Group Blog
 
 
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
11 เมษายน 2550
 
All Blogs
 

ผู้ชักนำเข้าสู่วงการโทรทัศน์

เราเป็นเด็กในเมือง แต่ออกไปในทางเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ค่อยรู้เรื่องราว

ชีวิตวัยเด็กไปจนวัยรุ่นความบันเทิงอย่างเดียวคือโทรทัศน์ อ้อ สองอย่าง หนังสือ เอ๊ะ สามอย่างสิ วิทยุไง เอ้อ สี่ภาพยนตร์ เอ..ห้า วีดิโอ เอ้อ...เลิกนับเถอะ

สมัยเราเด็กๆโทรทัศน์ไม่ใช่ของที่จะมีกันได้ทุกบ้าน ต้องมีฐานะกันนิดนึงถึงจะมีไว้ดู แล้วบ้านเราเป็นครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง
คือว่า จนระดับปานกลาง….เลยไม่มีจะดูกะเค้า

เมื่อเรายังเล็กๆ ตอนกลางวันแม่ไปเรียนตัดเสื้อ ถ้าเป็นสมัยนี้แม่คงเป็นสาวอาชีวะ
เป็นสาวอาชีวะรักเรียน มีลูกแล้วยังไปเรียนได้
ส่วนพ่อไปทำงานหาเงินส่งเด็กอาชีวะเรียน

แม่เอาเราไปฝากเลี้ยงที่บ้านป้าคนหนึ่งในซอยแถวบ้าน
เป็นบ้านหลังใหญ่ มีเด็กเล็กหลายคน แม้เด็กจะหลายระดับชั้น แต่ก็เรียนรวมๆกันที่ใต้ถุนนั่นล่ะ
ถ้าจะเรียกให้เก๋กู้ดว่าเนอร์สเซอรี่ ก็เป็นเนอร์สเซอรี่คุณป้าแล้วกัน

เราได้รับการศึกษาขั้นเตรียมอนุบาลที่นี่

คุณครูป้าเล่านิทาน อ่านหนังสือให้ฟัง กินขนมที่แม่ฝากไว้ เล่นกัน แล้วก็นอนกลางวัน
มีบางวันคุณครูป้าแอบใช้แรงงานเด็ก ให้เด็กๆหาผมหงอก
คุณครูป้ามีเทคนิคหลอกล่อที่ดีมาก
ใครหาได้เยอะคนนั้นเก่ง....เป็นเด็กสายตาดี
ตาดีจริงจริ๊ง คุณครูป้ายังหาไม่เจอเลย
เด็กๆแย่งกันหาผมหงอกสนุกสนาน ไม่ทันได้นึกว่าคุณครูป้าจะหาผมหงอกบนหัวตัวแข่งกับเด็กได้ไง?
คุณครูป้าเลยนอนเพลิน บ่อยครั้งที่หลับไปก่อนเด็ก

อยู่มาวันหนึ่ง....คุณครูป้าให้วาดรูปโทรทัศน์
เราวาดไม่เป็น…เพราะว่าไม่เคยเห็น
ก็เลยวาดตามเพื่อน เป็นกล่องสี่เหลี่ยมมีเสาสองเสาอยู่ข้างบน มีขา(ตั้ง)สี่ขา

หลังจากนั้นไม่นาน โทรทัศน์เริ่มแพร่หลายมากขึ้น เพื่อนบ้านเราเริ่มมีโทรทัศน์ดูบ้างแล้ว
ถ้าเจ้าของบ้านเป็นคนใจดี เป็นที่รักใคร่ชอบพอของเพื่อนบ้าน พอถึงเวลาละครก็จะมีคนไปรอดูเต็มไปหมด ถึงตอนละครออกก็จ้องกันตาไม่กระพริบ พอพักโฆษณาก็คุยกัน
เจ้าของบ้านนั่งแถวหน้าสุดติดจอ กอดอกอมยิ้มภูมิใจ

