Madam mim Travel - มาดามมิ้มพาเที่ยว
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2559
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
19 ธันวาคม 2559
 
All Blogs
 
แบกเป้เที่ยวกัวลาลัมเปอร์-สิงคโปร์ 17-20 ก.ค 2559#2





ต่อจากครั้งที่แล้วที่เราไปเที่ยวกันที่กัวลาลัมเปอร์และปุตราจายาที่มาเลเซียนะคะ เราจะเดินทางไปเที่ยวที่สิงคโปร์กันต่อค่ะ

19 กรกฎาคม 2559

เราออกจากโรงแรมกันแต่ 6 โมงเช้า เพื่อไปขึ้นรถไฟ klia express จากสถานี kl sentral เพื่อไปสนามบิน klia 2 ราคาคนละ 55 ริงกิต ใช้เวลาเดินทางประมาณ 39 นาทีก็ถึงค่ะ โดยรถไฟจะจอดแค่สถานี klia และ klia 2 เท่านั้นค่ะ

พอถึงที่สนามบินเราก็หาเค้าเตอร์เช็คอินกันก่อนนะคะ น่าจะอยู่ที่ชั้น L3 พอเช็คอินแล้วก็จะไปที่เกทเลยค่ะ ที่นี่จะสแกนกระเป๋าเรา 2 รอบนะคะ เผื่อเวลากันด้วยนะ



เรานั่งลำนี้ไปนะคะ เครื่องออก 10 โมงค่ะ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ก็ถึงสนามบินชางงี สิงคโปร์แล้วค่ะ เราสั่งอาหารทานบนเครื่องด้วยจะได้ไม่เสียเวลาเที่ยว บนเครื่องแอร์จะแจกใบเข้าประเทศให้เรากรอกนะคะ พอดีเราไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ



แอร์เอเชียจะจอดที่ terminal 1 นะคะ ซึ่งรถไฟ mtr จะอยู่ที่ terminal 2 เราจะนั่งรถไฟฟ้าจาก t1 ไป t2 ค่ะ แต่ต้องไปผ่าน ตม. ก่อนนะคะ พอผ่าน ตม. ออกมาแล้วค่อยไปขึ้นรถไฟฟ้าจาก t1 เพื่อไป t2



พอไปถึง terminal 2 แล้วก็เดินตามป้าน train to city เลยนะคะ เราซื้อตั๋ว singapore tourist pass แบบเหมา 2 วัน ใบละ 26 sgd แต่เราจะได้ค่ามัดจำ 10 sgd คืนตอนเราเอาตั๋วมาคืนค่ะ



แผนผัง metro ที่สิงคโปร์ค่ะ จากสนามบินนะคะ ถ้าเราจะเข้าเมือง ต้องนั่งจากสถานี changi airport (cg2) มาลงที่สถานี tanah merah (ew4) แล้วค่อยเปลี่ยนสายเข้าเมืองนะคะ เพราะสายนี้จะวิ่งไป-กลับแค่ 2 สถานีค่ะ

มาถึงแล้วเราจะไปไหว้พระเขี้ยวแก้วย่านไชน่าทาวน์กันก่อนนะคะ เพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอินที่โรงแรมค่ะ เรานั่ง mtr สายสีเขียวจากสถานี tanah merah (ew4) ไปลงที่สถานี tanjong pagar (ew15) แล้วค่อยเดินไปวัดพระเขี้ยวแก้วนะคะ



ระหว่างทางไปวัดค่ะ ตึกสีแดงนี้คือ Red Dot Design อยู่เยื้องกับ city gallery ค่ะ



บ้านเมืองเค้าดูสะอาดตาดีนะคะ



ถึงแล้วค่ะ Buddha Tooth Relic Temple หรือที่เรียกว่า วัดพระเขี้ยวแก้วนะคะ



มาถึงวัดก็ทำบุญนิดนึงค่ะ



ด้านในวัดเป็นสีทองสวยมากค่ะ ส่วนพระธาตุพระเขี้ยวแก้วประดิษฐานอยู่ชั้น 4 ค่ะ แต่ห้ามถ่ายรูปนะคะ

