เยาวชนรุ่นใหม่ เลิกใช้ ภาษาวิบัติ แล้วภาษาวิบัติมันคืออะไรล่ะ??
โดย taeroz จาก //www.taeroz.com/2008/03/what-is-the-disaster-language/
ที่จริงจะว่าไปแล้ว ถ้าใครได้เล่นอินเตอร์เนตเป็นประจำ ยังงั๊ย . . . ยังไง . . . ก็ต้องเคยเห็นป้ายนี้ซักแห่งนึงในโลกอินเตอร์เนตนี้ล่ะนะ แต่ดูเหมือนการเผยแพร่ป้ายนี้หลายต่อหลายที่ไม่ได้กำกับบอกว่าอันไหนเป็นภาษาวิบัติ อันไหนไม่ได้เป็นภาษาวิบัติเอาไว้ คือจริงอยู่ที่ภาษาแบบนี้เหมือนเราจะรู้ได้ด้วยจิตใต้สำนึกไม่ต้องพิจารณาอะไรมาก คำไหนที่ไม่ได้มีมาแต่โบร่ำโบราณเราก็ว่าเป็นวิบัติไปเสียหมด ทั้ง ๆ ที่บางคำนั้นไม่ใช่ภาษาวิบัติเลย ก็มีอยู่หลายแบบเช่น คำเลียนเสียง หลายต่อหลายครั้ง และ หลายต่อหลายคน ที่เคยคิดว่าคำเลียนเสียงนั้นวิบัติ (รวมทั้งผมด้วย) แต่หากมองกันดี ๆ แล้วมันน่าจะใช้ได้ และไม่น่าจะถือว่าวิบัติด้วย เช่น มั้ย - ไหม เวลาพูดถามจริงเหอะ อย่างเช่น เธอกินข้าวมั้ย เราออกเสียงว่า มั้ย หรือ ไหม ซึ่งผมคิดว่า ส่วนมาก คงออกว่า มั้ย (พูดว่าส่วนมากไว้ก่อน เผื่อมีส่วนน้อย หรือพวกจะค้านหัวชนฝา) เพราะฉนั้นคำว่า มั้ย ในความคิดของผมไม่ใช่ภาษาวิบัติ ซึ่งตรงนี้มีการกล่าวถึงในหลาย ๆ ที่อยู่แล้ว แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ก็ - ก้อ เอาจริง ๆ เลยนะตามหลักภาษาไทย(ที่เรียนมากับ อาจารย์ปิง) คำว่า ก็ นี่มันออกเสียงว่า /เก๊าะ/ คือเป็นเสียงสั้น แต่เรามักจะออกเสียงเป็น /ก้อ/ ซึ่งจะเป็นเสียงยาว จริง ๆ แล้วมันก็ถือว่าออกเสียงผิดนะ แต่ด้วยความเคยชิน และความสะดวกต่าง ๆ ก็ใช้ได้ ไม่ได้มีใครว่าอะไร จะว่าไป ส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริง ๆ แล้ว ก็ อ่านว่าอย่างไร เพราะฉนั้นถ้าต้องการเขียนแบบเลียนเสียงเราก็สามารถเขียนเป็น ก้อ ได้ไม่วิบัติแต่อย่างใด ชั้น - ฉัน เค้า - เขา
คำพิมพ์ผิด กลุ่มนี้นี่ประมาณว่า ปุ่ม Shift มันเสีย - เป้น - เป็น คือถามว่าจริง ๆ แล้วมันผิดรึป่าวคำว่า เป้น เนี่ย คือมันก็ผิดอะนะ แต่มันไม่ใช่วิบัตินะ อาจจะบางครั้งแค่ต้องการความรวดเร็วในการพิมพ์เลยก็ลืมกด Shift หรืออาจจะกดแล้วนะ แต่มันไวเกินไปกดไม่ลงน่ะ(ผมเองก็เป็นบ่อย สังเกตได้จากในหลาย ๆ โพสในบล๊อกนี้ ก่อนจะ Publish ผมก็พยายามแก้หลายครั้งแล้ว แต่บางทีมันก็ไม่หมด ฮ่าๆ)
- และอื่น ๆ อีกหลาย ๆ คำ เช่น กุ รุ เห้น
- ลำใย (ลำไย)
- ศรีษะ(ศีรษะ)
- ปาติหาน
- อัศจรร
แบบคำย่อ - มหาลัย(มหาวิทยาลัย)
- วิดวะ(วิศวะ)
- จาน (อาจารย์)
- สินสาด (ศิลปศาสตร์)
- สินกำ (ศิลปกรรมศาสตร์)
- เสารีย์ (อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ)
- โรงบาน (โรงพยาบาล)
- ซอย (สีลมซอย 2)
- อาร์ (อาร์ซีเอ)
- ตรอก (ตรอกข้าวสาร)
- โปร,โปรโกง (โปรแกรมโกงเกมส์)
คำอุทาน - เว้ย
- เฮ้ย
- เจ๊ดเข้
- อุ๊ยแม่เมิงตก
- เสม็ตดุ๋ย
- ชะมดเช็ดสะเด็ดยาด
