Group Blog
 
 
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
28 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 

Chocolate Cyst เยื่อบุผิวมดลูกงอกผิดที่ #2


ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์สมชาย สุวจนกรณ์

" ช็อกโกแลตซีส" เป็นผู้หญิงสละเวลาสักนิดอ่านเถอะ

ช็อกโกแลตเป็นชื่อขนมหวานที่เป็นที่โปรดปรานของผู้คนทุกเพศทุกวัย ซีส(cyst) แปลว่า ถุงน้ำช็อกโกแลตซีส หมายถึงถุงน้ำที่มีของเหลวภายในลักษณะเหมือนช็อกโกแลต คำ 2 คำนี้ มีความหมายแตกต่างและเป็นคนละเรื่องโดยสิ้นเชิง ไม่น่าที่จะมาเชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียวกันได้เลย และนับวันผู้หญิงหลายคนก็เริ่มที่จะคุ้นหูกับคำว่า "ช็อกโกแลตซีส" หรือโรคที่ทางการแพทย์เรียกว่า "เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่" (endometriosis) กันมากขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้หันไปทางไหนก็ต้องเจอใครสักคนในบรรดาเพื่อนพ้องสาวโสดเป็นโรคฮิตโรคนี้กันเยอะเหลือเกิน

ช็อกโกแลตซีสเกิดขึ้นได้อย่างไร อันตรายมากไหมทำไมจึงพบมากในผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงาน แล้วจะรักษาอย่างไร ต้องผ่าตัดรังไข่ทิ้งหรือไม่ จะต้องกินยาฮอร์โมนไปตลอดชีวิตหรือเปล่า ฯลฯ พบกับคำตอบที่คุณอยากรู้เหล่านี้ได้จากผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์สมชาย สุวจนกรณ์ สูติแพทย์จากภาควิชาสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ที่มาของชื่อถุงน้ำช็อกโกแลต

ช็อกโกแลตซีสก็คือถุงน้ำของรังไข่แบบหนึ่ง ซึ่งลักษณะของถุงน้ำชนิดนี้ภายในจะมีของเหลวที่คล้ายกับช็อกโกแลตเหลว ซึ่งความจริงก็คือถุงเลือด คือจะมีเลือดอยู่ในถุงนั้น เมื่อเลือดหยุดไหลน้ำก็ถูกดูดซึมกลับทำให้เลือดในถุงเข้มขึ้น และเมื่อเลือดค้างอยู่ในถุงน้ำนานๆ ก็กลายเป็นสีน้ำตาล มีลักษณะเหมือนช็อกโกแลต จึงเรียกเป็นถุงน้ำช็อกโกแลต

สำหรับสาเหตุของการเกิดถุงน้ำช็อกโกแลต ในทางการแพทย์เชื่อว่าเกิดจากเลือดระดู หรือเลือดประจำเดือนไหลย้อนกลับ คือแทนที่เลือดนั้นจะออกมาทางช่องคลอดของผู้หญิงตามปกติอาจจะมีเลือดระดูส่วนหนึ่ง มีการไหลย้อนกลับเข้าไปผ่านทางหลอดมดลูก แล้วก็เข้าไปในช่องท้องไปฝังตัวที่รังไข่จนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำขึ้นและเนื่องจากลักษณะเซลล์ของถุงน้ำเป็นเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกอันหนึ่งเมื่อผู้หญิงมีประจำเดือน (คือการที่เยื่อบุโพรงมดลูกลอกตัวออกมา) ถุงน้ำดังกล่าวก็จะมีเลือดออกในถุงด้วย ดังนั้นในแต่ละเดือนที่ผ่านไปถุงน้ำก็จะมีเลือดออกเพิ่มขึ้นๆ นั่นหมายถึงถุงน้ำก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และการที่ถุงน้ำนี้จะใหญ่เร็วมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคนคนนั้นว่าจะดูดน้ำกลับได้เร็วเท่าไหร่ ถ้าร่างกายดูดน้ำกลับได้เร็ว ถุงน้ำนั้นก็จะโตขึ้นแบบช้าๆ

