Day 9 : สวรรค์ของผู้ชาย (Amsterdam)
Day 9 (27 March 2009)

สวรรค์ของผู้ชาย

Amsterdam, the Netherlands


* เป็นเรื่องส่วนตัวปะปนมามาก ฉบับสาระจะรีวิวไว้อีกทีในห้อง blueplanet
** อาจมีภาพ เสียง และเนื้อหาไม่เหมาะสมด้านพฤติกรรม ผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปีควรได้รับคำแนะนำ
*** จากกรณีที่ภาพหาย ก็เลยเปลี่ยนเป็นลิ้งค์มาจาก multiply แทน ไม่มีจำักัดอีกแล้ว

ศัพท์ที่ควรทราบ

Hauptbahnhof(Hbf) = สถานีหลักของเมือง เปรียบเทียบได้กับหัวลำโพงบ้านเรา
S-Bahn (Stadtschnellbahn) = รถไฟฟ้าบนดิน แต่บางครั้งก็มุดลงใต้ดินบ้าง ตามแต่ภูมิประเทศจะเอื้ออำนวย
U-Bahn (Untergrundbahn) = รถไฟฟ้าใต้ดิน จำง่ายๆ U ย่อมาจาก Underground
Tram = รถราง
RB = Regional-Bahn เป็นรถไฟที่วิ่งระหว่างเมืองใกล้ๆ
RE = Regional-Express เป็นรถไฟที่วิ่งระหว่างเมืองใกล้ๆ จอดสถานีน้อยกว่า RB
IC = InterCity คือรถไฟที่วิ่งระหว่างเมือง ความเร็วจะอยู่ประมาณ 200 km/h
ICE = InterCity-Express คือรถไฟที่วิ่งระหว่างเมืองความเร็วสูง ความเร็วจะสูงกว่า IC ถ้าเส้นจาก Mannheim ไป Cologne เค้าว่าทำความเร็วสูงสุดถึง 300 km/h เลยทีเดียว
WC (ย่อมาจาก Water Closet) = ห้องน้ำ
Fahrkarten = ตู้ขายตั๋วของ DB ใช้กดดูเที่ยวรถไฟก็ได้ บางทีอาจเรียกว่าตู้กดดูเที่ยวรถไฟ
Flughafen = สนามบิน
พี่ปื๊ด = คนดำ (เรียกนิโกรเป็นการเหยียดสีผิวเกินไป อีกทั้งขืนหลุดปากคำว่านิโกรออกมาตอนอยู่ใกล้ๆพวกคนดำ คงโดนตื้บแน่)
เอาตั๋วไปแต๊ก = เอาตั๋วไป validate ที่เครื่อง entwerten







วันนี้ตื่นตีห้า เพื่อไปขึ้นรถไฟที่ Bruxelles-Central เพื่อไป Amsterdam ด้วยรถไฟ IC 9201 ออกเวลา 6:22 วันนี้ทำเวลาได้ดี ขึ้นรถไฟทันเวลาด้วย





นั่งไปซักพักมีนายตรวจมา ยื่น EURail ให้ไปแล้วก็บอกว่าตั๋วแบบ Youth ใช้ได้ตั้งแต่ 9 โมงเป็นต้นไป(บ้าหรือเปล่า) ให้ leave the train ที่ Antwerp

เราก็เอา Terms & Conditions ที่เขียนไว้ใน EURail มาให้นายตรวจอ่าน ที่เขียนว่าใช้ได้ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่เดินทาง จนถึงเที่ยงคืนของวันรุ่งขึ้น

เค้าก็บอกว่า I'm sorry, you can stay here.

พอถึง Schiphol (สนามบินของ Amsterdam) ก็ลง แล้วต่อรถไป Amsterdam-Zuid แต่ไม่มี Locker เลยต้องนั่งรถไฟย้อนกลับมาที่ Schiphol เพื่อเป็นที่ตั้งหลักและก็เก็บของ





พวกเราฝากของที่ Locker ใกล้ๆโซน Arrival เจอคนแต่งชุดประจำชาติ Scotland มาร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน บรรยากาศฟุตบอลยุโรปจริงๆ

