Group Blog
 
 
มกราคม 2553
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
16 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
ประสบการณ์ผ่าคลอด....ของคุณแม่ใจปลาซิว.....

7 มกราคม 2553

4.00 น. ตื่นแต่เช้า นอนไม่หลับทั้งคืน วันนี้แล้วสิที่จะได้เจอหน้าเจ้าตัวในพุงแล้ว เมื่อคืนนอนสวดมนต์ท่องอิติปิโสทั้งคืน ขอให้ส่งศักดิ์สิทธิ์ คุณงามความดีที่เคยทำมาช่วยให้การผ่าคลอดวันนี้ผ่านไปด้วยดี ให้เราสองแม่ลูกปลอดภัย

6.10 น. ถึงโรงพยาบาลรามาธิบดี แม่กับพี่สาวสามีไปส่ง ส่วนสามีวันนี้ติดประชุมทั้งเช้าและบ่าย ได้แต่ส่งใจมาลุ้น มาถึงโรงพยาบาลแล้วยื่นบัตร ไปห้องสูติชั้น 4 ห่วงแต่ห้องพิเศษว่าหลังผ่าคลอดแล้วจะได้ไหม ขนสมบัติมาเพียบเลย ถ้าไม่ได้ห้องแม่ก็ต้องหอบสมบัติกลับบ้านอยู่คนเดียว ห่วงไปหมดเลยเรา

7.00 น. พยาบาลมาทำการบวช สวนอุจจาระ เข้าสายน้ำเกลือ ชั่งน้ำหนักก่อนคลอดได้ 54.7 กก. กับอายุพุง 38W+2 Days คุณหมอยืนยันอีกทีว่าเจ้าตัวในพุงอยู่ท่าก้น นั่งเป็นคุณนายไม่ยอมกลับหัวจนวันนี้ ได้คิวผ่าเป็นคิวที่ 5 ของวันนี้อาจจะเลยยาวไปถึงช่วงบ่าย เอ้า...แล้วฤกษ์ดีที่อุตส่าห์ดูมาว่าได้ช่วงเช้าก็แห้วหมดสิ ทำไงดีน้อ....สักพักคุณหมอที่ฝากพิเศษไว้ก็มา บอกว่าเรายังไม่เคยตรวจภายในกันเลยนะ แล้วมันจำเป็นต้องตรวจด้วยเหรอคะหมอ ก็น้องไม่ได้ออกทางช่องคลอดอยู่แล้ว ว่าแล้วคุณหมอก็จัดการตรวจซะ แล้วก็บอกว่าปากมดลูกไม่เปิด แหม มันก็หยั่งงั้นอยู่แล้วละค่ะคุณหมอ ว่าแต่ว่าตรวจภายในนี่เจ็บชะมัดเลยค่ะ สงสัยคุณหมอกลัวว่าเราจะพลาดประสบการณ์ตรวจภายในไปเดี๋ยวคุยกับแม่ๆในนี้ไม่รู้เรื่องก็เลยจัดให้

9.00 น. ด้วยกำลังภายในของคุณหมอเจ้าของไข้ รวบรัดตัดตอนให้เป็นคิวที่สอง และถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัด

9.30 น. นอนมองนาฬิกาไป กลัวพลาดฤกษ์ดีๆที่ซินแสให้มา ว่าได้ก่อน 10 โมงจะดีมาก แต่ฤกษ์สำรองอันดับสองของหลวงตาก็บอกว่าก่อนเที่ยงสิดี แต่มาเอาเข้าเวลานี้แล้วอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหล่ะ คุณหมอวิสัญญีเข้ามากระซิบอยู่ข้างหูว่าจะทำการระงับความเจ็บปวดในการผ่าตัดคลอดให้ ระหว่างดมยาสลบกับบล็อกหลังว่าจะให้เราเลือกอะไรดี แต่ก็สรุปให้เองว่าจะบล็อกหลัง จากนั้นก็ให้นอนงอหลังเป็นกุ้ง ฉีดยาชา แล้วก็บล็อกหลัง ขั้นตอนนี้มันไม่เจ็บหรอกค่ะ แต่ความหวาดกลัว ตั้งแต่ทำตัวงอเป็นกุ้งตะกี้มันทำให้อุจจาระขึ้นสมองไม่ยอมลงไปด้วยสิ พอหมอถามว่าชายัง หนักเท้ายัง เจ็บตรงนี้ไหม ตรงนั้นไหม ก็ตอบว่ายังๆๆๆๆๆ อย่าเพิ่งนะหมอเท้ายังกระดิกได้อยู่ เห็นไหมๆๆๆๆๆ เท่านั้นแหล่ะ สงสัยหมอจะเห็นทะลุไปถึงปอดแล้วว่ามันทำท่ากลัวจนจะแหก หมอก็เลยบอกว่าเดี๋ยวหมอให้ยานอนหลับนะ ไม่ทันขาดคำ เท่านั้นแหล่ะเห็นหมอฉีดยาเข้าสายน้ำเกลือ เราก็สวดอิติปิโสในใจเรียกสติ แต่แค่ขึ้นอิติปิโส ไม่ทันภะคะวา สมองมันก็วืดๆๆๆๆๆๆ เหมือนกำลังขึ้นยานอวกาศ...........