ทำไมหญิงยุคใหม่เป็นโรคนี้กันมากขึ้น คุณหมอสมชายให้คำอธิบายเกี่ยวกับข้อสงสัยนี้ว่า "ถ้าดูในเรื่องงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเยื่อบุโพรงมดลูกเติบโตผิดที่พบว่าถ้านำผู้หญิง 100 คนมาทำการส่องกล้องเข้าไปดูในขณะที่มีประจำเดือน ผู้หญิงเกือบทั้ง 100 คนจะมีภาวะเลือดระดูไหลย้อนกลับเข้าไปในช่องท้องทุกคน

" แล้วทำไมบางคนเกิดอาการเป็นถุงน้ำฯซึ่งทำให้เกิดความเจ็บปวดมากมายแต่บางคนไม่เป็น

คำตอบคือ"คนไข้กลุ่มที่เป็นถุงน้ำฯมักจะมีปัญหาในเรื่องภูมิคุ้มกันบางอย่างบกพร่องซึ่งไม่สามารถจะทำลายเยื่อบุโพรงมดลูกที่เติบโตผิดที่นี้ได้ ในขณะที่ผู้หญิงปกติทั่วไปจะมีภูมิคุ้มกันซึ่งสามารถทำลายเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญเติบโตผิดที่ได้"

ส่วนที่ดูเหมือนกับว่าผู้หญิงในปัจจุบันเป็นโรคนี้กันมากก็เพราะความเจริญก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีที่คุณหมอบอกว่า "จริงๆแล้วก็ไม่มีความแตกต่างกันมากกับอดีตที่ผ่านมา เพียงแต่ความเข้าใจของแพทย์เองต่อโรคนี้จะมีมากขึ้นซึ่งจะทำให้สามารถตรวจวินิจฉัยโรคได้เร็วขึ้นก็เลยดูเหมือนกับว่ามีคนเป็นโรคนี้กันเยอะรวมทั้วข่าวสารที่มีการแพร่หลายในวงกว้างจึงทำให้มีการฉุกใจขึ้นมาว่า เอ๊ะ!เราเป็นโรคนี้หรือเปล่า แล้วก็ไปตรวจ ซึ่งบางคนก็พบว่าเป็นโรคนี้จริง ตรงนั้นก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนรู้สึกว่าโรคดังกล่าวเป็นกันมาก"

อาการที่น่าสงสัยว่าจะเป็นถุงน้ำช็อกโกแลตเกี่ยวกับเรื่องเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ (หรือถุงน้ำช็อกโกแลต)

สิ่งหนึ่งที่ผู้หญิงทุกคนควรทราบก็คือเมื่อมีประจำเดือนเยื่อบุโพรงมดลูกนี้ก็จะมีเลือดออกด้วยและการที่มีเลือดออกในช่องท้องก็จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุช่องท้องซึ่งการระคายเคืองต่อเยื่อบุช่องท้องนี้เองเป็นตัวที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดเพราะฉะนั้นจะสังเกตได้ว่า ผู้หญิงที่เป็นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่จะมีอาการปวดท้องมากเวลาที่มีประจำเดือน

แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าอาการปวดท้องเวลาที่มีประจำเดือนนั้นเป็นอาการปวดปกติธรรมดา(ที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เป็น) หรือเป็นอาการปวดท้องที่เกิดจากภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ เรื่องนี้คุณหมอสมชายให้รายละเอียดว่า

"การที่จะแยกว่าอาการปวดท้องเมื่อมีประจำเดือนจะเป็นอาการที่บ่งบอกว่า สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือเรื่องอายุ นั่นคือถ้าอายุยังไม่มากแล้วปวดท้องเวลาที่มีประจำเดือน ส่วนใหญ่จะเป็นอาการปวดท้องธรรมดา "แต่กรณีที่ไม่เคยปวดประจำเดือนมาก่อน พออายุ 30 ปีขึ้นไปอยู่ๆก็มีอาการปวดประจำเดือนขึ้นมาและปวดมากขึ้นเรื่อยๆในแต่ละเดือนที่ผ่านไปอาการดังกล่าวค่อนข้างบ่งชี้ว่าน่าจะเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่

"ถุงน้ำช็อกโกแลตเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่"

