วันวาน (กาพย์ขับไม้ห่อโคลง)
เหลือเพียงความหลัง...แค่คราบในภวังค์.....ครั้งหนึ่งเคยมี
เขาเคยเป็นหนึ่ง....สอนให้รำพึง.....ในฝันราตรี
ก่อนมาพรากหนี.....ดังกวาดธุลี.....จากใจของเรา

จึงต้องปิดห้อง.....ปิดกั้นความหมอง....มิให้พาลเผา
กาลนั้นเวียนผ่าน....ความลับวันวาน....ก็ลากับเหงา
เหลือเถ้ากับเรา.....เบิ่งมองฟ้าเศร้า....ก่อนยิ้มปลอบใจ

เขาไปไกลทิ้งใฝ่.............ทิ้งปอง
ทิ้งรักเคยคิดจอง.............ดับสิ้น
ทิ้งกันเยี่ยงพรานผยอง.....ล่าเข่น
ปล่อยซากใครนอนดิ้น.....เดือดร้อนช่างมัน

กาลช่วยซ่อมจิตนั้น..........กลับคืน
บ่หยุดอารมณ์ขืน...............อีกแล้ว
กายแลจิตพร้อมยืน............อีกหนึ่ง หนเอย
เจ็บนั่นคงมิแคล้ว...............ล่องคล้ายฝุ่นผง



*ขอบคุณ พี่คนหนึ่งที่ช่วยในการประพันธ์จนเขียนสำเร็จครับ*







Create Date : 20 มีนาคม 2554
Last Update : 20 มีนาคม 2554 11:12:46 น.
Counter : 1499 Pageviews.

27 comments
  
*กาพย์ขับไม้ห่อโคลง*

เพรางายฟ้าแจ่ม .. ใบเริงดอกแง้ม .. เริ่มร่ายระบำ
หอมชื่นซ่านแซม .. ซึมทรวงต่างแต้ม .. ส่งนัยหมื่นคำ
คิดผูกลำนำ .. ประสมชมฉ่ำ .. คล้องเคลิ้มประพันธ์

ดื่มด่ำมนตรา .. มองผ่านฟองฟ้า .. ฮัมเพลงสรวลสรรค์
ละเลียดอักษร .. ท่ามลมเว้าวอน .. ด้วยยิ้มพราวฝัน
สว่างแสงอำพัน .. ดุจเป็นของขวัญ .. จากฟ้าประทาน

หมองเลือนคลายเศร้าผ่าน.........ผ่าวเผา
อิ่มแดดหายจากเงา....................เงียบห้อม
พรายลมเริ่มเบาเบา...................บัดกล่อม
ใบดอกออกระบำพร้อม............เพิ่มร้อยรอยหอม

พริบซึ้งเคลื่อนเข้าจ่อม..............จินต์หวาน
ดื่มด่ำคำนึงปาน........................ปลูกกว้าง
บ่ เลือนลับกาลผสาน................เผลอแวด ล้อมเอย
หวังสุขนี้มิร้าง..........................ร่นแล้วยังสวย

สวัสดีค่ะน้องเมือง
หลายวันเข้ายากทั้งพันทิปและบล็อกแก็ง
พี่,เพื่อน เป็นกันบ้างไหมคะ?


โดย: ญามี่ วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:15:31:19 น.
  
*กาพย์ขับไม้ห่อโคลง*

*ตอนเศร้าเข้าสิง*

เมื่อลมหนาวลา...เรียนรู้วิชา...จากกลุ่มนิทาน
ฟังเสียงนกกา...ผลีผลามตามหา...ท่ามความสำราญ
อีกฝ่ายคล้ายพาน...หลงหลอนเหลือบธาร...แห่งงามเวทย์มนต์

หลงไปในหล่ม..วาววอมชักชม...พรายหาวผลักวน
ลองลิ้มหมื่นรส...เคลิ้มหลับบนบท...รัญจวนโดยดล
เมียงเหม่อกาลกล...ไปในไพรสณฑ์...ยังนึกว่ารัง

เหลียวพบแพ้ขื่นครั้ง.........เคลิ้มเคลีย
รับมากมนต์อ่อนเพลีย.......พ่ายห้อม
จมเจ็บจ่อมสึก,เสีย.............เสพสุข
เกณฑ์กล่อมอัชฌาอ้อม......อุ่นไข้เมินหอม

หันยากแท้สุดพร้อม............เพลินหน
งามฉาบชื่นฉ่ำกมล.............มุ่งแกล้ง
หลงหลืบหล่มติดผล...........เผาผ่าว
เศร้าโศกจารจรดแจ้ง...........จากนี้ทาสขม

สวัสดีบ่ายๆที่แดดขี้อายไม่ค่อยโผล่มาค่ะน้องเมือง


โดย: ญามี่ วันที่: 23 มีนาคม 2554 เวลา:16:19:58 น.
  
