนั้น และความคิดของไอ๊ไม่ได้เกิดมีจากการนั่งเทียน (นึกเอาเอง) หากแต่เกิดมีจากการอ่านหนังสือซึ่งเป็นการรับประสบการณ์ทางอ้อมมาขบคิด แล้วยังเกิดมีจากประสบการณ์ตรงของตนเองซึ่งแม้จะมีน้อยแต่ก็น่าดีใจที่คนอย่างเราเคยได้ผ่านเรื่องราวเช่นนี้มาด้วย
สารภาพตามตรงว่า ไอ๊โคตรจะไม่ชอบเวลาเย็นวันอาทิตย์ ตราบจนไอ๊มีอายุร่วมยี่สิบห้าปีมานี่แล้วก็ยังมีความรู้สึกเช่นนั้น โดยปกตินักเรียน-นักศึกษาเกลียดเวลาเย็นวันอาทิตย์เพราะวันพรุ่งนี้ก็เป็นวันจันทร์...ต้องไปเรียน พนักงานบริษัทเกลียดเวลาเย็นวันอาทิตย์ก็ด้วยเหตุผลไม่ต่างกัน หากสำหรับไอ๊นั้นเกลียดเวลาเย็นวันอาทิตย์เพราะ ไอ๊เหงา แสงอาทิตย์เวลาสี่หรือห้าโมงเย็นแลอ่อน ๆ เมื่อต้องกับพื้นไม้ที่ร้างผู้คนในบ้าน (เพราะเป็นวันหยุด) เกิดเป็นสีเหลืองส้มซีด ๆ ไร้สรรพสำเนียงใด พาลให้ต่อมน้ำตาจะแตก เย็นวันอาทิตย์ที่บางครั้งเกิดมีเมฆฝน แสงบนท้องฟ้าจะแลเทา ๆ อึมครึมนั่นล่ะตัวการสำคัญให้หลายคนเหงาเหมือนจะตาย แต่เวลาดังกล่าวนี่ล่ะที่ทำให้ไอ๊ได้คิดทบทวนอะไรตั้งหลายอย่าง และของขวัญฉบับนี้ก็เป็นอีกผลผลิตหนึ่งจากยามเย็นวันอาทิตย์...ยามสายัณห์รัญจวน
Create Date : 31 พฤษภาคม 2559 |
|
1 comments |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2559 9:26:02 น. |
Counter : 1246 Pageviews. |
|
|
|