ผู้หญิงหลายคนที่เป็นโรคถุงน้ำช็อกโกแลตได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดเอาถุงน้ำออก และหลายๆกรณีแพทย์บางคนผ่าตัดเอามดลูกและรังไข่ออกไปด้วยในคราวเดียวกันด้วยเหตุผลว่าไหนๆก็เจ็บตัวแล้วเอาส่วนที่เกรงว่าจะเกิดโรคคือมดลูกและรังไข่ (ที่เป็นมะเร็งกันเยอะ) ออกไปด้วยเสียเลย แล้วหลังจากนั้นผู้หญิงที่ถูกตัดมดลูกและรังไข่ก็ต้องกินยาฮอร์โมนไปตลอดชีวิต

ด้วยประสบการณ์นี้ที่เล่าสู่กันฟังปากต่อปากทำให้ผู้หญิงเป็นจำนวนไม่น้อยที่มีอาการปวดท้องแล้วไปพบแพทย์ เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นถุงน้ำช็อกโกแลต (แต่อาจจะไม่ได้อธิบายลักษณะอาการของโรคให้เข้าใจอย่างละเอียด) ก็เข้าใจเพียงแง่เดียวว่าโรคนี้จะต้องรักษาโดยการผ่าตัดเท่านั้น ดังนั้นรายที่กลัวการผ่าตัดก็จะไม่ยอมไปพบแพทย์อีกแล้วก็ยอมทนทุกข์ทรมานกับอาการปวดท้องดังกล่าวเป็นประจำทุกเดือน บางคนก็แสวงหาวิธีการรักษาต่างๆนานา เช่น กินยาสมุนไพร (ทั้งไทยและจีน)เพื่อให้ถุงน้ำยุบ งดอาหารบางอย่างที่คิดว่าจะเป็นของแสลงหรือหลายคนแม้จะกลัวไม่กล้าจะไปพบแพทย์อีก แต่ลึกๆก็กังวลถุงน้ำดังกล่าวจะกลายเป็นเนื้อร้ายในอนาคตได้หรือไม่ใน

ประเด็นนี้ คุณหมอสมชายอธิบายให้ฟังถึงข้อเท็จจริงว่า"อาการของภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่มีหลายระยะ บางกรณีแม้จะเห็นร่องรอยของเยื่อบุโพรงมดลูกฯ ในช่องท้อง แต่บางครั้งเป็นกลุ่มที่ไม่มีอาการอะไรซึ่งผู้หญิงส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มนี้ "ขณะเดียวกันก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญเติบโตด้วยว่าอยู่ที่ไหน อุ้งเชิงกรานหรือว่ารังไข่ ซึ่งจริงๆแล้วภาวะถุงน้ำช็อกโกแลตไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายกับผู้หญิงที่เป็นมากนักเพียงแต่ก่อให้เกิดความรำคาญมากกว่า เพราะเมื่อปวดประจำเดือนก็อาจจะ
ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติเท่าที่เขาควรจะทำได้"

ทำไมถุงน้ำช็อกโกแลตจึงพบมากในผู้หญิงโสด คำตอบของข้อสงสัยนี้ก็คือถุงน้ำช็อกโกแลต หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ต้องอาศัยฮอร์โมนของรังไข่ ในการเจริญเติบโตพูดง่ายๆ คือโรคนี้เป็นโรคที่คู่กับการมีประจำเดือน
"ดังที่บอกไปแล้วนะครับว่า เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ สาเหตุเกิดจากมีประจำเดือนส่วนหนึ่งไหลย้อนกลับไปผ่านทางหลอดมดลูกแล้วก็เข้าไปในช่องท้องไปฝังตัวในอุ้งเชิงกรานหรือรังไข่แล้วรายงานการวิจัยก็พบว่าผู้หญิงเมื่อมีประจำเดือนไม่ว่าจะอายุน้อยหรืออายุมาก ถ้าหากไปตรวจช่องท้องก็จะพบว่ามีเลือดประจำเดือนส่วนหนึ่งอยู่ในช่องท้องทุกคน แต่คนที่เกิดอาการก็เพราะภูมิคุ้มกันบางอย่างบกพร่องจึงไม่สามารถจะทำลายเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญเติบโตผิดที่ได้ เพราะฉะนั้นวิธีการรักษาโรคนี้อย่างหนึ่งก็คือ ทำให้ผู้หญิงคนนั้นไม่มีประจำเดือน เมื่อไม่มีประจำเดือนถุงน้ำดังกล่าวก็จะฝ่อตัวไปด้วย