* กาพย์ขับไม้ห่อโคลง *

* ตอน เหงาในสายหมอก *

เหม่อหมอกม่านมัว ...หลืบลึกรางรัว ...พันฟ้าฝากฝัน
คลี่คลุมขับขนาน ...ซึ่งเสพสุขสนาน ...ท่ามไห้หีบอนันต์
ร่ายครวญทวนทัณฑ์ ...ทอดทัพบ่ายบั่น ...เฉียบเหงาพลันเผย

วัฏฏะตรมตาม ...สานโซ่เร้นล่าม ...หล่อหล่มเขยิบเคย
แทรกซ้อนขอนขม ...เกลียวกลมประสม ...คล้ำควันระเหย
ออกโชยโดยเปรย ...กับโศกยิ้มเย้ย ...ดุจเหงาเหิมผยอง

หนุนเหงาจินต์เริ่มร้อง ..............เรียกหา
แรงช่วยชายช้าชา ......................ชุ่มไห้
เหงาหงอยแผ่เผาผา.....................ผลักกอด
รอดม่านหมอกยากได้ ................ด่ำด้วยม้วยไฉน

พรายลมฉวยรัดใกล้ ....................กุมเกษม
ซาบซ่านแปรป่วนเปรม ...............ปรับเวิ้ง
เหงาหนาวร่วมหนามเหิม ...............หวนใส่ จิตเอย
จึงเร่าท่ามเหงาเลิ้ง............................และคล้ายเหม่อสนอง



หลับฝันดีค่ะน้องเมือง.. เพื่อตื่นมาเริ่มงานวันใหม่ด้วยความสดชื่นนะคะ
โดย: ญามี่ วันที่: 27 มีนาคม 2554 เวลา:20:09:42 น.
  
* กลอนแปด *
ตอน สงกรานต์๑

สงกรานต์มาเกษมเกิดให้เลิศหวัง
เปี่ยมพลังในสรรเพริศพันสวย
แช่มช้อยชื่นประสบลาภพบรวย
สิ่งอำนวยใจปองประคองตาม

สดใสชุ่มน้ำเย็นให้เห็นหอม
มิตรเมียงห้อมส่งพรออดอ้อนถาม
ประสงค์ใดเต็มหวังจะฟังความ
เสนอช่วยท่ามไมตรีทวีร้อย

ทุกข์ทอดทิ้งไปห่างอ้างว้างหาย
เงินมากมายท่วมท้นเลิกค้นถอย
รุ้งเรียงริ้วดูพลอยคิดประดิดประดอย
หวังเพชรพลอยมณีร่วงดุจล่วงรู้

สุขปีใหม่บ้านเราคอยเฝ้าฝั่ง
เทพมาฟังคำพรแล้วสะท้อนสู่
สิ่งดีงามจัดการประสานพรู
ให้เพลินดูหยิบได้ตามใจคอย ....เทอญ

สวัสดีวัน(ก่อน)สงกรานต์ค่ะน้องเมือง


โดย: ญามี่ วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:14:09:16 น.
  



สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ

"ขอให้ คุณเมืองมานะ มีหัวใจที่แข็งแรง
พอที่จะรับทั้งความสุขและความทุกข์ได้...ตลอดไปนะคะ"


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:20:55:51 น.
  
กลับมาแล้วค่ะ ขากลับเจอฝนลงตลอดทาง ปรกติทางแค่นี้นั่งแค่ 5ชั่วโมงก็เข้าตัวเมืองแล้ว คืนนี้เล่นไปเกือบ6ชั่วโมงเต็ม แถมลุงแกสั่งรัดเข็มขัดตลอดทางนะครับ เพราะทางลื่นตอนเหวี่ยงโค้ง แกบอกขี้เกียจลงไปเก็บที่ก้นเหวนะสิ อิอิ ฝันดีค่ะ ขอไปชาร์ทไฟให้ตัวเองก่อนนะคะน้องเมือง

......................................

ถ้าคนทั้งโลกถูกล้อมล่อให้เสพยาเสพติด..แล้ว
ขาดซึ่งผู้คิดทำลายล้างจริงจังเลย..
คุณว่าสายพันธุ์ผีดิบจะลุกมาเต้นรำได้สวยขนาดไหนหนอ?



ถ้าเมืองล่มจมสมุทรมนุษย์ป่วย
ประกอบด้วยยาเสพไร้เทพปก
คืบเข้าใกล้หายนะในนรก
ซากสาบตกไม่สิ้น ณ ถิ่นคาม

หลงในเสพสูบฉีดจนกรี๊ดกร๊าด
ศรัทธาขาดดั้นดิ้นวิ่งบินพล่าม
ร่างลิ่วลงเละแยกย้ายแตกตาม
สอดเศษท่ามชีวาอนาถตาแล

ดุจน้ำกรดรดไส้หมักได้ทั่ว
รอยเงามัวเร่ร่อนวิ่งต้อนแถ
อยู่ผ่อนวายมรณาขัดตาแท้
คิด ฤ แก่มีได้หมายไว้ดู

เลิกยาเสพยาบ้าอย่าค้าขาย
อย่าเห็นวายเป็นรวยมอบม้วยหมู่
ตายอัปลักษณ์เห็นถนัดยามชัดชู
น่าอดสูเชิงคนหลงกลยา..
โดย: ญามี่ วันที่: 4 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:56:19 น.
  