ไหว้พระเสร็จแล้วเราก็ไปตามหาบัตรเข้า universal studios ราคาถูกกันค่ะ ไปที่ร้าน Sea Wheel Travel ที่ห้าง people's park centre เดินเยอะหน่อยนะคะ จากวัดพระเขี้ยวแก้วเดินมาทาง mtr chinatown จะเห็นตึกสีเหลือง แล้วขึ้นมาชั้น 3 ค่ะ คนขายพูดไทยได้ด้วยนะคะ เราซื้อในราคาใบละ 62 sgd ซึ่งถ้าซื้อหน้างานประมาณ 68 sgd ค่ะ จากนั้นเราก็ไปที่พักเพื่อไปเช็คอินกันก่อนค่ะ เราพักที่ hotel 81 rochor นั่ง mtr สายสีน้ำเงินจากสถานี chinatown (dt19) ไปลงที่สถานี rochor (dt13) ออกทางออก b เดินประมาณ 100 เมตรก็ถึงโรงแรมแล้วค่ะ



ที่พักเรานะคะ แต่จะได้กลิ่นอับบุหรี่ตลอดเลยค่ะ แอร์เป็นแอร์ท่อนะคะ ของใช้ในห้องน้ำก็น้อยค่ะ แต่ไม่เป็นไร นอนแค่คืนเดียวค่ะ เก็บของเสร็จแล้วออกไปเที่ยวต่อค่ะ

เราจะไปเดินเล่นย่านคลาสสิคของที่สิงคโปร์กันก่อน นั่นก็คือย่าน โคโลเนียล ดิสทริค ไปดูสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปค่ะ เรานั่ง mtr สายสีน้ำเงินจากสถานี rochor (dt13) ไปสถานี bugis (dt14) แล้วเปลี่ยนเป็นสายสีเขียวจากสถานี bugis (ew12) ไปลงที่สถานี city hall (ew13) แล้วออกทางออก b ค่ะ



มาตรงนี้ก่อนเลยค่ะ St. Andrew's Cathedral เป็นโบสถ์คริสถ์สถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป สวยนะคะ แต่ไม่ได้เข้าไปด้านใน มีคนมาถ่ายพรีเวดดิ้งด้วยค่ะ





National Gallery Singapore



มองเห็นตึก มารีน่า เบย์ แซนด์ แล้วค่ะ



เดินมาเรื่อยๆก่อนนะคะ ตรงนี้คือ The Arts House รูปปั้นช้างนี้เป็นของที่รัชกาลที่ 5 ให้ไว้กับสิงคโปร์ตอนที่มาเจริญสัมพันธไมตรีค่ะ





อาคาร city hall ที่ผ่านมาเมื่อกี๊นี้





รูปปั้นท่าน Raffles ค่ะ ตรงนี้เหมือนเป็นจุดกำเนิดของสิงคโปร์ค่ะ



ตรงไหนก็ถ่ายรูปได้นะคะ



Victoria Theatre and Victoria Concert Hall



จากตรงนี้เราจะไปอ่าวมารีน่ากันนะคะ เดินข้ามไปฝั่งนู้นก็ถึงแล้วค่ะ



ถึงแล้วค่ะ เดินเยอะมาก เหนื่อยเลย



ถ่าย merlion ซะหน่อย 4 โมงกว่าแล้วแดดยังแรงอยู่เลย หิวแล้วด้วย ถ่ายรูปอีกนิดเดี๋ยวค่อยไปหาอะไรทานกันค่ะ



ฝั่งตรงข้ามจะเห็นตึก Marina Bay Sands และ ArtScience Museum



จากนั้นเราจะไปหามื้อเย็นทานกันที่ Makansutra Gluttons bay เป็นศูนย์อาหารริมอ่าวมารีน่าค่ะ จะอยู่ข้างๆอาคารทรงทุเรียน หรือโรงละคร Esplanade Theatre นั่นเอง



มาถึงสิงคโปร์ไม่พลาดแน่ๆค่ะกับเมนู Chili Crab สิงคโปร์ยกให้เป็นเมนูประจำชาติเลยค่ะ รสชาดเหมือนปูผัดพริกเผา แต่ปูสดมากไม่มีกลิ่นคาวเลย จานนี้ราคา 25 sgd