11.30 น. ยานอวกาศก็จอดให้ผู้โดยสารลง ลืมตามาอีกทีถูกเข็นออกจากห้องผ่าตัดไปยังห้องพักฟื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้สึกหนาวมาก สั่นเป็นเจ้าเข้าเลย ยกมือเรียกพยาบาลบอกหนาวๆๆๆ พยาบาลก็เอาผ้าห่มไฟฟ้ามาคลุมให้ก็ยังไม่ดีขึ้น สักพักก็มาฉีดยาให้ก็หายสั่น รู้สึกตึงๆชาๆที่ปลายเท้า ปลายเท้าขยับได้แล้ว เหมือนเป็นเหน็บชา นี่เราถูกผ่าคลอดเสร็จไปแล้วเหรอ แล้วเจ้าตัวที่อยู่ในพุงเราละไปไหนแล้ว ตะกี้ยานอวกาศพาเราไปเที่ยวไหนมาก็ไม่รู้ มีแสงขาวๆวืดๆไปหมด นี่เรารอดแล้วเหรอ....

12.00 น. ถูกเข็นจากห้องพักฟื้นออกไปห้องพัก เป็นห้องรวม เห็นแม่กับพี่สาวแฟนยืนทำหน้าตาลุ้นๆอยู่หน้าห้องผ่าตัด แม่จ๋าหนูรอดตายแล้วแม่....

12.15 น. อาการชาปลายเท้าเร่มหายไป อาการเจ็บแผลเริ่มเข้ามาแทน ปวดทีละนิด ทีละนิด มากขึ้นๆๆๆ เรียกพยาบาลมาว่าขอยานอนหลับหน่อย ขอยาแก้ปวดหน่อย พยาบาลก็บอกว่าเค้าให้ไปแล้วตั้งแต่อยู่ในห้องพักฟื้น ต้องรออีก 4 ชม.

14.00 น. ไม่ไหวแล้วว้อย....เจ็บโครตๆๆๆๆ ใครบอกฟร่ะว่าผ่าคลอดไม่เจ็บเลย ทำไมเราถึงได้เจ็บมากมายอย่างนี้ นอนน้ำตาไหล ส่ายหัวไปมา ก็มันทำได้แค่นี้จริงๆ พยาบาลมาดูแล้วก็บ่นๆว่าเดี๋ยวก่อนๆๆๆ ไม่เดี๋ยวแล้วละคุณพยาบาล มันเจ็บมาก แถมพยาบาลบอกอีกนะว่าให้พยายามพลิกตัวด้วย ไม่งั้นแผลจะยึด โถ...แค่ให้มันนอนนิ่งๆเฉยๆมันก็เจ็บจะตายอยู่แล้ว จะให้พลิกไปไหนอีกละคะ สักพักนึงคุณหมอเจ้าของไข้โทรมาสั่งยาแก้ปวดให้คุณพยาบาลมาฉีดให้ พยาบาลก็บอกว่า ยาแก้ปวดนี่แรงสุดแล้วนะถ้าไม่หายปวดอีกก็ไม่รู้จะทำไงแล้ว...

14.30 น. หลังได้ยาระงับปวดที่แรงที่สุดอย่างที่พยาบาลว่า มันก็ช่วยได้จริงๆ ความเจ็บปวดทรมานในช่วงสองชั่วโมงที่ผ่านมาค่อยบรรเทาลงบ้าง เริ่มขยับขาชันเข่าได้บ้างแล้ว

16.00 น. ห้องรวมปล่อยให้ญาติเข้าเยี่ยมได้แล้ว ขอยืมโทรศัพท์น้องพยาบาลฝึกงานโทรบอกแม่ว่าเค้าให้เยี่ยมได้ เห็นหน้าแม่ครั้งแรกแล้วรักแม่ขึ้นอีกมากเลย การจะเป็นแม่คนได้มันลำบากหยั่งนี้นี่เอง

18.00 น. พยาบาลเอาลูกสาวมาให้ดู เห็นหน้าลูกครั้งแรกยังงงๆ พ่อมันอุ้มก่อนเลยคนแรก คุณพยาบาลหยิบผิดหรือเปล่า ตัวเล็กๆแดงๆ แต่เอ...คิ้วหยั่งงี้ ปากหยั่งงี้ หัวล้านหยั่งงี้ นี่มันพ่อมันนี่นา...แล้วตากลมโตนั่นก็ของช้านนน...ส่วนดั้งบี้ๆนี่ฝีมือใครฟร่ะ ไม่ใช่ของแม่นะ พ่อมันก็ไม่ยอมรับ...ไม่เป็นไรนะลูก ยันฮีเค้าช่วยได้....


ปล. ประสบการณ์ผ่าคลอดลูกครั้งนี้ ทำให้รู้อีกว่า กกน.จีสติง มีวิวัฒนาการมาจากผ้าอนามัยแบบห่วงนี่เอง....

น้องมายด์
ชื่อจริง เด็กหญิง จิตต์ปภัสสร ผลสุข
คลอด วันที่ 7 มกราคม 2553 เวลา 10.20 น.
น้ำหนักแรกคลอด 2530 กรัม
สุขภาพ แข็งแรงดี เล็กพริกขี้หนูนะจ๊ะ




Create Date : 16 มกราคม 2553
Last Update : 20 มิถุนายน 2556 12:26:37 น. 0 comments
Counter : 513 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

โมโม่แม่น้องมายด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add โมโม่แม่น้องมายด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.