สวัสดีวันร้อนๆๆๆจนจะลอยตามลมค่ะน้องเมือง



อบอุ่นอวลชวนคิดถึงสิทธิ์ใฝ่
สายลมไกวเหมือนเย้าใจเฝ้าหา
อณูรักบรรจุเกินลุพา
หากห่วงใยยังกว่าอุรานำ

อ้อยส้อยนักยามใจเห็นใครห่าง
รอนรอนครางหวั่นไหวด้วยไห้ร่ำ
หวังรักร้อยกล่อมกอดอ้อมพรอดพำ
วรรคนัยทำทอวาวสกาวพ้อ

รักนะรักสนิทสนมคอยบ่มสวาท
มุ่งหมายมาดก่อเกื้อให้เหลือขอ
ห่างเพียงยามว้างเศร้าหวังพะเน้าพะนอ
แม้นเดินต่อหากก้าวช่างยาวนาน

สำเหนียกรักชวนชุมให้ลุ่มหลง
ลีลายงยืนเส้นมิเน้นผ่าน
หลงบ่วงแล้วสายกระสันบัด,พลันจาร
ไร้เขตด้านสิ้นสุดยั้งหยุดเลย..
โดย: ญามี่ วันที่: 10 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:58:36 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง



เอ็มเอสเอ็นมักพาหรรษาสอน
อีกรัก,ร้อนได้ซึ้ง,เคืองขึ้งขม
ได้ไขว่คว้าวาดเวิ้ง,วางเพลิงคม
ร้อยระดมจำนรรจ์แบ่งปันปรอย

หลายคราเราหลงคิดสนิทด้วย
จิตอำนวยห้วงหอมตะล่อมสอย
หลงวางแผนเขียนแปลนแล้วแล่นลอย
รินรื่นร้อยเรียงฝันฉ่ำชั้นเชิญ

วันต่อวันทุกอณูเข้าสู้สร้าง
พลิ้วเพลินพร่างภวังค์เคลิ้มสั่งเหิน
เหน็ดเหนื่อยหายระโชยเพียงโดยเดิน
เหนือหนาวเนินคือรักจักชักมา

รักเพลินหวานสมเหนี่ยวประเดี๋ยวประด๋าว
เมื่อเอือมร้าวเข้าขังให้กังขา
คนเดียวกันพลิกกลับยากหลับตา
อนิจาไวฉงนดุจกลไก

โดย: ญามี่ วันที่: 16 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:06:46 น.
  
ก่อนเลือกตั้งใครสักคนคิดสักนิด...หลังเลือก
จะได้หนีอารมณ์กลอนนี้ได้ไงคะ อิอิ
ฝันดีค่ะน้องเมือง

*กลบท ก้านต่อดอก*

หลอนเลือกตั้งดุจรักในคืนฝืน
เขาเป็นอื่นช้ำชายหมายมั่นขวัญ
เลือกดีได้ลวงหรือวินิจพลันตัน
คิดครบครันยังเคลื่อนคลาดตอนจร

คนเคยดีเปลี่ยนไหม ฤ ประสงค์หลง
แวดวาดวงยังเบี้ยวมีหลอนป้อน
ฤ คนคือเงาเมาสะท้อนย้อน
แยกย้ายตอนหวิดหวิดถูกพรางทาง

แต่ละคืบค่อยคลายดีหลุดหยุด
พลาดพิสุทธิ์ไข้แก้ยากสางสร่าง
ดุจรักเลือกแล้วหลอกครวญครางวาง
สุดเสริมสร้างช่วงให้วาดหวานบาน
โดย: ญามี่ วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:21:33:44 น.
  
หลับฝันหวานๆนะคะน้องเมือง

* กลอนแปด *

เหงากำดัดรุนแรงคอยแทงหลัง
ใจพลาดพลั้งทรุดหนักเกินจักไหว
ราตรีกาลกลายเร่าค้นเข้าไป
ถูกเสน่ห์ใครกันนะยากผละจริง

มนต์สวาทมาชวนชักอยากพักหนุน
เหมือนไออุ่นรอปรุงหมายสุงสิง
ทรวงหลงใหลเอียงแนบเข้าแอบอิง
ราวพาพิงถิ่นเคลิ้มเพื่อเสริมเวิ้ง

จึ่งวุ่นวายเที่ยวหาภาษาหวาน
หวังลำธารสรวงสรวลรัญจวนเบิ่ง
ทุกลำนำพริ้งพิมพ์แย้มยิ้มเริง
หมดยุ่งเหยิงเพลินพราวทะเลดาวดวง

ในเวิ้งวาดมีใคร่ที่ใฝ่ขอ
ปรารถนารอหวามไหวมาใกล้ห้วง
มีวิจิตรทุ่งดาวเพริศพราวปวง
ส่องแสงช่วงเราพานประสานตา

แล้วจากกันหลังตื่นเป็นอื่นนั้น
ขอความฝันกลับมาหรรษาหน้า
ขอได้ไหมดอกฝันเปิดพลันนา
เพื่ออุราฉันฉ่ำดื่มด่ำเนา..
โดย: ญามี่ วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:21:53:45 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง



* กลอนแปด *

นานเท่าไรยังหับในหลับฝัน
เสมือนหยุดฉัน ณ รักคอยจักหา
หวังเกษมเปรมพรมภิรมยา
สุดฟ้าหล้าพิสมัยอาลัยคอย