เราสั่งปลาหมึกผัดพริกมาอีกจานค่ะ ราคาจานละ 12 sgd แบ้วสั่งข้าวมาอีก 2 จาน ราคาจานละ 1 sgd ส่วนน้ำออกไปซื้อนอกศูนย์อาหารนะคะ ตรงนี้แพง ด้านนอกขวดละ 1.5 sgd แต่ขวดเล็กนะคะ



อิ่มแล้วออกมานั่งย่อยอาหารก่อน มองกลับไปตรง merlion นี่เราเดินมาไกลเหมือนกันนะเนี่ย แต่ยังไม่ถึงจุดหมายค่ะ จุดหมายเราคือ Garden by the Bay



เราเดินมาทาง สะพาน Helix จะผ่าน The Float @ Marina Bay มีคนออกกำลังกายเยอะเลยค่ะ



ใกล้ถึงสะพาน Helix แล้วค่ะ



สะพาน Helix เค้าจะออกแบบมาเป็นเกลียวเหมือน DNA มนุษย์ คือคงสร้างตามหลักฮวงจุ้ยอ่ะค่ะ



มองไปทางซ้ายมือจะเห็น Singapore Flyer ครั้งนี้เราไม่ได้ไปลองขึ้นนะคะ เวลาน้อยค่ะ เก็บบรรยากาศไปก่อน



เดินลอดใต้สะพานและถนนมาเรื่อยๆก็ถึงแล้วค่ะ Silver Garden เราแค่เดินชมสวนแค่นั้นนะคะ Garden by the Bay ที่ต้องเสียค่าเข้าชมเราไม่ได้เข้าไปค่ะ เพราะด้านนอกไม่เสียเงินค่ะ



เดินจนมาถึง Supertree Grove ตรงนี้ช่วงกลางคืนมาการแสดงแสงเสียงด้วยนะคะ แต่เราจะไปรอดู Wonder Full of Light ริมอ่าวมารีน่าตรงตึก Marina Bay Sands ค่ะ





ตึก Marina Bay Sands เริ่มเปิดไฟแล้วค่ะ



เราเดินมาตามสะพาน Dragonfly Bridge เพื่อไปตึกมารีน่า แล้วไปรอชมการแสดงน้ำพุค่ะ



เก็บภาพรอก่อนชมการแสดงค่ะ การแสดงจะเริ่ม 2 ทุ่มนะคะ จับจองที่ไม่ทันเลยไม่ได้เห็นแบบชัดๆค่ะ ใช้เวลาแสดง 15 นาทีนะคะ

พอชมการแสดงจบเราจะไปน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง หรือ Fountain of Wealth กันต่อค่ะ เราจะนั่ง mtr สายสีน้ำเงินจากสถานี bayfront (dt16) ไปลงที่สถานี promenade (dt15) เดินทะลุมาชั้นใต้ดินห้าง Suntec City เลยค่ะ



ขึ้นบันไดมาก็เห็นเลยค่ะ



เรามาตอนน้ำพุเปิดอยู่ค่ะ เลยไม่ได้เข้าไปเดินวนจับน้ำพุด้านล่าง



ได้เวลาอันสมควรแล้ว เราก็จะกลับที่พักกันแล้วค่ะ 3 ทุ่มครึ่งแล้ว เดินทั้งวันเลย จะกลับไปเอาน้ำอุ่นแช่เท้า เพราะพรุ่งนี้เรามีนัดกับ Universal Studios ค่ะ เรานั่ง mtr สายสีน้ำเงินเหมือนเดิมนะคะ สถานี promenade (dt15) ไปลงที่สถานี rochor (dt13) เลยค่ะ เห็นไหมคะว่าการเดินทางในสิงคโปร์สะดวกมากๆ