- ตะแบ๊บ ตะแบ๊บ เป๊าะแป๊ะ เป๊าะแป๊ะ แอ๊ว แอ๊ว
แบบคำเติมท้าย ในที่นี้คือคำเติมท้ายที่ไม่มีความหมายในพจนานุกรมไทย แต่ก็จะใส่ มีไรมะ (เพราะเป็นคำที่ใช้แสดงอารมณ์หรือใช้แสดงความคิกขุของผู้เขียน/พิมพ์) - งุงิ
- เงอะ
- ง่า
- งับ(ครับ)
- แง่ว
แบบคำแสลง - แอ๊บแบ๊ว
- เสี่ยว
แบบคำทับศัพท์ - เกรท
- กู๊ด
- คาวาอี้
- อิคึ
- คิโมชิ~
- คิกขุ
แบบอิโมติค่อน - ^__^
- @__@
- :)
- :(
- -*-
แบบจำเป็นต้องเปลี่ยนเพราะไม่อย่างนั้นจะถูกเซ็นเซอร์ - ครวย / ฆวย / Kuay / 8;p / คุวย / ฆวญ / KVY / kvy / Buffalo No R (ควย)
- กรู / กุ / GOO / GU (กู)
- มรึง / มึNG (มึง)
- แม่ม / แม่NG (แม่ง)
- เฮี่ย / เหรี้ย (เหี้ย)
- ไอ้สาด ไอ้เวน
- เย็ต / เย็ศ / เญ็ด / เย็ก / เยด / yed / YED (เย็ด)
- จังไร / จังไล / จันไล / จันไร / จางไร / จานราย / จางราย / จัญไล / จันทร์ไร (จัญไร)
- ฟาย / ฟราย / ฟลาย / Kwai (ควาย)
แบบลากเสียง - อาราย (อะไร)
- คร้าบ(ครับ)
จากที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นได้ว่าบางคำที่เราคิดว่าวิบัติ จริง ๆ แล้วไม่ได้วิบัติเลย แล้วอาจจะสงสัยในคำวิบัติแล้วล่ะสิ ว่าแล้วคำไหนล่ะวิบัติขนานแท้ ก่อนพูดถึงตรงนั้น ได้ดูนิยามของภาษาวิบัติก่อนดีกว่า ภาษาวิบัติ คือ ภาษาที่ถูกแปลงมาจากคำในภาษาเดิม ให้สามารถเขียนได้ในรูปลักษณ์ใหม่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ภาษาวิบัตินี้มักจะผิดหลักในการเขียนอยู่เสมอ และมักออกเสียงได้ไม่ตรงกับเสียงพูดจริง ถ้าจะให้แยกแยะได้ง่ายๆ คำที่ไม่อยู่ในพจนานุกรม และไม่เป็นไปตามกฏของหลักภาษาไทยโดยส่วนใหญ่จะเป็นภาษาวิบัติ ซึ่งส่วนที่เป็นภาษาวิบัติขนานแท้ ที่ผมพอจะรวบรวมมาได้ก็มีดังนี้ กลุ่มพ้องเสียง รูปแบบของภาษาวิบัติชนิดนี้ จะเป็น คำพ้องเสียง โดยส่วนใหญ่กลุ่มนี้จะใช้ในเวลาเขียนเท่านั้น และคำที่นำมาใช้แทนกันนี้มักจะเป็นคำที่ไม่มีในพจนานุกรม - เทอ (เธอ)
- จัย (ใจ)
- งัย (ไง)
- นู๋ (หนู)
- มู๋ (หมู)
- ปันยา (ปัญญา)
- กำ (กรรม)
กลุ่มขี้เกียจพิมพ์ พวกนี้จะคล้ายๆกับกลุ่มคำพ้องเสียง เพียงแต่ว่าบางครั้งการกด Shift มันน่ารำคาญ พวกนี้เลยขี้เกียจกด แล้วเปลี่ยนคำที่ต้องการเป็นอีกคำที่ออกเสียงคล้าย ๆ กันแทน ซึ่งอาจจะเห็นว่าไปตรงกับกลุ่ม คำพิมพ์ผิด ซึ่งไม่ใช่ภาษาวิบัติ ทำไม่มันขัดแย้งกันล่ะ เออ!! คือถ้าตั้งใจวิบัติ มันก็เป็นวิบัติน่ะ แต่ถ้าไม่ตั้งใจเช่นกด Shift แล้วนะ แต่มันไม่ลงอะ อาจจะบอกว่าสังเกตยากมาก ๆ แต่คือถ้ามันไม่ได้คอขาดบาดตาย หรือสาธารณะอะไรบ้าง ก็ปล่อยวางกลุ่มนี้มั่งก็ดีนะ - กุ (กู)
- เหน (เห็น)
- เปน (เป็น)
ซึ่งสองตัวอย่างหลังนี่ ถ้าเคยเปิดอ่านหนังสือเก่าๆ ดู จะพบว่าไปซ้ำกับอักขรวิธีในสมัยก่อน (ประมาณปี พ.ศ. 2480) กลุ่มโชว์ Inw แบบว่า ใช้ตัวอัษรในภาษาอื่นแทนน่ะ - Inw (เทพ)
- uou (นอน)
- เกรีeu (เกรียน)