ในสัมพันธ์นั้นเช่นวางเว้นวรรค
ชะเง้อชะงักงำแล่นใจแสนละห้อย
เบื่อบอบบางยามร่ายกวีปรายปรอย
หวังไม่น้อยเวิ้งหวังประดังมอง

สมัครสวาทนัยใฝ่ที่ไร้ร่าง
วอนพรายพร่างแฝงพรมประสมสอง
ให้คำนึงสู่ขวัญหวานวันครอง
บรรจงจองล่วงหน้าอุรายอม

วอนคีตาแห่งจินต์ยามยินเสียง
ช่วยร่ายเคียงถึงรักสลักถนอม
ชวนชักเขาไม่เร้นลี้ประนีประนอม
หวังอ้อมแขนประคองกอดมาสอดกุม

ถักทอนัยม่านภักดิ์แห่งอักษร
ส่งอาทรความเดิมมาเสริมสุม
ด้วยวิถีสั่งสมรอชมชุม
ด้วยลุ่มหลงเหนือคณาจนกว่าวาย
โดย: ญามี่ วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:22:55:28 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง




กาพย์สุรางคนางค์ ๓๖

* ดอกลวง *

ลวงไล่ไม่ทัน...อุบายเชิงชัน...ดุจน้ำกลายไหล
หลงไปวุ่นวาย...เลี่ยงเลี้ยวอับอาย...หมดทางสุกใส
ดอกลวงว่องไว...เจนพลิ้วบิดไป...เล่ห์พร้อยเปรื่องประหาร

ลื่นหลงสนิทพิศวาส...สำนวนขานคลาด...ยากแจ้งแววกาญจน์
โสมนัสเลื่อนลับ...พยับโพยมแล่นจับ...โศกช้ำแผ้วพาน
ม่านหมองเมียงประสาน...สร้างสยอนคำหวาน...หมกมุ่นขุ่นขม

ดอกลวงพริ้งภูต...เก่งเล่ห์เจนทูต...ชาญผูกเสริมสม
หลงรักติดจั่น...ด่าวดิ้นฉวยพัน...คืบรัดจัดพรม
เป็นสิ้นจินต์จม...รอนระบาดเรื่อยระดม...สลดครรไลหน
โดย: ญามี่ วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:0:14:38 น.
  
สวัสดีวันท้องฟ้าสวยจนร้อนไปทั่วค่ะ น้องเมืองอิอิ



ความโกรธเป็นสิ่งที่น่ากลัว ยิ่งน่ากลัวกว่าคือ ยามเราสะกัดมันไม่อยู่

เคยนับไหม?.. ทุกวันผ่านไป เราสะกัดความโกรธสำเร็จ กี่พันหนแล้ว..
โดย: ญามี่ วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:14:08:51 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง



* เงาเหงาเงียบ *


ท่ามกลางความหลับใหลคราใจเปลี่ยว
ฤดูมรสุมฟ้าเทียวดูเกรียวหนาว
แหงนดูนภาลิบลิบกระพริบพราว
บอกข่าวคราวหงอยหงอยมาร้อยทรวง

วังเวงวาดเคว้งคว้างหมายสร้างส่ง
เจตจำนงหันหวนสู่สรวลสรวง
กระทำร่ายมรสุมมากุมปวง
ส่งสืบล่วงกำจัดหมายพัดเพลา

ประโลมประเล้าเงียบเห็นเทียบหมอง
เหมือนจับจองจำรุกในชุกเหงา
หลับ ณ ภาพฉาบพิษมาริดเกลา
วิเวกไกวอับเฉาเวียนเข้างำ

สร่างสิ้นสุดหลุดทุกข์มาซุกแล้ง
ที่ทิ่มแทงระนาวแห่งก้าวย่ำ
ทุรนที่วาดวงในทรงจำ
เหงาตอกย้ำทรวงทราบกับภาพคราง

มองสายฝนชะล้างความข้างหลัง
ที่ภวังค์เวียนสู่ทั้งรู้ห่าง
บนรอยเงียบแง้มงามแต้มตามวาง
ให้รู้อย่างทรมานประหารรอ
โดย: ญามี่ วันที่: 11 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:30:47 น.
  
สวัสดีวันเข้าพรรษาค่ะน้องเมือง ทานข้าวเย็นให้อร่อยนะคะ



* เข้าพรรษา *


เข้าพรรษาเทศน์ถ้อย...............ถึงธรรม
คืนค่ำบำเพ็ญนำ......................เนื่องน้อม
จารโอวาทจดจำ........................จากจิต
เพ็ญพร่างกำหนดพร้อม...........พากย์พร้องคุณหวน

นัยมวลปาติโมกข์เน้น...............นึกสอน
ละชั่วเย็นกมลพร.......................เพริศฟ้า
ทำดีกร่ำขจายขจร.......................จรดทั่ว สกลเฮย
ผ่านพิภพวางวุ่นว้า......................หว่างไหว้อธิษฐาน

พานบัวหอมธูปน้อม.....................เนืองโพยม
อรหังสัมมาประโคม.....................เคลื่อนแจ้ว
นะโมตัสสะโหม...........................เหินกระจ่าง
สงฆ์หยุดกรายจรแล้ว...................หล่อสร้างสัตย์ศีล

สิ้นอบายมุขพร้อม..........................พัดพาน
จิตแจ่มเกิดสำราญ..........................ร่วมรู้
สงฆ์ไม่ห่างวัดสาน..........................สงบสุข
ฝนพักเดินทางสู้..............................สวดซ้ำคำสอน
โดย: ญามี่ วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:20:06:01 น.
  