"การตั้งครรภ์เป็นช่วงระยะเวลาที่ผู้หญิงไม่มีประจำเดือนอย่างต่ำก็เป็นปีนับตั้งแต่ตั้งท้อง 9 เดือนและหลังคลอดที่ผู้หญิงส่วนใหญ่จะไม่มีประจำเดือนไปอีก 1-3 เดือน หรือบางคนอาจจะถึง 6 เดือน โดยเฉพาะแม่ที่ให้ลูกกินนมแม่ 1ปีที่ผู้หญิงไม่มีประจำเดือนเลยนั้นเท่ากับโรคที่เป็นอยู่ได้รับการรักษาไป 1 ปีในขณะที่ ผู้หญิงโสดที่ไม่มีลูกก็จะมีประจำเดือนมาเป็นประจำทุกเดือนเพราะฉะนั้นโอกาสที่จะเป็นโรคนี้ในแต่ละเดือนก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆและเมื่อเทียบกันระหว่างคนโสดกับคนที่เคยตั้งครรภ์มาก่อนพบว่าผู้หญิงที่เคยตั้งครรภ์แล้วเป็นโรคนี้น้อยกว่าและถึงแม้จะมีโรคก็เป็นกลุ่มที่ไม่แสดงอาการเป็นส่วนใหญ่"

โรคนี้มีวิธีการรักษาอย่างไรบ้าง

ดังที่ทราบกันแล้วว่าโรคนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นโรคที่รุนแรงหรือมีอันตรายอะไร เพียงแต่จะทำให้มีอาการปวดประจำเดือน ดังนั้นหากปวดไม่มากส่วนใหญ่ก็ใช้วิธีรักษาตามอาการคือกินยาแก้ปวดหรือหากปวดมากแพทย์ก็จะมียาเฉพาะให้ และโดยปกติถ้าคนไข้มีอาการไม่มากแพทย์จะไม่ใช้วิธีการผ่าตัดในการรักษาโรคนี้กับคนไข้

"การผ่าตัดจะทำในกรณีที่จำเป็นเฉพาะบุคคลเท่านั้นครับ เช่น ถุงน้ำนั้นใหญ่มากจนทำให้เกิดอาการปวดรุนแรง หรือถุงน้ำไปกดอวัยวะข้างเคียงเช่น ไปกดกระเพาะปัสสาวะ แล้วทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น หรือ กรณีที่ถุงน้ำแตกซึ่งจะทำให้เกิดอาการปวดท้องแบบเฉียบพลันหรือกรณีของผู้หญิงที่มีลูกยาก
จำเป็นต้องผ่าตัดเอาถุงน้ำออกเพราะการที่มีถุงน้ำอยู่จะรบกวนการตั้งครรภ์พอสมควร เพราะมันอาจจะทำให้เกิดพังผืดไปรัดทำให้หลอดมดลูกตีบหรือตันได้"

ในบางกรณีแพทย์อาจจะต้องตัดสินใจผ่าตัดเอาอวัยวะสำคัญของผู้หญิงออกไป เช่น ในกรณีที่มีพังผืดมากในช่องท้องที่อาจจะดึงเอาลำไส้ไปติดกับตัวมดลูก ซึ่งหากจะต้องผ่าตัดคนไข้คนนี้หลายครั้งก็อาจจะเป็นอันตรายต่อลำไส้ คือทำให้ลำไส้ทะลุกรณีเช่นนี้แพทย์อาจตัดสินใจที่จะต้องตัดทั้งมดลูกและรังไข่ออกไปด้วยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลังซึ่งคนไข้ก็จะต้องได้ฮอร์โมนทดแทนเพื่อ จะให้กลับมาเป็นผู้หญิงอย่างปกติ"


