<<
กุมภาพันธ์ 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
 
8 กุมภาพันธ์ 2556
 

"ความสุขหมายเลข7" Look at the world (เชียงใหม่)

"ความสุขหมายเลข7" Look at the world (เชียงใหม่)


วันที่ 23 มกราคม 2556


อยากจะตบหน้าตัวเองว่าทำไปได้ยังไง!!ังจำความรู้สึกที่ยืินอยู่ริมถนนได้เลย
     รถคันแล้วคันเล่า ผ่านเราไป หัวใจก็เต้นจังหวดิสโก้ รุมบ้า ชะชะช่า เอาเป็นว่าเต้นแรง
หน้าแดงผ่าว ทั้งอาย ทั้งร้อน แต่เราก็มาถึงเชียงใหม่นได้

เช้านี้ลงมาจิบ กาแฟ และ โอวัลติน โรงแรมมีบริการตอนเช้า
คุ้มมัๆ กับราคา 300 บาท หารสอง

เริ่มต้นสวัสดีเชียงใหม่ เมืองที่มาเมื่อไหรก็พาให้เราตาุุกวาวเบิกกว้าง
ถึงจะมาแทบทุกปี ก็ยังตื่นเต้นกับผู้คนและสถานที่ต่างๆนาๆ
เราเช็คเอ๊าท์ แล้วโบกรถแดงไปที่ร้าน bikky ร้านสำหรับเช่ารถ


   สัมภาระ & พาหนะ
ทั้งทริปสงสารรถันนี้ที่สุดต้องแบกคน 2 คนและสมภาระเยอะแยะขึ้นเข

คันสนนราคาอย่ที่ 200 บาทต่อวัน เพราะเป็นเกียร์ธรรมดาเราเล็งเห็นแค่ว่
มันช่วยเซฟเงินเราได้ แต่ไม่ได้นึกถึงข้อเสียที่ร้ายแีรงเลย

เกียร์ธรรมดา ถ้าขับในเส้นทางลาดชันอย่างเช่น ภูเขา
จะมันส์มาก ตบเกียร์ เกร็งขาจนแข็งไปทั้งลำแข้ง
แรกๆอาจจะัลำบากมาก พอขับไปเรื่อยๆร่างกายจะปรับตัวได้เอง

หลังจากได้รถมอเตอร์ไซต์แล้ว สถานที่แรกที่เราเล็งเห็นว่าควรไป
คือดอยสุเทพ จุดหมายคือ ขุนช่างเคี่ยน เป็นสถานที่ ที่เหล่า
(นาง)พญาเสือโคร่งจะเบ่งบานกันแค่ช่วงเดียวในรอบปี
ากไปให้เห็นกับตาว่าจะสวยแค่ไหน


ตามมาเลยค่ะ


อากาศบนดอยสุเทพ ช่วงสิบเอ็ดโมงเช้า หมอกลงหนาจนน่ากลัว


เส้นทางขึ้นเป็นถนนเลนซ์เดียว แน่นอนว่าอันตรายมาก ต้องขับรถอย่างระมัดระวัง


เห็นแล้ว ดอกสีชมพูบานหลายต้นอยู่เหมือนกัน จุดนี้เป็นจุดที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวขึ้นมา
เหตุเพราะเส้นทางที่ค่อนข้างลำบาก แต่ถ้าขึ้นมาได้ บอกเลยว่าคุ้มมั่กๆ
ราวกับว่าธรรมชาติให้รางวัลสาขาควาพยายามยอดเยี่ยมในการขึ้นมาที่นี่Smiley


อากาศเย็นสบาย เิดินชมอกไม้สีชมพูเบ่งบานเต็มภูเขา จิบกาแฟซักแก้ว แค่นี้ก็สุขจนล้นแล้ว
เดินดดอกไม้ไป พลางจินตนาการถึงหนังซีรี่ญี่ปุ่นที่เคยดู เฮ้ย!! ใช่เรย เสมือนตัวเองเป็นนางเอกSmiley


ช่วงฤดูหนาวไม้ดอกต่างๆ พากันชูกิ่งก้าง อวดความงามแข่งกัน ประโยชน์ตกอยู่ที่ผู้มอย่างเราๆ


ภาพนี้ถ่ายที่ดอยสุเทพ วันที่หมอกลงหนาอากาศเย็นๆ นกน้อยตัวหนึ่งเกาะอยู่บนกิ้งไม้เพียงตัวเดียว
จะหนามั้ย............จะเหงารึเปล่า............ที่ต้องอยู่คนเดียวในวันหนาวๆเหงาๆแบบนี้
ฉัเดินเข้่าำไปผูกมิตรกับนกน้อยตัวนี้อย่างไม่รอช้า แต่ท่าทางน้องนกไม่อยากเป็นมิตรกับคนแปลกหน้า
ำืท่าจะจิกท่าเดียว Smiley