สวัสดีวันหยุดที่ฝนตกค่ะ น้องเมืองทานข้าวเย็นให้อร่อยนะคะ






* เรื้อร้าย *

เดี่ยวมาอ้อยส้อยโธ่.............................ธานินทร์
วิเวกในนครอินทร์..............................เอี่ยมฟ้า
อารมณ์คั่งกระแสสินธุ์........................สอนป่วน
เวียนกรอบกาลกรอหล้า......................หลับล้อมล้ำหลง

ดงเปล่าเปลี่ยวเปิดเอื้อ.........................อ่านมนต์
ทรวงทุกข์ท่วมทัณฑ์ทน......................เทิดไว้
รัถยากำหนดหน...................................หาหน่วง
วอดหวั่นเปิดทางใกล้...........................กร่ำถ้อยหยามหยัน

สรรสำเหนียกเพรียกแพ้.......................เพิ่มแผล
สร้อยโศกมาเหลือบแล.........................ลูบเนื้อ
ตระหนกครุ่นครางกระแส....................เสริมเหยียด เย้ยแล
อาภัพอาเพศเอื้อ....................................อาบม้วยอวลอหัง

ฟังฟ้าทอส่องคล้อย...............................คลาขบวน
ร้ายเร่าอำนวยจวน................................จ่อมห้อม
ยินแววเห่หันหวน.................................เหิมล่วง หทัยเฮย
กรองมาศกรึงจิตพร้อม.........................พลาดอะคร้าวเหือดเห็น

เร้นเข็ญเรื้อร้ายรุก.....................................รวิวรรณ
พากย์พจน์แสดงรำพัน..............................พอกรั้ง
แนบคะนึงสู่ในขวัญ..................................ขังขื่น
ตรมตื่นตามติดตั้ง......................................แต่งแต้มกำสรวล
โดย: ญามี่ วันที่: 17 กรกฎาคม 2554 เวลา:19:34:29 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง



* เรื้อร้าย *

ใจหมองไหม้หม่นแม้น.................เหมือนไฉน
ใครเร่าร้ายในใจ............................เจตแจ้ง
รักแล้วตระหนกภัยใคร.................ครวญอยู่
เห็นแต่ไห้มอบแล้ง.......................แหล่งเพี้ยนภาพโฉม

พร่าประโคมคลื่นคว้าง...................คอยเมียง
รางร่างเรื้อร้ายเคียง.........................คู่นั้น
เล็ดลอดขื่นทรวงเสียง....................สะท้อนสนั่น
ไห้สะอึกสะอื้นขยั้น.......................เยี่ยมท้นกมลสลอน

ศศิธรยามโศกซึ้ง.............................ซึ่งหน
ยังพร่องในเหตุผล...........................ผ่านแผ้ว
คราเผือเมื่อสับสน...........................เสนอสนิท
เปล่าเปลี่ยวใจสุดแล้ว.....................หลับสะอื้นในฝัน

รอยกรรมสรรร้ายเร่า........................เรียงคอย
วกช่วงละห้อยปรอย.........................ป่วยเศร้า
คืนขมคร่ำครวญพลอย.....................เพิ่มสะอึก สะอื้นนา
เห็นแต่ตนตะกายเฝ้า........................ฝ่าร้อนทรมาน
โดย: ญามี่ วันที่: 18 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:23:18 น.
  




สวัสดีค่ะ ทานข้าวเย็นให้อร่อยนะคะน้องเมือง

* รอ...นิรันดร์ *(โคลงผวน)
ร้าวกาล รานก้าวก่อ...........................กรรมขม
ไอครุ่น อุ่นใคร่ตรม...........................ตระหนักพ้อ
ศัพท์ครวญ ส่วนคับผสม....................ผนึกป่น ชีพเนอ
พล่ามคิด พิษความท้อ.........................ทุกข์เย้ยเหยียดหยัน

ฝากสรรค์ ฝันซากเศร้า........................ศรหลัง
บทหลั่ง บังรสระวัง.............................แว่นแคว้น
รัดฉม ร่มฉัตรฟัง..................................ฟ้าฟาก
หลอมจิต ริดจ่อมแค้น...........................คู่สร้างมลายหน

ผลกรรม พร่ำก่นแก้ว............................เกือบมลาย
ใกล้ค่ำ กรรมใครวาย.............................วอดแล้ว
หน่วงเดียว เหนี่ยวดวงผาย.....................ผลาญผ่าว
เปื่อยจิต ปิดเจื้อยแจ้ว..............................จ่อมจ้องศึกเสนอ

เพ้อไย ไพล่เย่อแย้ง.................................ยามเคือง
จารบท จดบานเนือง................................แนบก้าน
ใดคั่ง ดั่งใครเปลือง..................................ปวดเปลี่ยว อกนา
ปลดแอก แปลกอดคว้าน........................เคลื่อนเข้าเจียนสลาย

