-เรื่องนี้เกิดขึ้นหลัง The Clone Wars ก่อน Star Wars ep3 นิดหน่อย
-สำหรับจุดจบ ใครที่ติดตามอยู่ คงรู้แล้วว่า ดูกูไม่ตาย วอสก็ไม่ตาย เพราะเขาเคลื่อนพลไปบอสพิตี้ในภาค3 จากคำบอกเล่าของโอบีวัน
-เริ่มแรกเลยวินดูเป็นคนเสนอความคิดลอบสังหารดูกู แต่ไปๆมาๆทำไมมาลงที่วอสเป็นคนทำก็ไม่รู้(ถ้าไม่นับเรื่องบทบังคับ)
เพราะในโคลนวอร์ส วอสเคยร่วมมือกับโอบีวัน ซึ่งขนาดเป็นอาจารย์เจไดทั้งคู่นะ ก็ยังจับนักล่าเงินรางวัลอย่าง เคด เบน ไม่ได้เลย ความจริงวินดูน่าจะไปฆ่าเองซะมากกว่า แต่ก็เป็นได้ว่าวินดูอาจจะติดภารกิจเสนาธิการ แบ่งหน้าที่ให้เหล่าเจได ไม่งั้นก็อาจจะทำงานพวกสืบข่าว ปลอมตัวได้ไม่เก่งเท่าวอส
-ที่วอสยอมไปฝึกด้านมืดเพิ่มเติมก็เพื่อหวังจะฆ่าดูกู ตอนตกหลุมรักเวนเทรสเขาคิดแต่ว่าเขาแกร่งขึ้น เขามีความสุขขึ้นมากมาย กลับเพิ่งมาเอะใจเอาตอนที่สู้กับดูกู แล้วถูกถามว่า กฏเจไดกี่ข้อแล้วที่เจ้าแหกเพื่อให้ได้อยู่กับนาง ความจริงวอสใช้ด้านมืดเกือบฆ่าได้แล้วแหละ ถ้าไม่พลังปากเรื่องความสัมพันธ์กับเวนเทรส จนดูกูใช้เป็นแต้มต่อ
-สุดท้ายภารกิจลอบสังหารเนี่ย ดูกูไม่ได้บาดเจ็บเพราะถูกใครทำร้ายเลยนะ แต่เจ็บสาหัสเพราะอุบัติเหตุเครื่องบินตกกับตึกถล่ม ช่างน่าขัน
-วิธีลอบสังหาร เอ่อ ตอนแรกก็นึกว่าจะใช้วิธีแบบแอบๆอย่าง วางระเบิด วางยาพิษ กับดัก ลอบทำร้าย แต่นี่นัดดูกูออกไปสู้แบบ 2-1 เลย วอสกับเวนเทรสช่วยกันรุม เอ่อ ที่ผ่านมาโอบีวันกับอนาคินยังเอาไม่อยู่
-การพบกันช่วงแรกของวอสกับเวนเทรสก็ใช้ได้แบบผู้ใหญ่ ไม่หวานมาก เซ็กซี่เล็กๆ มีช่วงเวนเทรสแต่งตัวสวย แล้ววอสตะลึง น่ารักดี (เชื่อหรือไม่ว่า เธอไปสู้กับดูกูด้วยชุดแบบนี้)
ขอบคุณภาพจาก //starwarstyle.tumblr.com
-Desh เป็นเพื่อนสนิทของควินแลน แต่พอเห็นควินแลนเข้าด้านมืดแบบกู่ไม่กลับ แกเลยวางแผนจะตายพร้อมเพื่อน แต่ดันถูกวอสใช้วิชาดาวเคลื่อนดาราคล้อย เอาพิษไปซัดใส่ Bayon เจไดตัวประกอบตาย แล้ว Desh ก็กำลังจะตายอย่างทรมานเพราะพิษที่ตัวเองจะใช้ฆ่าคนอื่น สุดท้ายวอสก็ฆ่า Desh ทิ้ง
เอิ่ม ช่างเป็นจุดจบที่น่าสงสารสำหรับเพื่อนที่คอยห่วงหาอาทรวอสมาตั้งแต่ต้น แถมตอนจบวอสก็ไม่ได้นึกถึงแกอีกเลย เศร้า
- เวนเทรสเป็นคนแรกใน Star Wars ที่ตายด้วย force lightning ลุค วินดู หรืออนาคินที่โดนหลายรอบไม่มีตาย
-ชอบช่วงที่เวนเทรสเข้าไปในสภาแล้วชี้หน้าด่าวินดู
ว่า "อย่ามาโยนขี้ใส่ข้านะ พวกท่านรู้อยู่แล้วว่าว่าข้าเป็นใคร เป็นยังไง ก็ยังจะให้วอสมาทำงานด้วย การที่วอสเข้าด้านมืด แล้วฆ่าคนไปตั้งเยอะ เลือดก็เปื้อนมือพวกท่านไม่ต่างกันหรอก "
-อนาคินกับโอบีวันยังคงกัดกันอยู่เช่นเดิม และตลกเหมือนเดิม อ่านไปขำไป โรเจอร์ โรเจอร์
-อนาคินในเรื่องนี่ไม่เห็นใจเวนเทรสบ้างเลย ทั้งๆที่เรื่องของตัวเองก็ไม่ต่างจากเรื่องของวอสสักเท่าไหร่