เปลี่ยนบรรยากาศจากเหลืองจ๋าที่เบลเยียม มาเป็น น้ำเงินจ๋าที่เนเธอร์แลนด์

บรรยากาศภายในสถานีรถไฟในอัมสเตอร์ดัม










พอฝากของเสร็จก็นั่งรถไฟไป Amsterdam Centraal ต่อ จะไปซื้อตั๋ว Strippenkaart แบบ 15 ช่อง แต่ว่าตรงที่ขายตั๋วแถวยาวมาก ลองไปหาดูตามร้านค้าต่างๆทั่วไป ถามเค้าแล้วก็ไม่มี เลยขี้เกียจเดินหาต่อ

เลยขึ้น Tram สาย 17 แล้วกะไปซื้อตั๋วบนรถไฟ





ปกติถ้าซื้วตั๋วบนรถ จะซื้อกับคนขับ แต่นี่บน Tram มีซุ้มขายตั๋วด้วย คนขายตั๋วก็อีกคนนึงกับคนขับเลย





ก็เลยบอกว่า ไป Anne Frank's House ก็ได้ตั๋ว 2 Strip มา ซึ่งรวมกันห้าคนแล้วแพงกว่าซื้อแบบ 15 Strip มาใช้ด้วยกันอีก แต่ก็ต้องทำใจ






1. Anne Frank's House

ไปลง Westermarkt แล้วก็เดินตามคนแก่สองคนไป ซึ่งคนแก่สองคนนั้นไป Anne Frank เหมือนกัน เซนส์ดีจริงๆ ไปถึงแล้วคนต่อคิวรอซื้อตั๋วยาวมาก มากๆ ถ้ามัวแต่ต่อคิวมีหวังกว่าจะได้เข้าก็คงหมดวัน





พอดีจองตั๋วไว้ทางอินเตอร์เน็ทแล้ว ก็เลย Bypass เข้าทางลัดได้เลย สแกนตั๋วนิดหน่อยแล้วก็เดินเข้าที่จัดแสดงได้ทันที เค้าบอกมาว่าห้ามถ่ายรูปนะ





Anne Frank's House เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงชาวยิวคนหนึ่งที่พยายามหลบพวกนาซีในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่ง Anne Frank ได้จดเป็นไดอารี่ไว้ มีขายเป็นหนังสือด้วย แบบภาษาไทยก็มี ลองหาดูตามร้านหนังสือได้

ยิ่งดูอะไรพวกนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่านาซีคือปีศาจของจริง แต่ก็เคยคิดว่า น่าจะเอาไอ้พวกกะหลั่วๆที่อพยพเข้ามาแล้วก่อความเดือดร้อน อย่างเช่นไอ้สองตัวเมื่อวานไปฆ่าทิ้งให้หมด ถ้ายุโรปมีแต่ฝรั่งเจ้าของประเทศกับคนที่เข้ามาอยู่อย่างถูกกฎหมายก็คงจะดีกว่านี้มาก ที่ทำให้ยุโรปอันตรายก็คงจะเป็นพวกยิปซี แขก พี่ปื๊ดล่ะมั้ง





เสร็จแล้วก็ถ่ายรูปเล่นริมคลอง ผ่านซุ้มข้างทาง ซื้อของกินซะเลย เปิดประเดิมด้วยฮอตดอกก่อน แล้วเดินมาซุ้มถัดไปก็สั่ง Patat Fried ก็คือเฟรนช์ฟรายน่ะแหล่ะ ป้อกินปลาฮาริ่ง เราลองชิมดูด้วย ไม่ค่อยคาวแต่เลี่ยนโคตร กินปลาดิบญี่ปุ่นดีกว่า

โฉมหน้าของปาตั๊ดฟรายด์ ต้องกินกับมายองเนสไม่ก็ซอสสะเต๊ะนะ เรากินแบบมายองเนส ส่วนป้อกินแบบซอสสะเต๊ะ ซื้อมาทั้งสองแบบเอามาแบ่งกันกิน





มีซุ้ม Gay & Lesbian Information ด้วย เค้าเขียน Gay & Lesbian เว่ย ไม่ใช่ Grian & Lesbian แสด ออกมา





หลังจากนั้นก็เดินไป Dam Square ซึ่งเป็นจตุรัสกลางเมืองของอัมสเตอร์ดัม








เจอคนสก๊อตแลนด์มากมาย คนสก๊อตแลนด์ชวนให้ไปถ่ายรูปด้วย ตอนแรกนึกว่าจะฉวยโอกาสล้วงกระเป๋า พอดีหวาดระแวงมากจากเมื่อวาน แต่เอ๋บอกไม่ใช่หรอก เค้ามาดูบอลรอบ Qualify ของบอลโลก ระหว่างเนเธอร์แลนด์กับสก็อตแลนด์