พูดถึงการผ่าตัดที่ดูน่ากลัวและหลายๆคนคิดว่าคงจะเจ็บปวดเอาการนั้นเรื่องนี้คุณหมอสมชายเล่าให้ฟังว่า
"การผ่าตัดมีหลายวิธีและวิธีการที่ดีที่สุดคือการใช้กล้องเข้าไปผ่าตัดวิธีนี้ มีข้อดีคือ คนไข้เจ็บตัวน้อยเมื่อเทียบกับการผ่าตัดในแบบที่จะต้องเปิดแผลใหญ่ๆ เพราะการใช้วิธีส่องกล้องผ่าตัดคนไข้จะมีแผลเพียงแค่รูเล็กๆขนาดรูตะเกียบ2รูเท่านั้น และเมื่อผ่าตัดเสร็จก็ไม่จำเป็นต้องนอนพักโรงพยาบาลหลายๆวันเหมือนกับการผ่าตัดธรรมดา

สิ่งหนึ่งที่ผมอยากฝากบอกผู้หญิงที่ยังโสดหรือว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูกก็คือ ถ้าเป็นแล้วให้รีบรักษาเสียแต่เนิ่นๆนะครับเพราะหากปล่อยทิ้งไว้นานๆโอกาสที่จะมีลูกก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาที่พบบ่อยในกรณีของการรักษาผู้ที่มีลูกยาก

"ในกรณีของผู้หญิงที่เป็นโรคถุงน้ำช็อกโกแลตหรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ตอนอายุใกล้ๆ45-46ปี ส่วนใหญ่แพทย์จะรักษาแบบประคับประคองโดยให้กินยาเพราะโรคนี้เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนมันจะหายไปได้เองแต่ตราบใดที่ผู้หญิงยังมีประจำเดือนอยู่ถึงแม้บางคนจะเคยได้รับการผ่าตัดเอาถุงน้ำฯ ออกไปแล้วแต่โอกาสที่จะเกิดเป็นซ้ำก็มีนะครับ" ความไม่รู้มักจะทำให้คนเราวิตกกังวลไปได้มากมาย และ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บประจำตัวดังเช่นเรื่องของโรคถุงน้ำช็อกโกแลต หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดที่ ที่ยิ่งนับวันก็จะพบผู้มีอาการของโรคเพิ่มขึ้นแต่การได้รู้ที่มาที่ไป หรือ สาเหตุของโรคตลอดจนวิธีการรักษาก็จะช่วยทำให้สบายใจขึ้นได้ส่วนหนึ่งและถ้าหากใครได้อ่านบทความเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นจนจบก็จะคลายความวิตกกังวลไปได้ว่าโรคนี้ไม่ได้เป็นอันตรายอย่างที่กลัวๆ กันเลย



** ปล. คุณหมอสมชาย สุวจนกรณ์ เป็นอจารย์ของคุณหมอที่เราผ่าตัดส่องกล้องเอา Chocolate Cyst ออก ในวันที่ผ่าตัด อาจารย์สมชายก็มาเป็นหนึ่งในทีมการผ่าตัดด้วย.. ขอบพระคุณมากค่ะ




 

Create Date : 28 มีนาคม 2552
6 comments
Last Update : 31 มีนาคม 2552 17:18:44 น.
Counter : 1918 Pageviews.

 

แล้วเป็นซีสต์ที่เต้านมขวา ขนาดใหญ่สุด 1.47 cm. ไม่เจ็บ ไม่ปวด ตรวจแล้ว 2 ครั้ง ปี 50 และ 52 ขนาดไม่ใหญ่ขึ้นไปกว่าเดิม อย่างนี้มีผลทำให้มีลูกยากหรือเปล่าคะ ตอนนี้อายุ 32 ค่ะ

 

โดย: nit IP: 119.113.155.7 26 พฤษภาคม 2552 7:36:48 น.  

 

ไม่น่าจะเกี่ยวนะคะ
มีลูกยากส่วนใหญ่ในผู้หญิงมักจะเป็นปัญหาที่รังไข่ หรือ มดลูกมากกว่าค่ะ

 

โดย: annim 26 พฤษภาคม 2552 18:35:23 น.  

 

ขอบคุณมากค่ะ ก็จะได้ลดความกังวลไปบ้างค่ะ เพราะแฟนอายุเยอะ (51 )เราก็กลัวปัจจัยข้างเคียง เพราะลองอย่างจริงจัง ได้ 2 เดือนแล้ว ยังไม่สำมะเหร็จค่ะ ก็จะพะยายามต่อไปค้า...ขอบคุณอีกครั้งค่ะ..