มาถึงดอยสุเทพแน่นอนว่า ต้องขึ้นมาสักการะพระธาตุดอยสุเทพ





ไหว้พระขอพร ให้ทริปนี้เราเดินทางกันราบรื่นปลอดภัย ราบรื่นไปด้วยดี



เช่นเคยทุกครั้งที่ฉันมาดอยสุเทพ ฉันจะแวะทักทายเพื่อนเก่าของฉัน..........ฉันรู้จักเพื่อนเก่าต้นนี้มาหลายสิบปี
ตั้งแต่ฉันยังอยู่ประุถมและเพื่อนของฉันยังไม่โตเท่าไหร่ เธออยู่ที่โค้งนี้มานานแสนนานฉันแวะทักทายเธอ
เราไม่เจอกันมาประมาณหนึ่งปีกว่าๆเธอโตขึ้น ฉันก็โตขึ้น เธองดงามขึ้นมากหวังว่าครั้งหน้า........ไม่สิ
ไม่ว่าครั้งไหนที่ฉันมาเธอยังจะอยู่ตรงนี้ รอดูฉันเติบโตไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะได้เจอเธออีก
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันเชื่อมั่น

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร ฉันจะกลับมาอีก เพื่อพบเธออีก
ฉันมั่นใจว่าเธอจะอยู่ที่เดิมแห่งนี้่
ลาก่อนแล้วเจอกันใ่หม่ ฉันสัญญาว่าครั้งหน้าฉันจะเติบโตขึ้น......ให้มากกว่าตอนนี้


หลังจากที่พวกเราทัวร์ดอยสุเทพเรียบร้อยแล้ว กระเพาะของพวกเรา
เหมือนจะรู้งานส่งเสียงไถ่ถามมาเป็นระยะๆ ได้เวลาหาข้าวเที่ยงแล้ว


ฝากมื้อเที่ยงไว้ที่ "ข้าวซอยฟ้าฮ่าม" ร้านดังของเชียงใหม่


มาเชียงใหม่ก็ต้องร้านนี้แหละ ถูกและอร่อย จัดกันไปคนละ 2 ชาม


ลังจากจัดการกับมื้อเที่ยงสำเร็จ พลังงานในตัวถูกชาร์ตเต็มเปี่ยม
พวกเราก็เริ่มออกเดินทาง จุดหมายวันนี้อยู่ที่ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัีง
เวลาตอนนี้ประมาณเที่ยง ต้องขับรถขึ้นเขาประมาณ 120 กิโลเมตรไปห้วยน้ำดัง

เส้นทางในการขับรถคือ ออกไปทางเส้น แม่ริม ก่อนถึงแม่แตง เลี้ยวซ้ายเพื่อไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ถนนหนทางช่วงแรกค่อนข้างดี แต่พอเข้าเขตภูเขา ไหล่ทางชำรุดหลายจุด
เคราะห์ซ้ำฟ้าทำให้เราผิดหวังเมฆสีเทาครึ้มๆ เริ่มดรนทนไม่ไหวปล่อยละอองเล็กๆออกมาทำให้ถนนลื่น
นอก
จากจะพ่นละอองบางๆออกมา บางครั้งก็ปล่อเป็นเม็ดใหญ่ๆ ทำให้พวกเราต้องหาที่หลบกันสัมภาระเปีย

เส้นทางยากลำบากกว่าที่คิดไว้จากตอนแรกเยอะ Smileyคิดว่าขับมอเตอซต์ขึ้นเขาชิลๆ ที่ไหนได้ั้งฝน
ทั้งทางลาดชันที่ไม่ค่อยดี ถ้าประมาทเพียงนิดเดียวได้ พวกเราคงได้กลายเป็นวิญญาณเฝ้าโค้งแน่

แตุ่ถึงกระนั้นเราก็พร้อมที่จะเสี่ยง เพราะ"รางวัลชีวิต" ที่เีราจะได้รับหลังจากนี้
มันคุ้มค่าที่กับแรงกาย แรงใจ และเยียวยาความเหนื่อยอ่่อนของเราได้