เห็นเป็นคน British ก็เลยน่าจะไว้ใจได้ เลยถ่ายรูปซะหน่อยละกัน บรรยากาศฟุตบอลยุโรปมากๆ แถวๆดามสแควร์มีเสียงรถ Tram ส่งเสียงกริ่งดัง ติ๊ง ๆ อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส บรรยากาศดีมากๆ





ระหว่างเดินเล่นก็เจอ Coffee Shop มากมาย แต่ไม่ได้ขายกาแฟหรอกนะ จริงๆแล้วขายกัญชาน่ะ เราไม่ได้เข้าไปดูดหรอกนะ 55+





คนมักเข้าใจว่าในเนเธอร์แลนด์ กัญชาไม่ผิดกฎหมาย แต่จริงๆแล้วผิดกฎหมายนะ แต่ถ้ามีในครอบครองหรือเสพปริมาณน้อยๆ กฎหมายอนุโลมให้ โดยจะต้องไม่เกิน 500 กรัม


2. Condomerie

พอเดินแถว Dam Square เสร็จก็ไปร้าน Condomerie เป็นร้านขายถุงยางที่ในเว็บไรแนะนำมาไม่รู้ จำไม่ได้ แต่ของขายเยอะดี อุดหนุนของไปเยอะเหมือนกัน ฮ่าฮ่า






3. Sex Museum

ต่อจากนั้นไป Sex Museum ต่อ ได้ความรู้ดี มีประวัติเกี่ยวกับเรื่อง sex ของแทบทุกมุมโลก อุปกรณ์ต่างๆที่ประดิษฐ์ขึ้นมาที่แสดงถึงเรื่องเพศ เรื่องกามวิปริตต่างๆ จัดแสดงได้ดีทีเดียว ขี้เกียจจดมาเหมือนกัน หลังจากนั้นก็ไป Red Light District ต่อ





อันนี้ข้างใน Museum





4. Red Light District

เป็นเหมือนซอยที่มีห้องแถวตู้กระจก มีผู้หญิงขายบริการมากมาย สามารถเลือกซื้อได้ตามต้องการ ราคาตกลงกันเอาเอง ใครอยากลองมีอะไรกับสาวฝรั่งก็มาที่นี่ได้เลย แต่ฝรั่งไม่ใช่ชาว Dutch นะ ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปตะวันออก เพราะชาว Dutch มีการศึกษาดีไปทำอาชีพอื่นๆแทน

ย่านนี้จะมีนักเลงคุมซอย หรือแมงดาน่ะแหล่ะ และคนที่มาเช่าห้องแถวตู้กระจกนี้ได้ก็จะต้องเป็นพลเมืองของ EU เท่านั้น

ผู้หญิงที่ขายบริการก็มีตั้งแต่เกรด A จนไปถึงเกรด F เลย เห็นแล้วรู้สึกสับสนในใจว่า นี่กุมาเที่ยวสวนสัตว์อยู่รึเปล่าวะ บางคนนี่ขาอย่างกะเนื้อที่เอามาทำ Kebab อะ ขอโทษที่ลบหลู่นะ 55+

มีฝรั่งวัยรุ่นคนนึงน่าจะเป็นคน British ที่มาเชียร์บอลนี่แหล่ะ ไปยืนหน้าตู้ที่มีผู้หญิงเกรด F อยู่ สะบัดแบงค์ แล้วมันก็ตะโกนเรียกพวกเราแล้วบอกว่า "Hey !! Look !! I've got only 10 euro !!"

แล้วก็หัวเราะๆ ท่าทางกวนตีนมาก แต่พวกเราฮามาก ลุ้นอยู่ว่ามันจะโดนนักเลงคุมซอยหิ้วไปโยนลงคลองมั๊ยเนี่ย อยู่ห่างๆดีกว่า ฮ่าฮ่า เดี๋ยวจะโดนหางเลขไปด้วย

วันนี้ไม่ค่อยได้เที่ยวไรเท่าไหร่เลย วางแผนพลาดไป มีแต่คนบอก Amsterdam ไม่มีอะไร เผลอหลงเชื่อไป จริงๆน่าอยู่อีกซักสองวัน ทุกคนประทับใจ Amsterdam มาก ทุกคนบอกว่าถ้าได้กลับมายุโรปอีกขอกลับมา Amsterdam อีกครั้งหนึ่ง