 

โดย: nit IP: 119.113.144.15 26 พฤษภาคม 2552 20:16:54 น.  

 

ไม่ต้องกังวลนะคะ 2เดือนยังสบายๆค่ะ
สามีอายุเยอะแต่ถ้าเชื้อปกติแข็งแรง ก็โอเคค่ะ
สู้ๆนะคะ.. ขอให้โชคดีในเร็ววันจ้า ^.^

 

โดย: annim 27 พฤษภาคม 2552 16:17:41 น.  

 

เป็นช็อคโกแลตซีสขนาด7เซนเพิ่งผ่าออกได้สองเดือนตอนนี้ให้ยาฮอร์โมนอยู่หมอรอดูอาการว่าภายใน6เดือนถุงน้ำจะโตขึ้นมาอีกหรือไม่..แต่ตอนนี้มีอาการแทรกมาคือมีอาการปวดท้องน้อยเหมือนปวดท้องประจำเดือนแต่ไม่มีประจำเดือนไหลออกมาเพราะให้ยาฮอร์โมนอยู่ตอนนี้อายุ30ปีเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วอยากรู้ว่าถ้าถุงน้ำไม่ยอมฝ่อแล้วเกิดเป็นอีกจะต้องได้ตัดมดลูกทิ้งหรือไม่

 

โดย: GoiizaI99l IP: 114.128.111.134 18 กันยายน 2552 21:53:15 น.  

 

คุณGoiizaI99lค่ะ.. ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเหยียนไม่ใช่หมอนะคะ แต่เคยมีประสบการณ์ผ่าตัดช็อคฯซีสต์มาเหมือนกัน ตอนช่วงอายุ32ปี ตอนนั้นเป็นที่รังไข่ข้างซ้าย ขนาด6x4ซม.ค่ะ
ของคุณGoiizaI99lเป็นที่มดลูกหรอคะ??

หลังจากผ่าคุณหมอไม่ได้ทานยาฮอร์โมนใดๆเลยค่ะ เพราะคุณหมอบอกว่า จะไม่เกิดเป็นถุงน้ำอีกในช่วง1ปี เพราะฉะนั้นถ้าจะตั้งครรภ์ให้รีบมีให้ช่วงหลังผ่าตัด1ปี
เพราะถ้าหลังจาก1ปี มีโอกาสจะกลับมาเกิดถุงซีสต์อีกค่ะ เพราะเมื่อไหร่ที่มีประจำเดือนมาปกติ ก็อาจจะมีเลือดตกค้างได้อีกค่ะ

แต่เท่าที่ฟังคุณหมอว่า.. ถ้าเกิดถุงซีสต์อีก ก็ต้องผ่าตัดเจาะน้ำออกอีก แต่ไม่ถึงขนาดต้องตัดมดลูกทิ้งนะคะ

ปกติมดลูกเป็นส่วนที่สำคัญมากสำหรับผู้หญิงเรา.. ถ้าไม่เป็นเนื้อร้ายหรือมีเหตุต้องตัดออกจริงๆ คุณหมอจะไม่แนะนำให้ตัดมดลูกหรอกค่ะ ไม่ต้องกังวลนะคะ

 

โดย: annim 19 กันยายน 2552 12:02:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


MamyDD
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]









-‘•’- ยินดีต้อนรับทุกท่านจ้า -‘•’-

ณ ที่แห่งนี้..
คุณแม่ลูก2เขียนบันทึกเรื่องราว
ของลูกชายตัวดี..เดนเด้
- - และ - -
ลูกชายตัวน้อยๆ..ไดโอ

รวมถึงสาระต่างๆ
ที่แม่เก็บรวบรวมมาแบ่งปัน
เพื่อนๆทุกคน..
หวังว่าจะมีประโยชน์บ้างนะคะ

ღ ..ขอบคุณ.. ღ
ทุก Comment
ที่ฝากคำทักทาย & พูดคุย
ตลอดจนมิตรภาพดีๆที่มีให้แก่กันค่ะ





Friends' blogs
[Add MamyDD's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.