เพื่อนพ่อคนหนึ่งก็ซื้อโทรทัศน์เครื่องใหม่...
พอใกล้หนึ่งทุ่มพ่อจะอุ้มเราไปบ้านคุณลุงคนหนึ่ง คุณลุงคนนี้มีบ้านสองชั้นใหญ่โต
ห้องรับแขกกลางเป็นห้องใหญ่มีโทรทัศน์ตั้งอยู่เครื่องหนึ่ง เครื่องใหญ่แบบที่อยู่ในตู้ไม้ มีขาตั้ง คล้ายๆกับที่เค้าวาดกันที่เนอร์สเซอรี่ แต่ไม่มีเสาข้างบน พ่อบอกว่าเสาอากาศอยู่นอกบ้าน บนหลังคา

คุณลุงมีลูกสามคน ลูกสาวคนเล็กอายุไล่เลี่ยกันกับเรา ไปบ้านนี้ทีไรก็ไปเล่นกัน ที่บ้านคุณลุงมีผลไม้ปลอมทำจากปูนปลาสเตอร์ ใส่ตะกร้าวางประดับอยู่ มีทั้งกล้วย ส้ม แอ้ปเปิ้ล แล้วก็อะไรๆมากมาย เราเล่นขายของกันสนุกสนานไม่ได้สนใจโทรทัศน์เลยแม้แต่น้อย (รู้ว่ามันเหมือนรูปที่วาดก็พอใจแล้ว)

แต่เวลาพ่ออุ้มเราออกจากบ้าน พ่อบอกแม่ว่า “จะพาหนูมันไปดูทอระทัศน์”

ต่อมาไม่นานอยู่ๆพ่อก็ไม่พาเราไปบ้านนั้นอีกเลย ตอนนั้นยังเด็กก็งอแงรบเร้าให้พ่อพาไปเล่นกับพี่ พ่อก็ไม่ยอมพาไป พอซักพักเราก็ลืมไปตามธรรมดาเด็ก

ตอนเราโตพ่อเล่าให้ฟังว่า เราไปแล้วเล่นงอแงตามประสาเด็ก คุณป้าภรรยาคุณลุงชอบบอกให้พ่อพาเรากลับ ด้วยน้ำเสียงรำคาญแกมไล่อยู่บ่อยๆ

“คงหวงโทรทัศน์เค้านั่นล่ะ” พ่อบอกเสียงเหี้ยม
ยังเคืองเพื่อนไฮโซมีโทรทัศน์ครอบครัวนั้นอยู่ไม่หาย
“โทรทัศน์นี่ดูกันหลายๆคนแล้วมันจะเก่าเร็วเหรอจ้า?” เราสงสัย
“มันคงเปลืองไฟมั้งลูก ดูหลายคนยิ่งเปลืองไฟ”
แล้วสองคนพ่อลูกก็ประสานเสียงหัวเราะเคี๊ยกๆกันตามประสา

นั่นอาจจะเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่ง ขยันทำงาน มานะบากบั่นเพื่อ...
......ผ่อนโทรทัศน์......
(ภายหลังจากที่ส่งสาวอาชีวะเรียนจนจบแล้ว)

โทรทัศน์เครื่องแรกของที่บ้านเป็นขาวดำ และหลังจากนั้นอีกหลายปีมากถึงได้เปลี่ยนเป็นโทรทัศน์สี

“ซื้อเอาไว้ให้หนูมันดู” พ่อบอกใครต่อใคร
…………………………………………………………………………………………..




 

Create Date : 11 เมษายน 2550
1 comments
Last Update : 11 เมษายน 2550 20:26:26 น.
Counter : 604 Pageviews.

 

อ่านแล้วจินตนาการภาพตามเป็นสีขาวดำเลยค่ะ
ฮิๆ~

คุณป้าใจร้ายจังเน้อ

 

โดย: ฮาจิของที่รัก (tonyah ) 11 เมษายน 2550 20:30:56 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Lilly_kid
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add Lilly_kid's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.