รักหมาย ร่ายหมักไหม้.............................หมองหน
ใจสบ จบใส่กล........................................ก่อล้อม
ก่อนศึก กึกสอนฝน..................................ฝากเหม่อ นั้นแล
ล้วนแต่ แลตรวนพร้อม.............................เพียบเข้าโสตแสลง
โดย: ญามี่ วันที่: 23 กรกฎาคม 2554 เวลา:20:40:16 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง

* โคลงผวน *

* รอ...นิรันดร์ *

ร้าวกาล รานก้าวก่อ...........................กรรมขม
ไอครุ่น อุ่นใคร่ตรม...........................ตระหนักพ้อ
ศัพท์ครวญ ส่วนคับผสม....................ผนึกป่น ชีพเนอ
พล่ามคิด พิษความท้อ.........................ทุกข์เย้ยเหยียดหยัน

ฝากสรรค์ ฝันซากเศร้า........................ศรหลัง
บทหลั่ง บังรสระวัง.............................แว่นแคว้น
รัดฉม ร่มฉัตรฟัง..................................ฟ้าฟาก
หลอมจิต ริดจ่อมแค้น...........................คู่สร้างมลายหน

ผลกรรม พร่ำก่นแก้ว............................เกือบมลาย
ใกล้ค่ำ กรรมใครวาย.............................วอดแล้ว
หน่วงเดียว เหนี่ยวดวงผาย.....................ผลาญผ่าว
เปื่อยจิต ปิดเจื้อยแจ้ว..............................จ่อมจ้องศึกเสนอ

เพ้อไย ไพล่เย่อแย้ง.................................ยามเคือง
จารบท จดบานเนือง................................แนบก้าน
ใดคั่ง ดั่งใครเปลือง..................................ปวดเปลี่ยว อกนา
ปลดแอก แปลกอดคว้าน........................เคลื่อนเข้าเจียนสลาย

รักหมาย ร่ายหมักไหม้.............................หมองหน
ใจสบ จบใส่กล........................................ก่อล้อม
ก่อนศึก กึกสอนฝน..................................ฝากเหม่อ นั้นแล
ล้วนแต่ แลตรวนพร้อม.............................เพียบเข้าโสตแสลง
โดย: ญามี่ วันที่: 24 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:41:04 น.
  
สวัสดีวันร้อนๆอีกวันค่ะน้องเมือง



+ โคลงผวน +

* รอ...นิรันดร์ *

ร้อยเคียง เรียงคล้อยขื่น..................ขมขาน
เริ่มพจน์ รสเพิ่มพาน......................เพียบร้าว
สิ้นจร ซ่อนจินต์ผลาญ......................ผันป่วย เจ็บนา
ลมโบก โลกบ่มน้าว..........................เหนื่อยร้อยไฟหวัง

ครั้งหมอง ครองมั่ง ไหม้...................เหมือนหมก
เหนือเร่า เนาเหลือ รก....................ระยิบเศร้า
ใครร่ำ คร่ำไหลหก.........................ไห้ขื่น
หมองฝาก มากฟ้องเฝ้า...................ใฝ่เรื้อทางไสว

ในวุ่น หนุนไว้วาด...........................แวดระทม
คอนร่ำ คำรอนตรม..........................แตกกว้าง
ส่วนทุกข์ สุขถ้วนผสม.......................ผนึกแห่ ไห้เฮย
รุดผ่าว ราวผุดสร้าง..........................สู่ร้อนวัฏฏะกระแส

แผลคอย พลอยแค่แล้ว.....................แลฝัน
ขับหนึ่ง ครึ่งนับพรรณ.......................เพื่อนว้า
ชอบเสื่อม เชื่อมสอบสรรค์..................สวรรค์สว่าง
หมายฟาก มากฝ่ายคว้า......................คู่ข้างสูญสลาย

คล้ายฝัน ครั้นฝ่ายแพ้.......................เพียรมอง
หันครุ่น หุ้นครันจอง.........................จิตไหม้
เจตน์นับ จับเนตรสนอง....................นัยผ่าว
เดิมสู่ ดูเสริมใกล้..............................กอดรู้ละห้อยหา
โดย: ญามี่ วันที่: 26 กรกฎาคม 2554 เวลา:14:40:31 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง




โคลงผวน
* รอ...นิรันดร์ *

หนักราว น้าวรักอ้อน..............................โอดครวญ
นั่นลึก นึกรัญจวน...................................จรดร้อย
ตามแล แต่ลามชวน.................................ชายสนิท
ปลาสนิท ปริศนาถ้อย..............................ถ่วงพ้อคอยเข็ญ

หับเข็น เห็นขับล้วน.................................ลือประโคม
หักพ่วง ห่วงพักตร์โฉม............................ฉับเศร้า
ร่ายหัก รักหายโลม..................................เหลือเจ็บ
จัดเชื่อ เจือชัดเร้า.....................................รับรู้เหงาหลอม

ยอมร่ำ ย่ำล้อมเอื้อ....................................อาดูร
นำไกล่ในกำลูน.......................................ลับแล้ว
มักเหลือ เมื่อรักสูญ.................................สลายจาก
ครองพล่าม ความผ่องแผ้ว......................ผ่านไข้ใจหาย

คำร่าย คลายร่ำด้วย..................................เดือนดาว
ฤทธิ์พรั่ง รั้งพิษระนาว.............................แน่นเเฟ้น
ขื่นตรม ข่มตื่นหาว..................................หันอวด
ไห้กร่าง ห่างไกลแคว้น...........................คิดร้องทรมาน
โดย: ญามี่ วันที่: 28 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:49:12 น.
  