ยิ่งขึ้นมาสูง อากาศเริ่มหนาวเหน็บขึ้นเรื่อยๆ สายลมเย็ๆเยือกเซาะเข้าไปผ่านเสื้อกันหนาว
การขับรถมอเตอไซต์ทำให้สำผัสความหนาวเย็นได้อย่างใกล้ชิด จนมือเริ่มแดงSmiley
สายฝนเม็ดเล็กๆเริ่มเปรียบเสมือนเข็มทิ่มแทงผิว
วินาทีนั้นฉันคิดว่า ตรูไม่น่าขับมอเตอไซต์มาเลย T^T


แต่มอเตอไซต์ก็มีข้อดีใหญ่ๆอยู่หนึ่งประการ ที่รถโดยสารหรือรถใหญ่ๆไม่มี
อยากหยุดตรงไหนถ่ายภาพตรงไหน ทำได้เลย สะดวกสบาย ทำให้เรามีภาพถ่ายเก๋ๆเก็บไว้นั่งดูเล่น

แสงอาทิตย์เป็นแหล่งให้ความอบอุ่นเพียงอย่างเดียวค่อยๆหายไป
ดวงาทิตย์คล้อยต่ำวนเจียนจะโบกมือลาขอบฟ้า
พวกเรามาถึงห้วยน้ำดังพอดี จัดแจงซื้อบัตร เข้าเต๊นท์ืี่ที่พัก
จนถึงนาทีนี้หมดเงินในกระเป๋าคนละ 1 พันต้นๆ

วันที่พวกเราไปพักเป็นวันปกติ นักท่องเที่ยวเงียบเหงา
อากาศเย็นในระดับเลขตัวเดียว กลางคืนความหนาว
แหวกผ่านถุงนอนที่ฉันคิดว่ามันน่าจะกันได้
คืนนี้เรานอนคุยกันในเต๊นท์ เช็คข่าวคราวต่างๆในอินเทอเน็ต
ก่อนที่จะกัดฟันสู้กับอากาศหนาวข่มตาหลั

6 โมง เปิดเต๊นท์ออกมา โอ้โห้ฟ้าสีเหลืองทอง
แต่ไข่แดงยังไม่โผล่ เราเตรียมตัวพร้อมแล้วที่จะไปดักถ่ายภาพ

ทะเลหมอกหนาแน่น เป็นภาพที่ตื่นตาตื่นใจมาก ฉันจับแขนเพื่อนพลางพูดว่า
"แก เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นทะเลหมอกที่ไหนใหญ่เท่าที่นี่มาก่อนเลย"


ฉันคิดว่านี่คงเป็นรางวัลของความพยายามแน่ๆ การจะเกิดทะเลหมอกที่ใหญ่ขนาดนี้
คงต้องอาศัยเวลาที่เหมาะจริงๆถึงจะพบเจอ และ เราโชคดีที่ได้อยู่ในช่วงเวลานั้น






ภาพเหล่านี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งในความยิ่งใหญ่เท่านั้น เพราะกล้องสามารถเก็บภาำำพได้ในขอบเขตที่จำกัด
แต่ภาพตรงหน้าฉันมันเข้าไปอยู่ในสมอง และ หัวใจฉันเรียบร้อย ทุกอย่างถูกบันทึกไว้ในแมมโมรี่ของสมอง
สายตาที่มองเห็นได้กว้างกว่ากล้อง ฉันรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ทะเลหมอกได้


เห็นต้นเมเปิ้ลต้นนึง เลยถ่ายภาพเก็บไว้


อีกรูป


ดอกไม้ริมทาง


แอบดูนางพญาเสือโคร่งแบบใกล้ๆกัน เสือโคร่งแสนสวยแห่งฤดูหนาว


เจอเจ้าต้นนี้ที่ห้วยน้ำดัง ใกล้ๆกับร้านอาหารสวัสดการ


ึงเวลาเก็สัมภาระขึ้นบ่า โบกมือลาทะเลหมอก และเหล่าดอกไม้
เพื่อไปยังเมืองที่โรแมนติคที่สุดของประเทศไทย พาหัวใจของฉันไปปาย


พบกันตอนหน้าค่ะ Smiley




 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2556
1 comments
Last Update : 1 มีนาคม 2556 17:20:12 น.
Counter : 2411 Pageviews.

 
 
 
 
เคยโบกรถเหมือนกัน กทม-ดอยอินทนนท์ แต่โบกกันกรุ๊ปใหญ่ ถึงดอยอินทนนท์โดยไม่เสียตังค์เลย มันทำให้รู้ว่าคนไทยยังมีน้ำใจ ^___________^
 
 

โดย: ดอยดอกฝิ่น วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:20:31:39 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

Become_the_Wind
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Hello เพิ่งเริ่มเขียน บล๊อค ตื่นเต้นมากมายยย ~
New Comments
[Add Become_the_Wind's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com