20 กรกฎาคม 2559

เราเช็คเอ้าท์จากโรงแรมตอน 8 โมง ฝนตกด้วยเช้านี้ แต่เราเตรียมร่มมาด้วยค่ะ เลยกางร่มเดินไป mtr เปียกนิดหน่อย เราจะไปทานมื้อเช้ากันที่ Chinatown Complex เป็นศูนย์อาหารราคาประหยัดอยู่ย่านไชน่าทาวน์ เรานั่ง mtr สายสีน้ำเงินจากสถานี rochor (dt13) ไปลงที่สถานี chinatown (dt19) ออกทางออก a ศูนย์อาหารจะอยู่ชั้น 2 เราสั่งบะหมี่น้ำมา 2 ชาม และอาหารเช้าประจำชาติ คือไข่ลวก ขนมปังปิ้งใส่เนยกับสังขยา มา 1 ชุด น้ำคนละแก้วเป็นชากับโกโก้เย็น มื้อนี้หมดไป 11 sgd ต่อ 2 คนนะคะ อิ่มแล้วก็กลับไปสถานี chinatown เหมือนเดิม เราจะไปเกาะเซ็นโตซ่ากันฝนเริ่มซาแล้ว คราวนี้จาก chinatown เรานั่งสายสีม่วง (ne4) ไปลงที่สถานี harbourfront (ne1) จากนั้นไปชั้น 3 ของห้าง vivo city จะมีป้ายบอกทางตลอดนะคะไม่ต้องกลัวหลง เราจะไปซื้อบัตร Sentosa Express เพื่อข้ามไปเกาะเซ็นโตซ่า ราคาใบละ 4 sgd บัตรเหมาเราใช้ตรงนี้ไม่ได้นะคะ ต้องซื้อต่างหาก จากสถานี sentosa (s1) ไปลงที่สถานี waterfront (s2) เพื่อไป Universal Studios ค่ะ



ระหว่างทางไปเกาะเซ็นโตซ่า



เดินตามป้าย Universal Studios เลยค่ะ



ถ่ายกับลูกโลก Universal หน่อย คนน้อยดีจังชอบมาก



วันธรรมดา 10 โมงถึงจะเข้าไปด้านในได้นะคะ พอเจ้าหน้าที่ปล่อยเข้าไปแล้ว เราไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น ตรงไปที่เครื่องเล่น transformers the ride ก่อนเลย



ปกติเครื่องเล่นนี้คนจะต่อคิวเป็นชั่วโมงเลย แต่เรามาวันธรรมดา ฝนพึ่งหยุดตก แล้วก็มาตรงนี้ก่อนเลย ทำให้เราได้เล่นเป็นคนแรกๆ อันนี้พีคมากถ้ามาต้องห้ามพลาดนะคะ มันสมจริงมากค่ะ เหมือนเราต่อสู้อยู่จริงๆเลยค่ะ ต้องใส่แว่น 3D เล่นด้วยนะคะ แอบมึนหัวนิดนึง



อันนี้ไม่กล้าเล่นค่ะ เดินผ่านเลย 555



อันนี้เรียกว่า Revenge of the Mummy จำลองเหมือนหนังเรื่อง mummy ค่ะ คล้ายๆทรานส์ฟอเมอร์ แต่อันนี้จะมืดแล้วเหวี่ยงแรงกว่า



โซนนี้มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กด้วย คือ Treasure Hunters เป็นการนั่งรถจี๊บตามหาสมบัติ ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ



โซน The Lost World คือการผจญภัยยุคไดโนเสาร์



อันนี้เป็นส่วนของร้านอาหาร ส่วนตรง Water World เราก็ไม่ได้เข้าชมค่ะ ไม่ทันรอบการแสดง



ตรงนี้เข้าไปเล่น Jurassic Park Rapids Adventure เป็นการนั่งล่องแก่งไปที่เพาะพันธ์ุไดโนเสาร์ ตรงนี้เปียกนะคะ เราเตรียมเสื้อกันฝนมาด้วย ถ้ามาซื้อที่นี่ราคา 4 sgd นะคะ



โซน Far Far Away ค่ะ เป็นปราสาทของเจ้ายักษ์เขียวเชร็ค



อันนี้จะไปเข้าห้องน้ำ แล้วเจอเครื่องเล่นชนิดหนึ่ง



Puss in Boot's Giant Journey เป็นการพจญภัยกลางอากาศบนต้นถั่วยักษ์เพื่อตามล่าไข่ทองคำ



อันนี้จะเป็นเหมือนหนัง 4 มิตินะคะ ใส่แว่นตา 3มิติดู แล้วเก้าอี้ก็โยกได้ มีน้ำกระเด็นด้วยค่ะ