หลับฝันดีค่ะน้องเมือง

* สวาทรัก(ในสาวิตรี) *

แอบอุ่นให้หมุนทัก............กลั่นหวานรักมาภักดิ์สื่อ
เอื้อรสรักพจน์หรือ.............เอมใจนักประจักษ์เจอ
พร่ำพรอดแสนออดอ้อน.....เว้าวอนพิศสนิทเสมอ
จำนรรจาสรรค์เผลอ...........ให้กระซิบลอยลิบเบา
เพลินท่าประสาเคลิ้ม..........นัยน์คอยเติมขับเสริมเขลา
สนองประคองเคล้า.............สองใจแจ่มแววแวมวาม
คลาดคล้อยหลงคอยหา.......ปรารถนาเคียงคราความ
ยินร่ำในคำถาม...................ต่างชื่นเชยบอกเผยโลม

ร้อนรนกระวนกระวาย..........ด้วยต่างหมายกระหายใกล้
ใคร่กระจ่างสว่างไสว............ออกสวาทไม่คลาดเคียง
เดือนดาวมาพราวห้วง...........ให้ลืมล่วงทุกช่วงเสียง
รัญจวนยามครวญเมียง.........ไม่อยากไปเกินในมอง
ร้อยพจน์แต่รสหวัง.................ลืมรอยชังที่หลั่งล่อง
ให้สมอารมณ์ปอง..................พิสมัยในฝันใฝ่หวาน
กาลผันไม่ขวัญผวา...............รอเวลาประสาตรึง
นัยคิดซึ้งชิดถึง.......................ไม่เลี่ยงวนในมนตรา

รักร้อยแต่ถ้อยสรวล.................สำราญถ้วนรู้ควรค่า
ราวทะเลกับเวหา...................ให้พะวงมากหลงใหล
ความรักสมัครแล้ว.................ไม่เคยแคล้วแยกแนวไหว
อย่างประสงค์จำนงใน............นิรันดร์รักไม่หักหัน
โดย: ญามี่ วันที่: 1 สิงหาคม 2554 เวลา:21:59:38 น.
  
แวะมาทักทายค่ะ
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 4 สิงหาคม 2554 เวลา:21:09:20 น.
  
นายกหญิงคนแรกของไทย



หลับฝันดีค่ะน้องเมือง


โดย: ญามี่ วันที่: 5 สิงหาคม 2554 เวลา:22:02:43 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง



~กาพย์ยานี๑๑~
* แม่ *

ร่มไทรงามใกล้ฟ้า.........สร้อยระย้าเจรจาหวาน
ให้รื่นใจชื่นบาน.............คุ้มโศกเศร้าทุกเช้าวัน
ยามราตรีมาถึง.............ยังสร้างซึ้งรำพึงฝัน
ให้คิดจะติดพัน..............เข้าร่มทอร่วมก่อหวัง
เป็นเรือนยามเดือนดับ....ยังสดชื่นให้คืนมา
สมวาดในปรารถนา........ปานเปรียบลมมาพรมพาน
คือร่มเกล้าห่มสรวล.........ให้รู้ควรมาชวนเคียง
ว่ากล่าวไม่ก้าวเฉียง.........คอยตรองตรึกรู้นึกเกรง

ผ่านสายใจคลายท้วง.........จะลุล่วงตามทรวงเร่ง
รู้ชื่นบนครื้นเครง................คอยแม่ห้อมมาล้อมวง
เห่กล่อมถนอมพักตร์..........กระแสรักชวนชักหลง
ทุกคำจารจำประสงค์..........ต้นรักยังซ่านพรั่งไสว
ตราบวันนี้หันแจ้ง................ถ้อยแถลงมาแสดงไว้
ยังรื้อนานหรือไฉน...............เจตต์พจนารถไม่คลาดวิสัย
รักแม่ยังแผ่ชัย......................ทั่วกมลร่วงล้นความ
เยื่อใยจากใจงาม..................บอกรักท่านไม่ผ่านเลย

กี่ร้อนแล้งกร่อนหน................แม่ตามดลมาค้นเฉลย
เริงร่าไม่หน้าเฉย.....................แสนเพลินนานสำราญดู
ลมเย็นน้ำเป็นคลื่น..................ผู้คนยืนวิ่งตื่นพรู
หัวใจยังได้รู้..........................รักแม่อุ่นยามหมุนมอง
โศกศัลย์ค่อยบรรเทา...............ใจคลายเศร้าที่เฝ้าสนอง
ปัดแฝงระแวงครอง..................ไล่ถ้อยพิษสะกิดไหว
หัวใจแม่ใกล้คุ้ม......................ลูกรู้ชอุ่มประโลมรุมไล้
เสน่ห์มีทวีไว.........................รักแม่นาน..แม้นกาลลา
โดย: ญามี่ วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:22:31:30 น.
  