- IInJIISJIISJ (แทงแรงแรง)
กลุ่มที่ใช้เวลาพูด เป็นประเภทของภาษาวิบัติที่ใช้ในเวลาพูดกัน ซึ่งบางครั้งก็ปรากฏขึ้นในการเขียนด้วย แต่น้อยกว่าประเภทกลุ่มที่ใช้ในเวลาเขียน โดยมักพูดให้มีเสียงสั้นลง หรือยาวขึ้น หรือไม่ออกเสียงควบกล้ำเลย ประเภทนี้เรียกได้อีกอย่างว่ากลุ่มเพี้ยนเสียง เช่น - ตะเอง (ตัวเอง)
- เตง (ตัวเอง)
- ขอบคุง (ขอบคุณ)
- แม่ม (แม่ง)
- แสด (สัตว์)
- พ่อง (พ่อเมิง)
- สลัด (สัตว์)
- สรัด,สรัส (สัตว์ :ออกเสียง ร เรือ ด้วย)
อย่างเช่นพวกคำที่ลากยาวทั้งหลายแหล่ (ม่าย ช่าย ด้าย) คือลองคิดนะ เวลาพูดมีใครออกเสียงแบบนี้หรือป่าว ถ้ามีก็ถือว่าเป็นคำเลียนเสียง แต่ถ้าไม่มีมันก็วิบัติ แต่บางคำก็ไม่ใช่นะ อย่างเช่น อาราย คือบางครั้งเราก็ออกเสียงนี้ได้ในบางโอกาส จริงมะ หลายครั้งเรามักอ้างว่าใช้ภาษาวิบัติเพื่อความเร็วในการพิมพ์ เราเข้าใจภาษาวิบัติเป็นคำพิมพ์ผิดรึป่าว ลองไปอ่านดู เพราะภาษาวิบัติหลายคำจริง ๆ ดูแล้วมันจะพิมส์ช้าขึ้นเสียมากกว่า เมื่อไรจะใช้ภาษาวิบัติได้ ตามหลักภาษาไทยแล้ว ภาษาแบ่งเป็น 5 ระดับ โดยระดับสุดท้ายเป็นภาษาระดับเป็นกันเอง ใช้กันแค่ในกลุ่ม เข้าใจกันในกลุ่ม ซึ่งตรงนี้แหละที่ผมคิดว่าใช้ได้นะ อย่างเช่น คุย MSN กัน 2 คน อะไรแบบนี้ จะใช้ก็ใช้ไปเถอะ หรืออาจจะในบล๊อกที่มีคนไม่มากนัก(อย่างที่นี่ เวรกำ!!) แต่ถ้ามีความเป็นสาธารณะขึ้นมาก็ไม่ควรใช้ เช่นตาม Webboard ต่าง ๆ ตามเว็บต่าง ๆ หรือแม้แต่ในสื่อต่าง ๆ
สรุป ตรงนี้ให้อธิบายง่าย ๆ ก็เหมือนกับ เราใช้สรรพนาม กู-มึง กับเพื่อนสนิท แต่เราใช้ ผม-คุณ กับคนที่ไม่รู้จัก คือเราสามารถใช้ ผม-คุณ กับเพื่อนสนิทก็ได้ แต่มันคงไม่ชิน และถ้าเราคิดว่าเราใช้ กู-มึง กับเพื่อนสนิทแล้ว จะทำให้เราใช้จนติด แล้วนำมาใช้กับคนอื่น เราก็คิดได้เองแหละครับ ว่าเราไม่ควรใช้ กู-มึง แม้แต่กับเพื่อนสนิท เพื่อที่จะได้ไม่ติด แต่ถ้าแยกแยะออก จะใช้ กู-มึง กับเพื่อนก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่ครับ!! ซึ่งมันก็เหมือนกับภาษาวิบัตินั่นแหละ!! *** สิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่ผมเขียนมาในข้างบนนี้ทั้งหมด เป็นเพียงความคิดเห็นของผมคนเดียว โปรดใช้วิจารนญาณในการอ่าน ถ้าผิดพลาดประการใด เอ่อ คอมเม้นไว้ละกันเดี๋ยวผมจะแก้ให้ ^^ ปล. ข้อมูลบางส่วนจาก ไร้สาระนุกรม เหตุผลสำคัญที่เขียนเอนทรี่นี้ ถึงแม้จะไม่ใช่ภาษาวิบัติ แต่ถ้ามันจะสร้างความวิบัติอยู่ดีก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะรู้ แต่บางคำมันไม่ได้สร้างความวิบัติไงครับ แล้วที่นี้ทำให้ลังเลเวลาจะใช้ ถ้าใช้ผิดบางทีสื่อผิดไปเลย ตรงนี้นี่แหละ ที่เป็นสาเหตุให้ผมต้องทำโพสนี้ขึ้นมา
Free TextEditor
Create Date : 27 ตุลาคม 2551 |
|
2 comments |
Last Update : 27 ตุลาคม 2551 11:03:05 น. |
Counter : 860 Pageviews. |
|
|
|