-ใช่ว่าอนาคินไม่ทำตามคำสั่งนะ แต่แกเลือกจะทำตามเฉพาะคำสั่งที่แกพอใจ อย่างพอวินดูสั่งให้ฆ่าทุกคนที่ขวางทางทิ้ง นี่รีบทำเลย แต่โอบีวันรู้สึกกับตัวเองว่า นี่มันผิด นี่มันผิด โดยเฉพาะกับเวนเทรสที่มาเพื่อช่วยวอส อนาคินหลังๆนี่ก็หลุดหายไปจากเรื่อง เหลือแต่โอบีวัน
-ในเรื่องนี้วอสมีการไปเดินเล่นในสวนสาธารณะคอรัสซังกับเวนเทรสด้วยนะ คือแบบคู่รักเลย สภาเจไดก็รู้เรื่อง 2 คนนี้เป็นแฟนกัน แต่ก็ไม่ได้ไล่ออกจากนิกาย กระทั่งสุดท้ายวอสฆ่าเจได ฆ่าทหารโคลนตอนเข้าด้านมืด กลับมาก็ดูไม่ได้มีบทลงโทษอะไร อาจจะเห็นว่ายามสงครามกำลังต้องใช้คนละมั้ง
-เรื่องนี้วอสเข้าด้านมืดเป็นพักๆตอนที่เข้าด้านมืดก็ยังรักเวนเทรสเหมือนเดิม แถมให้อภัยที่ฆ่าอาจารย์ด้วย แต่เขาหลอกตัวเองว่าเป็นสายให้ดูกูุเพื่อจะสืบหาตัวซีเดียส จะได้ทำลายให้ถึงรากลึก แต่เอาเข้าจริงก็หวังจะครองกาแล็กซีกับเวนเทรส(น้ำเสียงคล้ายๆใครบางคน) ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรมากนัก
-คล้ายๆสตาร์วอสฉบับย่อแฮะ ประกอบไปด้วย the promise of love, the pain of loss , the joy of redemption
-ช่วงตอนจบถึงจะเศร้าเพราะเวนเทรสเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องคนที่เธอรัก เพื่อดึงวอสกลับมาสู่ด้านสว่าง คนเขียนทำได้ดีมากเลยทรงพลัง สวยงาม จับใจ สุดท้ายเธอได้กลับดาธโธเมียดาวบ้านเกิด โดยทอดร่างลงในน้ำ จากน้ำสีดำมะเมื่อมที่เคยเป็นตอนเธอเลิกเป็นซิท กลายเป็นเขียวเรืองรอง
โดยเฉพาะสุนทรพจน์ของโอบีวันช่วงท้ายๆ ต่อสภาเจได อ่านเรื่องนี้แล้วรักโอบีวันมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
"เราสูญเสียสิ่งที่เราเคยเป็น...เราเสียมันเมื่อเราตัดสินใจใช้วิธีลอบสังหาร เห็นได้ชัดว่ามันคือด้านมืด เป็นจุดจบของเรา ความตั้งใจดีอาจเปลี่ยนไปเป็นเช่นนั้นได้ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่วอสพ่ายแพ้ต่อด้านมืด ความตายที่เขาก่อขึ้นทั้งทางตรงทางอ้อม ความลับที่รั่วไหล โลกที่ตกอยู่ในอันตราย ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นผลสืบเนื่องมาจากการตัดสินใจเดียว
อาจารย์ทั้งหลาย ข้ายืนยันต่อท่านได้เลยว่า การที่วอสเสียคนเป็นฝีมือของพวกเรา และการตายของเวนเทรสเป็นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบ การที่วอสอยู่กับเราในวันนี้ แม้จะตกต่ำแต่ก็อยู่บนหนทางแห่งแสงสว่างอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะเราเลย แต่เพราะเธอ!
เธอตายในฐานะมิตรแท้ของเจได และข้าเชื่อว่าเธอสมควรได้รับการดูแลด้วยความเคารพเอาใจใส่ ด้วยความสำนึกขอบคุณ สำหรับชีวิตที่เธอเสียสละให้และชีวิตที่เธอนำคืนมาสู่พวกเรา และบทเรียนอันขมขื่นนี้ที่แลกมาด้วยราคาแสนแพง
เราเป็นเจได เราทุกคนต้องไม่ลืมว่านั่นหมายถึงอะไร"