สวัสดีวันร้อนซาบซ่าค่ะ น้องเมือง อิอิ



* แม่ *

กรองวจีเรียงคลี่ร้อย...............บรรจงถ้อยเพลินพลอยหวาน
จะสู้อย่างรู้งาน......................ให้สำราญผสานมนต์
แทนมาลัยหทัยพจน์...............จารจรดรสเบื้องบทยล
แม่ไปทั่วไหนหน....................ขอชื่นฉายตามหมายมี
หลอมบรรจบครั้นกลบ.............พรรณนาพบประสบศรี
เพียงตามในความดี................สร้างภาษาไคลคลาเรือง
แม่พร่ำสอนคำเลิศ.................แสนประเสริฐกำเนิดเนื่อง
ฝึกปรือให้ลือเปรื่อง................เขียนคำกลอนส่งพรไข

ความผูกพันลูก,แม่..................ไม่มีแพ้ผันแปรไหว
ยังรักคิดสมัครไป....................ถึงหล้าสิ้นหมดดินแดน
สองมือน้อยถือคว้า..................แม่กรุณาเวียนหาแหน
สิ่งใดแม่ให้แทน......................บูชาได้ผ่องใสแวว
บุญคุณที่หนุนเนา....................แม่ให้เจ้าไว้เฝ้าแล้ว
ให้เพลินดำเนินแนว..................ได้จารประจักษ์รักมารดา
รักแม่เหมือนแพรสวย...............มาอำนวยยามป่วยล้า
หมายปรับให้หลับตา................สู่ส่วนสรวลเชิญชวนฝัน

ลูกประสบได้พบทุกข์................ใจแม่ฉุกล้มคลุกพรั่น
ร้อนรบไม่ขบขัน.......................ห่วงลูกน้อยมาถอยการ
จำพร้อมจะน้อมแก้...................แม่ดูแลคอยแก้ฉาน
เรื่องซ้อนเข้ารอนราญ................แม่คอยช่วยอำนวยทาง
คอยพิทักษ์รู้รักษา....................หวังเวลามาพาสร้าง
ให้ลูกรู้ถูกข้าง..........................ก่อนย่างก้าวในคราหลัง
สอนลูกอย่างปลูกมิตร................เสนอสนิทใจคิดหวัง
ลูกรักรู้พักรั้ง............................นิ่งนึกสะอื้นก่อนฝืนความ
โดย: ญามี่ วันที่: 8 สิงหาคม 2554 เวลา:11:06:34 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง


* กาพย์ยานี๑๑ *
* แม่ *

เฝ้าหวงห่วงทรวงฝัน........................กล่อมลูกนั้นหวังสรรค์สู่
ให้เพียรได้เรียนอณู........................รู้ค่าคิดในจิตใจ
หยดหนึ่งสอนซึ้งส่ง.........................ไม่ลืมหลงประสงค์ไฉน
น้ำนมอบรมใด...............................รู้ลึกเน้นบนเส้นทาง
มารดาพร้อมพาสิ่ง..........................ใดควรติงใดนิ่งสาง
สอนลูกหวังปลูกราง........................คุณค่านั้นสำคัญนัย
ทุกอย่างบนร่างรัก..........................ให้ประจักษ์ชวนชักชัย
ยืนคงอย่าสงสัย.............................แม่พร้อมให้เราได้ดี

กลิ่นหอมคอยอ้อมหา......................มือละมุนมาคอยหมุนคลี่
หรรษาต่อหน้าที่.............................คอยดูแลพร้อมแก้ไข
ร้อยรักด้วยพักตร์หวาน....................ไม่รำคาญคอยสานใส
ลูกหลับด้วยคับใด..........................แม่แก้ใหม่เป็นได้จำ
เจ็บร้อนสะท้อนโศก........................บทเบื้องโบกราวโยกล้ำ
บนเจ็บที่เก็บคำ..............................แม่ช่วยข้ามอย่างงามตา
ดอกรักมาถักถ้อย...........................ให้ใจร้อยอยู่คอยค่า
ความรักแม่ชักมา............................หอมกว่าหอมรู้ล้อมภัย


รู้ถนอมใจแม่พา..............................ยามนิทราหอมมาลัย
อาลัยในหทัย.................................ยามกลิ่นซ่านผันผ่านลม
มะลิร่ายลิขิต..................................ใจเคียงคิดชวนชิดสม
ระบายเรียงร่ายพรม..........................หอมมาตรึงคำนึงเนา
รักแม่เหมือนแรลึก...........................ในบันทึกไม่นึกเหงา
มองรักตระหนักเฝ้า..........................คล้ายเดือดร้อนไปค่อนไกล
ไออุ่นจากคุณแม่..............................พาท้อแท้ไม่แลไหว
ความรักแม่สลักใคร่..........................จนเติบใหญ่รักไม่ลืม
โดย: ญามี่ วันที่: 10 สิงหาคม 2554 เวลา:20:18:39 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นภันต์
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มีนาคม 2554

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31