|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ชอบนักวิทยาศาสตร์ที่สุด รองจากนักพุทธที่แนวเดียวกัน
ในกลุ่มต่างๆ ชอบนักวิทยาศาสตร์ที่สุดแล้ว (รองจากนักพุทธที่เรียนรู้แนวเดียวกัน) เพราะคิดว่ากลุ่มนี้ฉลาดเกือบสุด มักจะคิด ค้นคว้า และหาความรู้อยู่เสมอๆ ห้องหว้าก้อเป็นห้องที่เข้าบ่อยเพราะคิดว่ากระทู้เหล่านั้นบางครั้งก็มีประโยชน์
หลายปีก่อน เคยมีกระทู้ยอดฮิตในลานธรรม มีกลุ่มนึงเชื่อว่าการฆ่าอสุจิเป็นบาปและผิดศีล ทำให้พี่ๆต้องออกมาตอบโต้ แต่เถียงเท่าไร ทางนั้นก็ไม่ยอมฟัง บอกว่าอสุจิเป็นสิ่งมีชีวิต กระทู้มีความเห็นเกือบพัน คนอ่านนับหมื่น สุดท้ายกลุ่มนั้นต้องออกจากลานธรรมไป
วันนี้เจอกระทู้ในห้องหว้ากอ นักวิทฯตอบสั้นๆว่า มันเป็นแค่เซลล์ จบ! ทุกคนเห็นด้วย ไม่มีการโต้เถียง กระทู้จบลงอย่างรวดเร็วแถมออกทะเลไปเรื่อยๆ 55
อีกกระทู้นึงที่ทำให้มานั่งอัพได ก็คือ คำถามที่ว่า ""เวลา" นี่เป็นเพียงสิ่งสมมติใช่มั้ยครับ" มีคำตอบที่ชอบอยู่ 2 อัน ที่อ่านแล้วต้องทึ่ง
ความคิดเห็นที่ 1
ถ้าเวลาเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเอง ก็อาจทำเ่ช่นนั้นได้ แต่ถ้าเวลาไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเราต่างหากที่เป็นทาสของมัน
ดาร์โรว์
'' ธรรมชาตินั้นทรงพลัง และไร้ความปราณี มันทำงานของมันอย่างลึกลับ และพวกเราก็คือเหยื่อของมัน พวกเราไม่ได้ทำอะไรให้แก่ตัวเองสักเท่าไหร่เลย ธรรมชาติต่างหากเป็นผู้ลงมือ และเราได้แต่เล่นบทของเราไป ''
จากคุณ : เซียนแห่งmath
ความคิดเห็นที่ 4
ความหมายของ เวลา ในที่นี้เราอาจสื่อคนละความหมายก็ได้ครับ
เวลา ถ้าเป็นความหมายในแง่กาลเวลาที่ดำเนินไปโดยมีอิทธิพลให้ทุกสรรพสิ่งเปลี่ยนแปลงเป็นอนิจจัง เวลาในความหมายนี้ขอกล่าวว่าไม่ใช่สิ่งสมมุติหากแต่เป็นหลักพุทธสัจธรรมที่สอนอย่างเด่นชัดที่สุดเรื่องหนึ่ง กาลเวลาในแง่อันเป็นสัจธรรมนี้ย่อมมีอิทธิพลครอบคลุมเหนือความเป็นไปของสรรพสิ่งอยู่ทุกขณะ ไม่อาจสร้างหรือทำลายสัจธรรมกาลเวลาได้ (แต่สามารถพ้นจาการอยู่ภายใต้อิทธิพลของสังขตธรรมกาลเวลา หรืออาการอันเป็นอนิจจังตามหลักพระไตรลักษณ์ ได้หากเข้าสู่อาการสุดท้ายของการอยู่ภายใต้อิทธิพลของสังขตธรรม หรืออาการนั้นที่เรียกว่าปรินิพพาน)
ส่วนเวลาในแง่ที่ว่าเป็นสิ่งสมมุติ ในความเห็นผมยังมองไม่เห็นว่าเป็นสิ่งสมมุติได้อย่างไร ยังคงเห็นว่าเวลาที่ดำเนินอยู่ทุกขณะคือสัจธรรมที่ดำเนินไปและมีอิทธิพลเหนือเราทั้งสิ้น เราไม่อาจสมมุติหรือกำหนดกาลเวลาขึ้นได้ หากเป็นแง่สมมุติเห็นมีเพียงการที่เรากำหนดสมมุติสิ่งต่างๆขึ้นภายใต้กาลเวลาที่ดำเนินอยู่ เช่น สมมุติ วัน เดือน ปี โดยมนุษย์เรากำหนดขึ้นว่า เวลาที่ดำเนินจากดึกสงัดกึ่งกลางค่ำคืนใดๆที่ผ่านช่วงเช้า กลางวัน เย็น มืด จนมาถึงขณะกึ่งกลางค่ำคืนอีกครั้ง คือ 1 วัน ดังนั้นช่วงกาลเวลาที่เรากำหนดว่าคือ "1 วัน" ดังกล่าวนี้คือการสมมุติหรือกำหนดขึ้นของมนุษย์ หรือ "ขณะปัจจุบัน" ก็ย่อมเป็นการสมมุติขณะนั้นขึ้นมา แต่เราก็ย่อมต้องสมมุติขณะปัจจุบันขึ้นมาใหม่ได้อีกไม่จำกัด เพราะเราไม่อาจหาขณะปัจจุบันได้จริงจากกาลเวลาที่เปลี่ยนไปอยู่ทุกขณะ
จากคุณ : ผู้ศึกษา
ความรู้ของ 2 ท่านนี้ถูกต้องเลย ไม่คิดว่าจะมาเจอความเห็นที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ชาวพุทธและผู้ศึกษาธรรมะมากมาย ยุติการใช้สมองและพร้อมจะเชื่ออะไรก็ได้ที่น่าเชื่อ โดยไม่สนใจเหตุผล นั่นเป็นข้อเสีย ขณะที่นักวิทยาศาสตร์เฝ้าศึกษา ค้นคว้า และตั้งคำถามเกี่ยวกับทุกสิ่งรอบตัว นั่นทำให้เขาก้าวหน้า แต่ถ้าคิดมากไปก็จะเป็นอุปสรรค คอยขัดขวางไม่ให้ก้าวหน้าจริง เพราะติดอยู่ในความคิดของตัวเอง
ช่างมีทั้งข้อดีและข้อเสียจริงๆ
Create Date : 09 เมษายน 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 9 เมษายน 2551 23:59:24 น. |
Counter : 733 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]
|
รองเท้าใหม่ ใครๆก็อยากมี และเสียใจที่ไม่มี
จน....
ได้เห็น
คนไม่มี...
.....แม้กระทั่งเท้า..
**คิดถึงเมย์จัง เมย์จ๋า...เกดแต่งตัวสวยๆลงบลอค แล้วไม่มีเมย์มาดู เหงาจังเลย
|
|
|
|
|
|
|
|