ไปล่องเรือมาดากัสการ์ต่อเลยค่ะ



กลับมาที่โซน ฮอลลีวู้ดค่ะ อันนี้ทันการแสดง Boy Bands พอดีเลย โซนนี้มีเครื่องเล่นด้วยนะคะ คือนั่งรถรางพจญภัยในอวกาศเพื่อตามหาสปาเก็ตตี้ค่ะ



โซนนิวยอร์กค่ะ เดินเล่นนิดหน่อยเราก็จะออกจากสวนสนุกแห่งนี้แล้วนะคะ



ก่อนออกค่ะ เหมือน Marilyn Monroe ไหมคะ

เราออกจาก Universal Studios เพื่อไปถ่ายรูปกับ Merlion Sentosa กันต่อค่ะ นั่ง Sentosa Express จากสถานี waterfront (s2) ไปสถานี imbiah (s3) ค่ะ







เราจะไปหาด Siloso Beach กันต่อค่ะ แต่เราจะไม่นั่ง Sentosa Express ไปนะคะ เราจะเดินลัดเลาะไปตามทางเพื่อชมธรรมชาติค่ะ พอเดินไปถึงสถานี beach แล้วเราก็เดินตามป้าย beach tram เพื่อไปหาด siloso ค่ะ ตรงนี้เราแค่นั่งรถรางชมชายหาดเท่านั้นนะคะ ไม่ได้ลงแวะถ่ายภาพมา tram จะมาจอดส่งที่เดิมจากนั้นเราก็อำลาเกาะเซ็นโตซ่ากันค่ะ

เราจะกลับไปทานข้าวที่ chinatown complex เหมือนเมื่อเช้านะคะ นั่ง Sentosa Express จากสถานี beach (s4) ไปลงที่สถานี sentosa (s1) แล้วนั่ง mtr สายสีม่วงสถานี harbourfront (ne1) ไปลง chinatown (ne4) เลยค่ะ มื้อนี้เราสั่งข้าวมันไก่มา 2 จาน แล้วบัคกุเต๋ 1 ชาม ทั้งหมด 8 sgd ต่อ 2 คน น้ำไม่ต้องค่ะ กดมาจาก Universal Studios แล้ว

อิ่มแล้วกลับสนามบินเลยค่ะ นั่งสายสีน้ำเงินสถานี chinatown (dt19) มาเปลี่ยนเป็นสายสีเขียวที่สถานี bugis (dt14,ew12) แล้วนั่งมาลงที่สถานี tanah merah (ew4) เปลี่ยนขบวนมาลงที่สถานี changi airport เพื่อเข้าสนามบิน เราคืนบัตร Singapore Tourist Pass ที่เดิมที่เราซื้อมาค่ะ ได้เงินคืนมาใบละ 10 sgd แล้วไปเช็คอินค่ะ

ขากลับเรานั่ง scoot airline กลับกรุ่งเทพนะคะ เช็คอินที่ terminal 2 เลย ไม่ต้องนั่งรถไฟฟ้าไปที่ terminal 1 เหมือนตอนขามาแล้ว



เช็คอินแล้ว ผ่าน ตม. มาแล้วก็มาเดินถ่ายรูปและซื้อของด้านในรอขึ้นเครื่อง สนามบินที่สิงคโปร์ใหญ่มากค่ะ เดินไปที่เกทปวดขาเลย



ได้เวลากลับกรุงเทพแล้วค่ะ scoot เนี่ยลำใหญี่ดีนะคะ เค้าจะบินไปที่นาริตะค่ะ แต่ไปส่งเราที่ดอนเมืองก่อน ได้เวลาอำลาสิงคโปร์แล้ว ถ้ามีโอกาสจะกลับไปใหม่นะคะ ยังเที่ยวไม่ครบเลย

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

Madam Mim Travel


Create Date : 19 ธันวาคม 2559
Last Update : 20 ธันวาคม 2559 10:29:12 น. 0 comments
Counter : 2233 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3443060
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เรื่องราวการท่องเที่ยวฉบับมนุษย์เงินเดือน ไม่ต้องมีเงินมาก ไม่ต้องใช้วันลาเยอะแต่ก็สามารถที่จะไปเที่ยวได้
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 3443060's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.