สุดท้ายนี้ก่อนจาก Amsterdam ขอบอกว่า เกิดเป็นผู้ชายทั้งที(ถ้าโสดด้วยยิ่งดี) เก็บเงินมาเที่ยว Amsterdam ให้ได้ซักครั้งนึงในชีวิต

สมควรแก่เวลาแล้วก็กลับไป Schiphol ที่พวกเราฝากกระเป๋าไว้ แล้วก็หาล็อกเกอร์ไม่เจอทั้งๆที่จำได้ว่าอยู่ที่ Arrival นี่หว่า รถไฟไป Berlin เที่ยวสุดท้ายก็ใกล้ออกแล้วด้วย ใจเสียมากๆ

แต่เอ๋ก็พอตั้งสติได้ เลยไปพอดูแผนที่จึงได้รู้ว่า Arrival มี 4 จุดในสคิปโปล ได้รู้ว่าพวกเรามาผิดจุด ไปอีกจุดนึงซึ่งอยู่อีกมุมของ Schiphol ในที่สุดก็หาล็อกเกอร์เจอ แล้วก็รีบเอาของ ไปรอที่ชานชาลา เพื่อเตรียมขึ้นรถไฟ IC 241 ที่จะออกเวลา 16:47

พอรถไฟมาก็อุ่นใจ รถไฟของ DB มารับ ได้กลับ Deutschland แล้ว แต่หัวจักรรถเป็นของเนเธอร์แลนด์ แปลกดี มีการแชร์กันแบบนี้ด้วย พอขึ้นมาก็หลับ คนตรวจตั๋วปลุกให้เอาตั๋วมาตรวจ แล้วก็หลับต่อ

มาถึง Bad Bentheim เป็นสถานีแรกที่เข้าประเทศเยอรมัน รถไฟทุกอย่างหยุด ประตูปิด มีตำรวจ Deutsch ผมทองเข้ามาขอตรวจพาสปอร์ตทีละคน ทำให้ได้รู้ว่าคนในรถไฟที่เห็นเป็นฝรั่งเยอะๆนั้นมาจากหลายชาติ

บ้างก็เอาบัตร EU มาให้ตรวจบ้าง บางคนก็เป็น US Passport พอมาถึงตาเรา ก็เอาพาสปอร์ตให้ตรวจ แล้วก็ถามว่า Do you speak Deutsch or English ? เราก็ตอบไปว่า English แล้วเค้าก็บอก Thank you แล้วก็ไปตรวจคนอื่นต่อ

งงว่าถามทำไมฟระ อ้อ นึกออกละ สงสัยถ้าตอบว่า Deutsch เขาก็คงจะพูดว่า Danke แทน บ้าละ คงไม่ถามเพื่อที่จะเลือกภาษาที่จะขอบคุณหรอก 55+ ใครเข้าประเทศมาอย่างผิดกฎหมายก็คงโดนถีบลงจากรถไฟ พอตรวจเสร็จรถไฟก็วิ่งต่อ





อยู่บนรถเจอสาวจีนน่ารักสองคน เลยชวนจั้มไป ไปนั่งกินเบียร์ชิวๆด้วย มีผู้ชายอีกคนนึง เราว่าเป็นน้องชาย แต่จั้มบอกว่าน่าจะเป็นแฟน ดูยังไงก็เป็นน้องชายเว้ยย





พอถึง Berlin Hbf ก็ขึ้น S-Bahn พอเราเข้ารถไฟไป ประตูก็ปิดพอดี ทิ้งเพื่อนๆที่เหลือไว้ เราก็กลับมา แล้วก็ไปต่อ ไปลง Zoologischer Garten แล้วก็หลงทาง จริงๆต้องลงสถานี Savignyplatz ด้วย





เดินบนถนนอยู่ดีๆเจอผู้ชายน่าจะอายุพอๆกัน ทักว่า คนนิจิวะ ก็เลย hallo กลับไป แล้วเค้าก็ถามว่า ก็บอกว่ามาจาก Thailand เค้าก็ถามพวกเรา Do you do Muay Thai ? พวกเราก็ตอบไม่ ตอบไปว่า We are footballers

เค้าก็บอกว่า I do Muay Thai ชี้ไปที่เข่า แล้วก็บอก This is เข่า. และก็ชี้ไปที่ศอกและก็ This is ศอก แล้วก็ tag จากกัน เดินอยู่ดีๆ มันก็บอกว่า ลืมๆ จะโชว์ไรให้ดู และก็โชว์กลไพ่ให้ดู เอาไพ่ออกจากสำรับ แล้วก็หยิบออกมาจากสำรับอีกใบเป็นไพ่ใบเดียวกับที่หยิบออกจากสำรับ

ตอนนั้นไม่มีอารมณ์เล่นด้วยเท่าไหร่ จะเที่ยงคืนแล้วยังหาที่พักไม่เจอ มีกระเป๋าเดินทางกับถุงของฝากด้วย พอถึง Pension Charlottenburg ที่พักเจ้าของก็ออกมาโกรธมาก ถามว่าจากสถานีรถไฟมาที่พักทำไมใช้เวลาตั้งสองชั่วโมง พวกเราก็ sorry

ทำไมไม่ print แผนที่ออกมา จะรีบไปนอนเพราะตอนเช้าต้องตื่นมาเตรียมอาหารเช้า ทิ้งกระเป๋าไว้ข้างล่างแล้วขึ้นมาก่อน นิกเฝ้ากระเป๋าไว้ก็เลยโดนด่าว่า God damn it !! This is Berlin not Amsterdam !! No one will steal your luggage.

แล้วแกก็หายโกรธ พาเดินไปที่ห้อง ระหว่างทางบอกว่า มี young people ที่นี่มากมาย มีสาว norway น่ารักด้วย และก็ถามพวกเราว่าอายุเท่าไหร่ eighteen ? nineteen ? เราก็บอกไป We are twenty-one แล้ว แล้วแกก็บอกเรื่องค่าที่พักไว้เคลียร์กันพรุ่งนี้ ถ้าจะไปเที่ยวไหนให้บอกก่อนนะเดี๋ยวจะแนะนำให้

ก็ยังงิดๆอยู่ ไปอาบน้ำแล้วก็พยายามนอน แต่ก็นอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่

เอารูปที่พักพวกเรามาให้ดู

นี่ห้องนอน ห้าเตียงห้าคนพอดี





นี่ห้องครัว มีเตากับเตาอบให้ด้วยนะ





นี่ห้องน้ำ มีอ่างอาบน้ำด้วย





นี่ห้องนั่งเล่น มีโซฟา ทีวี





ราคาที่พัก 27.00 ยูโรต่อคนต่อคืนนะ นอนที่นี่ห้าคืน ไม่ได้อยู่ในรายการค่าใช้จ่ายวันนี้เพราะค่าที่พักเค้าให้จ่ายวันพรุ่งนี้น่ะ วันนี้ดึกละ



สรุปค่าใช้จ่ายวันนี้

Tram เที่ยวเดียว ใช้ 2 Strip ราคา 1.60 ยูโร
ตั๋ว Anne Frank's House แบบจองล่วงหน้า 9.00 ยูโร
Hot Dog 3.50 ยูโร
ปาตั๊ดฟราย 3.25 ยูโร
ตั๋ว Sex Museum 3.00 ยูโร
น้ำส้มยี่ห้อไรจำไม่ได้ 1.65 ยูโร


รวม 22.00 ยูโร


ของฝาก

ของจาก Condomerie 10.00 ยูโร

Next : Day 10 : วันแห่งประวัติศาสตร์

ตอนพิเศษ : ตอนพิเศษ : The Sound of Music

Prev : Day 9 : สัมผัสโลหิตพระเยซู




Create Date : 15 เมษายน 2552
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2555 1:35:29 น.
Counter : 4342 Pageviews.

4 comments
  
ตามมาเที่ยวด้วย แต่ละคนหน้าตาแปลกๆนะครับ ไม่มีหน้าตา ไม่มีจมูก ไม่มีปากด้วย อิอิ
โดย: joblovenuk วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:20:15:35 น.
  
ก็เค๊าอยากรู้นิ ว่าอะไรคือสวรรค์ของผู้ยชายยยยยยย
โดย: ============> (seasiri ) วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:20:45:37 น.
  
แล้วได้ของฝากจากย่านไฟแดงมั่งมั้ย ?

เอาแบบคนนั้นอะ 10 ยูโร

เท่ากับของที่ Condomerie เลยนะ

โดย: TatabeaM IP: 61.90.239.89 วันที่: 16 เมษายน 2552 เวลา:14:24:56 น.
  
หลงเข้ามาดูสวรรค์ของผู้ชายเหมือนกัน หุหุ
โดย: patthanid วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:2:37:04 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mickeytae
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]



เมษายน 2552

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30